วันเวลาปัจจุบัน 17 พ.ค. 2025, 19:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 01:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2012, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2012, 23:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2012, 00:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
ขอเจริญพร ญาติโยมชาวเว็บธรรมจักรทุกคนและท่านที่เป็นพระด้วย นี้เป็นกระทู้ที่สองที่เราตั่ง ต่อจากกระทู้แรกก็ไม่อยากอธิบายอะไรมาก แค่อยากจะปรึกษาญาติโยมหรือท่านที่เป็นพระด้วยกันเผื่อจะมีทางออกที่ดี เพราะเราไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น
คือตอนนี้เราบวชเรียนอยู่เดือนหน้าเราก็จะจบแล้ว จากเดิมเราได้พูดต่อหน้าญาติโยมในวันที่บวชว่าเราจะบวชตลอดชีวิต และจะขอเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมและมีบทบาทในการสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ตอนนี้เราจะจบแล้วเรายังโง่ เรายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แล้วอย่างนี้เราจะเอาความรู้ ที่ใหนในการเผยแพร่ธรรมะล่ะ เราเรียนพุทธศาสตร์สาขาศาสนาและปรัชญา 4ปีที่ผ่านมากลับได้ความรู้อันหน่อยนิด ไม่สามารถจะไปสอนใครได้ ใครๆก็บอกว่าเรียนปรัชญาต้องคิดเก่ง พูดเก่ง แต่เรากลับตรงข้ามกัน เรามีปัญหาใหญ่คือ ความจำไม่ดี พูดไม่เก่ง เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ไม่มีใครคบ ไม่มีเพื่อนสักคน มีแต่คนว่าเราหยิ่ง หมั่นไส้เราบ้าง เหม็นขี้หน้าบ้างละ หาว่าเราเป็นตอไม้บ้างละ แต่ทุกครั้งที่เขาว่าเรารู้สึกเจ็บปวดมาก เพราะเราก็ไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้สักหน่อย
ตอนนี้เหลืออีกหนึ่งเดือนจะจบแต่ไม่รู้ว่าหลังจากจบแล้วจะทำอย่างไรต่อ มันมืดไปหมดมองไม่เห็นทางออก
เราเคยคิดว่าหลังจากจบแล้ว
1 จะเรียนบาลีอย่างเดียว
2 บวชต่อไปแล้วทำหน้าที่ของพระไปวันๆ
3 ธุดงค์ไปอยู่ตามป่าเขาคนเดียว
4 เป็นไงเป็นกันสึกดีกว่า
แต่ปัญหาคือ
1 ถ้าจะเรียนบาลี ความจำไม่ดี คิดช้า ท่องไม่ค่อยจำ จำแล้วก็ลืมง่าย แล้วอย่างนี้จะเรียนบาลีได้อย่าไง เพราะการเรียนบาลีสิ่งสำคัญคือความจำดี แล้วไม่ลืมง่าย
2 ถ้าบวชพระอยู่วัดในเมืองต่อ ปัญหาก็ตามมาอีก เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ไม่มีเพื่อนไม่มีใครคบ ต้องถุกกว่าหานินทาเหมือนที่ผ่านมา ทุกข์จนไม่รู้จะทุกข์อย่างไง และอีกปัญหาใหญ่คือ ท่องมนต์ไม่ค่อยได้ และที่สำคัญคือสวดไม่เข้ากับคนอื่น
3 จะไปธุดงค์ ก็ไม่รู้จักครูบาอาจารย์สักรูป ถ้าไปคนเดียวไม่รู้จะมีชีวิตรอดกลับมาหรือป่าว
4 จะสึกหรอ สึกแล้วจะไปใหนละ ไม่รู้จักใครสักคน

ก็จากปัญหาที่กล่าวมา ก็อยากจะปรึกษาญาติโยมว่าพอมีทางออกที่ดีไหม แล้วเราควรทำอย่างไรหลังจากที่เรียนจบในอีก1เดือนข้างหน้า

อ่อ ขอเพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องทำให้เรารู้สึกเสียใจไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับคำตัดสิน แต่จะไม่ขอเล่ารายละเอียดก็จากเหตุในวันนั้นจึงทำให้เรามีความคิดดีๆว่าหลังจากนี้ เราจะซื้อลอตลี่ทุกงวดเผื่อว่าถูกร่างวัลที่หนึ่ง แล้วเราจะเอาเงินนั้นไปซื้อที่ดินสัก4-5ไรแล้วทำเป็นสำนักสงฆ์ เป็นของตัวเองไปเลย แล้วถ้าถูกจริงเมื่อไหร่เราจะมาโพสบอกอีกที ขอเจริญพร



ผมแนะนำว่าท่านควรปฏิบัติธรรมจริงๆ เพราะพิจารณาจากที่ท่านกล่าวท่านยังพูด คิด ทำอย่างบุถุชน

แต่การที่ท่านบวชมาได้นานและมีความตั้งใจและกล้าเปิดเผยแสดงว่าท่านเป็นผู้ไฝ่หาความจริง และไม่มีอะไรจริงไปกว่าธรรมะ

ผมเห็นมีฆารวาสมากมายที่มีความรู้ภูมิธรรมสูง ยิ่งท่านเป็นพระย่อมมีความสะดวกในการปฏิบัติกว่าชาวบ้าน การเรียนนั้นถ้าเรียนเพียงท่องจำไม่เข้าใจถึงแก่นแท้แล้ว ย่อมดับทุกข์ไม่ได้เหมือนที่ท่านยังทุกข์อยู่ เหมือนรู้สูตรยามากมายถ้าไม่ไปปรุงมาทานก็ไม่อาจหายจากโรคได้ ถ้าท่านปฏิบัติจนดับทุกข์ให้ตนเองได้ก่อนแล้ว ย่อมสามารถบอกสอนผู้อื่นได้เองด้วยความกระจ่างใจจริงๆ ย่อมเกิดประโยชน์กว่าการสอนตามตำราหลายร้อยพันเท่านัก

ผมขอแนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีครูบาอาจารย์ที่รู้จริง คือวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ปฏิบัติแนวเจริญสติแบบหลวงพ่อเทียน โดยหลวงพ่อคำเขียน และครูอาจารย์อีกหลายท่าน แล้วท่านจะรู้ตัว รู้ความคิดรู้จิตรู้ใจ รู้โลก รู้ธรรม ที่ศึกษาจากตำราจริงๆคือกายนี้ ไม่ใช่จากกระดาษหนังสือ เพียงท่านทำจริงย่อมได้ธรรมจริงๆแน่นอน

ร่วมอนุโมทนาครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบนมัสการ พระคุณเจ้า ครับ

กระผมอยากเรียนถามครับ ว่าการที่กุลบุตร กุลธิดาทั้งหลาย สละบ้านเรือน ออกบวชในธรรมวินัยนี้มีเป้าหมายเพื่ออะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:31, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
FLAME เขียน:
กราบนมัสการ พระคุณเจ้า ครับ

กระผมอยากเรียนถามครับ ว่าการที่กุลบุตร กุลธิดาทั้งหลาย สละบ้านเรือน ออกบวชในธรรมวินัยนี้มีเป้าหมายเพื่ออะไร


บางอย่างก็รู้ๆกันอยู่ แต่พอยิ่งอธิบายมากเท่าไหร่ คนอื่นกลับมองว่าเราเป้นผู้ไม่รู้ คนที่ยึดติดแต่หลักการจะไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่ประสบปัญหาชีวิต



กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ พระคุณเจ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไรครับ

กระผมขออนุญาตตอบ

การออกบวช ไม่ใช่เพื่อปัจจัย ๔ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินเงินทอง ไม่ใช่เพื่อสักการะบูชา ไม่ใช่เพื่อความนับหน้าถือตา ไม่ใช่เพื่อบริวาร ไม่ใช่เพื่อความคลุกคลี ไม่ใช่เพื่อความมีชื่อเสียง ไม่ใช่เพื่อยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ใช่เพื่อคำชื่นชมยกย่องสรรเสริญ ไม่ใช่เพื่อปรนเปรอตนด้วยกามคุณ ไม่ใช่เพื่อใบปริญญา ไม่ใช่เพื่อสอบให้ได้ที่หนึ่งหรือได้ลำดับดีๆ ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับใคร....

แต่เหตุที่กุลบุตรบางคนในโลกนี้ มีศรัทธา ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
ด้วยคิดว่า เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส อุปายาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าไฉนหนอ ความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ. ดังนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2012, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 01:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 10 เม.ย. 2012, 01:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 01:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
FLAME เขียน:
อยู่กับความมืด เขียน:
FLAME เขียน:
กราบนมัสการ พระคุณเจ้า ครับ

กระผมอยากเรียนถามครับ ว่าการที่กุลบุตร กุลธิดาทั้งหลาย สละบ้านเรือน ออกบวชในธรรมวินัยนี้มีเป้าหมายเพื่ออะไร


บางอย่างก็รู้ๆกันอยู่ แต่พอยิ่งอธิบายมากเท่าไหร่ คนอื่นกลับมองว่าเราเป้นผู้ไม่รู้ คนที่ยึดติดแต่หลักการจะไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่ประสบปัญหาชีวิต



กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ พระคุณเจ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไรครับ

กระผมขออนุญาตตอบ

การออกบวช ไม่ใช่เพื่อปัจจัย ๔ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินเงินทอง ไม่ใช่เพื่อสักการะบูชา ไม่ใช่เพื่อความนับหน้าถือตา ไม่ใช่เพื่อบริวาร ไม่ใช่เพื่อความคลุกคลี ไม่ใช่เพื่อความมีชื่อเสียง ไม่ใช่เพื่อยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ใช่เพื่อคำชื่นชมยกย่องสรรเสริญ ไม่ใช่เพื่อปรนเปรอตนด้วยกามคุณ ไม่ใช่เพื่อใบปริญญา ไม่ใช่เพื่อสอบให้ได้ที่หนึ่งหรือได้ลำดับดีๆ ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับใคร....

แต่เหตุที่กุลบุตรบางคนในโลกนี้ มีศรัทธา ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
ด้วยคิดว่า เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส อุปายาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าไฉนหนอ ความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ. ดังนี้


ที่ไม่ตอบก็เพราะอย่างนี้ไง ส่วนที่กล่าวมาก็ถูกต้องไม่เถียง แต่การยึดติดแต่ความถูกต้อง เหมือนกับมองแคบไปหรือป่าวหรือไม่มองถึงภาพของความเป็นจริงที่เปลี่ยนตามยุคสมัย เพราะคนที่ถึงกับคิดได้ว่าเราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส อุปายาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าไฉนหนอ ความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ แสดงว่าต้องต้องมีความเข้าใจพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแล้วถึงคิดได้แบบนี้ ถามหน่อยแล้วอย่างผมที่บวชตั่งแต่อายุ12แถมไม่เคยรู้จักพุทธศาสนามาก่อนไม่เคยเห็นพระเป็นๆมาก่อน แล้วจะไปเอาความคิดแบบนี้มาจากที่ใหนถ้าอยู่ๆคิดได้แบบบนี้คงไม่ต้องมาบวชแล้วละ เพราะคงบรรลุพระอริยบุคคลไปแล้ว


กราบนมัสการครับ

ขอยกมิลินทปัญามาให้อ่านครับ

อ้างคำพูด:
ปัญหาที่ ๕ วรรคที่๑, ปัญหาที่ ๕, ปัพพชาปัญหา

เมื่อพระนาคเสนไปถึงพระราชวัง พระเจ้ามิลินท์ก็ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตเลี้ยงและพระราชทานผ้าไตรแก่พระสงฆ์ทั่วทุกรูปแล้ว มีพระราชดำรัสนิมนต์แต่พระนาคเสนกับพระภิกษุ ๑๐ รูปให้รออยู่ นอกนั้นให้กลับไป แล้วจึงตรัสถามว่าดูก่อนพระนาคเสน นี่เราจะพูดกันถึงเรื่องอะไรดี

พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร การพูดกันนี้ก็มีความประสงค์อยู่แต่เนื้อความเท่านั้น เพราะฉะนั้น จงตรัสแต่โดยเนื้อความเถิด

ม. การบวชของเธอมีประโยชน์อย่างไรและมีอะไรเป็นคุณ ซึ่งเธอต้องประสงค์อย่างยิ่ง

น. การบวชมีประโยชน์ที่จะได้รู้ว่า ทำอย่างไรจึงจะดับความทุกข์ที่มีอยู่ได้ และจะไม่ให้ความทุกข์อย่างอื่นเกิดขึ้นอีก อนุปาทานนิพพาน เป็นคุณซึ่งอาตมภาพต้องประสงค์อย่างยิ่ง

ม. บรรดานักบวช บวชมุ่งประโยชน์อย่างนั้นด้วยกันทั้งนั้นหรือ

น. หามิได้ บางพวกบวชเพื่อจะหนีพระเจ้าแผ่นดินหรือหนีโจร บางพวกบวชเพราะกลัวภัย ขอถวายพระพร แต่บางพวกบวชดีด้วยมุ่งประโยชน์อย่างนั้น

ม. ก็ตัวเธอเล่า บวชมุ่งประโยชน์อย่างนั้นหรือ

น. ขอถวายพระพร อาตมภาพบวชแต่ยังเป็นเด็ก ไม่ทราบว่าการบวชเพื่อประโยชน์อย่างนั้น เป็นแต่คิดเห็นในขณะนั้นว่า พระสมณสากยบุตรเป็นผู้มีปัญญา ท่านคงจะให้ศึกษาตาม เมื่อได้เล่าเรียนศึกษาตามท่านต่อมาจึงทราบว่า การบวชนี้มีประโยชน์อย่างนั้น

ม. เธอว่านี้ฉลาดจริง



เมื่อคราวที่ยังเป็นเด็กพระนาคเสนก็ไม่ทราบว่าบวชไปเพื่อประโยชน์อย่างนั้นครับ แต่เมื่อได้ศึกษาเล่าเรียนตามพระสมณศากยบุตรผู้มีปัญญาทั้งหลาย จึงได้ทราบว่าการบวชมีประโยชน์อย่างนั้น

เมื่อรู้แล้วว่าการบวชบวชไปเพื่ออะไรก็ทำให้เห็นเป้าหมายชัดเจน สามารถละคลายความต้องการสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ไมใช่จุดหมายคือความพ้นทุกข์ เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ ต่างๆ เป็นต้นได้ครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร