วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 09:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 263 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.พ. 2010, 23:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะกับความรัก ตอนที่ ๓


.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณธรรมบุตรขอสลัดอีกจาน
แต่ขอจัดเป็นส้มตำนะคะ
สลัดผักของไทยเรา
ไม่เลี่ยน ตัวเองก็ช๊อบชอบ
อาจทำให้หลาย ๆ น้ำหลายไหลแน่ ๆ เลย


ไม่ผิดหวัง..

กับสลัดจากคุณปราณี ..

ของชอบเลย..ครับปลอดไขมัน..

วิตามีน+โปรตีน เพียบ

ขอบคุณมากนะครับ

เอาเพลง Reality มาฝากครับ


.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 02:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนา สาธุ
เจริญในธรรมนะค่ะคุณพงพัน :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 03:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาค่ะคุณธรรมบุตร
เวลาท่องอวกาศที่ไร...มีความรู้สึกว่า
มันล่องลอย....แบบไม่มีขีดจำกัด
มีอะไรอีกมากมายที่เราไปไม่ถึง
แม้กระทั้งความคิด..... :b10:

ในระบบสุริยจักรวาลของเรานี้
จะมีดาวสักดวงไหมค่ะ?ที่อาจจะ
มีสิ่งมีชีวิตอยู่?.....อยากรู้จัง :b6:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 11:38
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




t28.jpg
t28.jpg [ 68.18 KiB | เปิดดู 3522 ครั้ง ]
คุณธรรมบุตรกำลังเหนื่อยอยู่หรือเปล่าคะ
พักผ่อนก่อนดีมั๊ยคะ
ลมพัดเย็น ๆ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นอนตื่นสายเลยวันนี้..

ที่นอนคุณปราณี..หลับสบายจริงๆ ขอบคุณมากนะครับ


.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพลงธรรมะ-มงคลชีวิต38ประการ เพื่อใช้เป็นหลักในการดำเนินชีว ิตอย่างมีความสุขทั้งโลกนี้ และในวัฏฏสงสารอันยาวไกล ตราบจนเข้าถึงพระนิพพาน


.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 11:38
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาบุญมาฝากทุก ๆ ท่านนะคะ
เมื่อเช้าพาลูก ๆ และสามีไปทำบุญที่วัด
ไม่ได้พาลูกไปทำบุญที่วัดมานานแล้ว
ตั้งใจว่าต่อไปถ้าวันพระตรงกับเสาร์ - อาทิตย์
จะพาลูกไปบ่อย ๆ
ที่ผ่านมาไปคนเดียวค่ะ เพราะวัดอยู่ใกล้ที่ทำงาน
แวะไปใส่บาตรแล้วเลยไปทำงาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 01:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนา สาธุค่ะคุณนี
ขอบุญกุศลเหล่านี้...จงดลบันดาลให้คุณนีและ
ครอบครัวมีแต่ความสุข..ความเจริญนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 01:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอาบุญมาฝากทุก ๆ ท่านนะคะ


ขอให้ผลบุญนี้จงดลบันดาลให้คุณปราณี..และครอบครัว

จงประสพแต่โชคดี..ได้รับอโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรดัวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมตามที่ปราถนา(เทอญ)

สาธุ.. :b8: :b8: :b8:


แนบไฟล์:
pranee1.jpg
pranee1.jpg [ 32.7 KiB | เปิดดู 3453 ครั้ง ]

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 02:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จงทำตัวให้เหมือน...แบงค์1,000
นักพูด..ที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่ง..
ได้เริ่มหยุดการสัมมนาของเขา..
โดยการหยิบแบงค์ 1,000 ขึ้นมา
ในห้องที่มีผู้เข้าฟัง..ร่วม 200 ท่าน

แล้วเขาก็พูดว่า..
"ใครอยากได้แบงค์ 1,000 นี้บ้าง?"
มีมือ...ยกขึ้นเป็นจำนวนมาก
เขาจึงพูดต่อว่า.."ฉันจะให้เงินแบงค์1,000 นี้..
แก่หนึ่งในพวกท่าน..แต่ครั้งแรกนี้..ฉันจะทำอย่างนี้"
เขาเริ่มที่จะขยำๆ เงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า ..
"ใครจะยังต้องการมันอีก?"ยังคงมีมือยกขึ้นอีก
"ดี" ..เขาตอบ"แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ"และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้น..
เริ่มที่เหยียบย่ำมัน..ด้วยรองเท้าของเขาแล้วเขาก็เก็บขึ้นมา
ขณะนี้..มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก"ตอนนี้.. ใครยังต้องการมันอีก?"
ก็ยังคงมีคนยกมืออีก.."เพื่อนๆ ..คุณได้เรียนรู้บทเรียน
ที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า..ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน ..
คุณก็ยังต้องการมันอยู่เพราะว่า..
มันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย
มันก็ยังคงมีค่า1,000 บาทอยู่นั่นเอง
เหมือนกับหลายๆครั้ง..ในชีวิตของเรา
ที่ถูกทิ้ง.. ถูกเหยียบย่ำ ..และถูกทำให้สกปรก..
โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมันและสภาพแวดล้อมที่เราเจอ
ทำให้เรารู้สึกว่า..คุณค่าของเรา--ลดน้อยลง
แต่ไม่ว่าอะไร..ที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไร..ที่จะเกิดขึ้น
คุณไม่เคยสูญเสีย--คุณค่าในตัวเอง
คุณเป็นคนพิเศษ..อย่าลืมมันตลอดไป...
อย่านำความผิดหวัง..ของเมื่อวาน
มาบดบังความฝัน..ในวันพรุ่งนี้

คุณ ล่ะ ทำตัวเหมือนแบงค์ 1,000 หรือยัง? ถ้ายัง...ก็เริ่มทำเสียแต่วันนี้
เพราะการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ไม่เคยสาย...จริงมะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณ
:b42: :b31: :b54:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 02:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มองในมุมต่างๆ
ความทุกข์........มีไว้เป็นแบบทดสอบความแข็งแกร่งของชีวิต



ความเศร้า........หนทางแสดงออกของความทุกข์



ความเหงา........เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับการเรียนรู้ตัวเอง



ความสุข..........มีให้เก็บเกี่ยวได้เสมอตลอดเวลา ....แม้กระทั่งในเวลาแห่งทุกข์



ความจริง........เป็นสิ่งที่คนใช้กันน้อย....และมักมองผ่าน



ความลวง.........สิ่งที่น่าเกลียดที่สุด.........แต่คนชอบใช้



ความรัก...... .....คือสิ่งที่ดีและสวยงามที่สุดในโลก มองไม่เห็น
จับต้องไม่ได้ แต่รู้สึกได้จากหัวใจ..

:b42: :b31: :b54:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียเวลาอ่านซักนิด...รัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วัน
ฉัน เกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินใน ไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี

วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่ หนึ่งก้าน
'ใครขโมยเงินไป ' พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า

'ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ' พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้.....แล้วพูดว่า

'ผมขโมยเองครับ' ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่าน้องชายของฉัน

' ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย 'ไอ้หัวขโมย' คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้

หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า

' พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว' ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ

หลายปีผ่านไปแต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจ ลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย ตอนนั้นน้องของฉันอายุ8ปี ส่วนฉันอายุ11ปี... เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียนม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน

คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า

' ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ'

แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า 'แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมี เงิน' ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า

' ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว'

พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ 'ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ ได้'

คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงินฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า

' ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้'

แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้ ใครจะรู้ได้ .......

วันต่อมาในตอนเช้ามืด น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัว เพียงไม่กี่ชิ้น และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว ก่อนไปเขาได้ทิ้ง ข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ

' พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ.... ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่'

ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า.......
ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป
ตอนนั้นน้องของฉันอายุ17ปี ส่วนฉันอายุ 20ปี.....
ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็น ค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ....... ฉันจึงสามารถเข้าเรียน มหาวิทยาลัยได้จนถึงปี3

วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพักเพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า

'มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ'

ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ??? ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืน อยู่ ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง...
ฉันถามเขาว่า 'ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ' น้องชายของฉัน ตอบยิ้มๆ ว่า 'ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี'

ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ

' พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม' จากนั้น

น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า

'ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง'

ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน ตอนนั้นน้องของฉันอายุ20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี.

วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ฉันสังเกตเห็นว่า
หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก
หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า

'แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก

เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ'

แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า ' แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมา ทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอน้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่ น่ะ'

ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด 'เจ็บมากไหม' ฉันถาม

'ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด
แต่ มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ และ...' น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขา น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง 'เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ' ตอนนั้นน้องของฉันอายุ23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี...

หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้ พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง ด้วยกัน...

แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง
แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตใน หมู่บ้านตามเดิม น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป... เขาบอก กับฉันว่า
'พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ ทางนี้เอง '

สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการ บริษัท แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้

เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล

ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา

... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า

' ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!! ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้ ดูตัวเองซิ ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง'

คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา

'พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด'

น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย..... ฉันบอกกับน้องว่า

'แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่...'

'ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ' น้องชายของฉันจับมือฉันไว้
ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...


เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน
ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า ' ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้'

น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล 'พี่สาวของผมครับ' .... .

และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ 'ตอน ผม อยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง2ชม. เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง

พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียว เดินเป็นระยะทางไกล เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าว ได้ด้วยซ้ำ.......นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเอง ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี และจะทำดีกับเธอ'

เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก........

'ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ'

ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...

“จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา

คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ

แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง

.. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ

พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน

หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม “





จบบริบูรณ์....

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 02:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรักของ..แม่..

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

สิ่งที่เขาต้องการก็คือ.....ตุ๊กตา


:b42: :b31: :b54:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 03:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ใช่ว่าจะมีแต่ความรักแบบเสน่หาเท่านั้น
ที่มีโทษ...ถึงจะเป็นรักที่คิดว่าบริสุทธิ
ที่สุดคือรักที่แม่มีต่อลูก...ถ้าให้ไม่ถูกที่ถูกทางก็มีโทษมหันต์
เหมือนกัน....สอนให้ลูก "รับ" เป็นอย่างเดียว...ไม่สอนให้เขา
รู้จัก "ให้" ด้วย....คนที่จะทุกข์มากที่สุดก็คือ "แม่"
ผลสุดท้ายก็จะมีแต่เราเท่านั้นที่รักลูกของเรา...เขาจะกลาย
เป็นคนที่ไม่มีใครในสังคม... :b7:

ขึ้นขื่อว่ารักแล้ว...ไม่ว่าจะเป็นรักประเภทใด
ถ้าแยกแยะไม่ออก..มักให้โทษ
มากกว่าคุณ..... :b48:

อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 263 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร