วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 00:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2013, 15:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2013, 09:21
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราโดน ญ 1แย่งสามี (ลูกโดนแย่งพ่อตั้งแต่ยังไม่เกิด) ตอนนี้ ญ1 กลับโดนแย่งสามีโดย ญ2 ในขณะที่เรากับสามียังอยู่ด้วยกันแต่ก็ทะเลาะกันบ่อยและแยกห้องกันนอน เราอยากทราบค่ะว่า ญ2 บาปและผิดมั้ย (ตอนที่ญ2แอบคบกับสามีเรา สามียังไม่เลิกกับ ญ1และยังไม่เลิกกับเราแต่อยู่ในช่วงที่ทะเลาะกับเรา แต่พอจับได้ก็บอกว่าเลิกกับเรามานานแล้ว) ญ2ผิดมั้ยหรือเราเองที่ผิด(ที่กล่าวหาว่าเค้าแย่งสามีโดยสามีเต็มใจไป) ตอนนี้ ญ1กำลังได้รับกรรมที่เค้าทำไว้กับเรา คนที่ผิดจริงๆและผิดที่สุดคงเป็นผู้ชาย เมื่อไหร่เค้าจะได้รับกรรมที่เค้าก่อซักทีนะ สงสารลูกค่ะ เพิ่งหัดพูด เรียกแต่ปะป๊าเดินผ่านห้องพ่อก็เรียกปะป๊าๆๆๆๆ เคาะประตู ส่วนตัวเราแอบทำใจมานานแล้วค่ะ รู้สึกตัวตลอดแต่บางทีรู้ตัวว่าเสียใจนะ แต่มันก็ยังอดไม่ได้ที่จะระบายความรู้สึกตัวเอง แต่บางครั้งพอรู้ตัวตื่นก็ทำใจได้ค่ะ มีเรื่องอยากจะถามผู้รู้ด้วย พอดีรู้จักกับคนหนึ่งเค้าบอกเราว่า ต่อไปสามีเราเค้าจะได้นอนเฉยๆตลอดชีวิต แบบว่าเค้านั่งสมาธิแล้วเห็น เค้ามาบอกเราตอนฟังก็ฟังเฉยๆแต่เวลาโกรธก็คิดอยากให้เป็นแบบนั้นจริงๆ วันนึงไม่สบายเป็นไข้นอนซมปวดเนื้อปวดตัวมากค่ะ กินยาก็ไม่หาย สามีมานวดให้ก็ไม่หาย ปวดลุกไม่ขึ้น นอนไปฉุกคิดได้ว่าเคยคิดร้ายกับสามีว่าอยากให้เค้านอนอย่างเดียว เป็นเองเลยค่ะ เราเลิกคิดเลยนะเรื่องว่าร้ายคนอื่นเนี้ยแค่คิดยังเข้าตัวแบบนี้แล้วถ้าแช่งออกจากปากเราคงเป็นแทน ยังไม่จบนะค่ะ ยอมรับแบบเลวๆเลย ว่าตอนที่คิดอยากให้สามีเป็นอะไรก่อนถึงต้องได้นอนตลอดชีวิต คิดไว้หลายวิธีมาก สุดท้ายก็เกิดกับตัวอีกจนได้ เช่น เคยดูหนังเรื่องหนึ่งที่จาพนมตามหาช้างอ่ะค่ะ ฉากหลังๆที่ไปต่อสู้กันที่โครงช้างแล้วเอาอะไรซักอย่างมาตัดเอ็นกันจนลุกไม่ขึ้นกลายเป็นเดินไม่ได้ โดนเองกับตัวค่ะ กระจกบ้านเรามันเป็นแบบวางโต๊ะได้แล้วฐานรองมันหนักเราเอาขาหนีบไว้แล้วดันทำกระจกหลุดจากขา ฐานมันเลยบาดเข้าตรงหลังขาใกล้ๆข้อเท้าอ่ะค่ะ เกือบโดนตรงเอ็น ฐานกระจกบาดเข้าไปข้างในเหมือนมีดบาดแต่แผลยาวและลึกกว่าค่ะ คิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยคิดร้ายกับคนอื่นเลย ทำไมอ่ะค่ะบางทีก็คิดนะ เนื้ยเราแค่คิด แต่คนอื่นที่แช่งออกมาจากปากทำไมเค้าไม่เป็นแบบเรา (ครอบครัวญาติใกล้กันนี่แหละค่ะที่ทำ) เค้าก็ยังอยู่อยู่ปกติเฉยๆเลย ไม่เห็นโดนแบบเรา แต่คิดอีกแง่หนึ่งก็ดีเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ เราจะได้ไม่คิดอกุศลกับใครให้เป็นบาป โดนกับตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่บาป สุดท้าย กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง แต่เมื่อไหร่สามีเราจะได้รับกรรมสนองซักทีหล่ะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2013, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


สรุปแล้ว เราเองก็เชื่อผลแห่งกรรมแล้ว ดังนั้น ญ ๒ บาปไหมผิดไหม?
ก็คงคล้ายกรณี ญ๑ ที่เสียรู้เสียทีฝ่ายชายเหมือนกัน ดังนั้น วิบากกรรม
ของ ญ ทั้ง ๒ รวมทั้งเรา เิกิดขึ้นจาก กาเมสุมิฉาจาร ที่สามีเป็นผู้ก่อ
เป็นผู้สร้างเหตุ แก่ญ ทั้ง ๒ รวมทั้งเรา ญ.ทั้ง๒
รวมทั้งเรา จึงเป็นผู้ได้รับผลแห่ง วิบากกรรมนั้น นั่นคือ ต้องแย่งชิงต้องถูกหลอก
ถูกลวง เพราะตัณหาราคะที่ย้อมจิตใจฝ่ายชาย อดีตเหตุ หรือกรรม วิบากกรรมที่
สอดคล้องกันอย่างนี้

ผลที่ติดตามมา นั่นคือ เราเปลี่ยนเป็นผู้สร้างเหตุใหม่ สร้างกรรมใหม่
กรรมที่เราสร้าง นั่นคือ มโนทุจริต มโนกรรม ที่พยาบาท ผูกโกรธ
ที่อาฆาต มีเจตนาอยากให้ฝ่ายชายตาย อยากให้เขาได้รับทุกข์เจียนตาย
อยากให้เขาทรมานให้สาแก่ใจ อันนี้คือปมเหตุ ที่เราสร้างขึ้นใหม่

ประจวบวิบัติ ประสบเหตุ ประมาทพลาดพลั้ง อันนี้คือวิบากกรรมที่เกิดขึ้น
ถ้าวิบากกรรมนั้นๆ บั่นทอนทรัพย์สิน นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจากลักทรัพย์
จากอทินนาทานา ถ้าถูกบั่นทอนสติปัญญา นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจาก
สุราเมรัย ที่ดื่มกินจนประมาทขาดสติ ที่เราอาศัยกายใจนี้ก่อขึ้นเอง

ดังนั้น บั่นทอนร่างกายและชีวิต นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจาก ปาณาติบาต
ที่เกิดขึ้นก็มี ที่เกิดจากความประมาท ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ขึ้นชื่อว่า
ข้องเกี่ยวกับการถูกเบียดเบียนทำลายชีวิต ก็คือ ปาณาติบาตกรรมนั่นเอง ฯลฯ

เมื่อเห็นทุกข์เห็นธรรมแล้ว ควรรักษาใจให้เป็นสุข แผลก็จะสมานได้เร็ว
เพราะจิตรู้จักปล่อยวาง รู้จักให้อภัย รู้จักยอม รู้จักเย็น สงบเป็นสุขอยู่ใน
ภายใน ไม่ฟุ้งซ่าน ฟูมฟาย ขาดสติ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่เมื่อเกิดแล้ว
จะแก้ไขอย่างไร ให้เรากู้สถานการณ์ กู้สติปัญญาตนเองกลับมา

มีตนเองเป็นที่พึ่ง ไม่รอสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง
รู้แล้วเห็นแล้ว ก็ควรรีบสร้างรีบทำแต่กรรมดีนะครับ เจริญพร.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2013, 11:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธฏีกา เขียน:
สรุปแล้ว เราเองก็เชื่อผลแห่งกรรมแล้ว ดังนั้น ญ ๒ บาปไหมผิดไหม?
ก็คงคล้ายกรณี ญ๑ ที่เสียรู้เสียทีฝ่ายชายเหมือนกัน ดังนั้น วิบากกรรม
ของ ญ ทั้ง ๒ รวมทั้งเรา เิกิดขึ้นจาก กาเมสุมิฉาจาร ที่สามีเป็นผู้ก่อ
เป็นผู้สร้างเหตุ แก่ญ ทั้ง ๒ รวมทั้งเรา ญ.ทั้ง๒
รวมทั้งเรา จึงเป็นผู้ได้รับผลแห่ง วิบากกรรมนั้น นั่นคือ ต้องแย่งชิงต้องถูกหลอก
ถูกลวง เพราะตัณหาราคะที่ย้อมจิตใจฝ่ายชาย อดีตเหตุ หรือกรรม วิบากกรรมที่
สอดคล้องกันอย่างนี้

ผลที่ติดตามมา นั่นคือ เราเปลี่ยนเป็นผู้สร้างเหตุใหม่ สร้างกรรมใหม่
กรรมที่เราสร้าง นั่นคือ มโนทุจริต มโนกรรม ที่พยาบาท ผูกโกรธ
ที่อาฆาต มีเจตนาอยากให้ฝ่ายชายตาย อยากให้เขาได้รับทุกข์เจียนตาย
อยากให้เขาทรมานให้สาแก่ใจ อันนี้คือปมเหตุ ที่เราสร้างขึ้นใหม่

ประจวบวิบัติ ประสบเหตุ ประมาทพลาดพลั้ง อันนี้คือวิบากกรรมที่เกิดขึ้น
ถ้าวิบากกรรมนั้นๆ บั่นทอนทรัพย์สิน นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจากลักทรัพย์
จากอทินนาทานา ถ้าถูกบั่นทอนสติปัญญา นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจาก
สุราเมรัย ที่ดื่มกินจนประมาทขาดสติ ที่เราอาศัยกายใจนี้ก่อขึ้นเอง

ดังนั้น บั่นทอนร่างกายและชีวิต นั่นก็เนื่องด้วย กรรมจาก ปาณาติบาต
ที่เกิดขึ้นก็มี ที่เกิดจากความประมาท ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ขึ้นชื่อว่า
ข้องเกี่ยวกับการถูกเบียดเบียนทำลายชีวิต ก็คือ ปาณาติบาตกรรมนั่นเอง ฯลฯ

เมื่อเห็นทุกข์เห็นธรรมแล้ว ควรรักษาใจให้เป็นสุข แผลก็จะสมานได้เร็ว
เพราะจิตรู้จักปล่อยวาง รู้จักให้อภัย รู้จักยอม รู้จักเย็น สงบเป็นสุขอยู่ใน
ภายใน ไม่ฟุ้งซ่าน ฟูมฟาย ขาดสติ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่เมื่อเกิดแล้ว
จะแก้ไขอย่างไร ให้เรากู้สถานการณ์ กู้สติปัญญาตนเองกลับมา

มีตนเองเป็นที่พึ่ง ไม่รอสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง
รู้แล้วเห็นแล้ว ก็ควรรีบสร้างรีบทำแต่กรรมดีนะครับ เจริญพร.



ขอกด ไลค์ ให้ ตุ๊โย ร้อยๆที ค่ะ :b17: s007


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร