วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 06:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 216 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 12:34
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: เห็นด้วยกับคุณทักทายค่ะ สิ่งที่จะตอบก็เหมือนกับคุณทักทายเลยค่ะอย่าคิดมากค่ะยิ่งถ้าเราคิดมากนะค่ะคำตอบและคำถามก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบค่ะ.... :b48: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่เป็นกำลังใจ ....จริง ๆ ก็ไม่ได้ทุกข์มากมายอะไร เพียงแต่รู้สึกสับสน วุ่นวาย
น้อยใจ(นิดหน่อย)....จริง ๆ ก็ยอมรับว่าสามีเป็นคนที่น่ารัก มีความรับผิดชอบกับทางบ้าน แต่ถ้ามันเป็น
แบบนี้ตั้งแต่แรกดิฉันคงไม่เรียกร้องเอาอะไรจากเค้าเลย....ก่อนแต่งงานกันก็รู้ว่า เค้ารักครอบครัว ก็ส่ง
เงินให้พ่อ แม่ ใช้ทุกเดือน ดิฉันก็เห็นสมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเราก็รักครอบครัวของเราเหมือนกัน ถ้า
ได้เค้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวชีวิตคงมีความสุข....แต่ก่อนที่เค้าจะแต่งงานกับดิฉันเค้าไม่เคยไปหาพ่อ
แม่ พี่น้อง ของเค้าเลยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จนมาอยู่กับดิฉันสามีจึงกลับบ้านทุกครั้งตอนสิ้นเดือนและมี
ดิฉันติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกครั้งค่ะ.....เหตุการณ์ก็ผ่านมาปกติ จะเริ่มเพี้ยน ๆ ก็ช่วงต้นปีที่แล้ว สามี
จะกลับบ้านบ่อยขึ้น เป็นเดือนละ 2 ครั้งบ้าง 3 ครั้งบ้างแต่ก็ไม่ได้ค้างคืน......พอต้นปีนี้ ก็จะกลับทุก
อาทิตย์กลับแบบไปเช้า-เย็น กลับ ....ซึ่งดิฉันก็เริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มมีอะไรแปลก ๆ เข้ามาในครอบครัวของ
คู่เราแล้ว.....บวกกับมามีปัญหากับพี่สาวของสามีเรื่อง เงิน ทอง มันเริ่มเหมือนมีเส้นอะไรบาง ๆ มากั้น
กลางคู่ของเรา....ยิ่งช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาสามีกลับแบบ เย็นศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มา 3 อาทิตย์ติดต่อกัน
ความรู้สึกแบบนี้คิดว่าเพื่อน ๆ คงจะเข้าใจใช่ไหมค่ะ ...คือก็คิดว่า แล้วดิฉันกับลูกสาว ไม่ใช่ครอบครัว
ของเขาหรือ ....ทุกวันนี้เค้ามาหาดิฉันที่บ้านแม่ เค้าจะมาถึงช่วง 19.00 น และจะกลับช่วงประมาณ
21.30-22.00 น. ถามว่าดิฉันกับสามีได้พูดคุยกันบ้างหรือเปล่า ก็มีพูดบ้างเรื่องลูก เรื่องทั่วไป ไม่มี
อะไรมากไปกว่านั้น....สรุปคือ วันจันทร์-พฤหัส ดิฉันจะเจอสามีวันละประมาณ 3 ช.ม และคืนวันอาทิตย์
ช่วง 4 ทุ่ม สามีจะเอามะพร้าวอ่อนมาให้ลูกสาว นั่งสักพักก็กลับ....ทุกคนคงคิดว่าดิฉันน่าจะชินกับการ
กระทำของสามีใช่ไหมค่ะ....อยากบอกว่ายังไม่ชินเลย แม้จะพยายามให้ชิน ก็ยังทำไม่ได้เลยค่ะ
ช่วงวันเสาร์ หรือไม่ก็วันอาทิตย์ ตอนกลางวัน ดิฉันจะพาลูกสาวไปเดินเล่นที่ห้างฯ มันเหงา มันหดหู่
เหมือนกันนะค่ะ.....เพื่อน ๆ เชื่อไหมค่ะ บางครั้งสามีจะมาพูดกับดิฉันว่า "วันนี้พาญาติของเค้าไปเที่ยว
ตลาดน้ำ คนเยอะ ร้านขายของก็เยอะ ร้านโน้นขายก๋วยเตี๋ยวอร่อย ร้านนี้ขนมอร่อย อะไรประมาณนี้ค่ะ
หรือไม่ก็วันนี้ฉันพาญาติไปกินร้านอาหารที่ออกรายการ "ตลาดสดสนามเป้า" มาแล้วนะไม่อร่อยเท่าไหร่
ซึ่งดิฉันก็ฟังไม่ได้ว่าอะไร แต่ในใจจะมีใครรู้สึกบ้างว่าความน้อยใจมันวิ่งนำหน้าสติไปหลายช่วงตัวแล้ว
และก็เก็บเอามาคิด แต่พอไม่กี่ชั่วโมงมันก็หายไป....แต่พอเวลาต้องมาพาลูกไปเที่ยวคนเดียว ความรู้สึก
แบบนี้ก็กลับมาอีก ....คุณทักทายค่ะ ไม่ใช่ดิฉันอยากจะได้เวลามาเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่
เลยค่ะ ดิฉันเป็นคนที่มีความยุติธรรมสูงมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ....เพียงแต่อยากจะขอเวลาบางอาทิตย์
วันหยุดสักวันของสามีซึ่งมีให้เต็มวันบ้างก็เท่านั้นเอง.....อย่างเมื่อวันอังคารที่สามีบอกว่าญาติของเค้า
จะต่อเติมบ้านต่อ ....ดิฉันก็รู้แล้วว่า ดิฉันต้องทำหน้าที่เป็นสองเท่า เป็นทั้งพ่อ และ แม่ ให้กับลูกต่อไป
คงจะไม่มีใครเชื่อว่า เมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ดิฉันบอกกับสามีว่า อยากไปไหว้ศาลหลักเมือง กับไปไหว้
พระที่สุพรรณ เพราะ จ.สุพรรณบุรี อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้ ดิฉันได้แค่ผ่านยังไม่เคยได้ลงเที่ยวจริง ๆ สัก
ครั้งเลยค่ะ.... และสามีก็พาดิฉันไปไหว้ศาลหลักเมืองมาเมื่อ 2 เดือนก่อน... ส่วนสุพรรณฯสามีบอกว่า
จะเป็นวันอาทิตย์นี้แน่นอน....แต่พอดิฉันได้ยินสามีพูดเรื่องต่อเติมบ้านอีก ดิฉันก็ได้ฉุกคิดว่า "ความ
แน่นอนคือความไม่แน่นอน" จ.สุพรรณบุรี ขึ้นชื่อว่าแห้วอร่อย แต่แถว ๆ บ้านของดิฉันก็อร่อยเหมือนกัน
เคยพูดกับสามีนะค่ะเรื่องของเวลา ...และสามีมักจะพูดประโยคเดิม ๆ ว่า "อดทนหน่อยนะเธอ เดี๋ยวบ้าน
เสร็จก็ไม่มีอะไรแล้ว".....อดทนมาจะ 2 ปี แล้วยังไม่เห็นมีทีท่าว่าจะเป็นอย่างที่สามีพูดเลย ....
.....เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งเบื่อนะค่ะ...ดิฉันขอเวลาไม่นานก็จะกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม จะกลับมาเติมใจให้
กับทุกคน ....บังเอิญช่วงนี้บรรยากาศรอบตัวมันหงอย ๆ บวกกับมืดเร็วด้วย ความเหงา มันเลยมาเยือน
ดิฉันเร็วไปหน่อย ....ต้องปรับตัวสักพัก เดี๋ยวก็รู้สึกดีขึ้นเองค่ะ....รักเพื่อน ๆ ทุกคนนะจ๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 02:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณทักทายค่ะ ผิดหวังกับดิฉันหรือเปล่า ที่บอกว่าต่อไปนี้จะไม่เป๋ ไม่คิดมากแล้ว เพราะมีคนที่เค้าทุกข์
กว่าเราอีกมากมาย....ขอโทษนะค่ะที่ทำให้ผิดหวัง ...ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ก็พยายามหาเหตุและผลของ
จิตใจช่วงนี้อยู่เหมือนกัน....วันนี้ก็คิดตลอดนะค่ะ และสรุปออกมาว่า คงจะเป็นช่วงใกล้รอบเดือนจะมา
คงจะหงุดหงิด พอมีอะไรมากระทบจิตใจ เลยทำให้ใจว้าวุ่น ....

ใจที่อยากไปไหว้พระ ที่ จ.สุพรรณบุรี เพราะปีนี้ดวงของตัวเองถูกพระเสาร์เข้า ต้องถวายกระเบื้องจำนวน
10 ชิ้น ในวันเสาร์ ซึ่งจริง ๆ ถวายที่วัดไหนก็ได้ แต่ที่อยากไปวัดป่าเลไลย์ เพราะ อ.ที่ดิฉันนับถือบอกว่า
วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องการทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้านนี้โดยตรง บวกกับอยากไปวัดพระนอนด้วย จึงได้ขอแฟน
ตั้งแต่ต้นปีแล้ว ให้พาดิฉันและลูกไปหน่อย แฟนก็ผัดนัดเรื่อยมา จนนี่จะสิ้นปีแล้วยังไม่ได้ไปซ่ะที่

จริง ๆ จุดสำคัญของเรื่องคือว่า แฟนบอกว่าจะพาดิฉันและลูกสาวไปเที่ยวเหนือในวันที่ 7-12 ธันวาคม
เขาเขียนใบพักร้อนยื่นเรียบร้อยแล้ว ไปแบบขับไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ไม่เจาะจงเวลา ดิฉันก็ดีใจสุด ๆ
ดีใจมาก ๆ ตลอด 5 ปีมานี่ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย ไกลสุดก็ศาลหลักเมืองเองค่ะ ตามปกติก็คือ บ้าน กับ
ห้างฯ เท่านั้น ....แต่มาติดตรงคำ อ. ที่นับถือเคยบอกไว้ว่า พระเสาร์เป็นดาวบาป เป็นดาวแห่งการสูญ
เสีย ต้องรีบบูชา จากร้ายจะกลายเป็นดี ....กำหนดวันเที่ยวจะใกล้เข้ามา แต่ยังไม่ได้ไปไหว้พระเลย
แถมยังมีวี่แววว่าแฟนจะไม่พาไปไหว้อีก ใจหนึ่งก็คิดว่าไม่ไปไหว้คงไม่มีอะไรมั้ง แต่อีกใจก็คิดว่าต้อง
ไปไหว้นะ เดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นมา เราจะรับความสูญเสียไม่ได้ ...อยากไปเที่ยวแบบสบายใจนะค่ะ

แล้วคำพูดของสามีเมื่อวันอังคาร มันก็ทำให้ดิฉันเหมือนกับจะรับรู้ได้ว่า เรื่องไปเที่ยวทางภาคเหนือ มัน
จะเป็นหมันใช่ไหม....ประดัง ประเด เข้ามา ไหนจะเสื้อกันหนาวที่ซื้อเตรียมไว้ให้สามี ให้ตัวเอง และให้
ลูกสาวด้วยแล้ว ยิ่งเศร้าไปกันใหญ่ ของทุกอย่างก็เตรียมเกือบเรียบร้อย ซักหมดทุกชิ้น ใส่กระเป๋าเตรียม
พร้อม รอตรวจเช็กอีกครั้งตอนวันใกล้จะเดินทาง .....เพราะดิฉันคาดหวังมากไปใช่ไหมค่ะ ...ขอเวลา
ให้ดิฉันหน่อยนะค่ะ ขอร้องไห้กับตัวเองให้เต็มที่กับความผิดหวังในครั้งนี้...คงไม่กี่วันหรอก จะกลับมา
เป็นแม่หมอให้กับเพื่อน ๆ เหมือนเดิม สัญญาค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 04:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คุณเพ็ญฯค่ะ ทักทายไม่ได้ผิดหวังในตัวคุณหรือใครๆ
เพราะไม่ได้หวังว่าทุกท่านจะดีขึ้นเพียง เพราะความคิดเห็น
และก็ไม่เคยรำคาญเลยทุกคำพูดที่ปลอบโยนไปนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ที่คุณเพ็ญฯ ต้องนำไปพิจารณาเองอยู่แล้ว เพราะทักทายก็มองปัญหาแบบรวมๆ
ตื้นลึกหนาบาง คุณเพ็ญฯต้องรู้ดีกว่าใครๆ :b6:

ง่ายๆก็คือเราแค่ปรับทุกข์และเล่าสู่กัน ส่วนตัวทักทาย ขอเพียงให้เพื่อนๆ
น้องๆ มีความสุขจากการนี้ เพียงชั่วครู่ ชั่วขณะ เพื่อจะได้มีเวลา
ตั้งสติ และคิดถึงปัญหา อยากให้มองปัญหาที่เข้ามา ไม่ว่าจะใหญ่โต
แค่ไหน? ก็ให้มองเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราจะต้องพบ ต้องเจอ เท่านั้นเองค่ะ :b14:

คนที่เป็นภรรยา และแม่ มีอะไรที่จะให้ทำ ให้ตัดสินใจตลอดเวลา
ย่อมเป็นธรรมดา ที่บางครั้งปัญหาไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แต่เรากลับ
เขี่ยไม่ออก เพราะวันๆ เราเจอแต่ปัญหา อารมณ์ต่างๆ เข้ามากระทบ
ถ้ามองเป็นเรื่องธรรมดา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มันก็ดีหน่อย
แต่ถ้าเก็บหมดทุกอย่างเอามารวมกันที่นี้ก็จะจับฉ่ายหม้อใหญ่เลยแหละ :b5:

ความน้อยใจ ในตัวพ่อบ้านนั้น ทุกท่านคงเคยมีกันมาแล้วทั้งนั้น เพราะคนสองคน
ที่มาอยู่รวมกัน จะให้ทำอะไรถูกใจกันไปทุกอย่าง มันก็เป็นไปได้ยาก
แต่ว่าพอมันเกิดอารมณ์แบบนี้ขึ้นมา ก็อย่าปล่อยให้มันมามีอิทธิพล
เหนือเหตุผล ค่อยๆคิด ค่อยๆแจง ที่ละข้อไป :b20:

อย่างกรณีของคุณเพ็ญฯ ลองคุยกับสามีดูซิค่ะ ขอเดินกันคนละครึ่งทาง
ขอให้เขาแบ่งเวลาให้ถูก ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงปีหน้า
หรือต้องรอให้บ้านของญาติเสร็จก่อน เวลาของเราก็ต้องเป็นของเรา
อย่าเอาไปให้ใครๆ เริ่มต้นด้วยการคุยกัน ถ้าไม่เป็นผล ก็ขอร้อง
ถ้ายังไม่รู้เรื่องอีก ก็ต้องเผด็จการ แล้วบอกเค้าไปตามตรงเลยว่า
ถ้าบริการญาติๆ แล้ว ไม่ต้องมาเล่าให้ฟัง เพราะอดที่จะน้อยใจไม่ได้
บางครั้งเราก็ต้องพูดบ้าง บางครั้งเราก็ต้องเงียบบ้าง แล้วแต่สถานะการณ์ :b21:

ที่จริงทักทายเป็นคนไม่ค่อยนุ่มนวล ออกจะเป็นคนแรง คือถ้าyes ก็ yes
แต่ถ้าno ก็คือ no จะไม่มีการอลุ่มอล่วยเลย เนื่องจากเราคุยกันทางตัวหนังสือ
ก็เลยมีเวลาคิด และกลั่นกรองคำพูด ตัวตนของทักทายก็เลยกลายเป็นคน
ใจเย็น มีเหตุผล ในความคิดของเพื่อนๆ และน้องๆ เพราะฉะนั้น บางครั้ง
ความคิดเห็นก็ไม่ทันได้กรอง ก็เลยออกจะแรงไปบ้าง กรุณาอย่าได้ถือสาเลยนะค่ะ
เจตนาจริงๆ ก็แค่อยากให้ทุกท่านรู้สึกดีขึ้น และคลายความเครียดจากปัญหา
นั้นๆบ้างสักนิดก็ยังดี ไม่สบายใจก็เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำได้บ้าง
ไม่ได้บ้าง ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย จริงไหมค่ะ? :b28:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่ PENYA คนเรามีช่วงเวลาที่อ่อนแอได้ค่ะ
อ้อเองก็เป็นบ่อยไป :b28: :b28: :b28:
คือเรามีความหวัง แล้วตอนนี้ความหวังนั้นทำท่าจะไม่สมหวัง
เราก็และเซ็ง แต่อย่าลืมนะ พี่ PENYA สามีของพี่เขายัง
ไม่ได้บอกงด trip นี้สักหน่อย อาจแค่เปรย ๆ ดูท่าทีของพี่ก่อน
ลองบอกเหตุผลที่เราอยากไป หรืออ้างลูกก็ได้
คิดว่าสามีของพี่น่าจะเข้าใจความรู้สึกเรานะ
ดู ดู ไปก่อน แต่ใช้การแย๊บ ๆ กระตุ้น ๆ ว่าอย่าลืมที่เรานัดกันไว้นะ
เราเตรียมการหลาย ๆ อย่างไว้แล้ว
จะรอฟังข่าวนะค่ะ แต่หากได้ไปอย่าลืมของฝากนะ
ไม่มีโกรธด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 12:34
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: คุณเพ็ญฯค่ะดูเหมือนปัญหามันนิดเดียวเองค่ะเพียงแต่ไม่เข้าใจกันหรือเปล่าค่ะแต่ที่นิดเดียวมันใหญ่สำหรับเราจริงๆในบางครั้งนะค่ะดิฉันเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาค่ะ...เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาดิฉันพาลูกๆไปไหว้พระที่สุพรรณเหมือนกันค่ะวัดป่าเลไลย์ค่ะ ดิฉันเป็นคนสุพรรณค่ะเกิดที่นั้นเลยแต่ไม่ยักจะเห็นคุณเพ็ญฯนะค่ะ.....ในฐานะน้องขอแนะนำว่าอย่าไปคิดคาดหวังกับการกระทำของสามีมากเลยให้คิดอยู่ตรงนั้นเวลานั้นจะดีที่สุดนะค่ะเพราะเราหวังอะไรหรือต้องเป็นไปตามที่เราคิดนั้นถ้ามันเป็นไม่ได้เราเองจะหงุดหงิดและเกิดคำถามในใจตลอดเวลาว่าทำไมเราไม่เป็นครอบครัวหรืองัย....อีกเรื่องค่ะไม่ทราบว่าคุณมีใครคอยดูแลอยู่หรือเปล่าหมายถึงแม่หรือเพื่อนบ้านที่คอยเอาใจใส่กันตลอดพึ่งพาอาศัยได้นะค่ะ.ถ้ามีนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งนะค่ะที่เขาเริ่มห่างเราหรือไปหาบ้านญาติเขาบ่อยเพราะเขาไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วงเกียวกับความเป็นอยู่เรามากนักค่ะ....ที่รู้เพราะเคยเกิดกับตัวเองค่ะ...ลองทำใจให้สบายนะค่ะไม่ต้องคิดมากค่ะ...สู้สู้.. :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ คุณแม่ลูกสาม น้องอ้อ และเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน ที่คอยห่วงใย...ตอนนี้ใกล้จะเป็นปกติแล้วค่ะ
อีกไม่กี่วันคงกลับมาเป็นแม่หมอได้เหมือนเดิม ยังติดทำนายดวงของน้องพิม คุณมนิตา อยู่เลยค่ะ

ที่จะไปสุพรรณ จะไปอาทิตย์นี้ค่ะ ...ไม่วันเสาร์ ก็ วันอาทิตย์ เมื่อวานก็คุยกับแฟนอีกครั้ง บอกว่าถ้าไม่
พาไปก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปเองก็ได้ ว่าจะเหมารถคนข้างบ้านไปเอง แฟนก็บอกว่าจะพาไปก็ได้วันเสาร์นี้
แต่ดิฉันจะไม่เทใจเต็ม 100 % หรอก ที่จะเชื่อเขา ต้องรอให้เช้าวันเสาร์เขามาหารับถึงบ้านก่อนถึงค่อย
เชื่อคำพูดของเขาค่ะ...เพราะเคยมีประสบการณ์ที่รับปากจะทำให้แล้วไม่ทำบ่อยครั้งอยู่เหมือนกัน ชีวิต
ของสามี ไม่รู้เป็นไงเขาจะต้องให้ญาติของเค้ามากำหนดเวลาตารางให้ตลอด ขนาดเมื่อปีก่อน วันเกิด
ดิฉันเอง ตอนเช้าดิฉันทำอาหารเสร็จก็กำลังจะทานข้าวกัน ญาติเค้าโทรมาให้ไปพบหมอที่ ร.พ. ศิริราช
ให้หน่อย คุณสามีรีบไปอาบน้ำ ไม่ยอมอยู่ทานข้าวเช้าด้วย ขับรถออกไปเลย เรางี้น้อยใจก็น้อยใจ ทำไม
นะอยู่กินข้าวกับเราแค่ 10 -15 นาที ก่อนไม่ได้หรือ จะไปพบหมอ ตัวสามีเองก็ยังไม่รู้ว่า คุณหมอ จะ
เข้าทำการรักษาเวลาไหนด้วยซ้ำ สรุปสามีไปก็ไม่เจอหมอคนนั้นซ่ะด้วย และวันเกิดปีนั้นของดิฉัน
สามีก็ไม่อยู่ ไม่พาไปทำสังฆทาน หรือจะพาไปทานอาหารช่วงเย็นค่ะ

คุณแม่ค่ะ ดิฉันก็คิดเหมือนคุณแม่นะค่ะ เรื่องที่สามีไม่ค่อยห่วงเรา เพราะในกรุงเทพฯการเดินทางไปไหน
มีรถรับจ้างเยอะมาก รถเมล์ก็มากมาย ...สามีไม่เคยถามดิฉันเลยว่า วันนี้จะไปซื้อของใช้อะไรหรือเปล่า
ทุกวันนี้สามียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกกินนมยี่ห้ออะไร รสไหน ผ้าอ้อมสำเร็จรูปใส่เบอร์อะไร เพราะเค้าไม่ได้
ไปซื้อหรือเดินซื้อด้วยกันเลย ...แต่สามีจะรู้ว่าแมวของญาติกินอาหารยี่ห้ออะไร รสไหน เพราะเวลาที่
อาหารแมวหมด ญาติสามีจะโทรมาหาสามีบอกให้ขับรถไปรับเธอไปซื้ออาหารแมวให้หน่อย คิดดูนะ
ขับรถไปกลับระยะทางเกือบ 160 ก.ม. ค่าน้ำมันรถเท่าไหร่ ซื้อหน้าปากซอยบ้านไม่ถูกกว่าหรือ

ยังมีเรื่องน้อยใจอีกนะค่ะ มีวันหนึ่งดิฉันไปซื้อของที่ห้างโลตัส ซื้อของเยอะค่ะ พวกของใช้ในครัวเรือน
กับของใช้ ของกินของลูก ...ตอนกำลังคิดเงิน ดิฉันก็เห็นสามียืนคิดเงินเหมือนกันยืนอยู่กับน้องสาวของ
เขาเอง สามียืนอยู่ในช่องสินค้าด่วนไม่เกิน 10 ชิ้น ...ดิฉันก็มองซื้อของทั้งหมด 4 - 5 ชิ้น ยังขับรถ
มาซื้อกันเลย...แล้วตัวเราล่ะ ของเพียบ แถมยังต้องนั่งรถเมล์กลับเอง แล้วยังต้องเดินด้วยเท้าข้ามสะ-
พาน เดินเลียบคลอง ระยะทางเกือบครึ่งกิโล ไม่เห็นมีใครมาคอยดูแลตรงจุดนี้เลย ....รถก็ใช่ว่าไม่ช่วย
ผ่อน รถคันที่สามีใช้พูดได้เต็มปากเลยว่าสามีมีส่วนร่วมไม่ถึง 20% นอกนั้นดิฉันคนเดียวเลยค่ะ ญาติ
ของสามีไม่เคยช่วยแม้สักสตางค์แดงเดียว ..พอก่อนดีกว่าเดี๋ยวเพื่อน ๆ จะเบื่อเสียก่อน เดี๋ยวทุกอย่าง
ก็จะดีขึ้นเองค่ะ ได้ไปทำบุญ ไหว้พระคงจะใจเย็นขึ้นมาบ้าง ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 เม.ย. 2009, 09:21
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเพ็ญญาบรรยายมาพี่เห็นทะลุปรุโปร่งเลย พี่ก็เคยมีความรู้สึกเดียวกับคุณ จะต่างกันก็ตรงบุคคลที่สามีไปเอาใจ ในกรณีของคุณเพ็ญญา อาจเป็นไปได้ว่าคุณสามีเขาเห็นว่าคุณเก่งช่วยตัวเองได้ เขาเลยไม่ได้สนใจ หารู้ไม่ว่าคนเราบางครั้งมันก็มีความอ่อนแอ อยากมีคนเคียงข้างคอยดูแลเอาใจใส่ มีคนคอยปกป้องบ้าง แต่ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ ผู้ชายบางคนเขาก็มองไม่เห็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 00:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


วันนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะ แม่หมอ?
ทำไมก๊วนเรามีแต่คนหัวล้านกันจัง วันนั้นแม่หมอเพิ่งท้วง
คุณมานิตาหยกๆนะ ว่าหัวล้าน ตัวเองมาเป็นเองซะหละ.. :b28:

ผู้หญิงเก่งมากๆ ก็มักจะลำบากอย่างนี้แหละค่ะ
เคยได้ยินอาจารย์แม่ พูดว่า "เวลาอยู่ใกล้ลูก
และสามี อาจารย์แม่จะเป็นคนปัญญาอ่อน คือ
ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เปิดประตูรถเองก็ไม่ได้
หยิบน้ำดื่มเองก็ไม่ได้" ลองวิธีนี้ดูซิค่ะ ค่อยๆ
ใช้นะค่ะ แทรกที่ละนิดๆ คงยังไม่สายเกินไป
คิดถึงนะค่ะ...สู้สู้ค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 02:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณทักทาย และพี่ใหญ่ด้วยนะค่ะที่แวะเข้ามาปลอบใจถึงบ้าน....ตอนนี้ความน้อยใจเหลืออีก
แค่ 20% จะหายต้องได้ไปไหว้พระก่อนค่ะ

เมื่อวันพฤหัส ที่ได้คุยกับแฟน คือแฟนมีนัดกับหมอทำฟันตอนเย็นแฟนชวนก็เลยไปเป็นเพื่อน ช่วงนั่งรอ
ก็นึกอะไรมากมาย พอตอนทานข้าวก็ถามแฟนว่าทำไมวันนี้เธอไม่ชวนทางโน้นมาเป็นเพื่อนล่ะ มาชวน
ฉันทำไม...แฟนตอบ "อ้าวก็เธอเป็นเมียฉันจะให้ฉันไปชวนพี่สาวฉันมาทำไมล่ะ"....ดิฉันก็ถามต่อว่า
แปลกนะเมื่อก่อนเธอป่วยเป็นไข้เลือดออกนอน ร.พ ก็มีแต่ฉันเฝ้าเธอ ตอนเธอป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ลงกระ
เพาะก็มีแต่ฉันดูแลเธอ นั้นแปลว่าช่วงที่เธอทุกข์เธอเลือกที่จะมีฉัน แต่ตอนที่เธอสุขเธอเลือกทางโน้นใช่
หรือเปล่า......แฟนก็ตอบว่า ไม่ใช่มันคนละเรื่องกัน.....ดิฉันเลยพูดว่า เธอรู้ไหมฉันมีเพื่อนที่ลานอยู่คน
หนึ่งชื่อ น้องอ้อ(ขอโทษนะค่ะขอยืมชื่อและชีวิตหน่อย)สามีน้องเค้ามีหญิงอื่น แต่ทุกวันนี้สามีของน้อง
ยังนอนกอดน้องเค้าทุกคืนเลย แถมตอนเช้ามีจุ๊บแก้มกันอีก เธอจำภาพเหล่านี้ได้บ้างไหม เธอบอกแต่ว่า
เธอไม่เคยนอกใจฉัน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกแย่ยิ่งกว่าน้องเค้าล่ะ จะว่าบาปปากก็ได้นะฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มจะ
เหมือนเมียหลวงเข้าไปทุกที ๆ แล้วน่ะ.......ซึ่งแฟนก็พูดเหมือนเดิม "อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวบ้านเสร็จฉัน
ก็จะไปให้น้อยลง" ....ฟังจะเป็นรอบที่ร้อยแล้ว

เมื่อวานนี้ตอน 4 โมงเย็นแฟนโทรมาบอกจะพาไปดูหนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก ให้ฝากลูกไว้กับแม่
แปลกใจแต่ก็ OK ....เชื่อไหมดิฉันดูหนังที่โรงภาพยนตร์ครั้งสุดท้ายเรื่อง สุริโยทัย นานมากเลย
หนังเศร้านะ ดูไปร้องไห้ไปตลอด มองข้าง ๆ ไม่เห็นมีใครร้องไห้เลย หรือว่าเราอินจนเกินไปก็ไม่รู้

ตอนนั่งรถกลับบ้านก็ถามแฟนว่า ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ เธอจะตายพร้อมทั้งกอดฉันกับลูกไหม.....
แฟนตอบว่า กอดสิต้องตายพร้อมกัน พ่อ แม่ ลูก.....ดิฉันก็ถามต่อว่า กรุงเทพฯ-แม่กลอง ห่างกันไกล
นะเธอจะวิ่งรถกลับมาหาฉันกับลูกทันหรือ ....แฟนตอบว่า ถึงตอนนั้นก็จะมีแต่เราแค่สามคนหรือไม่ก็มี
น้องของน้องเพลินเท่านั้นพวกเราจะตายพร้อม ๆ กัน.....ฟังแล้วน้ำตาทะลักเลยซึ้งก็ซึ้ง แต่ก็คิดไปอีก
ว่าทำไมแฟนเราถึงไม่เด็ดขาดแบบนี้ตลอดไปนะ .....แต่คิด ๆ แล้วไปดูหนังเรื่องนี้มามีแต่ฉากความรัก
แบบ พ่อ แม่ ลูก ทั้งเรื่องเลย ....สามีดูแล้วอาจจะได้ข้อคิดอะไร ๆ ที่ดี ๆ ไปบ้างก็ได้เนอะ.

เขียนซ่ะยาวเลย ยังกะนิยายน้ำเน่าก็ไม่ปาน ....ขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย วันนี้ก่อนนอนจะบอกกับตัวเอง
ว่า "วันนี้เราดีกว่าเมื่อวาน และพรุ่งนี้ตื่นมาเราต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน"

คุณทักทายค่ะ วันนี้ขอนอนก่อนนะค่ะ เพราะตอนเช้ามีคนสัญญาว่าจะพาไปไหว้พระที่สุพรรณ ไว้พรุ่งนี้
ค่อยคุยกันตอนดึก ๆ อีกครั้งนะค่ะ....นี่ดิฉันก็ต้องนอนไปลุ้นไปว่าพระเอกของเราจะมารับไหม.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 03:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ

ขออนุญาตค่ะ

จากเท่าที่อ่านๆดู จุฬาภินันท์ว่าพฤติกรรมสามีคุณแปลกไป เพราะมีสาเหตุ

สิ่งที่เปลี่ยนนิสัยคนได้ จุฬาภินันท์ว่ามี ๒ อย่างหลักๆ คือ เหล้า และ การพนันค่ะ เคสของคุณ จุฬาภินันท์ว่าน่าจะการพนัน

ลองคุยกันดีมั้ยคะ หยุดการต่อว่าต่อขานเขาก่อน ฟังปัญหาของสามีของคุณก่อน เขาอยากถอนตัวนะคะ แต่เงินเป็นปัญหาใหญ่ของเขาในตอนนี้

แล้วแต่คุณจะตัดสินใจค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 03:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


PENYA เขียน:
"วันนี้เราดีกว่าเมื่อวาน
และพรุ่งนี้ตื่นมาเราต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน"

คุณทักทายค่ะ วันนี้ขอนอนก่อนนะค่ะ
เพราะตอนเช้ามีคนสัญญาว่าจะพาไปไหว้พระที่สุพรรณ ไว้พรุ่งนี้
ค่อยคุยกันตอนดึก ๆ อีกครั้งนะค่ะ....นี่ดิฉันก็ต้องนอนไป
ลุ้นไปว่าพระเอกของเราจะมารับไหม.


ใช่แล้วค่ะ วันนี้ดีกว่าพรุ่งนี้
พรุ่งนี้ก็ต้องดีกว่าวันนี้ และก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ :b16:

ขอให้ฝันดี ตื่นขึ้นมาตอนเช้า มีพระเอกยื่นถือช่อดอกไม้
ช่อโต คอยอยู่หน้าบ้าน แล้วอย่าลืมเข้าไปหอมแก้มเผื่อ
ทักทายด้วยนะค่ะ ขอให้เดินทางไปไหว้พระปลอดภัย
ทั้งไปและกลับนะค่ะ :b17:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 10:42
โพสต์: 454

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าลืมเอาบุญมาฝากพิมบ้างนะคะพี่ PENYA

เริ่มดีขึ้นแล้วนะคะพี่..... หอมแก้มเผื่อพี่ทักทาย
แล้วก้อ... อย่าลืมกอดเผื่อพิมบ้างแล้วกันนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 02:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่าน วันนี้ดิฉันไปทำบุญที่วัดป่าเลไลยก์มา และได้นำผลบุญมาฝาก
ทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ.

แหม!!!คุณทักทาย ให้หอมแก้มเลยหรือ ยังก่อนเดี๋ยวไก่ตื่น เขากำลังนึกว่าดิฉันตัดใจจากคำว่า"รัก"
ได้แล้ว เขาถึงรีบมาต่อ"ดอกเบี้ยรัก" เช่นวันนี้ไง (ดูมันจอมปลอมยังไงไม่รู้เนอะ)

น้องพิมคนสวยเจ้าแมวเหมียวน้อยแสนจะขี้อ้อนของพี่....พี่ส่งลูกสาวประกบกอดแฟนพี่ไว้ตลอดเลย
นะค่ะ รู้สึกถึงไออุ่นบ้างหรือเปล่าเอ่ย.

พอออกจากวัดป่าเลไลยก์ ก็ไปเที่ยวที่ตลาดสามชุก ของเยอะมาก ๆ ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๋ยวอร่อยใช้ได้
ลูกสาวได้ของเล่นกลับบ้านเต็มสองมือเลย ส่วนดิฉันได้ เรือลำเล็ก ที่เวลาจะปล่อยลงน้ำต้องกรอกน้ำ
ตรงท้ายเรือ 2 รูให้เต็มก่อน แล้วจุดเทียนวางนอนลง ความร้อนจะทำให้น้ำระเหยเป็นพลังงานทำให้เรือ
วิ่งได้ค่ะ ...ตอนเห็นปุ๊ปคิดถึงตอนเราเป็นเด็กมีความสุขมาก ๆ เมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีตจริง ๆ นะ
....เรือ ลักษณะนี้ น้องพิม คงจะอาจไม่เคยเห็น ลองถามคุณทักทาย และพี่ใหญ่ดูสิ รู้จักแน่นอนใช่ป่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 03:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ คุณจุฬาภินันท์ มาก ๆ เลยค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยี่ยน

ดิฉันเจอสามีถึงตอนนี้ก็ประมาณ 13 ปีกว่าแล้ว สามีไม่ดื่มเหล้าหรือของมึนเมาทุกชนิด ไม่สูบบุหรี่ ไม่
เล่นการพนัน(จุดนี้ละค่ะถึงจีบดิฉันติด) รับประกันได้ค่ะ.

ที่สามีเปลี่ยนไปเพราะคนใกล้ตัวมากกว่า(ดิฉันวิเคราะห์เอาเอง)ซึ่งก็คงไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ดิฉัน
ไม่ได้ช่วยเหลือเพราะมันเกินกำลังของดิฉันค่ะ....การปฏิเสธในครั้งนี้ทำให้หมองใจกันไป ต่อกันไม่ติด
แต่ก็ดีนะค่ะ...ดิฉันได้เรียนรู้เพิ่มเติมว่า นิสัยของคนเราก็เหมือนเหรียญที่มี 2 หน้า อยู่ที่ว่าช่วงตอนนั้น
ดิฉันเห็นแต่ด้านที่สวยงาม ไม่เคยพลิกดูอีกหน้าเลยว่า มันด้าน มันสึก หรือมันผุกร่อย ....ต่อให้ย้อน
เวลากลับไปแก้ไขได้ใหม่ ดิฉันก็จะขอยืนยันให้เป็นในรูปแบบเดิมนี่ล่ะค่ะ... เจ็บครั้งนี้รู้สึกมันคุ้มดี ได้
เห็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์บางจำพวก และได้เห็นด้านที่แย่ ๆ ของสามีตัวเอง ซึ่งเมื่อก่อน 10 ปีแทบ
ไม่เคยเห็นเลย....ใจหนึ่งก็พยายามเข้าใจสามีนะค่ะว่าเขาคงวางตัวลำบาก ไหนจะญาติที่ไม่พอใจเรา
และไหนจะเราที่ไม่พอใจญาติของเขา ...แต่สามีมาเสียตรงที่อ่อนแอเกินไป ขาดความยุติธรรม ไม่เคย
ตัดสินใจได้เด็ดขาดเลยสักครั้ง....แรก ๆ สามีก็เหมือนจะโกรธดิฉันเสียด้วยซ้ำที่ไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วย
เหลือ ...แต่พอนานวันเขาคงมีเวลาคิดบ้างว่าตัวดิฉันนั้นก็เป็นแค่สะใภ้ ไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา สิ่ง
ที่เคยช่วยไปบ้างแล้วนั้นมากกว่าญาติที่พึงช่วยเสียอีก ....ตรงจุดนี้ละค่ะที่ดิฉันคิดว่าเขาถึงไม่เดินหนี
ไปจากดิฉันและลูกสาว...ส่วนเรื่องที่ดิฉันทุกข์ก็คงเป็นทำนองว่า น้อยใจ ๆ ในทุกสิ่งที่สามีปฏิบัติ น้อย
ใจตรงที่สามี ยักย้าย ถ่ายเท เวลาของครอบครัวไปไม่ยอมแบ่งเวลาให้ถูกต้องและลงตัว...และจุดสำคัญ
เลยคือหูเบา ....บ่อยครั้งที่สามีกลับจากหาญาติของเค้าแล้ว เขาจะเปลี่ยนไปไม่ค่อยคุย หน้าตาถมึงตึง
ทำเหมือนโกรธเรามาสักร้อยชาติพันชาติ....ซึ่งดิฉันก็เห็นรับรู้ได้ทันทีเหมือนกัน และก็เฉย ไม่พูด ไม่จา
ด้วยให้มันบ้าไป พอผ่านไปสักวัน สองวัน สติคงกลับมาคิดได้เขาจะมาพูดดีด้วยเอง ...ดูเหมือนจะชิน
กับพฤติกรรมแบบนี้ของสามี...แต่จากใจจริงไม่เคยชินเลย ยังแอบร้องไห้ เสียใจ กับสิ่งที่แย่ ๆ แบบนี้
จนถึงทุกวันนี้ค่ะ.

คุณจุฬาภินันท์ นอนดึกเหมือนกันนะค่ะ อากาศเริ่มจะกลับมาเย็นลงอีกครั้งแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 216 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร