วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 04:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 10:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 21:40
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ปกติคือมีเพื่อนพักด้วยเป็นกลุ่มอยู่แล้วแต่ก็ไม่สนิทกันมาก เวลาพักเหลือเวลาเดินด้วยกันก็ไม่มีใครที่ชวนเราคุยด้วย ตัวเราเองก็นึกไม่ออกว่าจะคุยอะไร ก็เลยรู้สึกเหงาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ทั้งยังมีเพื่อนบางคนคอยปล่อยข่าวลือ เพื่อนส่วนใหญ่ตีตัวออกห่าง ทำให้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่และทำให้การเรียนและสุขภาพถดถอยลงไปด้วย และดูเหมือนคนที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องแถมยังมืดมนอีกต่างหาก และบางครั้งก็คิดว่าเราไม่น่ามีชีวิตอยู่เลย...(บางครั้งก็คิดว่าอาจจะเป็นกรรมเก่าก็ได้ TT)

ปัญหานี้แก้ยังไงดีคะ อยากมีเพื่อนที่สนิทดีๆซักคน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 13:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


Mamoncake เขียน:
ปกติคือมีเพื่อนพักด้วยเป็นกลุ่มอยู่แล้วแต่ก็ไม่สนิทกันมาก เวลาพักเหลือเวลาเดินด้วยกันก็ไม่มีใครที่ชวนเราคุยด้วย ตัวเราเองก็นึกไม่ออกว่าจะคุยอะไร ก็เลยรู้สึกเหงาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ทั้งยังมีเพื่อนบางคนคอยปล่อยข่าวลือ เพื่อนส่วนใหญ่ตีตัวออกห่าง ทำให้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่และทำให้การเรียนและสุขภาพถดถอยลงไปด้วย และดูเหมือนคนที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องแถมยังมืดมนอีกต่างหาก และบางครั้งก็คิดว่าเราไม่น่ามีชีวิตอยู่เลย...(บางครั้งก็คิดว่าอาจจะเป็นกรรมเก่าก็ได้ TT)

ปัญหานี้แก้ยังไงดีคะ อยากมีเพื่อนที่สนิทดีๆซักคน

มีความรู้สึกตัวว่า เพื่อนตีตัวออกห่างทำให้รู้สึกแย่ อันนี้ถือว่า ยังมีความคิดรู้สึกสังเกตกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ค่อนข้างไม่มืดมนเหมือนอย่างที่บอกนะครับ การที่เพื่อนเขาตีตัวออกห่าง คำว่า ตีตัวออกห่างนี้ เขาห่างเหินอย่างไร เขาทำตัวออกห่างเอง หรือว่าเขาทำให้เราออกห่างมาอีก ถ้าเขาออกห่างมาเองอันนี้ก็อย่างบังคับกันเลย หากว่า เรามิได้เป็นต้นเหตุทำให้ถึงกับทำเพื่อนรับไม่ได้ แต่ถ้าเขาทำให้เราต้องออกห่าง ถ้าคิดว่า ดีแล้ว ก็อย่าคิดมากครับ ขอให้อยู่กับสิ่งดีๆ แล้วเพื่อนที่ดีก็คงจะมีเองแหละครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2012, 13:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าด้วยสิ่งดีๆสิ่งดีๆ ตามความหมายที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งดีที่ตีความหมายได้หลายความหมาย หลายแง่ ทั้งในเรื่องภายในและภายนอก ไม่ว่า ความสุข ความโสมนัส เป็นต้น อันเป็นสิ่งดีในภายใน หรือ สถานที่ดี ประเทศดี บ้านเมืองดี ครอบครัวดี เป็นต้น อันเป็นสิ่งดีภายนอก แต่สิ่งดีที่กล่าวมานี้จะดีมากน้อยอย่างไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งดีๆอันมีอยู่ในตัวในจิตใจของแต่ละบุคคลได้ สิ่งดีๆ ที่สำคัญดั่งว่ามานี้ก็คือ ดีทางกาย ดีทางวาจา ดีทางใจ... ดีทางกายก็หมายความว่า ไม่ทำร้ายมนุษย์สัตว์ทั้งหลาย ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่ประพฤติผิดธรรม ไม่มีโทษทางวาจา ไม่ดื่มเสพของมึนเมาอันบั่นทอนสติปัญญา เป็นต้น นี้คือดีทางกาย ...ดีทางวาจาหมายความว่า ไม่พูดเท็จ คำหยาบ คำส่อเสียด คำเพ้อเจ้อ เป็นต้น นี้คือดีทางวาจา... ดีทางใจหมายความว่า คิดไม่พยาบาทเขา คิดไม่โลภอยากได้ของเขา คิดดำริออกจากกาม เป็นต้น นี้คือดีทางใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2012, 00:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2011, 17:35
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนที่เราจะได้รับ เราลองเป็นผู้ให้ก่อนสิคะ รอยยิ้ม ไมตรี ความช่วยเหลือ ยิ้มโดยไม่หวังยิ้มตอบ ดูสิว่ายิ้มอย่างจริงใจสัก 10 คนจะไม่มีรอยยิ้มที่เป็นมิตรกลับมาเลยเหรอ ค่อยๆทำไปจ๊ะ สำหรับพี่การได้รับน้ำใจจากใครที่เราไม่รู้จัก หรือไม่สนิท พี่จะประทับใจมาก :b1: ยิ้มไว้คะน้อง

.....................................................
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนดีมากมาย เป็นแค่คนที่อยากทำความดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2012, 07:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองหันกลับมาดูตัวเราเองก่อนค่ะว่า เรามีนิสัยหรือข้อบกพร่องที่ไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า จึงทำให้เพื่อนไม่เข้าใกล้ หรือเพื่อนมีนิสัยบางอย่างที่เรารับไม่ได้ เราจึงออกห่าง ต้องดูกันที่ต้นเหตุก่อนค่ะ

ถ้าเป็นที่ตัวเรา ปรับปรุงตัวก่อนดีมั้ยคะ มีน้ำใจไมตรีให้เพื่อนก่อน ให้สิ่งดีๆกับเค้า สักวันเพื่อนคงเห็น แต่พี่อยากเตือนว่า การมีเพื่อนแค่คนเดียวแต่เป็นเพื่อนตาย ช่วยแบ่งปันความทุกข์ความสุขได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ย่อมดีกว่ามีเพื่อนเยอะเป็นสิบ แต่หาความจริงใจด้วยไม่ได้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2012, 11:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 21:40
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะคะ หนูได้รับความคิดในหลายๆแง่ จะลองนำไปใช้ดูค่ะ Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 23:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเกิดมาพูดไม่เก่งคุยไม่นุก ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ ใครๆก้บอกว่าเราหยิ่งไม่ยอมพูดทั้งๆที่ในใจเราอยากจะพูดเต็มที แต่ก็คิดไรไม่ออก บางคนแนะนำว่าพูดไม่เก่ง ให้ยิ้มไว้เจอใครให้ยิ้มไว้เราก้ทำตาม เราก็พยายามยิ้ม กลับถูกล่าวว่าเราพูดไม่เป็นยิ้มอย่างเดียว เป็นบ้าหรือป่าว นี้เหละชีวิตคนๆหนึ่งที่ต้องอยู่แบบนี้มา20กว่าปีแล้ว และคงต้องอยู่แบบนี้ไปจนตาย

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2012, 00:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวผมเอง ก็มีทั้งช่วงที่รู้สึกว่าไม่มีเพื่อน รู้สึกแปลกแยก หรือช่วงที่มีเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มๆ มีทั้งคนรัก และชัง ผู้คนผ่านมาและผ่านไปมากหน้าหลายตา ไม่ได้ยั่งยืนอะไร

การมัวแต่เสียเวลาท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ชีวิตเป็นของสั้น เป็นของน้อย แสนจะเปราะบาง เกิดมาชาติหนึ่งเป็นมนุษย์ ไม่นานก็ตาย ควรที่จะทำสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่า แม้เป็นสิ่งที่เล็กน้อยก็พึงทำ การได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐ นับเป็นโชคดี เป็นลาภของเราทั้งหลาย ได้รู้สิ่งใดเป็นกุศล สิ่งใดเป็นอกุศล สิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดไม่เป็นประโยชน์ สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไ่ม่ควรทำ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการได้รู้ความจริง กัลยาณมิตรที่ประเสริฐสุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งที่พระองค์สอน ล้วนเป็นคำจริง มีประโยชน์ ซึ่งผู้ที่ได้รู้ตามได้ประพฤติตามย่อมประสบความสุขความเจริญสิ้นกาลนาน หากท่านมีศรัทธา ก็ขอให้สดับฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเถิด พุทธวัจนะทั้งหลายเหล่านั้นย่อมสามารถปลดเปลื้องความทุกข์ให้กับท่านได้

พุทธศาสน์

สัพพะปาปัสสะ อะกะรณัง การไม่กระทำบาปทั้งปวง
กุสะลัสสูปะสัมปะทา การยังกุศลให้ถึงพร้อม
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง การทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
เอตัง พุทธานะสาสะนัง นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2012, 12:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2012, 15:49
โพสต์: 20

ชื่อเล่น: ทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนเป็นเด็ก ความรู้สึกหงอยเหงา ขาดเพื่อนมักเกิดจากความไม่เข้าใจวิธีการในสังคม เช่นการเป็นคนที่น่าสนใจทำอย่างไร ทำตัวให้เพื่อนรู้สึกสบายใจที่จะคบหาด้วยทำอย่างไร (มีข้อเขียนแนะนำเรื่องเหล่านี้เยอะเลย ลองหาอ่านดูครับ) แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ความรู้สึกหงอยเหงามักเกิดจากความไม่เข้มแข็งของจิตใจ เพื่อนไม่สู้สำคัญนัก ความเหงาเกิดจากการขาดเป้าหมายระยะสั้น ส่วนหงอยนี่มักเป็นอาการจิตตก (อันนี้ฝึกสมาธิ ดูกายดูจิต ให้อะไรผมเยอะเลย)
หนูควรมองตัวเอง แล้วพิจารณาสังคมของหนู อาจมองเห็นว่าควรทำอย่างไรได้เอง (ถ้าสังคมรอบข้างไม่ดี ก็ไม่ต้องไปเข้ากับเขาก็ได้นะ)

ขอให้เจริญในธรรมครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร