ขอปลดปล่อยความทุกข์หน่อยนะค่ะ ทำใจยังไม่ได้ความทุกข์มาเป็นระยะๆๆ เราคบกับแฟนมา8 ปี แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาหมั้น แล้วแต่งงานภายใน 2 เดือน ทั้งที่เขาบอกไม่เคยรักใครไม่มีใครเราก็เชื่อเพราะคิดว่าเขาเป็นคนดี เพราะเขาสนใจในเรื่องธรรมะมาก เราก็สนใจ เราคุยกันทุกครั้งก็จะมีเรื่องธรรมะเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำสิ่งเลวร้ายได้ เขาบอกเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้คบกัน เพียงแค่เขาช่วยทำงานให้ทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยทำเปิดเมลล์ก๊อบเปลี่ยนชื่อส่งได้เลย แล้วได้เงินใช้จากผู้หญิงคนนั้นโดยขอยืมแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ทวงคืนให้ฟรีไม่ต้องใช้ มันคงเป็นบุญคุณมากหาเงินใช้เองไม่ได้คงเกาะเขา ด่าว่าอะไรผู้หญิงคนนั้นไม่เคยโกธรจากที่เขาเล่า ด่าคำหยาบ พอเรารู้ว่าหมั้นโทรไปถามก็บอกว่าไม่รักไม่รักจะไม่แต่งไม่แต่ง มันเพียงความต้องการผู้หญิงคนนั้นฝ่ายเดียว แต่แล้วก็แต่งภายในเวลาอันรวดเร็ว หมั้นมี.ค. แต่งมิ.ย. พอแต่งแล้ว ยังบอกว่าไม่รักตัวเองแต่งได้ไง แต่วันแต่งก็โทรมาบอกว่าร้องไห้ ถ้าตัวเองทุกข์ใจจะแต่งทำไม คนไม่รักหรอลางานไปแต่งงานตั้งอาทิตย์หนึ่ง 7วัน เต็ม ให้ความสำคัญขนาดนั้นนะไม่รัก โกหกทำไม โกหกแล้วได้อะไร เท่านั้นยังไม่พอแต่งแล้วยังบอกว่าจะเลิกแยกกันอยู่มันเหลือเกินจริงๆๆๆ มีด้วยหรอบอกไม่รักเสียใจ แต่การกระทำทุกอย่างตรงข้ามกัน ถ้าเธอกล้าเลิกกะเขาไม่ต้องมาพูดมากเลิกซิ เลิกให้เห็นให้รู้ไปเลยกล้าหรือเปล่า เท่านั้นไม่พอเงินแต่งงานก็บอกเป็นของผู้หญิง แล้วผู้หญิงก็ใช่ย่อยบอกว่าผู้ชายมีใครก็แล้วแต่จะเอา ให้ได้ไม่สนว่าใครจะยังไง ทำใจยากจิงกับเรื่องที่พบ เธอจะไปก็บอกมาตรงๆๆๆๆไม่ได้ว่าที่ไม่อยากอยู่ด้วยแต่เสียความรู้สึกดีๆๆๆที่มีให้ตลอดมาแค่บอกมาตรงๆๆๆๆเท่านั้น นี่หรือเขาเรียกว่าคนที่ศึกษาธรรมมะ ยึดมั่นในหลักธรรม พูดได้แต่ทำไม่ได้การกระทำคุณตรงข้ามกับหลักธรรมมากๆๆๆๆๆ เอาหลักการมาพูดใหญ่เป็นไปได้ไง จะตรวจ ดีเอนเอบ้างล่ะ อยากตรวจมาตรวจเลยแต่เมื่อรู้ว่าเป็นลูกคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เราเสียใจมาก บอกมีลูกก็ว่าเรามีใครหรือเปล่า ก็รู้ๆๆอยู่ว่าเราไม่คบใครนอกจากตัวเขาเอง มีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้บางไหม อยาลืมเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด

คุณchotimi
ขออนุญาตคุณมิกกิ ออกความเห็นเรื่องคุณchotimi หน่อยนะคะ
อ่านเรื่องคุณ chotimi แล้ว นึกถึง เรื่อง"คน" กับ"ธรรมมะ"ค่ะ หลายคนที่คิดว่า คนที่พูดธรรมมะ เป็นคนที่มีธรรมมะอยู่ในใจ
ขออภัยที่จะออกความเห็นว่า ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะโลเล และไม่เด็ดขาดนะคะ ผู้ชายบางคนเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้จะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองว่า ไม่อยากทำร้ายจิตใจของผู้หญิง ก็เลยไม่ยอมเลิกทั้ง 2 คน
แต่ความเป็นจริงเขาละเมิดศีลข้อ 3 ตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ เหตุนี้นำให้เขาละเมิดศีลข้ออื่นๆตามมา

หลายครั้งการกระทำกับคำพูดคน มักจะสวนทางกันค่ะ เวลาพิจารณาคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตขอให้ดูที่การกระทำมากกว่าคำพูด "Action Louder Than Word"
ทุกคนที่เข้าหาธรรม ถ้ายังไม่บรรลุธรรมจริง ก็ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ค่ะ เปลี่ยนแปลงได้เสมอ

อย่าเอาความสุขของเราไปฝากไว้กับคนอื่นค่ะ

ขอขอบคุณนะค่ะคุณพบบุญที่เข้ามาตอบกระทู้
ช่วยบอกให้คิดได้มากขึ้นกับคนเสแสร้ง