วันเวลาปัจจุบัน 03 มิ.ย. 2025, 23:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2012, 13:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2012, 11:43
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะ ดิฉันมีเรื่องอยากเรียนขอคำแนะนำจากผู้รู้ทุกท่านคะ เริ่มเลยนะคะ ดิฉันและสามีกำลังจะหย่ากันคะ เหตุเพราะมีปัญหาขั้นรุนแรงที่สุด ดิฉันมีลูกอยู่2คนคะ กำลังน่ารักเป็นชายและหญิงคะ
สามีอยากได้ลูกทั้ง2คนแต่เพียงผู้เดียวคะ และบอกกับดิฉันว่า ถ้าเขาจะไปจากดิฉัน ก็ต้องให้ลูกเขาไปทั้ง2คน ตอนแรกดิฉันก็๋ไม่ยอมคะ เพราะทนไม่ได้ ตัวเราเองก็อยากได้ลูกทั้ง2คนมาเลี้ยงเหมือนกัน ดิฉันก็หาทางเลือกให้ โดย1. ให้ดิฉันเลี้ยง แล้วทุกเดือนถ้าว่างก็มารับลูกไปอยู่ด้วย 2. คือแบ่งกันคนละคน แต่เขากลับไม่ยอมเลือกทางไหนเลยคะ ดิฉันก็พยายามบอกเขาว่า ถ้าอยากได้ทั้ง2คน ก็ให้ไปฟ้องเอาแล้วกันคะ จนในวันที่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เขาพาลูกทั้ง2คนหนีไปกับเขาด้วย ดิฉันนั่งทุกข์ใจ เสียใจ คิดถึงลูก เป็นห่วงลูกเหลือเกินคะ พยายามหาทางออก แต่ดิฉันคิดว่า ดิฉันจะไม่กลับไปใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขาอีกแล้วคะ เพราะเขาเป็นดอกบัวที่อยู่ใต้โคลนตม ไม่มีความเมตตา มีแต่ทิฐิ อคติ เอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนอาฆาตแค้น ไม่รู้จักการให้อภัย และที่สำคัญ เขาคิดเสมอว่า "ตัวเขาไม่ผิด ตัวเขาถูกเสมอ " ดิฉันสงสารคนในครอบครัวของดิฉันเองคะ ที่ต้องมาทนรองรับอารมณ์เพียงแค่คนๆ เดียว เพราะทุกคนในบ้านต่างก็พากันอดทน อดกลั้น ดิฉันกลับรู้สึกว่า เป็นต้นเหตุที่นำเรื่อง ปัญหาต่างๆ เข้ามาในบ้าน

ดิฉันถามใจตัวเองหลายครั้ง ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ใจกลับบอกว่า ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว อยากเลิกกันไปซะ และอยากจบกันด้วยดี แต่ดิฉันก็ต้องยอมให้ลูกทั้ง2คนไปอยู่ที่เขาทั้งหมด
ดิฉันไตร่ตรองแล้ว คิดว่า ควรต้องตัดใจจากลูก ในเมื่อเขาต้องการเพียงแ่ค่ลูก ต้องการเอาชนะ ต้องการอยากได้เพียงแค่นี้ ดิฉันเป็นฝ่ายเสียสละ ยอมให้ลูกๆ กับเขาคะ

แต่เขาทำงานอยู่กรุงเทพ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ทำงานก็ไม่ได้เป็นเวลา ดิฉัีนคิดว่า เขาคงเอาลูก
ไปให้พ่อกับแม่เขาเลี้ยงที่ต่างจังหวัด ดิฉันก็ไม่เข้าใจคะว่า การที่เขาได้ลูกไป แต่กลับไม่ได้เลี้ยงดู
เดือนนึงอาจจะได้กลับไปหาสักครั้ง เขามีความสุขตรงไหน ได้ไปก็จริง แต่ก็กลับไม่ได้เลี้ยงดูเลย
ลูกชายคนโตกำัลังเรียนอนุบาล1 คะ ดิฉันสงสารลูกเหลือเกิน ที่ต้องยอมทุกข์ใจ เสียใจ ทรมานใจอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะสงสารลูก ดิฉัีนไม่ไปฟ้องร้อง หรือไปหาผู้่บังคับบัญชา ของเขาทั้งนั้นคะ เพราะไม่อยากให้ลูกแยกจากกัน พ่อแม่ไปทาง พี่น้องไปทาง ดิฉันไม่อยากเห็นสภาพนั้นคะ เลยต้องตัดสินใจ
บอกเขา ว่าดิฉันยอมเสียสละให้ ยอมที่จะเจ็บ จะเสียใจคนเดียวคะ และเขาก็ได้ส่งข้อความมาหาว่า "เขายอมทำบาป พรากแม่ พรากลูกเอง"

ตอนนี้หัวใจมันสลายคะ คิดถึงลูกเหลือเกิน ตื่นก้่อร้องไห้ หลับก็ร้องไห้ กลับถึงบ้านได้เห็นลูก แต่ตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง และที่สำคัญ ดิฉันยังไม่ได้บอกร่ำลาลูกสักคำ
ล่าสุดตอนเย็นกำลังเล่นอยู่กับลูก หัวเราะกันสนุกสนานกัน แต่พอตกดึก กลับไม่ได้บอกร่ำลาลูกเลย
อยากเข้าไปกอด ไปหอมลูก เหลือเกินคะ มันรู้สึกทุกข์ใจเหลือเกิน คิดถึงลูกเหลือเกิน เพราะดิฉัน
จะไม่ได้เจอลูกอีก ได้แต่สวดมนต์ ขอให้ลูกคิดถึงแม่บ้าง อย่าลืมแม่คนนี้ ขอให้ลูกร่างกายแข็งแรงและขอให้มีปฏิหารย์ ขอให้ลูกได้กลับมาอยู่กับแม่อีก.......

ดิฉันจึงอยากเรียนสอบถามว่า การพรากแม่ พรากลูก แบบตั้งใจและยอมรับที่จะบาป นั้น เป็นบาปหรือไม่
อย่างไร และคนประเภท ดอกบัวอยู่ใต้โคลนตม เขาจะมีวันที่สำนึกอะไรได้บ้างหรือป่าวคะ และในสิ่งที่เขาทำ เขาจะมีความสุขที่แท้จริงหรือป่าวคะ เพราะคนประเภทนี้ ต่อให้มีเหตุผลเป็นหมื่น เป็นแสน เขาก็ไม่เข้าใจ หรือสำนึกได้เลยคะ เพราะคิดอยู่ตลอดว่า ตัวเองไม่ผิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณจขกท

คนทุกคนก็ล้วนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นโดยเฉพาะปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน...
ปัญหาบางอย่างสามารถแก้ไขได้แต่ปัญหาบางอย่างก็ไม่อาจแก้ไขได้...ซึ่งทำได้ก็คือต้องแก้ไขที่ตัวเราเองด้วยการทำใจยอมรับสภาพไปตามความจริง..ในที่สุดใจจะยอมรับสภาพไปเองไม่ดิ้นรนผลักไส...จิตใจก็เบาสบาย...ปลอดโปร่งโล่งใจ..ด้วยปราศจากความยึดติดถือมั่น

ปัญหาของคุณคือต่างฝ่ายต่างอยากได้ "ลูก" ไปอุปการะเลี้ยงดูทั้ง 2 คน..
แต่คุณเคยถามลูกคุณหรือยังว่า เขาอยากจะอยู่กับใคร? พ่อ หรือ แม่ หรือทั้งพ่อและแม่..
เรามักจะพูดเข้าข้างตัวเองเสมอว่าที่เราทำอย่างนี้ก็เพราะว่าเรา "รัก" เขาเหล่านั้น..แต่จริงๆ แล้วถ้าลองพิจารณาดูด้วยความเป็นธรรมจะพบเสมอว่าเราทำเพื่อตอบสนองความต้องการ (ความเป็นตัวตน) ของเราทั้งนั้น...แล้วเขาเหล่านั้นจะได้รับประโยชน์จริงหรือไม่ลองถามใจตัวเองดูค่ะ...

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


การพลัดพราก เป็นทุกข์อย่างหนึ่งในโลกนี้ บางทีจากเป็นบางทีจากตาย
บางครั้งจากเพื่อพบกันใหม่ บางครั้งพบกันเพื่อจากลา...

มันไม่มีประโยชน์กับการ อยากรู้ว่าการกระทำร้ายๆ สิ่งที่เขาำทำ เขาเอง
จะได้รับผลอย่างไร แม้หากว่าสงสัย เรื่องกรรมและผลของกรรม
สามารถเทียบเคียง จากอารมณ์ความรู้สึกที่เราได้รับ นั่นแหละคือ
สิ่งที่เขาจะได้รับเช่นเดียวกับเราในปัจจุบันนี้ กงกำกงเกวียน!

โกรธแค้น เสียใจ ทรมานใจ คับแค้นใจ โศกเศร้า หดหู่ หวงหา
คิดถึง ผูกใจเจ็บ ตำหนิตนเอง โทษคนอื่น สิ้นความหวังหมดหนทาง...

ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

บาปบุญ เป็นเรื่องของผลจากสิ่งที่เกิดขึ้น ดีก็เป็นสุขเป็นบุญ
หากร้ายก็เป็นทุกข์เป็นบาป

เวรแต่ไหนแต่ไรมา ย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร
อนาคตข้างหน้า ชาติหน้า ถ้าหวังความสุขพึง อดทนและอดทน
มีแต่ปัจจุบัน ที่ต้องเดินหน้า ตั้งสติคิดอ่านเผชิญหน้ากับบททดสอบ
สู้กับความยุติธรรมที่ลำเอียงในใจ เหตุผลต่างๆ ที่ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
มีแต่ยิ่งเศร้าโศกเสียใจ เมื่อเราเป็นฝ่ายโต้ตอบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน
ร้อนมาก็ร้อนไป ธรรมดาก็คือทุกข์กับทุกข์ หากร้อนมาเย็นไป
อย่างน้อยก็ทุกข์ปนสุข สุขปนทุกข์...

หากเย็นได้และได้เย็นด้วย ความสุขคงเป็นของทุกๆ คนได้
ในโลกนี้คนที่ร้อนมีมากกว่าคนที่เย็น คนที่ผิดหวังมีมากกว่าคนที่สมหวัง
อะไรที่เป็นของๆ เราก็จะได้เป็นของๆ เราแน่นอน คนทุกคนมีกรรม
เป็นของตนเอง บางคราวคล้ายจะเลวร้ายแต่ก็ยังมีเรื่องดีๆ ปะปน
บางคราวคล้ายจะดีก็ดันยังมีเรื่องร้ายๆ แฝงเข้ามา

ความรักและสถาบันครอบครัวไม่ใช่ การคำนวน ไม่ใช่คณิตศาสตร์
หรือตรรกะเหตุผล ไม่ใช่สนามรบ หรือเวที ที่ต้องมีคนหนึ่งคนใด
แพ้หรือชนะ เพราะความรักนั้น มันมีพลังทั้งรังสรรค์ มีพลังทั้ง
ทำลาย อยู่ในหัวใจของแต่ละคน...

คนที่ยอมอดทนจะได้รับประโยชน์ที่เกื้อกูลกับตนเองและคนอื่น
คนที่ไม่ยอมไม่อดทน ดูเหมือนจะได้ประโยชน์เพื่อตนอยู่บ้าง
แต่ความจริงกลับกลายเป็นริดรอนประโยชน์ตนและประโยชน์
คนอื่นๆ ไปโดยไม่รู้ตัวอยู่เสียมากกว่า

คนที่อดทนรังสรรค์และคนที่พร้อมจะหักพังทำลายสิ่งต่างๆ ทั้ง
ประโยชน์ตนและประโยชน์คนอื่น ผลที่จะได้รับย่อมแตกต่างกัน
บางคนอาจจะทุกข์ทรมานเฉพาะหน้า หากมีสติปัญญา ลงมือ
แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านั้น เช่นร้อนมาเราก็ไม่ยอมร้อนไป
มองข้ามเหตุผล การกระทำต่างๆ โอบอุ้มดูแลคุ้มครอง ในคน
ที่ถูกความโกรธ ความร้อน ความเอาแต่ใจครอบงำ ไม่นาน
เราก็จะชนะความโกรธที่ครอบงำคนที่เราโกรธลงได้ อย่างปฏิหารย์
ไม่ต้องชนะหรือเหน็ดเหนื่อยกับเหตุกับผลที่ต่ำกว่าอารมณ์
ไม่ต้องเดินชนกำแพงเหตุผล แค่เดินอ้อมๆ ไปดูว่า ลึกๆ เขา
แสดงความรักโง่ๆ แสดงความต้องการอย่างบ้าบอ แสดงความ
เป็นคนดีมีเหตุผลด้วยวิธีแสนฉลาดสุดๆ อย่างไร...

เมื่อรู้แล้วว่าเขารัก รู้แล้วว่าเขาแสดงออกไม่เก่งหรือผิดวิธี รู้แล้ว
ว่าการเดินอ้อมกำแพงเหตุผลของกันและกัน มันแก้ปัญหาเฉพาะ
หน้านั้นๆ ได้ ไม่ต้องโยนความร้อนโยนปัญหา ให้กันและกัน

ไม่ต้องบอกใครต่อใครว่าเราผิดเองๆ แบบผิดๆ ที่ดูเหมือนว่าเรา
จะไม่ผิดแต่ก็กลายเป็นผิดเสียเอง...อดทนนะครับอดทน

และไม่ประพฤติตนเป็นคนฉลาดน้อย โดยการยอมตอบแทนคนที่
ถูกความโกรธครอบงำ ถูกความเืดือดร้อนเพราะขี้โกรธขี้โมโห
ด้วยการไปเดือดร้อนด้วย ปล่อยให้ความโกรธครอบงำตัวเราเสียเอง

รักประชดโกรธประชัน ไม่ควรโต้ตอบด้วยการประชดประชันเช่นเดียวกัน
เพราะไม่ใช่เกมส์แข่งขัน ไม่ใช่การเฟ้นหา ซุปตา ด้านความถูกผิด
ถ้ายังมีโอกาส ทำให้ครอบครัวเป็นครอบครัว ถ้ายังมีโอกาสทำให้
คนรักได้เจอคนรัก มีโอกาสให้แม่เจอลูกและพ่อ หรือมีโอกาสพาแม่
ไปพบเจอพ่อและลูกๆ ได้ ก็สมควรอดทน มีใจดี ใจเมตตากรุณา

พากันเข้าวัดเข้าวา ฟังเทศน์ัฟังธรรม ให้ทาน รักษาศีล หมั่นภาวนา
เพื่อลดละมานะทิฏฐิ ขี้โกรธขี้โมโห พยายามปรับความเข้าใจกันและกัน

เ้ว้นไว้เสียแต่ว่า ซับซ้อนสับสนยิ่งกว่า ความรักความรู้สึกที่ขาดหาย
มันกลับกลายต้องถูกแทนที่ ต้องต่อเติม รักจึงเปลี่ยนแปลง รักจึงดิ้นรน
ซ้อนกลอยู่หลัง ความผิดพลาดน่าาตำหนิของคนอื่น...

เว้นไว้เสียแต่ว่า เขาผู้ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว จะยืนอยู่บนปากทางอบาย
มีการติดผู้หญิง เที่ยวกลางคืน ติดเพื่อน เล่นการพนัน ฯลฯ

จะดันทุรักดันทุรัง ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย เพราะยืนอยู่ในหนทางที่ผิด ต้องให้
ความใกล้ชิด ชักชวนให้เขากลับมาสู่หนทางที่ถูกต้องให้ได้ ถ้าลำพังเพียง
กำแพงมานะทิฏฐิ ก็แค่ไม่เดินชน แค่เดินอ้อมๆ เข้าไปนั่งในใจเขา
ถ้าเขาหลงทาง ก็ดึงกลับมาให้ถูกทางเท่าที่ทำได้ ถ้ายังมีมานะทิฏฐิมาก
แถมยังหลงทางถูกทางผิด ทางเสื่อม ทางเจริญด้วยแล้วละก็

เราต่างหากที่ต้องต่อสู้ พรากพ่อกับลูกออกมาให้ได้ การพรากของเรา
จะทำให้ลูกเจริญขึ้นไม่เสื่อมลง เพราะความใกล้ชิดกับคนพาลไม่ใช่
คนฉลาด จะเป็นลูกก็ดี เมียก็ดี เข้าใกล้แล้วก็มีแต่นำความทุกข์ ความ
เศร้าโศกเสียใจมาให้ เพราะลำพังใจเขาเอง เป็นพาล นำตัวเขาเองให้
พบกับความเดือดร้อน ทำคนอื่นเดือดร้อน

ก็ลองพิจารณาทั้งตนเองด้วย ทั้งเขาด้วย อีกทั้งประโยชน์ลูกๆ ของเรา
แล้วจะอยู่เพื่อสู้เพื่ออดทนรังสรรค์ หรือเพียงแต่ละเขา และลูกไปปล่อย
ทิ้งไว้ให้เป็นไปตามยถากรรมของแต่ละคนเอง...ก็สุดแท้อนิจจาเจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 10:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2012, 11:43
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณมากเลยนะคะ ตอนนี้ก้อคงสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาให้คะ
อยากให้เค้าสำนึก ผิด ชอบ ชั่วดี ได้ แต่ก้อสงสารลูกๆ ที่ต้องไปอยู่ห่างไกล
แถมต้องได้รับการเลี้ยงดูแบบนี้อีก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร