วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 06:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 23:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2011, 22:05
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ทรมานทางด้านจิตใจมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งทางไหนดี ก็เลยพยายามพึ่งธรรมมะ เลยมาเจอเว็บนี้ ฉันอายุ 30 ค่ะส่วนแฟนอายุ 31 เพิ่งตายจากฉันไปเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 คบกันมาได้ 7 ปี เองก็ต้องจากกันเสียแล้ว ฉันยังทำใจไม่ได้เลยค่ะทุกวันนี้ยังหลอกตัวเองอยู่เลยว่าเค้ายังอยู่ พยายามเก็บสิ่งที่เค้าชอบ เอามาดู เก็บของทุกอย่างที่เราเคยใช้ด้วยกันเป็นอย่างดี ว่างก็หยิบเอามาดู ฉันรักเป็นเค้ามาก อาจเป็นเพราะว่าฉันคิดว่าเค้าเป็นเนื้อคู่ของฉันจริง ๆ ฉันเลยปักใจรักเค้าคนเดียวเลยที่ไม่ได้สนใจใคร หรือให้ใครเข้ามาในหัวใจของฉันได้เลย ฉันและเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่ครั้งแรก ที่เราเจอกัน เรามีความรู้สึกเหมือนกับว่ารู้จักกันมาก่อน ลืมบอกไปว่า จริง ๆแล้วฉันเคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้ คบมา 5 ปี และก็ได้มาเจอเขา เพราะเขาเป็นเพื่อนของแฟนเก่าฉันเอง ซึ่งฉันรู้ว่ามันไม่ดี แต่ฉันและเค้าตกหลุมรักกันจริง ๆ ฉันรุ้ว่าแฟนเก่าของฉันเหมือนจะเป็นสะพานที่ทำให้ฉันได้เจอเขา จนทุกวันนี้ฉันยังเขาไม่เปลี่ยนแปลง การที่ปักใจว่าเขาเป็นเนื้อคู่ แล้วเขามาตายจากกันไปแบบนี้มันทำให้ฉันหัวใจสลาย หมดความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น ทุกวันนี้ทำอะไรก็ไม่มีความรู้สึก หมดอาลัยตายอยาก ได้แต่ทำหน้าที่ของลูกที่ดีให้พ่อกับแม่เท่านั้นเอง นอกนั้นฉันเหมือนวิญญานออกจากร่างไปแล้ว หัวใจก็เหมือนไม่อยู่กับตัว เพราะคนคนนั้นเขาเอามันไปด้วย โหยหาแต่ไออุนของเค้า อ้อมกอด ทุกอย่างมันเจ็บเหลือเกินค่ะ อยากรู้ว่าใครเคยคิดว่าเนื้อคู่ของตัวเองแล้วเค้าตายจากไปบ้าง ขอโทษนะคะที่ฉันพรำ่เพ้อ ฉันคิดถึงเค้าเหลือเกินค่ะ ตอนนี้ฉันสัญญากับตัวเอง ว่าชาตินี้ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว มันทั้งทรมาน และเจ็บปวดเหลือเกิน หากคนที่เรารักจากไปแบบนี้ อยากขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ที่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้บ้าง เพราะตอนนี้ เราไปคุยกับคนอื่นเขาก็ไม่เข้าใจหรอก เพราะคนอื่น ๆ เขามีความสุขกับคนที่รักกันหมด ฉันเลยเหมือนตัวคนเดียวในโลกที่ฉันจินตนาการว่ามีเค้าอยู่เคียงข้างเสมอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2011, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ในตอนแรกๆต้องใช้ความอดทนสูงเพราะว่าเราไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน ต้องอดทนกัดฟันสู้หน่อย

ขั้นตอนต่อไปที่จะเยียวยาก็คือให้เอาใจไว้ที่พระ คือนึกถึงพระองค์ใดก็ได้เป็นที่พึ่งก่อนเพราะว่าใจคุณไปอยู่กับเขาพอเขาไม่อยู่ใจคุณก็หายไปด้วย ให้เอาใจไว้ที่พระอย่างที่คุณท่องที่วัดว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เพราะตอนนี้เราขาดที่พึ่ง

แล้วอย่าไปยึดว่าใครเป็นเนื้อคู่อะไรกับใคร เพราะวัฏสงสารนี้เคยเกิดเป็นพ่อเป็นแม่เป็นผัวเป็นเมียเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาก่อนไม่มีอะไรแน่นอน อย่าไปยึดให้ทำลายความคิดนั้นเสีย

ทำใจเสียใหม่ยอมรับความเป็นจริง ว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดาไม่สามารถล่วงพ้นความแก่ไปได้ เรามีความป่วยเป็นธรรมดาไม่สามารถล่วงพ้นความป่วยไปได้ เรามีความตายเป็นธรรมดาไม่สามารถล่วงพ้นความตายไปได้ เรามีความพลัดพรากเป็นธรรมดาไม่สามารถล่วงพ้นความพลัดพรากไปได้ นี่เป็นหลักแห่งความจริง คุณต้องยอมรับความจริง และพยายามคิดเสมอทุกๆวันจนเกิดความเคยชินต่อความจริงเหล่านั้น แม้แต่ตัวเราเองก็ต้องเป็นเช่นนั้นเหมือนกันให้คิดในทุกๆวัน ตัวเราอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เสื้อผ้าข้าวของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พ่อแม่เราอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บ้านที่ดินอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2011, 19:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์เพราะความรัก โศกเพราะความรัก ทำไมความรักจึงทำให้ทุกข์ให้โศกเป็นผลในบั้นปลาย นี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและทราบรู้ด้วยกันทุกคนจะโกหกกันไม่ได้ ความสุขความทุกข์จากความรักนี้ก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีอันแปรเปลี่ยนไปหนักเบาตามแต่ละคนที่จะเอาถือเป็นจริงเป็นจัง ความรักอย่างหนึ่ง ผู้เอาความรักอย่างหนึ่ง ผู้ถุกรักอย่างหนึ่ง สามอย่างนี้ก็คนละเรื่องคนละอย่างกัน แต่ว่าผู้เอาความรักกลับเห็นเป็นอย่างเดียวกัน เมื่อเห็นเพี้ยนไปจากความจริงผลก็เป็นไปตามที่ผู้เอาความรักเห็นคือเป็นอันเดียวกันทั้งที่ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน นอกจากตัวเราแล้ว ผู้อื่นนั้นหากเราคิดดี ปราถนาดี ก็เป็นสิ่งดี แต่จะเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าหากคิดไม่ดี คิดไม่ตรงตามความจริง เขาจากไปเป็นความจริงความรักไม่มีแล้วเพราะไม่มีผู้ถูกรักเป็นความจริง เรายังอยู่นี้เป็นความจริง ความรักตามความรู้สึกจึงกลายเป็นอดีตที่ล่วงผ่านมาแล้ว หากหวังกับอดีตที่ล่วงเลยไปแล้วคงจะไม่ได้อะไร อยู่กับความจริงอันเป็นปัจจุบันนี้เถิด ทำตัวทำใจให้เป็นที่รักของๆตนด้วยตนเองเถิด ความรักที่แท้จะเกิดมีให้ชื่นชม ความรักเสมอด้วยตนเองนั้นไม่มี หากำไรให้ตนเองดีกว่าขาดทุนเพราะความทุกข์โศก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2011, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท.

องค์พระศาสดาทรงตรัสว่า การเกิด เป็นทุกข์โดยแท้ มนุษย์มีความทุกข์ 2 ลักษณะ
1.ทุกข์ทางกาย
2.ทุกข์ทางใจ
และท่านยังแยกความทุกข์ออกเป็น
ทุกข์ประจำ ซึ่งได้แก่ ความเกิดเป็นทุกข์
ความแก่เป็นทุกข์
ความตายเป็นทุกข์
ทุกข์จร ซึ่งได้แก่ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
ความคับแค้นใจ การประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นสมประสงค์ ก็เป็นทุกข์

เหล่านี้เป็นสัจจะธรรมเป็นความจริงที่มีในธรรมชาติของโลกและชีวิต
ทำใจให้กว้าง มองออกไปให้ไกล ๆ อย่ามองแค่ความต้องการของตัวเอง แล้วคุณจะเห็นสัจจะธรรม
ของชีวิต เมื่อนั้นใจจะค่อย ๆ ยอมรับสภาพของความจริงไปเอง...
จงอยู่กับความจริง และยอมรับความจริงให้ได้ ใจก็จะไม่เป็นทุกข์

ขอความสุขบังเกิดมีในใจคุณจขกท... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2011, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ต.ค. 2006, 08:42
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครีบ

ใครบ้างที่เกิดมาแล้วไม่เคยเสียใจจากความรัก ตอบว่าไม่มี ถ้ามีใครตายเราจะไม่เสียใจก็เพราะเขาคนนั้น เราไม่รู้ัจักเขา เา เขาไม่มีความเกี่ยวพันกับเรา ความเสียใจแถบจะไม่มี อาจตกใจบ้าง หวาดกลัวบ้าง แต่ถ้าเป็นคนของเรา มันจะเป็นอีกเรื่องเลย
บ้างคนถึงขนาดเป็นบ้าเสียสติิไปก็ี ความไม่มีใจ คนเราทำอะไรก็็ด้วยใจทั้นนั้น เพราะมีใจ

ถ้าพิจารณาด้วยปัญญา ต้องอาศััยปัญญาที่พร้อมด้วยสติ เราจะพบความจริงว่า ความรักที่เราคิดนั้น มันคือความทุกข์จากการยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นของของเรา ถ้าเมื่อไรพบว่า แท้จริงไม่เคยมีเรา ก็จะพ้นจากทุกข์ทั้มวล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


พลิกความโชคร้าย

แม่บ้านที่กำลังอยู่ในอาการซึมเศร้าคนหนึ่ง สนทนากับอาจารย์ใหญ่
ว่านับแต่สามีของเธอเสียชีวิตไป เธอก็เศร้าโศกตลอดเวลาไม่อาจทำใจได้
อาจารย์ใหญ่ปลอบโยนและขอให้เธอหันกลับมาคิดในอีกแง่มูมหนึ่ง
"ถ้าในวันนี้เป็นตัวเธอที่จากไปก่อน สภาพการณ์จะเป็นเช่นไร "
เธอตอบว่า "เรารักกันมาก ฉันเชื่อว่าเขาก็จะต้องเสียใจอย่างมากเช่นกัน"
"นั่นนะสิ ! เขาก็ย่อมเศร้าโศกเสียใจมากเช่นเดียวกัน" อาจารย์ใหญ่เห็นด้วย
"แม้ว่าในตอนนี้สามีของเธอไม่ต้องรับเคราะห์กรรมนี้ แต่เป็นตัวเธอเอง
ถ้าสามีของเธอรู้ว่าเธอเป็นเช่นนี้ เขาก็คงเสียใจ เขาย่อมอยากเห็นเธอมีความสุข
และมีความกล้าหาญที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปมิใช่หรือ"

สิ่งที่ต้องประสบพบเจอในชีวิต ล้วนนำมาซึ่งความหมายต่างกัน
ขอเพียงเรายินดีที่จะค้นหา ยินดีที่จะหาคำมาอรรถาธิบายถึง
ประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอ ผลที่ได้รับย่อมมีค่าแตกต่างออกไป
M.Proust กล่าวไว้ว่า การค้นพบที่แท้จริงของการเดินทาง ไม่ใช่การแสวงหา
วิวทิวทัศน์ใหม่ แต่คือการมองด้วยสายตาแบบใหม่มากกว่า
ขอเพียงปรับเปลี่ยนทัศนะของตนเสียใหม่ โลกของเราก็จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

เทียนที่ดับ

แม่คนหนึ่งเนื่องจากต้องสูญเสียลูกไปด้วยอุบัติเหตุอันไม่คาดคิด ทำให้เธอ
เศร้าเสียใจจนแทบไม่อยากจะมีขีวิตอยู่ วันวันเอาแต่กินน้ำตาต่างข้าว ไม่ว่า
ญาติมิตรจะปลอบโยนอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เธอคลายทุกข์โศก
ทว่า วันหนึ่งหลังจากเธอไปพบอาจารย์ใหญ่กลับมา ก็หายจากการเศร้าซึม
เป็นปลิดทิ้ง กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขต่อไปได้ ทุกคนต่างพากันงุนงงสงสัย
อดไม่ได้ที่จะมาถามอาจารย์ใหญ่ "เรื่องมันเป็นอย่างไรหรือ"
อาจารย์ใหญ่จึงเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง .......
เมื่อก่อนมีแม่บ้านคนหนึ่งเนืองจากการตายของบุตรสาวทำให้นางจม
อยู่ในความทุกข์โศก วันวันไม่อยากทำอะไร เอาแต่ร้องไห้ อยู่มาวันหนึ่ง นางนอนหลับ
และฝันไป ฝันว่านางอยู่บนสวรรค์และเด็ก ๆ ที่อยู่บนนั้นดูสดใสน่ารัก ประหนึ่ง
เทวดานางฟ้านางสวรรค์ ในมือของเด็กทุกคนถือเทียนที่จุดสว่างพากันเดินไปข้างหน้า
แล้วนางก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินอยู่ในแถว ในมือของเด็กคนนั้น
ถือเทียนที่ไม่ได้จุดไฟ
นางจึงวิ่งไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้น พอเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเด็กคนนั้นก็คือ
ลูกสาวของนางเอง จึงถามว่า "ลูกรัก! ทำไมเทียนของหนูไม่ได้จุดไฟละ"
ลูกสาวตอบว่า " แม่ พวกเขาจุดเทียนให้หนูแล้ว แต่น้ำตาของแม่ทำให้
เทียนของหนูดับตลอดเวลา"
"อาจารย์เพียงแต่เล่านิทานเรือ่งนี้ให้เขาฟังเท่านั้นเอง" อาจารย์ใหญ่
กล่าวในท้ายที่สุด

เวลาที่เราสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งไป ก็ย่อมรู้สึกเสียใจเจ็บปวด
รวดร้าวเป็นธรรมดา แต่ความเศร้าโศกเสียใจของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
มักทำให้ผู้ตายอาลัยอาวรณ์ตัดใจไม่ได้ กลับนำมาซึ่งความเจ็บปวดรวดร้าวใจ
มากขึ้นให้กับผู้ตาย เพราะเหตุใดจึงไม่ให้พวกเขาจากไปอย่างสงบ
และสบายใจเล่า
อย่าลืมว่า ! ชีวิตของทุกคนล้วนมีอิสระเฉพาะตัว ต่างมีหนทางของตัวเอง
ในเมื่อไม่เคยมีใครเป็นของเราอย่างแท้จริงเลย แล้วเวลาทีพวกเขาจากไป
จะบอกว่าเราสูญเสียได้อย่างไร

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2011, 10:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ย. 2011, 17:21
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ดิฉันก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันค่ะ แฟนเสียเมื่อวันที่4 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อวานครบ1เดือนค่ะ
เป็นการสูญเสียแบบกระทันหันมาก ไม่ทันได้ตั้งตัวทั้งเค้าและเรา เราใช้ชีวิตอยู่รวมกันมาเกือบ6ปีแล้วค่ะ
และชั้นก็คิดว่าจะไม่มีใครใหม่อีกแล้ว ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่าหรือจนตายจากกัน และเนื่องจากว่าเราสองคนอายุห่างกันค่อนข้างเยอะ แฟนอายุ38 ส่วนชั้นอายุ24 เลยทำให้เราคิดว่าถ้าวันนึงเค้าจากเราไป เราจะทำอย่างไร เราจะอยู่ยังไง แต่ไม่คิดเลยว่าเค้าจะจากไปไวขนาดนี้ เราแทบช๊อคเลย สภาพตอนนั้นคือ เหมือนคนตายทั้งเป็น ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างเดียว เพราะทำใจยอมรับไม่ได้ มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ ทุกคนช๊อคกับการเสียชีวิตของเค้ากันหมด
เค้าเสียชีวิต จากมีเลือดออดในสมอง จากนั้นทำการผ่าตัดแต่ว่าอาการไม่ดีขึ้นเพราะ เค้ามีโรคประจำตัวคือโรคโลหิตจางและความดันโลหิตสูง หลังจากผ่าตัดออกมาแล้วอาการเค้าไม่ดีขึ้นเลย และวันต่อมาเค้าก็จากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ การจากไปของเค้าครั้งนี้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลย ทุกวันนี้เรายังคิดว่าเค้าอยู่ด้วยตลอด คิดว่าเค้ายังคอยมองเราอยู่ตลอด บางครั้งก็คิดว่าถึงแม้ว่าจะร้องไห้ไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเอาเค้ากลับคืนมาได้แล้ว แต่มันก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี เมื่อเคยไปในที่ๆเคยไปด้วยกัน เราจะนึกถึงเค้าตลอด จะกิน นอน นั่ง จะหรือไม่ว่าจะหยิบอะไรขึ้นมาทำ จะนึกถึงเค้าตลอด ใครๆก็ต่างบอกว่า เวลาจะทำให้ดีขึ้น แต่เรากลับคิดว่าตอนนี้เรารู้สึกแย่ลงทุกที ใรไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน กับการที่ต้องเสียคนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกัน ไปไหนไปด้วยกัน มีเค้าอยู่เคียงข้างตลอด แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้วภาพแบบนั้น ถึงแม้จะมีคนใหม่ มายังไงก็ไม่สามารถมาทดแทนเค้าได้หรอก และพอเค้าเสียไปเราก็คิดว่าคงจะไม่รักใครอีกแล้วเพราะเราไม่รู้ว่า คนที่จะมาเป็นคนรักใหม่ของเรานั่น จะรักเรามากเท่าเค้ารักเราหรือไม่ หรือจะรักได้เท่าครึ่งนึง หรือมากกว่า หรือน้อยกว่า หรือทำให้เรามีความสุขมากกว่าเดิม หรือว่าทำให้เราเป็นทุกข์กว่าเดิม เราไม่รู้เลย การที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน นั้นมันต้องใช้เวลาใช้การกระทำในการพิสูจน์มากมาย เหนื่อยและท้อกับชีวิตเหลือเกิน
และขนาดเราไปตัดสายผัวสายเมีย ตามประเพณีภาคเหนือมาแล้ว ที่จริงเค้าจะไม่มีฝันถึง คุยกันในฝันก็ไม่ได้ จะไม่รู้จักจะไม่เห้นจะจำไม่ได้ แต่นี่เรายังฝันถึงเค้าตลอด ฝันว่าเค้าฟื้นกลับคืนมาอยู่กับเราเหมือนแสดงว่าอะไรก็ไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ที่เรามีให้กันออกไปได้ ล่าสุดเราฝันว่าเค้ามาที่บ้านเราใส่เสื้อผืนที่เราเก็บของเค้าไว้ เราก้ถามว่ามาได้ไง เค้าบอกว่าขอพระ ไหว้พระ ขอผลบุญจากพระให้พระช่วยพาเค้ากลับมาเหมือนเดิม สภาพเค้าตอนนั้นที่ในฝันคือเป็นสภาพของใบหน้าคนป่วยอ่ะ เราสองคนรักกันมาก มากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง ตอนนี้ใจของเค้าก็ยังอยู่ที่เรา และใจของเราก็ยังอยู่ที่เค้า เราไม่อยากให้เค้าจากเราไปเลย ไม่ว่าจะยังไงเราก้จะรักเค้าตลอดไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรักความผูกพันที่เคยทำร่วมกันมาอาจจะทำให้ลืมได้ยาก ต้องใช้เวลาค่ะ

เวลาจะช่วยทำให้ทุกสิ่งดีขึ้นเอง ขอเพียงใจคุณอย่าท้อแท้ อายุคุณยังน้อย ยังต้องพบปะผู้คน

และสิ่งต่างๆรอบตัวบนโลกใบนี้อีกมากมาย ทุกข์ได้แต่อย่าท้อค่ะ ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป

ทุกข้อความข้างบนที่โพสมามีประโยชน์และเอาใจช่วยเป็นกำลังใจให้คุณทั้งนั้นเลย

ลองพิจารณาและนำไปปฏิบัติดูนะคะ

เอาใจช่วยค่ะขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความทุกข์นี้ไปให้ได้

:b44: :b8: :b44:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร