วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 04:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นบทความที่บรรยายจิตใจของหญิงผู้มีความรักใคร่ในชายอันเป็นที่รักอย่างสุดหัวใจ
เรื่องราวของโกกิลาภิกษุณี ในคราวที่หนีให้ไกลจากพระอานนท์
เพราะคิดว่าจะได้คลายความรักในพระอานนท์ได้
แต่เมื่อได้พบหน้าพระอานนท์อีกครั้ง
ความรักความเสน่หาแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มมากขึ้นร้อยเท่าพันทวี




"ผู้หญิงนั้นลงได้ทุ่มเทความรักให้แก่ใครแล้วก็มั่งคงเหนียวแน่นยิ่งนักยากที่จะถ่ายถอน

และความรักที่ไม่มีทางสมปรารถนาเลยนั้นเป็นความปวดร้าวอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง

อะไรเล่าจะเป็นความชื่นใจของสตรีมากเท่ารู้สึกว่าชายที่ตนพะวงรักมีความห่วงใยในตน"


"ขณะที่นางกำลังเพลินอยู่กับธรรมชาติอันสวยงามและดูเหมือนความรุ่มร้อนจะลดลงได้บ้างนั้นเอง

นางได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินอยู่เบื้องหลังทันทีที่นางเหลียวไปดู…

ภาพ ณ เบื้องหน้านางเข้ามาทำลายความสงบราบเรียบเสียโดยพลัน…

พระอานนท์และโฆสิตมหาเศรษฐีเจ้าของอารามนั่นเอง

นางรู้สึกตะครั่นตะครอ มือและริมฝีปากนางเริ่มสั่นน้อยๆ เหมือนคนเริ่มจะจับไข้

เมื่อพระอานนท์เข้ามาใกล้ นางถอยหลังไปนิดหนึ่งโดยมิได้สำนึกว่า เบื้องหลังของนาง ณ บัดนี้

คือสระน้ำ บังเอิญเท้าข้างหนึ่งของเธอเหยียบดินแข็งก้อนหนึ่ง เธอเสียหลักและล้มลง

พระอานนท์และโฆสิตมหาเศรษฐีตกตะลึงจังงังยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นศิลา สักครู่หนึ่งจึงได้สติ

แต่ไม่ทราบจะช่วยเธอประการใด เธอเป็นภิกษุณีอันใครๆ จะถูกต้องมิได้ อย่าพูดถึงพระอานนท์เลย

แม้โฆสิตมหาเศรษฐีเองก็ไม่กล้ายื่นมือประคองนางให้ลุกขึ้น

นางพยายามช่วยตัวเองจนสามารถลุกขึ้นมาสำเร็จ แล้วคุกเข่าลงเบื้องหน้าพระอานนท์ ก้มหน้านิ่งด้วยความละอาย

"น้องหญิง" เสียงทุ้มๆ นุ่มนวลของพระอานนท์ปรากฏแก่โสตรของนางเหมือนแว่วมาตามสายลมจากที่ไกล

"อาตมาขออภัยด้วยที่ทำให้เธอตกใจและลำบาก เธอเจ็บบ้างไหม?"

เสียงเรียบๆ แต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยของพระอานนท์ ได้เป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจนางให้ชื่นบาน

อะไรเล่าจะเป็นความชื่นใจของสตรีมากเท่ารู้สึกว่าชายที่ตนพะวงรักมีความห่วงใยในตน



สตรีเป็นเพศที่จำความดีของผู้อื่นได้เก่งพอๆกับการให้อภัยและลืมความผิดพลาดของชายอันตนรัก

เหมือนเด็กน้อยแม้จะถูกเฆี่ยนมาจนปวดร้าวไปทั้งตัว แต่พอมารดาผู้เพิ่งจะวางไม้เรียวแล้วหันมาปลอบ

ด้วยคำอันอ่อนหวานสักครู่หนึ่ง และแถมด้วยขนมชิ้นน้อยๆ บ้างเท่านั้น

เด็กน้อยจะลืมเรื่องไม้เรียว กลับหันมาชื่นชมยินดีกับคำปลอบโยนและขนมชิ้นน้อย

เขาจะซุกตัวเข้าสู่อ้อมอกของมารดาและกอดรัดเหมือนอาลัยอย่างที่สุด

การให้อภัยแก่คนที่ตนรักนั้น ไม่มีที่สิ้นสุดในหัวใจของสตรี

และบางทีก็เป็นเพราะธรรมชาติอันนี้ด้วยที่ทำให้เธอชอกช้ำแล้วชอกช้ำอีก

แต่มนุษย์ทั้งบุรุษและสตรี เป็นสัตว์โลกที่ไม่ค่อยจะรู้จักเข็ดหลาบ

จึงต้องชอกช้ำด้วยกันอยู่เนืองๆ "


ใครสนใจอยากทราบเรื่องราวโดยละเอียดอ่านได้ที่นี่ครับ http://www.dhammajak.net/book/anon/anon07.php


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะ ที่จะทำให้ความรักของผู้หญิงค่อยๆเสื่อมคลายไปได้บ้าง คุณพงพันมีวิธีแนะนำบ้างมั้ยเอ่ย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 18:41
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บางทีความรักมันก็ยากที่จะกล่าวให้ตรงกับความรู้สึกที่มี รักมากมายแต่กล่าวได้สั้นๆ หญิงส่วนมาก รักแล้วรักนาน รักแล้วรักเลย อดทนให้ความหวังเลื่อนลอย ถ้ารักนั้นหมดหวังสิ้นหวัง แต่ก็ยังหวังว่าจะมีหวัง ดั่งคำที่กล่าวไว้ว่า ความรักยากจะเข้าใจ เหมือนดั่งใจยากจะหยั่งถึง แม้กระทั่งผู้ตอบกระทู้เองก็รักแล้วรักนาน รักแล้วยากจะตัดใจ แม้คนที่รักนั้นจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว มันเป็นเรื่องที่เศร้าใจเสียจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 04:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความจำเป็นเลิศ
บันทึกได้ทั้งทางสมอง...และหัวใจ....จึงยากที่จะลืมเลือน


ถ้านึกถึงความรักที่ไร...ก็ทำให้เราสดชื่นได้เสมอ
แต่ที่เราทุกข์โศรกกันเพราะไปนึกถึงความรักในด้านลบกัน

ความรักแม้จะยังคงมีอยู่...หรือเหลือแต่ความหลัง
ก็น่าจดจำทั้งนั้น.....จะอยากลืมไปทำไมกัน :b45:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปริตา เขียน:
แล้วมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะ ที่จะทำให้ความรักของผู้หญิงค่อยๆเสื่อมคลายไปได้บ้าง คุณพงพันมีวิธีแนะนำบ้างมั้ยเอ่ย...


ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติอยู่แล้วล่ะครับ
เราไม่พยายามทำให้มันเสื่อมเดี๋ยวมันก็เสื่อมของมันไปเอง เราไปบังคับควบคุมอะไรไม่ได้หรอก
แต่การรอให้มันเสื่อมไปเองโดยใช้การเวลาเป้นเครื่องช่วย
กับการใช้ปัญญาในการพิจารณาดูความเสื่อมของมัน
ผลที่ได้รับนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ

ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปจนความรักเสื่อมคลายไปเอง หรือดิ้นรนหาสิ่งอื่นมาทดแทน ก็จะไม่มีทางที่จะเกิดปัญญาได้เลย และอาจจะได้ความทุกข์อันใหม่อันเนื่องมาจากกรรมเก่าไม่จบสิ้น

แต่ถ้าเราสร้างเหตุเข้าไปรู้เข้าไปพิจารณาความรักนั้นในความไม่เที่ยงแท้ ไม่ว่ามันจะเกิดอารมณ์ใดๆ ไม่ว่ามันจะเสื่อมหรือไม่เสื่อม ปัญญาจะเกิดขึ้นทันที และปัญญานี้จะเป็นกุศลช่วยเราในระยะยาว และเมื่อมีปัญญาแล้วกรรมเก่าจะเล่นงานเราได้ยากขึ้น

ผมเคยลองทุกวิถีทางแล้วครับ อยากจะให้ความรักมันเสื่อมนี่แหละ ทุกข์ทรมาณมาหลายรูปแบบ
สุดท้ายวิธีที่สุดยอดที่สุดคือ หลักวิปัสสนาของพระพุทธองค์นี่แหละครับ สุดยอดที่สุดแล้ว

ปล่อยชีวิตดำเนินไปตามปกติ อยู่บนพื้นฐานในความไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น
แต่รู้อาการ สภาวะของกายใจที่เกิดขึ้นนั้น พิจารณาในความเป้นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน
ใจมันก็จะละจะวางได้มากขึ้น ใจก็จะสบายขึ้น

เมื่อเข้าใจสัจธรรมความจริงจากการวิปัสสนาแล้ว จะอยู่กับทุกสภาวะได้อย่างสบาย

แต่ใช้วิธีวิปัสสนาแล้ว ความรักไม่ได้เสื่อมคลายหรอกนะครับ
แต่จะอยู่กับความรักนั้นไม่ว่าจะรูปแบบใด ได้อย่าง ไม่แบก ไม่ถือ สบายใจ
มันจะเสื่อมคลาย หรือไม่เสื่อมคลายก็ไม่ได้ใส่ใจแล้ว

ไม่ทราบแนะนำตรงกับสิ่งที่ต้องการหรือเปล่านะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 15:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


owi เขียน:
บางทีความรักมันก็ยากที่จะกล่าวให้ตรงกับความรู้สึกที่มี รักมากมายแต่กล่าวได้สั้นๆ หญิงส่วนมาก รักแล้วรักนาน รักแล้วรักเลย อดทนให้ความหวังเลื่อนลอย ถ้ารักนั้นหมดหวังสิ้นหวัง แต่ก็ยังหวังว่าจะมีหวัง ดั่งคำที่กล่าวไว้ว่า ความรักยากจะเข้าใจ เหมือนดั่งใจยากจะหยั่งถึง แม้กระทั่งผู้ตอบกระทู้เองก็รักแล้วรักนาน รักแล้วยากจะตัดใจ แม้คนที่รักนั้นจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว มันเป็นเรื่องที่เศร้าใจเสียจริง


อย่าเศร้าใจเพียงเพราะไม่ได้อยู่กับคนที่เรารักเลยครับ เพราะถึงแม้จะได้อยู่กันไปจนแก่ก็ต้องพรากจากกันเพราะความตายอยู่ดี กฎอนิจจังไม่ได้ละเว้นใครอยู่แล้ว
ขอให้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติรู้ความเป็นจริงให้มากขึ้น อย่ายึดติดกับสิ่งสมมติให้มาก ค่อยๆละค่อยๆวาง ในสิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ได้เป็นของเรา แม้แต่ร่างกายเรานี้ สักวันเราก็ต้องพลัดพรากจากมันไป แล้วมีอะไรให้น่ายึดถืออีก ต้องเห็นความจริงแบบนี้แล้วใช้ชีวิตโดยมีกุศลเป็นที่ตั้ง จะมีความสบายใจมากขึ้น คิดถึงผู้เป็นที่รักก็แผ่กุศลให้เขาบ่อยๆ ความรู้สึกดีๆจะได้มาแทนความเศร้าที่มีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความจำเป็นเลิศ
บันทึกได้ทั้งทางสมอง...และหัวใจ....จึงยากที่จะลืมเลือน


ถ้านึกถึงความรักที่ไร...ก็ทำให้เราสดชื่นได้เสมอ
แต่ที่เราทุกข์โศรกกันเพราะไปนึกถึงความรักในด้านลบกัน

ความรักแม้จะยังคงมีอยู่...หรือเหลือแต่ความหลัง
ก็น่าจดจำทั้งนั้น.....จะอยากลืมไปทำไมกัน :b45:


เห็นด้วยครับ

และที่เศร้าโศกกันนั้นก็เพราะยึดสมมติทั้งสิ้น
สมมติที่เป็นทุกข์ ไม่เที่ยงและจะต้องดับไปเป้นธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่ก็ไปยึดมั่นถือมั่น
และจะเลิกยึดมั่นถือมั่นได้อย่างไร ถ้าไม่พิจารณาเพื่อถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นในสมมตินั้น
สมมติที่ยึดมั่นถือมั่นกันอยู่นั้นก็คือสมมติในกายใจทั้งสิ้น
จะพิจารณาละความยึดมั่นถือมั่นก็ต้องพิจารณากายใจนี้เอง

นี้เป็นเหตุและผลที่พระพุทธองค์วางหลักไว้ให้
เพื่อการปฏิบัติสู่การละความยึดมั่นถือมั่นในกายใจให้ได้อย่างสิ้นเชิง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 13:22
โพสต์: 176

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ฟังธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่กับปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่คะ เจ็บแล้วเจ็บอีก ช้ำแล้วช้ำอีก แม้จะสักกี่คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ตาม ให้อภัยกับทุกๆคน แม้ในขณะที่เจ็บช้ำ มันจะเป็นทุกข์มากแค่ไหน แต่ก็ให้อภัยเสมอ
จนใจนี้มันแหลกเหลวละเอียดบอบช้ำไม่มีชิ้นดี เลือกวิธีที่ดีที่สุดคือ การอยู่คนเดียว ขณะที่ในใจลึกๆแล้วก็ยังต้องการใครสักคนมาดูแล แต่ถ้าเจอคนไม่ดี เจ้าชู้อีก แล้วจะมีสิ่งใดมารับประกันได้ว่าจะไม่ต้องเจ็บและเสียใจอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ว่าจะต้องโดดเดี่ยวในตอนบั้นปลาย แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมาเจ็บและเสียใจให้กับความรัก

สู้นำพาชีวิตเข้าสู่ธรรมะโดยแท้จริงดีกว่ามั้ย ให้ธรรมะอยู่คู่กับเราทุกขณะจิต ถึงแม้มันจะไม่สุขจนล้นหลาม หวือหวา เหมือนตอนมีความรัก แต่การได้สวดมนต์ เจริญภาวนา แค่นี้ก็สุขเพียงพอ สู่หนทางแห่งการหลุดพ้นในวัฏฏะ ดีกว่าที่จะต้องไขว่คว้าหาความรักจากคนอื่น จะได้ไม่ต้องมาเจ็บกับความรักอีก :b20:

.....................................................
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นไปได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


krathin เขียน:
ใช่คะ เจ็บแล้วเจ็บอีก ช้ำแล้วช้ำอีก แม้จะสักกี่คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ตาม ให้อภัยกับทุกๆคน แม้ในขณะที่เจ็บช้ำ มันจะเป็นทุกข์มากแค่ไหน แต่ก็ให้อภัยเสมอ
จนใจนี้มันแหลกเหลวละเอียดบอบช้ำไม่มีชิ้นดี เลือกวิธีที่ดีที่สุดคือ การอยู่คนเดียว ขณะที่ในใจลึกๆแล้วก็ยังต้องการใครสักคนมาดูแล แต่ถ้าเจอคนไม่ดี เจ้าชู้อีก แล้วจะมีสิ่งใดมารับประกันได้ว่าจะไม่ต้องเจ็บและเสียใจอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ว่าจะต้องโดดเดี่ยวในตอนบั้นปลาย แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมาเจ็บและเสียใจให้กับความรัก

สู้นำพาชีวิตเข้าสู่ธรรมะโดยแท้จริงดีกว่ามั้ย ให้ธรรมะอยู่คู่กับเราทุกขณะจิต ถึงแม้มันจะไม่สุขจนล้นหลาม หวือหวา เหมือนตอนมีความรัก แต่การได้สวดมนต์ เจริญภาวนา แค่นี้ก็สุขเพียงพอ สู่หนทางแห่งการหลุดพ้นในวัฏฏะ ดีกว่าที่จะต้องไขว่คว้าหาความรักจากคนอื่น จะได้ไม่ต้องมาเจ็บกับความรักอีก :b20:


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b46: :b46: :b46: อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านค่ะ :b46: :b46: :b46:

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 16:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ คุณพงพันมากๆค่ะ
ที่อธิบายมานั้นเป็นคำตอบที่ตรงกับความรู้สึกของปอนด์มากที่สุด
ตอนนี้ก็ถือว่าความรักของตัวเองเสื่อมคลายลงมาได้มากแล้วก็จริง
แต่มันก็ยังมีบางเวลาที่ยังวนเวียนกลับมาให้เป็นทุกข์
สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือ มองดูมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป
ปล่อยวางและไม่คิดอะไรที่เป็นการต่อยอดความคิดของตัวเอง
ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง บางครั้งก็เหนื่อยเหลือเกินนะคะ
คอยบอกตัวเองเสมอว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป หายไป ช่างมัน ช่างมัน
ไม่ทราบว่าสิ่งที่ปอนด์ทำอยู่นี้เป็นวิธีเดียวกันกับที่คุณพงพันแนะนำหรือป่าว
ยังไงก็คงต้องขอรบกวนให้คุณพงพันช่วยแนะนำบ้างนะคะ
หนทางสู่ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร ปอนด์ก็อยากเดินไปทางนั้นให้ถึงเหมือนกัน
แต่บางครั้งก็รู้สึกมันช่างห่างไกลจากโลกที่ตัวเองอยู่เหลือเกิน แต่ก็จะพยายามค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ...คุณพงพัน smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


krathin เขียน:
สู้นำพาชีวิตเข้าสู่ธรรมะโดยแท้จริงดีกว่ามั้ย ให้ธรรมะอยู่คู่กับเราทุกขณะจิต ถึงแม้มันจะไม่สุขจนล้นหลาม หวือหวา เหมือนตอนมีความรัก แต่การได้สวดมนต์ เจริญภาวนา แค่นี้ก็สุขเพียงพอ สู่หนทางแห่งการหลุดพ้นในวัฏฏะ ดีกว่าที่จะต้องไขว่คว้าหาความรักจากคนอื่น จะได้ไม่ต้องมาเจ็บกับความรักอีก


รักจึงทุกข์ ไม่ว่าจะรักแบบไหนทุกข์ได้ทั้งนั้น
นอกจากรักแบบเมตตา...กรุณา....เท่านั้นที่มีแต่ความสุข

อนุโมทนาค่ะคุณกฐิน เจริญในธรรมนะค่ะ:b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 05:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www






ปริตา เขียน:
แล้วมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะ
ที่จะทำให้ความรักของผู้หญิงค่อยๆเสื่อมคลายไปได้บ้าง
คุณพงพันมีวิธีแนะนำบ้างมั้ยเอ่ย...


ในกรณีนี้พี่ทักทายจะเปรียบเทียบความรัก
เหมือนชุดสวยๆ ที่ถูกใจเรา แต่พอเราใส่แล้ว เกิดอาการคัน...ไม่สบายตัว
จะทิ้งก็เสียดาย..จึงเก็บชุดนี้ไว้ในตู้....วันนี้คืนดีก็เอาออกมาชื่นชม..
พอหายคิดถึงก็เก็บเข้าไว้ในตู้เหมื่อนเดิม....ชุดสวยก็ยังอยู่....เนื้อตัวก็ไม่ระคาย

เหมือนความรักนั่นแหละค่ะ...ไม่จำเป็นต้องลืม....
เก็บไว้ชื่นชมยามว่าง ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะค่ะน้องปอนด์

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 11:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 มี.ค. 2010, 10:17
โพสต์: 31

ชื่อเล่น: หนึ่ง
อายุ: 35

 ข้อมูลส่วนตัว www


รัก คู่ กับ ทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2010, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ในกรณีนี้พี่ทักทายจะเปรียบเทียบความรัก
เหมือนชุดสวยๆ ที่ถูกใจเรา แต่พอเราใส่แล้ว เกิดอาการคัน...ไม่สบายตัว
จะทิ้งก็เสียดาย..จึงเก็บชุดนี้ไว้ในตู้....วันนี้คืนดีก็เอาออกมาชื่นชม..
พอหายคิดถึงก็เก็บเข้าไว้ในตู้เหมื่อนเดิม....ชุดสวยก็ยังอยู่....เนื้อตัวก็ไม่ระคาย

เหมือนความรักนั่นแหละค่ะ...ไม่จำเป็นต้องลืม....
เก็บไว้ชื่นชมยามว่าง ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะค่ะน้องปอนด์


กำลังพยายามคิดให้ได้เหมือนพี่ทักทายอย่างหนักเลยค่ะ :b16: :b9:
บางเวลาคิดได้ ปลงได้ เข้าใจ รู้เหตุ รู้ผล ของเรื่องราวที่ผ่านมา
บางเวลาคิดอยากกลับไปที่เก่า ไม่ปลง ไม่เข้าใจ ไม่ฟังเหตุ ไม่เห็นผล กลับไปอยู่ในเรื่องราวที่ผ่านมา
พี่ทักทายเปรียบความรักเหมือนชุดสวยๆที่เราถูกใจ บางวันปอนด์เองก็อยากเอาไม้เรียวตีตัวเองหนักๆค่ะ
รู้ทั้งรู้ว่าชุดนั้นใส่แล้วไม่สบายตัว เกิดอาการคัน ยังพยายามยัดเยียดตัวเองใส่เข้าไปอยู่อย่างนั้น
ผลก็ปรากฎว่ามันไม่ดีสักอย่าง อยากจะทิ้งก็ยังตัดใจทิ้งไม่ได้ ตอนนี้ว่าจะปล่อยให้ตากแดดตากลมตากฝนไว้อย่างนั้น รอให้มันผุพังไปเอง เห็นของไม่สวยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังถูกใจอีกหรือป่าว???


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 16 พ.ค. 2010, 10:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร