วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 22:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 11:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2012, 05:45
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ ผู้เจริญในธรรม ทุกท่าน

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาและคิดจะพึ่งพาธรรมะ ให้จิตใจสงบ และ ไม่เป็นทุกข์ ขออนุญาตเล่าเรื่อง

ที่ประสบมา คือ ผมตกลงเป็นแฟน กับน้องคนนึงในที่ทำงานเดียวกัน ซึ่งผมก็ดูแลเธอด้วยดีมาตลอด

เท่าที่ผมจะสามารถทำให้เธอได้ แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ หลังๆก็เริ่มที่จะทะเลาะกัน เพราะความคิด

บางอย่าง ไม่ตรงกัน เช่น เธอมักน้อยใจว่าผมน้อยลง ปฎิบัติกับเธอไม่เหมือนเดิม ผมพูดแบบไม่เข้าข้าง

ตัวเองครับ ผมน้อยลงจริงครับ ถ้าเทียบกับตอนที่จีบน้องเค้า เช่น การพูดคำหวานๆ แบบจีบๆ แต่การกระ

ทำอื่นๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม เช่น ทานข้าว ไปรับ ไปส่งเธอ บ้านเธอไกลมาก ผมต้องตื่นตีห้าทุกวัน เพื่อ

ไปรอรับ วันหยุดก็พาไปเที่ยว ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ผมยังส่งเพลงรักๆ ไปให้ในโอกาศต่างๆ ง้อ

เธอเสมอ ไม่เคยโกหก ไม่เคยออกนอกลู่ นอกทาง ผุ้หญิงหรือน้องๆ ผุ้หญิงที่ทำงาน ที่ผมรู้จัก ถามว่ามี

แฟนแล้วหรือยัง ผมกล้าตอบได้ ว่ามีแล้ว ครับ คนนี้แฟนผม ครับ

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็คือ ทางบ้านโทรเข้ามือถือผม บอกว่า คุณป้าผมเสียแล้ว ซึ่งท่านเป็นคุณป้าที่

ผมเคารพ รักมาก เพราะท่านดูแลครอบครัวผม ตั้งแต่คุณพ่อผมเสียไป ผมเสียใจมาก ร้องให้ แบบไม่

อายใคร ผมขอลากลับก่อน เพื่อไปวัด เมื่อจบงานวันนั้น ผมแทบหมดเรี่ยวแรง แล้วเธอก็โทรเข้ามา

เธอทราบว่าคุณป้า ผมเสีย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แต่ถามว่า งานใหม่ที่เธอจะสมัคร ยังไม่เรียบร้อย

จะทำยังไง ผมโมโห เลย ตะคอกเธอไป ว่า ห่วงแต่ตัวเอง ทำไมไม่สนใจว่าพี่จะเป็นอย่างไรบ้าง

เลิกกันไปดีกว่าไหม ถ้าคิดจะห่วงแต่ตัวเอง ผมพูดไปด้วยอารมณ์ เธอโมโห กระแทกหูใส่ผม

วันรุ่งขึ้น ผมรีบจัดการเรื่องการสมัครงานให้เธอ ตอนบ่ายก็รีบลาไปวัด แต่ผมคิดว่าเธอ โกรธผมอยู่

วันหลังค่อยง้อ แล้วพอจบงานสวด ผมก็นั่งรถมอเตอร์ไซด์ ไปซื้อ หมูสเต๊ะ ที่เธอชอบ พร้อมขอโทษ

แต่เธอไม่ให้อภัย เธอบอกว่าจบแล้ว ผมก็มึนๆ แต่ไม่พูดอะไรก็กลับบ้านไปโดยดี ตลอดมาจน19 วัน

ผมง้อเธอทุกวิธีทาง ขนาดเอาปากกาวาดหน้าตัวเอง ให้ตลก แล้ว ร้องเพลง ขอโทษ ส่งเป็น คลิปให้

เธอ แต่ก็ไม่มีวี่แวว เธอจะอภัย ผมเลยเข้าใจว่า ผมเป็นคนไม่ดี ทำร้ายเธอ ให้เธอเสียใจ โทษว่าตัวเอง

ต่างๆนาๆ เพราะผมเอง เธอถึงจากไป จนวันนึง ผมออกจากบ้านไปที่ทำงาน เช้ากว่าปกติ สิ่งที่ผมเห็น

คือ แฟนผมนั่งรถมากับผู้ชาย ซึ่งทำงานที่เดียวกับผม มาส่ง ที่บาดใจคือ ทั้งสองเมื่อเห็นผมต่างตกใจ

รีบหนีผมไปแบบ ชนิด คนกลัวความผิด ผมจึงถามเธอตรงๆ ว่า ที่ผ่านมา คือ เธอมีคนนี้เหรอ ที่ไม่คืนดี

เพราะเธอมีคนอื่นแล้วใช่ไหม ไม่ต้องเดา ผมว่าท่านก็รู้ ผุ้ชายคนนี้ หน้าตา และ ฐานะดีกว่าผม แต่ที่

ผมกลัว คือ ผุ้ชายคนนี้ ผมพอรู้จัก มักชอบจีบ สาวๆ ที่เข้ามาใหม่ๆ ผมไม่ชอบการกระทำแบบนั้น

แต่ผมไม่รู้ว่าทำไม แฟนผมไปชอบได้ ตอนแรกผมอยากจะทำร้ายสองคนนี้มาก ที่มาหลอกได้

แต่เพราะผมมี แม่ และ น้อง และที่สำคัญ ผมได้ฟัง ธรรมะ จึงทำให้ใจสงบขึ้น และ อโหสิกรรมให้ แต่

พอหยุดฟัง หรือ ต้องอยู่คนเดียว จิตใจก็ตกต่ำ คิดวนไปวนมา เพราะ ทุกวันผมต้องเจอ สองคนนี้ เดิน

ไปมาด้วยกัน ผมจึงควรทำอย่างไรดีครับ เพื่อให้จิตใจสงบได้ โดยไม่รู้สึกที่ต้องขมขื่นแบบนี้ ขอให้ท่าน

ผู้เจริญธรรม ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยครับ

ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาชนะธรรมทาน เขียน:

ผมมี แม่ และ น้อง และที่สำคัญ ผมได้ฟังธรรมะ จึงทำให้ใจสงบขึ้น และ อโหสิกรรมให้ แต่

พอหยุดฟัง หรือ ต้องอยู่คนเดียว จิตใจก็ตกต่ำ คิดวนไปวนมา เพราะ ทุกวันผมต้องเจอ สองคนนี้ เดิน

ไปมาด้วยกัน ผมจึงควรทำอย่างไรดีครับ เพื่อให้จิตใจสงบได้ โดยไม่รู้สึกที่ต้องขมขื่นแบบนี้



ที่ความคิดวนไปวนมา เพราะไม่ปล่อยมันไป ไปเหนี่ยวรั้งมันเอาไว้
เราควรดูความรู้สึกนึกคิดอย่างผู้ศึกษา รู้แล้วปล่อย...อ้อ..รู้แล้ว มันเป็นยังงี้เอง ปล่อยความคิดขณะนั้นไป ความคิดใหม่ปรากฏอีก อ้อ...มันเป็นยังงี้เอง...ปล่อย

จขกท. พิจารณาตัวอย่างนี้

อ้างคำพูด:
ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดมา
นั่งดูความคิดในหัวไปเรื่อยๆตั้งสติดูว่ามีเรื่องอะไรผ่านเข้ามาบ้าง
อดทนผ่านไปซักประมาณ3-4วัน เสียงต่างๆในหัวค่อยๆลดลงไปเอง
จนในที่สุดมันจะเงียบสนิทเลยค่ะ ไม่มีอะไรสุขเท่าความสงบจริงๆ เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้

หลังจากนั้นนั่งสมาธิทุกวันตอนเย็น
เราทำแล้วสังเกตว่า เรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาแล้วกระทบใจเราทั้งที่พอใจและไม่พอใจ
มันคงติดค้างตกตะกอนอยู่ในใจเรานี่แหละ ไม่ได้หายไปไหนเลย

นั่งสมาธิตอนค่ำ
เรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆใน"ระหว่างวัน" ผ่านเข้ามาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง
บางทีเรียงลำดับมาตามความหนักเบาของเหตุการณ์
บางทีเรียงมาตามลำดับเวลามาเลย ตอนเย็น ตอนเที่ยง จนถึงตอนเช้า
บางเรื่อง"เล็กๆน้อย"ระหว่างวันไม่คิดว่าใจมันยังเก็บเอาไว้ได้

ตั้งสตินั่งดูไปเรื่อยๆเหมือนได้ทำความสะอาดล้างสิ่งสกปรกออกจากใจ"ทุกวัน"เลยค่ะ
และที่สำคัญอีกเรื่องคือเราได้รู้จักตัวเราเองมากขึ้น
โดยดูจากเรื่องที่เราเก็บมาคิดนี่แหละ มีปัญหามัวแต่โทษคนอื่น ตัวเราเองก็ใช่เล่น

เคยอ่านเรื่อง เมื่อหัวถึงหมอน ของนายตำรา ณ เมืองใต้ แบบเรียนสมัยมัธยม
ที่บอกว่าเราอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทุกวัน แต่ไม่เคยได้ทำความสะอาดจิตใจตัวเองเลย
ท่านสอนให้สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน เพื่อชำระล้างจิตใจตัวเอง
เราไม่ค่อยได้ทำจนโตขึ้น เจอปัญหาต่างๆ ภาระรับผิดชอบเพิ่มขึ้นตามวัย
พอลองนั่งทำทุกวัน รู้สึกใจเบาสบายขึ้นกว่าเดิมมาก
เข้าใจเลยว่า "ชำระล้างจิตใจ"ตัวเองเป็นยังไง

พระพุทธองค์ทรงสอนให้
ละเว้นความชั่ว
ทำความดี
ทำจิตใจให้ผ่องใส
พอเราชำระพวกสิ่งตกค้างตะกอนในจิตใจเราออก
ใจเราก็โปร่งเบาสบายผ่องใส

สองอันแรกเข้าใจแต่สงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าทำจิตใจให้ผ่องใสนี่ "ทำยังไง"
ศาสนาพุทธลงมือปฏิบัติจริง เห็นผลจริงได้ด้วยตัวเองจริงๆ

มันเหมือน ได้ "หยุด" ตัวเองไว้ในช่วงเวลาหนึ่ง
ได้มีเวลาตั้งสติทบทวนเรื่องราวต่างๆ
บางทีคำตอบของปัญหาที่ค้างคาใจมานานมัน "ผุดขึ้นมา" ตอนนั่งสมาธินี่แหละค่ะ
คิดถึงการ์ตูนที่เคยดูมาตั้งแต่เด็ก เรื่อง "อิดคิวซัง" เลย เวลามีปัญหาต้อง "ใช้หมองนั่งมาธิ"
ไม่คิดว่า "ชีวิตจริง" เราก็ต้องทำเหมือนท่านอิดคิวนี่แหละ


เสียดายวันเวลาในชีวิตที่ผ่านมาที่ไม่เคยให้เวลากับธรรมะเลย
ทั้งๆที่เราว่ามันน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนคนนึงทีเดียว

เราเริ่มรู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธองค์ทรงค้นพบอะไร และทรงต้องการจะบอกอะไรพวกเรา
คำสอนของพระพุทธองค์ เป็นที่พึ่ง กำจัดภัยได้จริง เหมือนในบทสวดมนต์ว่าไว้จริงๆค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเป็นคนกตัญญู :b1: ไม่นานคงมีคนที่มีอุปนิสัยมีทัศนคติมองโลกและชีวิตใกล้เคียงกันเข้ามาผูกพัน





ไม่แน่นัก แฟนเก่าอาจร้องไห้กลับมาขอคืนดีก็ได้ เพราะชายคนใหม่เป็นอย่างที่คุณพอรู้จัก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 13:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่ดีและไม่ดี (กุศล อกุศล) หากย้ำนึกย้ำคิดบ่อยๆ จะมีลักษณะวนไปวนมาดังนี้


อ้างคำพูด:
พักนี้จิตมักจะคิดถึงเสียงสวดมนต์ บางทีเดินไปเปิดตู้เย็นเงียบๆ ก็จะคิดถึงเสียงสวดมนต์ ถ้าหากไม่คุยกับใคร ก็จะคิดถึงเสียงสวดมนต์ทันที เช่น บางทีก็ขึ้นต้นว่า ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุดรอบ ชีวิตังเม.... บางที ก็พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด เป็นพระอรหันต์

บางทีคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้จำได้

อยากให้จิตจำพุทโธได้แบบนี้บ้าง แต่ก็ไม่จำ


แต่บางทีเจ้าตัวไม่พอใจนะ ดังรายนี้ จิต (นามธรรม) คิดอย่างนั้นบ่อยๆ ไม่พอใจ อยากให้คิด
พุทโธบ้าง แต่บางคนจิตติดพุทโธๆๆ เบื่ออยากให้ติดสัมมาอรหังบ้าง... :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 17:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 16:34
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้ามาให้กำลังใจค่ะ สู้ สู้ นะคะ เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 18:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 19:21
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: :b41: ถ้ามีบุญสัมพันธ์ต่อกันแค่นั้นทำอย่างไงก็รั้งไว้ไม่อยู่
ปล่อยไปเถอะ รอคนที่มีบุญสัมพันธ์กับคุณคนต่อไป อย่าไปใส่ใจมากนัก
คนต่อไปอาจจะดีกว่าคนเก่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 19:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2012, 05:45
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมขออนุโมทนา ธรรมทาน ที่มีให้แก่ผม ต่อผู้เจริญในธรรมครับ

ผมทราบครับ ว่า ต้องปล่อยวาง และรู้ทันใจตนเอง แต่มันยากมากครับ เพราะผมยังต้องเจอ

สองคนนี้ ตอนมาทำงาน ทุกคนที่ทำงาน ให้กำลังใจครับ ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังสักเท่าไหร่ แต่ทุกคนเค้าเห็น ว่าแฟนผมไปกับ

คนอื่น แม้ผู้ใหญ่ในองค์กร ก็มาถามไถ่ เพราะรู้ว่าเราทุกข์ เพียงแต่ไม่แสดงออก ร้องป่าว ว่าทุกข์ จนตอนนี้ มันล้นๆ มาก

ผมคงตัดใจได้ง่าย หากไม่ต้องเห็น มันจุกที่คอทุกครั้ง ผมคิดว่า คงเพราะ อดีต ผมคงทำเธอให้แสนสาหัส เช่นกัน

ผมอยากลอง นั่งสมาธิ และ ภาวนา ดู แต่ไม่รู้มันจะช่วยลดทุกข์ ได้ไหมครับ ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2012, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาชนะธรรมทาน เขียน:
ผมขออนุโมทนา ธรรมทาน ที่มีให้แก่ผม ต่อผู้เจริญในธรรมครับ

ผมทราบครับ ว่า ต้องปล่อยวาง และรู้ทันใจตนเอง แต่มันยากมากครับ เพราะผมยังต้องเจอ

สองคนนี้ ตอนมาทำงาน ทุกคนที่ทำงาน ให้กำลังใจครับ ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังสักเท่าไหร่ แต่ทุกคนเค้าเห็น ว่าแฟนผมไปกับ

คนอื่น แม้ผู้ใหญ่ในองค์กร ก็มาถามไถ่ เพราะรู้ว่าเราทุกข์ เพียงแต่ไม่แสดงออก ร้องป่าว ว่าทุกข์ จนตอนนี้ มันล้นๆ มาก

ผมคงตัดใจได้ง่าย หากไม่ต้องเห็น มันจุกที่คอทุกครั้ง ผมคิดว่า คงเพราะ อดีต ผมคงทำเธอให้แสนสาหัส เช่นกัน

ผมอยากลอง นั่งสมาธิ และ ภาวนา ดู แต่ไม่รู้มันจะช่วยลดทุกข์ ได้ไหมครับ ?


สวัสดีค่ะ คุณจขกท

จากที่ถาม ช่วยได้แน่นอนค่ะ ถ้าคุณปฏิบัติถูก ผลย่อมถูกตรงค่ะ กล่าวคือต้องครบทั้ง 3 กาล
ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
การภาวนา (การบำเพ็ญ) เป็นการอบรมกายและใจเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญาเห็นแจ้ง (เห็นตามความเป็นจริงของโลกและชีวิต) ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา

"ทุกข์" คือความผันแปรบีบคั้นกระทบกระแทก

ทุกข์มีไว้เพื่อกำหนดรู้ กล่าวคือเรามีหน้าที่รู้จักมัน รู้ทันมัน เรียกว่า "ปริญญา" ทุกข์นั้นเป็นตัวปัญหา เป็นปรากฏการณ์ ท่านเปรียบเหมือนกับ "โรค" การจะกำจัด "โรค" ได้ต้องกำจัดที่สาเหตุของโรค
คือ "สมุทัย" สมุทัยนี้แหละเป็นตัวที่ต้องแก้หรือกำจัด ดังนั้นหน้าที่ต่อสมุทัยเรียกว่า "ปหานะ"

ถ้าคุณสนใจ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หนังสือ พุทธธรรม ค่ะ

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2012, 11:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2012, 05:45
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมรู้สึกดีขึ้นมากครับ เริ่มที่จะนิ่งและไม่ทุกข์มากเท่าเดิม เมื่อเริ่มคิด ผมก็จะคิดแค่แว่บเดี๋ยวแล้วหยุด เอา

เวลามาฟังธรรมะ จะได้ไม่คิดฟุ้ง แล้วพอเริ่มได้ฟังและพยายามทำความเข้าใจ สมองก็จะบอกว่า อ้อ เรา

เป็นแบบนี้นี่เอง ต้องรู้ให้ทัน ผมทำวนไปมาอย่างนี้มาตลอด และ ผมได้อ่านกระทู้ หลายๆท่านในที่นี้ ผู้มี

ความทุกข์ เพราะรักไม่สมหวังเหมือนกัน ซึ่งบางคนแสนสาหัสกว่าผมมากนัก เค้ายังพยุงชีวิตของเค้าได้

เลย แล้วผมจะมัวเสียเวลาทำไม ในเมื่อมีทุกอย่างให้เรียนรู้ ผมยังมี คุณแม่ มีน้อง มีอาชีพเลี้ยงตน มีทุก

คนในบอร์ดแห่งนี้ และ เพื่อนๆ พี่ ๆ ที่ทำงาน และมีธรรมะให้ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ขอบพระคุณ คุณ กรัชกาย สำหรับข้อคิดดีๆ กำลังใจ และ เพลงเพราะมากครับ :)

คุณ พินพิน สำหรับกำลังใจครับ :)

คุณ khunthod สำหรับคำแนะนำที่ดีครับ :)

คุณ ปลีกวิเวก สำหรับวิธี เจริญภาวนา และ การทำสมาธิ ผมจะไปหามาศึกษาดูครับ :)

ต่อไปผมจะเวียนมาอีกบ่อยๆในบอร์ดแห่งนี้ครับ หวังว่าทุกคนจะมีชีวิตที่พบความสุขที่แท้จริง

ขอบพระคุณครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร