วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 17:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 1672 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 91, 92, 93, 94, 95, 96, 97 ... 112  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 24 ส.ค. 2010, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกโป่ง เขียน:
:b1: มานั่งฟังด้วยคนค่ะ...เพื่อนๆ
เอาน้ำมะนาวมาฝากค่ะ :b36:

:b48: ระลึกถึงค่ะ :b48:


รูปภาพ


:b20:

แจ๊บ...แจ๊บ...
เปรี๊ยววววว...ปาก...


:b20:
ลูกโป่ง วิ่งได้ยัง ถ้าวิ่งได้แล้วจะชวนลูกโป่งกะยายมัท ไปกินปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน ชมทะเลหมอกที่บ้านเอกอน
ยายทักไม่กล้าชวน กลัวใจป้ำบินตรงจากอเมริกามาเมืองไทย :b12:
พี่ธรรมบุตรไม่ชวน แต่จะชวนเจ้าช๊อคโกแลค อิ อิ
เห็นภาพถ่ายแล้วอยากจับมาฟัด อิ อิ
กะเจ้านมข้นหวาน ของท่านอิคคิวซัง อิ อิ จริง ๆ จำไม่ได้ว่าตัวไหนของใครกันแน่
ที่แน่ ๆ บ้านเอกอนก็มีตัวนึง เจ้า "โอเลี้ยง"

คุณตา ไม่ชวน จะทำปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน ให้ยายมัทกิน แล้วถ่ายรูปไป ยั่วน้ำลาย
อิ อิ ให้กิเลสป๋าดิ่ดี๋ร้อนละอุ จนหิมะ ละลาย
นี่ก็ใกล้จะต้องเผชิญหน้ากับหิมะอีกรอบแล้ว คุณตาอย่าลืม ยกดัมพ์เบลล์บริหารร่างกายไว้รอนะ
เมื่อถึงเวลางานเข้าจริง ๆ จะได้ ชิลล์ ชิลล์

ท่านอ๊บ อ๊บ ไม่ชวน เพราะเดี๋ยวมาเจอ อ๊บ อ๊บ ที่บ้านเอกอนแล้วจะ :b22:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 24 ส.ค. 2010, 11:57, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสต์ เมื่อ: 24 ส.ค. 2010, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:

รู้ว่าเพราะมีกาย มีรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ
จึงทำให้ทุกข์ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ ทุกข์ก็จะไม่มี เข้าใจถูกไหมค่ะ?

อนุโมทนาค่ะ :b8:


สาธุ.. :b8: เข้าใจถูกแล้วครับ


โพสต์ เมื่อ: 24 ส.ค. 2010, 18:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ลูกโป่ง เขียน:
:b1: มานั่งฟังด้วยคนค่ะ...เพื่อนๆ
เอาน้ำมะนาวมาฝากค่ะ :b36:

:b48: ระลึกถึงค่ะ :b48:


รูปภาพ


:b20:

แจ๊บ...แจ๊บ...
เปรี๊ยววววว...ปาก...



เรื่องกิน..มีคนเร็วกว่ากบฯ..ซะแล้ว :b7: :b7: :b7:


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปริตา เขียน:
taktay เขียน:
รู้ว่าเพราะมีกาย มีรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ
จึงทำให้ทุกข์ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ ทุกข์ก็จะไม่มี เข้าใจถูกไหมค่ะ?


แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่มีทุกข์เช่นนี้ได้ล่ะคะ... :b6:


ขออนุญาตเพิ่มเติมนะค่ะท่านกรัชกาย

การที่จะ "ไม่ให้มี" ไม่ว่าจะทุกข์ สุข หรือ ฯลฯ
คงไม่ได้ เพราะเขาก็มีของเขาอยู่อย่างนั้น
เพียงแต่อารมณ์นั้นๆ จะแสดงตัวตามวาระและโอกาส

แต่ถ้า "ไม่มีทุกข์" หมายถึง "ไม่รู้สึกทุกข์" แม้จะมีอยู่ก็ตาม
ก็คือการพิจารณาว่า เพราะมีรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
จึงมีทุกข์ ถ้าไม่มีขันธ์ทั้งห้า ก็ไม่มีทุกข์ สรุปง่ายๆก็คือ ทุกอย่างเป็น
แค่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเป็นตนเลยสักอย่าง ไม่มีเรา ไม่มีเขา
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข หรือง่ายๆก็คือ ละความ"ยึด"ทั้งหลายออกไปให้หมด
จึงจะไม่รู้สึกทุกข์.......

เข้าใจแบบนี้ไม่ทราบว่าถูกหรือไม่? ควรหรือไม่?.... กรุณาชี้แจงด้วยนะค่ะ

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กรัชกาย เขียน:
ไทเกอร์วูดส์หย่าเมีย เป็นข่าวหน้าหนึ่งมั้ยครับคุณทักทาย


ไม่ทราบจริงๆค่ะท่านฯ
ทักทายอยู่ในแต่ในถ้ำ วันๆ พูดคุย บ่น แฉ
แต่กับคอม ออกจากลาน ก็เข้าเธียเตอร์
เกาหลีบ้าง ไทยบ้าง เลยไม่ทราบความเคลื่อนไหว
ของที่นี่เลย ถ้าพรุ่งนี้ฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย คงตายก่อนเพื่อน
เพราะไม่รับข่าวสารใดๆทั้งสิ้น

ส่วนเรื่องพ่อเสือกระดาษ คาดการณ์ไว้แล้ว่า คงจบแบบนี้
แม่บ้านชาวอเมริกัน ความอดทนน้อย เพราะถ้าเขาหย่า
เมื่อไหร่? สถานะภาพของเขายิ่งมั่นคงขึ้น ถ้าอดีตสามีรวย
แรกว่าคุ้มค่า ก็เลยไม่ค่อยจะมีใครอดทนกับปัญหา ที่เหล่าภรรยาไทย
คิดว่าเป็นเรื่องแค่เล็กน้อย

ขอบคุณค่ะที่ส่งข่าวสารมาให้....มีมิตรที่ดีก็ดีอย่างนี้นี่เอง

อนุโมทนาค่ะท่าน :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 00:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์มันก็มีทั้งทุกข์กาย..ทุกข์ใจ

พระอรหันต์ที่มีธาตุขันธ์อยู่...ท่านก็เหนื่อยเป็น..เจ็บเป็น..ป่วยเป็น..เรียกว่ากายเป็นทุกข์..แต่ไม่ทุกข์ใจ..ก็เข้าใจว่ามันเป็นของมันอย่างนั้นเอง

ปุถุชนก็มีธาตุมีขันธ์อย่างเดียวกัน..แต่พอกายเจ็บกายป่วย..จิตใจก็กระวนกระวายดิ้นรนเศร้าหมอง..ไม่อยากให้มีอาการอย่างนี้เกิดกับตน..


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เอรากอน เขียน:
:b20:

แจ๊บ...แจ๊บ...
เปรี๊ยววววว...ปาก...


:b20:
ลูกโป่ง วิ่งได้ยัง ถ้าวิ่งได้แล้วจะชวนลูกโป่งกะยายมัท ไปกินปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน
ชมทะเลหมอกที่บ้านเอกอน
ยายทักไม่กล้าชวน กลัวใจป้ำบินตรงจากอเมริกามาเมืองไทย :b12:
พี่ธรรมบุตรไม่ชวน แต่จะชวนเจ้าช๊อคโกแลค อิ อิ
เห็นภาพถ่ายแล้วอยากจับมาฟัด อิ อิ
กะเจ้านมข้นหวาน ของท่านอิคคิวซัง อิ อิ จริง ๆ จำไม่ได้ว่าตัวไหนของใครกันแน่
ที่แน่ ๆ บ้านเอกอนก็มีตัวนึง เจ้า "โอเลี้ยง"

คุณตา ไม่ชวน จะทำปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน ให้ยายมัทกิน แล้วถ่ายรูปไป ยั่วน้ำลาย
อิ อิ ให้กิเลสป๋าดิ่ดี๋ร้อนละอุ จนหิมะ ละลาย
นี่ก็ใกล้จะต้องเผชิญหน้ากับหิมะอีกรอบแล้ว คุณตาอย่าลืม ยกดัมพ์เบลล์บริหารร่างกายไว้รอนะ
เมื่อถึงเวลางานเข้าจริง ๆ จะได้ ชิลล์ ชิลล์

ท่านอ๊บ อ๊บ ไม่ชวน เพราะเดี๋ยวมาเจอ อ๊บ อ๊บ ที่บ้านเอกอนแล้วจะ :b22:


สรุปแล้ว....จะกินและเที่ยวกันแค่สองคนกับยายโป่งเท่านั้น
แชะแม่ะ?.....ขอให้ท้องแตก.....ที่เถอะ...คนใจร้าย :b2:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ปริตา เขียน:
taktay เขียน:
รู้ว่าเพราะมีกาย มีรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ
จึงทำให้ทุกข์ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ ทุกข์ก็จะไม่มี เข้าใจถูกไหมค่ะ?


แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่มีทุกข์เช่นนี้ได้ล่ะคะ... :b6:


ขออนุญาตเพิ่มเติมนะค่ะท่านกรัชกาย

การที่จะ "ไม่ให้มี" ไม่ว่าจะทุกข์ สุข หรือ ฯลฯ
คงไม่ได้ เพราะเขาก็มีของเขาอยู่อย่างนั้น
เพียงแต่อารมณ์นั้นๆ จะแสดงตัวตามวาระและโอกาส

แต่ถ้า "ไม่มีทุกข์" หมายถึง "ไม่รู้สึกทุกข์" แม้จะมีอยู่ก็ตาม
ก็คือการพิจารณาว่า เพราะมีรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
จึงมีทุกข์ ถ้าไม่มีขันธ์ทั้งห้า ก็ไม่มีทุกข์ สรุปง่ายๆก็คือ ทุกอย่างเป็น
แค่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเป็นตนเลยสักอย่าง ไม่มีเรา ไม่มีเขา
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข หรือง่ายๆก็คือ ละความ"ยึด"ทั้งหลายออกไปให้หมด
จึงจะไม่รู้สึกทุกข์.......

เข้าใจแบบนี้ไม่ทราบว่าถูกหรือไม่? ควรหรือไม่?.... กรุณาชี้แจงด้วยนะค่ะ



จะชี้ชวนให้ดูสภาพแวดล้อมภายนอกก่อน เพื่ออาจเห็นสภาพภายในกายใจของตนๆ (พูดโดยสมมุติ) ง่ายขึ้น (หรืออาจเห็นยากกว่าเดิมลองดู)

ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฝนตก ฝนหยุด แดดออก แดดร่ม ลมพัด น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดาวตก มืด สว่าง ฯลฯ มีไหม ? ตอบว่า มี และมันก็มีก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้นแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใคร(คน) จะรู้หรือไม่รู้เข้าใจไม่เข้าใจไม่เกี่ยวกับมัน...แต่สิ่งเหล่านั้นจะก่อทุกข์ไม่สบายให้ก็เมื่อคนเข้าไปยึดถือว่ามีตัวตนมีเรามีเขา มีฝน เป็นต้นขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ฝนตก ตัวเองกำลังทำงาน (ผลประโยชน์ของตน) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องต้องการฝน ก็จึงด่าบริภาษณ์ฝน แม่งเอ้ย...จะตกทำไมนักฝ่ะ ข้าจะทำมาหากินจะขายของนะเฟ้ย ลูกค้าหายหมด ขาดทุนสิรู้ไหมฝนห่ะ ยึดฝน (ธรรมชาติ) ว่าเป็นตน เป็นนั่นเป็นนี่ มันจึงก่อทุกข์ให้ ฯลฯ

ทีนี้มองเข้ามาที่ตนเอง (เทียบเคียงดีๆ) ชีวิตมันก็มีก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น ที่...บัญญัติกันว่าสุข ว่าทุกข์ ว่าเฉยๆ ชอบใจ ไม่ชอบใจ ฯลฯ มันก็มีก็เป็นของมันเช่นนั้นอยู่ตามธรรมดาของมันชั่วนาตาปี ใครจะรู้หรือไม่รู้ไม่เกี่ยวกับมัน แต่ชีวิตจะก่อทุกข์ก่อปัญหาให้ก็ต่อเมื่อคนๆ นั้น ยึดถือว่าชีวิตนี้เป็นเรา เป็นเขา เราเป็นทุกข์ เราเป็นสุข เป็นต้นขึ้น
ทำไมคนๆ นั้นด่ากรู ด่ากรูทำไม ฯลฯ ฉันทำดีขนาดนี้แล้ว ไม่ชมฉันสักคำ เบือเซ็งทำดีไม่ได้ดี เป็นต้น นี่นั่นก็เพราะตนเอง (จะเรียกว่าอะไรก็ได้) เข้าไปยึดถือธรรมชาติ (ชีวิต) ว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นตัวเรา เป็นตัวเขา เป็นนายนั่น นางนี่ สร้างภาพวาดภาพขึ้นมาเป็นทุกข์ เป็นสุขขึ้น
งงไหมครับ ? :b1:

เอ้าสรุป มนุษย์มีความยึดมั่นถือมั่นชีวิต (ธรรมชาติ) นี้ว่าเป็นตัวตน เป็นเราเป็นเขาขึ้นเอง แล้วก็เป็นทุกข์สะเอง :b13:

ที่เราปฏิบัติธรรม (กรรมฐาน) ก็เพื่อให้เห็นชีวิต หรือ ธรรมชาติตามที่มันเป็น แต่การหาเป็นเช่นนั้นไม่ เช่น ครั้นตนปฏิบัติไปๆๆ ทุกข์ปรากฏ (ธรรมชาติ) มนุษย์กลับยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวตน ข้าเป็นทุกข์ ฯลฯ ก็จึงฝืนสภาพธรรม เมื่อขัดฝืนสภาวะของมันจึงมองไม่เห็นธรรม ที่ไม่เห็นธรรม เพราะตนไม่มองตามที่มันเป็นของมัน ฯลฯ เอาพอเห็นเค้าก่อนเดี๋ยวยาว :b1: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 25 ส.ค. 2010, 08:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามปกติ มนุษย์มีความโน้มเอียงที่จะยึดถืออยู่เสมอว่า ตัวตนที่แท้ของตนมีอยู่ในรูปใดรูปหนึ่ง บ้างก็ยึด

เอาจิตเป็นตัวตน บ้างก็ยึดว่ามีสิ่งที่เป็นตัวตนอยู่ต่างหากแฝงซ้อนอยู่ในจิตนั้น ซึ่งเป็นเจ้าของ

และเป็นตัวการที่คอยควบคุมบังคับบัญชากายและใจนั้นอีกชั้นหนึ่ง

การแสดงขันธ์ 5 มุ่งให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่า สัตว์ บุคคลเป็นต้นนั้น เมื่อแยกออกไปแล้วก็จะพบแต่

ส่วนประกอบ 5 ส่วนเหล่านี้เท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นเหลืออยู่ที่จะมาเป็นตัวตนต่างหากได้ และแม้ขันธ์ 5

เหล่านั้นแต่ละอย่างก็มีอยู่เพียงในรูปที่สัมพันธ์เนื่องอาศัยกันไม่เป็นอิสระ ไม่มีโดยตัวของมันเอง

ดังนั้นขันธ์ 5 แต่ละอย่างๆ นั้นก็ไม่ใช่ตัวตนอีกเช่นกัน

รวมความว่า หลักขันธ์ 5 แสดงถึงความเป็น อนัตตา ให้เห็นว่าชีวิตเป็นการประชุมเข้าของส่วนประกอบ

ต่างๆ หน่อยรวมของส่วนประกอบเหล่านี้ ก็ไม่ใช่ตัวตน

ส่วนประกอบแต่ละอย่างๆนั่นเอง ก็ไม่ใช่ตัวตน และสิ่งที่เป็นตัวตนอยู่ต่างหากจากส่วนประกอบเหล่านี้

ก็ไม่มี * เมื่อมองเห็นเช่นนี้แล้วก็จะถอนความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องตัวตนได้

ความเป็น อนัตตา นี้ จะเห็นได้ชัดต่อเมื่อเข้าใจกระบวนการของขันธ์ 5 ในวงจรปฏิจจสมุปบาท

เมื่อเห็นขันธ์ 5 มีอยู่อย่างสัมพันธ์และอาศัยซึ่งกันและกัน ก็จะไม่เกิดความเห็นผิดว่าขาดสูญ ที่เรียกว่า

อุจเฉททิฐิ และความเห็นผิดว่าเที่ยง เรียกว่า สัสสตทิฐิ

* ดู สํ.ข.17/4-5,32-33 ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชีวิตประกอบด้วยขันธ์ 5 เท่านั้น ไม่มีสิ่งใดอื่นอีกนอกเหนือจากขันธ์ 5 ไม่ว่าจะแฝงอยู่ในขันธ์ 5

หรืออยู่ต่างหากจากขันธ์ 5 ที่จะมาเป็นเจ้าของหรือควบคุมขันธ์ 5 ให้ชีวิตดำเนินไป

ในการพิจารณาเรื่องชีวิต เมื่อยกเอาขันธ์ 5 ขึ้นเป็นตัวตั้งแล้ว ก็เป็นอันครบถ้วนเพียงพอ

ชีวิต เป็นกระบวนการที่ดำเนินไปตามกฎแห่งปฏิจจสมุปบาท คือมีอยู่ในรูปกระแสแห่งปัจจัยต่างๆ

ที่สัมพันธ์เนื่องอาศัยสืบต่อกัน ไม่มีส่วนใดในกระแสคงที่อยู่ได้ มีแต่การเกิดขึ้นแล้วสลายตัวไป

พร้อมกับที่เป็นปัจจัยให้มีการเกิดขึ้นแล้วสลายตัวต่อๆไปอีก

ส่วนต่างๆสัมพันธ์กัน เนื่องอาศัยกัน เป็นปัจจัยแก่กัน จึงทำให้กระแสหรือกระบวนการนี้ดำเนินไป

อย่างมีเหตุผลและคุมเป็นรูปร่างต่อเนื่องกัน

ในภาวะเช่นนี้ชีวิตจึงเป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อยู่ในภาวะแห่งอนิจจตา ไม่เที่ยง ไม่คงที่

อนัตตา ไม่มีส่วนใดที่มีตัวตนแท้จริงและไม่อาจยึดถือเอาเป็นตัวตนได้ ทุกขตา ถูกบีบคั้นด้วยการเกิด

ขึ้นและสลายตัวอยู่ทุกขณะ และพร้อมที่จะก่อให้เกิดทุกข์ได้เสมอ ในกรณีที่มีการเข้าไปเกี่ยวข้อง

ด้วยความไม่รู้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 23:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
รวมความว่า หลักขันธ์ 5 แสดงถึงความเป็น อนัตตา ให้เห็นว่าชีวิตเป็นการประชุมเข้าของส่วนประกอบ

ต่างๆ หน่อยรวมของส่วนประกอบเหล่านี้ ก็ไม่ใช่ตัวตน

ส่วนประกอบแต่ละอย่างๆนั่นเอง ก็ไม่ใช่ตัวตน


สาธุ.. :b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 25 ส.ค. 2010, 23:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความยึด..ต่อตัวเรา..ไวปานว่อก

ถูกตบ..เปี๊ยะ...มึ.ตบกู

ไวอย่างนี้..จะแกะงั้ยทัน :b7: :b7: :b7:


โพสต์ เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 01:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เอรากอน เขียน:
ลูกโป่ง เขียน:
:b1: มานั่งฟังด้วยคนค่ะ...เพื่อนๆ
เอาน้ำมะนาวมาฝากค่ะ :b36:

:b48: ระลึกถึงค่ะ :b48:


รูปภาพ


:b20:

แจ๊บ...แจ๊บ...
เปรี๊ยววววว...ปาก...


:b20:
ลูกโป่ง วิ่งได้ยัง ถ้าวิ่งได้แล้วจะชวนลูกโป่งกะยายมัท ไปกินปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน ชมทะเลหมอกที่บ้านเอกอน
ยายทักไม่กล้าชวน กลัวใจป้ำบินตรงจากอเมริกามาเมืองไทย :b12:
พี่ธรรมบุตรไม่ชวน แต่จะชวนเจ้าช๊อคโกแลค อิ อิ
เห็นภาพถ่ายแล้วอยากจับมาฟัด อิ อิ
กะเจ้านมข้นหวาน ของท่านอิคคิวซัง อิ อิ จริง ๆ จำไม่ได้ว่าตัวไหนของใครกันแน่
ที่แน่ ๆ บ้านเอกอนก็มีตัวนึง เจ้า "โอเลี้ยง"

คุณตา ไม่ชวน จะทำปาโก๋ จิ้มนมข้นหวาน ให้ยายมัทกิน แล้วถ่ายรูปไป ยั่วน้ำลาย
อิ อิ ให้กิเลสป๋าดิ่ดี๋ร้อนละอุ จนหิมะ ละลาย
นี่ก็ใกล้จะต้องเผชิญหน้ากับหิมะอีกรอบแล้ว คุณตาอย่าลืม ยกดัมพ์เบลล์บริหารร่างกายไว้รอนะ
เมื่อถึงเวลางานเข้าจริง ๆ จะได้ ชิลล์ ชิลล์

ท่านอ๊บ อ๊บ ไม่ชวน เพราะเดี๋ยวมาเจอ อ๊บ อ๊บ ที่บ้านเอกอนแล้วจะ :b22:


:b15: หวัดดีจ้า หนูเอรากอนและกัลยาณมิตรทุกท่าน

ลูกโป่งเคยเจอยายมัทแล้ว ยายไปเยี่ยมลูกโป่งที่โรงพยาบาล
มีแต่หนูเอรากอนนี้แหละ ที่ชอบเล่นซ่อนหา
วิ่งตามก็ไม่ทัน...แง แง

ตอนนี้ลูกโป่งวิ่งแล้วจ้ะ แต่ได้นิดหน่อย
ลูกโป่งไปออกกำลังกายที่ fitness แล้ว
เหมือนเกิดใหม่เลยจ้ะ
แทบไม่มีใครรู้ว่า...เดินไม่ได้ตั้งนาน
ก็พยายามรักษาสุขภาพทั้งกายและใจ
เดินจงกรม นั่งสมาธิทุกวันไม่ได้ขาด ตั้งแต่เข้าพรรษามา
แล้วก็พยายามตั้งใจทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
พยายามมีสติกับสิ่งที่ทำจ้ะ
เพราะร่างกายนี้เราได้กลับมาแล้ว
ก็อย่าประมาท....ต้องรีบทำความดี
เวลาผ่านไปแล้ว เรียกคืนไม่ได้เลย

:b16: สวัสดีย่าทัก คุณปริตา คุณกรัชกาย คุณกบฯ

:b1: ดีใจที่มีคุณครูกรัชกาย คุณครูกบฯ มาช่วยสอนธรรมะ
ขอฟังแล้ว นำไปพิจารณาเพิ่มเติมในสิ่งที่ขาดค่ะ
สาธุและขอบคุณมากๆนะคะ
ขอมานั่งฟังดึกๆ
เพราะช่วงนี้งานเข้า มีแต่งานด่วน กับด่วนที่สุดจ้ะ
ทุกท่านสบายดีนะคะ

:b29: ลูกโป่งไปนอนก่อนนะ...ฝันดีนะคะ :b30:

:b48: รักและคิดถึงค่ะ :b48:

ลูกโป่งเอง

รูปภาพ


โพสต์ เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 01:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้หายเป็นปกติไวไว..นะครับ :b20: :b20:

อยากมีฤทธิ์..เสกให้ลูกโป่ง..หายจัง :b6: :b6: :b6:


โพสต์ เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 03:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กรัชกาย เขียน:
ในภาวะเช่นนี้ชีวิตจึงเป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อยู่ในภาวะแห่งอนิจจตา ไม่เที่ยง ไม่คงที่

อนัตตา ไม่มีส่วนใดที่มีตัวตนแท้จริงและไม่อาจยึดถือเอาเป็นตัวตนได้ ทุกขตา ถูกบีบคั้นด้วยการเกิด

ขึ้นและสลายตัวอยู่ทุกขณะ และพร้อมที่จะก่อให้เกิดทุกข์ได้เสมอ ในกรณีที่มีการเข้าไปเกี่ยวข้อง

ด้วยความไม่รู้


ทุกครั้งที่เกิดทุกข์....พอรู้ว่ากำลังถูกความทุกข์เกาะกินอยู่
ก็จะคิดว่า....ไม่ต้องทำอะไร....ดูเฉยๆ รู้เฉยๆ เดี๋ยวความทุกข์ก็จะแปรเปลี่ยนไปเอง
สลายไปเอง ทุกข์ก็ไม่จริง สุขก็ไม่จริง.....วางอย่างนี้พอจะใช้ได้ไหมค่ะ?

อนุโมทนาค่ะท่าน :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 1672 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 91, 92, 93, 94, 95, 96, 97 ... 112  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร