วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 06:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 15:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 13:45
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ทุกข์ใจมากค่ะ อยากจะตัดใจให้ขาด ดิฉันอายุ 30 ปลาย ๆ แฟนอายุ 46 ปี ยังไม่ได้แต่งงานกันแต่คบกันมานานแล้ว เราทั้งสองคนไปมาหาสู่กันโดยที่ทางบ้านก็รับรู้ สาเหตุที่เมื่อก่อนไม่ได้แต่ง เพราะเราสองคนทำงานหนักกันค่ะ วางแผนไว้ว่าอนาคตจะได้ไม่ต้องลำบาก และมีโครงการว่าจะแต่งกันในปีหน้า รอให้บ้านเสร็จก่อน ดิฉันช่วยงานเค้าตั้งแต่ชีวิตเค้าไม่มีอะไร เริ่มจากศูนย์ จนตอนนี้มีรถ และมีโครงการจะซื้อบ้านหลังใหม่ ตอนนี้แฟนดิฉันเริ่มจะเปลี่ยนไป ตั้งแต่เค้าเริ่มมีเงิน มีรถ เค้าเริ่มเที่ยวกลางคืน ติดผู้หญิง พอดฺฉันจับได้ ก็เลิกแล้วก็ไปมีคนใหม่ ตอนนี้แฟนดิฉันคบผู้หญิงอยู่ 2 คน คนนึงเป็นผู้หญิงกลางคืนอายุ 25 ปี คบกันได้ประมาณ3-4 เดือน อีกคนดิฉันไม่แน่ใจเพราะเค้าเริ่มจะคบกันไปรับไปส่งกัน ดิฉันปวดใจมากนอนร้องไห้ทุกคืน เคยถามเค้าว่า ตลอดเวลารักดิฉัน บ้างมั้ย เห็นความดีของดิฉันบ้างมั้ยที่ทำอะไรให้เค้ามากมายเกือนจะทั้งชีวิต แปลกน่ะค่ะคนเราทำความดีเกือบจะทั้งชีวิตเค้ายังไม่เห็น แต่ไปเห็นความขาว ความอวบแค่ 2-3 ครั้ง เค้าบอกว่า เค้ารักดิฉัน แต่ให้ดิฉันอยู่เฉย ๆ อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเค้า ถ้าดิฉันอยู่ให้เป็น อยู่ให้เค้าสงสารอย่ายุ่งกับเรื่องส่วนตัวเค้า เค้าจะไม่ทิ้งดิฉัน ดิฉันสมเพชตัวเองมาก ว่าตลอดเวลาดิฉันเป็นอะไรในสายตาเค้า ดิฉันอยากอยู่แบบมีศักดิ์ศรีในคุณค่าของการเป็นมนุษย์ ขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ หน่อยค่ะ ว่าทำยังไงดิฉันถึงจะตัดเค้าได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ปํญหาอย่างนี้ไม่อยากตอบ บอกได้คำเดียวว่า คุณโชคดีแล้วที่ยังไม่ได้แต่งงานไปกับเขา อย่างนี้ยังธรรมดา ยังหยุดทัน ถ้าแต่งไปแล้วนั้นแหละ เดือดร้อนแน่ และแก้ไขยาก หยุดเสียแต่ตอนนี้ หายใจเข้าลึกๆ แข้มแข็ง ยืนบนลำแข้งตนเอง อดข้าวหรอกเจ้าชีวาจะวางวาย ไม่ตายหรอกถ้าอดสเน่หา/ถามหาวิธีตัดใจ ก็มองโลกตามความเป็นจริง วันนี้(ปัจจุบัน)เขาเป็นคนดี หรือคนไม่ดีในสายตาคุณ ถ้าเขาเป็นอย่างที่คุณเล่า เขาก็ไม่น่าจะเป็นคนดี ไม่น่าจะเป็นที่พึ่งของคุณได้ เขาเป็นของเน่า ของเหม็น คนเห็นแก่ตัว เทียบกับอุจจาระ คุณถ่ายออกมาจากก้นคุณเองแท้ๆ
คุณยังรังเกียจ เอาน้ำฉีดออก เอาทิชู่ เช็ดออก ถอยออกมา2-3ก้าว ทำตัวเป็นเองคนนอก ตรองดูว่าอยู่กันต่อไปทุกข์ หรือสุข อันไหนมันจะมากกว่ากัน ถ้าทุกข์อย่างเดียว ก็ถ่ายทุกข์เสีย เช็ดด้วยทิชชู่ หรือจะล้างด้วยน้ำกก็ตามใจ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ปลอบใจ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ เกิดขึ้นได้กับทุกคน วันก่อน เป็นคนดีวันนี้เป็นคนเลว หรือแม้แต่วันหน้าก็ยังกลับมาดีอีกได้ มันไม่มีอะไรเที่ยง ไปทุกข์กับมัน ไปแบกมันไว้ ไปหมุนอารมณ์ทุกข์-สุขตามมัน บางทีมันก็ไม่ไหว ไม่ทันเหมือนกัน นิ่งๆกับมันดูบ้าง ดูซิว่ามันจะแค่ไหนกัฯ....เจโตวิมุติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: เลยกลายป็นเราทำให้เสียเรื่อง เพื่อนเขากำลังทุกข์ ก็เข้ามาพูดคุยกัน ปลอบใจกัน ปกติกระทู้แบบนี้ จะมีการเข้ามาแลกเปลียนความคิดเห็น แนะนำกัน ให้กำลังใจกัน ต่อเนื่องเป็นหางว่าวเราก็พูดของเราไปตามคติความเห็นที่มี อย่ามาสนใจ อยากพูดแนะนำอะไร ปลอบกัน ให้กำลังใจกันก็รีบเข้ามาเพื่อนเขากำลังทุกข์ เขารออ่านอยู่ อย่าสนใจคำพูดเรา เราปลอบคนไม่เป็นก็แค่นั่นเอง...ไม่มีใครผิดใครถูกทั้งหมดหรอกจริงๆ.....เจโตวิมุติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านตอบได้ชัดเจนแจ่มแจ้งนัก

เหลือเพียงผู้รับจะรับได้ไหมเท่านั้น

ท่านเจโตนี่ของจริง

โกเมศวร์

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 128

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา กับคุณเจโตวิมุติ ค่ะ
ชัดเจนดีค่ะ

คุณนภัสสรค่ะ อย่ามองตัวเองไม่มีค่านะค่ะ
ไม่ว่าอะไรในโลกใบนี้มีค่าในตัวเองเสมอค่ะ

"บางสิ่ง อาจจะไม่มีค่าสำหรับใครบางคน
แต่สำหรับใครบางคนแล้วมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด"

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้ผ่านพ้นในเร็ววันค่ะ

บุญรักษาคุณนภัสสรค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2010, 10:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 13:45
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ โดยเฉพาะท่านเจโตวิมุติ ตอบได้โดนใจดิฉันมาก เพราะคนที่จะดับทุกข์ได้ คือตัวดิฉันเอง เมื่อวานก็ทะเลาะกันอีกค่ะดิฉันชวนเค้าไปซื้อกระเช้าของขวัญให้ญาติผู้ใหญ่ ปรากฎว่าถึงเวลาจริง ๆ กลับปิดมือถือ โผล่มาอีกทีเกือบจะ ตี 4 ของวันรุ่งขึ้น สติแตก ทะเลาะกันจนถึงสว่าง ดิฉันมาทำงานตาเหมือนหมีแพนด้าเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน เจ็บใจมาก เคยจับเข่าคุยกัน เค๊าบอกว่าไงรู้มั้ยค่ะ เค๊าบอกว่าเค๊าเป็นของเค๊าอย่างงี้ ผู้ชายต้องมีบ้าง จะให้รักผู้หญิงคนเดียวได้ยังไงถ้าดิฉันรักเค้าต้องทนเค๊าได้ ต่อให้เลิกกับผู้หญิง 2 คนนี้ อนาคตเค๊าก็มีคนอื่นอีก เค๊ามีเงินจะหาผู้หญิงสักกี่ร้อย กี่พันคนก็ได้ นี่หรือค่ะผู้ชายที่ดิฉันรักและหวังจะฝากผีฝากไข้ในบั้นปลายชีวิต จริง ๆ แล้วดิฉันก็มีงานประจำอยู่ค่ะตำแหน่งระดับสูง สามารถเลี้ยงตัวเองได้แบบสบาย ๆ แต่ดิฉันรักเค๊ามาก ยังมีเยื่อใยเป็นห่วงเค๊าอยู่ เพราะงานของเค๊าทำงานกับต่างประเทศ ไม่มี ผญ. คนไหนช่วยงานเค๊าได้เพราะต้องเก่งด้านภาษา ตอนนี้ดิฉันกับเค๊าเหมือนใช้วิทยุคนละคลื่น ทำยังไงก็จูนกันไม่ติด พอเข้ามาอ่านเรื่องของพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในนี้ก็พอจะทำใจได้บ้าง แต่พออยู่คนเดียวกลับมานั่งร้องห่ม ร้องไห้ เหมือนคนเสียสติ มีความรูสึกเบื่อ ๆ อยาก ๆ ใจโหวง ๆ เหวง ๆ เหมือนชีวิตนี้ขาดอะไรไป เพราะถ้านับกันแล้วเราสองคนคบกันมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว จากเป็นพี่เป็นน้อง แล้วก็มาเป็นแฟน หรือว่าดิฉันยังมีบุญเก่าอีกที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเค๊า ไม่งั้นคงต้องตกนรกหมกไหม้ ชั่วชีวิต ขอบคุณทุกคนค่ะและพื้นที่ในเว็บนี้ที่ทำให้ดิฉันได้มีที่ระบาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 128

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณนภัสสร

ขอเป็นกำลังใจให้คุณนภัสสรนะค่ะ

ขอให้ทุกวัน เป็นวันที่ทุกข์น้อยที่สุดค่ะ

บุญรักษาค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 13:02
โพสต์: 129

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณนภัสสร

นภัสสร เขียน:
หรือว่าดิฉันยังมีบุญเก่าอีกที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเค๊า ไม่งั้นคงต้องตกนรกหมกไหม้ ชั่วชีวิต
ดิฉันคิดว่าคุณยังมีบุญอยู่จริงๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเค้าและได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของเค้าซะตั้งแต่ตอนนี้
ดิฉันขอแนะนำว่า ตอนนี้คุณยังทุกข์อยู่ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก พยายามประคับประคองความรู้สึกอย่างมีสติ คุณอาจจะเสียใจ แต่อย่าลืมดูแลตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปซักระยะคุณก็คงจะเริ่มรักตัวเองมากขึ้นและรักคนอื่นน้อยลงได้เอง ขอให้คุณผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ได้ด้วยสติน่ะค่ะ :b8:

.....................................................
ชีวิตที่เหลือ ขออยู่เพื่อธรรมะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 11:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


นภัสสร เขียน:
....พอเข้ามาอ่านเรื่องของพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในนี้ก็พอจะทำใจได้บ้าง แต่พออยู่คนเดียวกลับมานั่งร้องห่ม ร้องไห้ เหมือนคนเสียสติ มีความรูสึกเบื่อ ๆ อยาก ๆ ใจโหวง ๆ เหวง ๆ เหมือนชีวิตนี้ขาดอะไรไป เพราะถ้านับกันแล้วเราสองคนคบกันมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว จากเป็นพี่เป็นน้อง แล้วก็มาเป็นแฟน หรือว่าดิฉันยังมีบุญเก่าอีกที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเค๊า ไม่งั้นคงต้องตกนรกหมกไหม้ ชั่วชีวิต ขอบคุณทุกคนค่ะและพื้นที่ในเว็บนี้ที่ทำให้ดิฉันได้มีที่ระบาย

"....." :b27: :b27:

เบา ๆ .... ตลอดชีวิตที่ผ่านมา...เอกอนก็ร้องไห้มามาก...นะ
และ...บางครั้ง...เอกอนก็ชอบการร้องไห้...
เพราะอะไรรู้มั๊ย... สังเกต...สิ่...
คนเรามีพฤติกรรมการร้องไห้...หลายแบบ...

ร้องไห้ด้วยภาวะความเครียดเนื่องจากการงาน แรงกดดันจะอยู่บริเวณด้านหน้าของใบหน้า...
ร้องไห้ด้วยความรู้สึกกดดันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก...แรงกดดันจะอยู่บริเวณช่วงลำคอ...
...การร้องไห้...มีอะไรหลาย ๆ อย่าง...ที่บ่งบอก ความสัมพันธ์แห่งอาการทางกาย/ใจ...
จริง ๆ แล้ว... มันสะท้อนถึง...แง่มุมในการพิจารณาธรรมชาติแห่งแรงกดดัน...ได้...
...
แม้จะสังเกตการร้องไห้แบบปล่อย...โฮ...
การร้องไห้แบบ...สะอึกสะอื้น...
การร้องไห้แบบ...สะท้านสะเทือน...ตัวโยน...อกสะท้าน...
...
เราสังเกตได้ทุกอย่าง...

แม้แต่...จังหวะที่...ปอดจะต้องอัดแรงเข้าไป..ถึงพิกัดสุด..จังหวะพลิกผัน(หยุด)..
แล้วคลายพลังลมทะลักออกมาจนสุด...และก็เป็นอีกพิกัดสุด...จังหวะพลิกผัน(หยุด)..
กระบังลมบีบตัวเพื่อดูดลมเข้ามาอีกครั้ง...

เอกอน...ศึกษาธรรมจากไหน...
...
จาก...สิ่งเหล่านี้ล่ะค่ะ...

:b1: :b12: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 22:29
โพสต์: 77

อายุ: 43

 ข้อมูลส่วนตัว


ทรรศนะเกี่ยวกับโลกและชีวิตฝ่ายพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงเป็นกลางๆ ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ สิ่งที่เกิดแต่เหตุก็ย่อมดับไป เหมือนไฟซึ่งเกิดแต่เชื้อ เมื่อสิ้นเชื้อไฟก็ย่อมดับไปเป็นธรรมดา พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าสิ่งทั้งหลายย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นปฏิจจสมุปบาท คือ สิ่งที่อาศัยกันเกิดขึ้น (Dependent Orgination or Interraction) เป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน

เกี่ยวกับสุขทุกข์แห่งชีวิตนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงสุขทุกข์ว่า เกิดแต่เหตุ เช่น ในอริยสัจ ๔ ทรงแสดงเรื่องทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ (สุข) และทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์

ในเรื่องจริยธรรม ทรงสอนให้มนุษย์เว้นจากการเบียดเบียนกัน ให้เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน บำเพ็ญประโยน์ต่อกัน เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคม คนในสังคมใดปฏิบัติตามหลักที่ทรงสอนไว้นี้ สังคมนั้นก็ประสบสันติสุขตามสมควรแก่การปฏิบัติ

พระพุทธองค์ตรัสต่อไปว่า สัตว์ทั้งหลายถูกทิฏฐิต่างๆ ดังกล่าวมาคล้องไว้ หมกอยู่ในทิฏฐิแล้วนั้นเหมือนปลาติดข่าย ไม่อาจดิ้นให้หลุดออกไปได้ พวกเขาพอใจ ติดใจในผัสสะแห่งอายตนะต่างๆ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ มีความทะยานอยาก มีความยึดมั่นหรือติดใจ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดทุกข์โทมนัสเป็นอันมาก ส่วนคถาคต (คือ องค์พระพุทธเจ้า) เป็นผู้ตัดตัณหาอันเป็นเหตุให้วนเวียนเกิดในภพน้อยใหญ่ได้แล้ว (จึงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ไม่มีทิฏฐิใดๆ คล้องไว้ได้ เหมือนปลาที่หลุดออกจากข่าย ว่ายไปได้ตามปราถนา)

*****ความทุกข์เป็นสิ่งที่มนุษย์เผชิญหน้าอยู่ทุกวัน

*****นั่งร้องห่ม ร้องไห้ เหมือนคนเสียสติ มีความรูสึกเบื่อ ๆ อยาก ๆ ใจโหวง ๆ เหวง ๆ เหมือนชีวิตนี้ขาดอะไรไป

*****นั้นไม่ใช่หนทางดับทุกข์

คุณ ควรหันมาสนใจปัญหาทางจริยธรรมและทางดับทุกข์ อีกทั้งรีบปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ และควรหมั่นเจริญวิปัสนาทำปัญญาให้รุ่งเรืองแจ่มใส ก็จะสามารถรู้เห็นสิ่งต่างๆ ตามเป็นจริงได้เอง เมื่อรู้จริงแล้วก็ไม่แล่นไปติดนั่นติดนี่อันเป็นส่วนสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะเดินอยู่ในทางสายกลาง (มัชฌิมา-ปฏิปทา) นั้นได้เอง

.....................................................
บุคคลขาดสติย่อมนำชีวิตไปสู่ความทุกข์ความล้มเหลวฉันใด ในทางตรงกันข้าม บุคคลผู้มีสติสมบูรณ์ มีสติชอบ (สัมมาสติ) ย่อมนำชีวิตไปสู่ความสุขความรุ่งเรืองฉันนั้น และความแตกต่างระหว่างปุถุชนกับพระอรหันต์ก็อยู่ตรงนี้ คือ ปุถุชนมีสติไม่สมบูรณ์ ส่วนพระอรหันต์มีสติสมบูรณ์ ปุถุชนจึงต้องหัวเราะบ้าง ร้องให้บ้าง ดีใจบ้าง เสียใจบ้าง เพราะเผลอสติ ส่วนพระอรหันต์ท่านไม่มีไม่เป็นอย่างนั้น.....กฤษฏ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 16:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 13:45
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันขอกราบขอบพระคุณทุกความคิดเห็นค่ะ และขอน้อมรับทุกคำแนะนำเพื่อนำไปปฎิบัติ แต่วันนี้มีเรื่องให้ปวดหัวอีกแล้วค่ะ แฟนดิฉันโทรมาหา ดิฉันแทบไม่อยากคุย แต่จำเป็นต้องคุย เพราะมีเรื่องทางธุรกิจและเรื่องเงินที่ยังสัมพันธ์กันอยู่ (เป็นงานของเค๊า) เค๊าบอกว่าเค๊ารับงานมาให้ดิฉันทำให้ (เป็นงานด้าน ตปท) แต่ให้ดิฉันเรียกเก็บค่านายหน้า 20% ดิฉันปฏิเสธไม่ทำโดยให้เหตุผลเค๊าว่า ถ้ามีค่านายหน้าดิฉันไม่ทำ ดิฉันทำไม่ได้ทำอย่างงี้เท่ากับเอาเปรียบคนอื่นมากเกินไป คนอื่นเค๊ารับงานมาก็แทบไม่ได้อะไรแล้ว ทำไมต้องไปเบียดเบียนคนอื่นด้วย แค่นี้ก็อยู่สุขสบายแล้ว แฟนดิฉันด่าดิฉันว่า โง่ ใคร ๆ ก็ทำกันทั้งนั้น ไม่ทำอย่างนี้แล้วเมื่อไหรจะรวย ..แฟนดิฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวมากค่ะ เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ฉลาดแต่อยู่บนความเอาเปรียบของคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งเรื่องความรัก ไปกินอาหารนอกบ้าน ก็เกี่ยงให้ดิฉันเป็นคนออกโดยให้เหตุผลว่าไม่เอากระเป๋าตังค์มา (แสบมั้ยล่ะค่ะ) ทั้งการใช้ชิวิต และความคิด บอกตรง ๆ ก็แทบเข้ากันไม่ได้ แต่ที่คบกันมาได้นานเพราะดิฉันเป็นฝ่ายยอมมาตลอด ไม่อยากทะเลาะ คิดว่าสักวันความคิดเค๊าคงเปลี่ยนได้ แต่ทุกวันนี้ยอมรับเหมือนคนแปลกหน้า หรือว่าศีลเราไม่เสมอกัน เลยไปกันไม่ได้ ดิฉันอยากจะถอยห่างจากเค๊าค่ะ แต่ติดปัญหาตรงผู้ใหญ่ แม่ดิฉันรักเค๊ามาก เพราะเห็นเค๊าตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มน้อย แม่ดิฉันหวังจะให้ดิฉันได้แต่งงานกับเค๊า เวลาดิฉันมีปัญหากับเค๊า ไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเลย กลัวแม่จะทุกข์ใจ ทุกวันนี้แม่ถามเรื่องแต่งงานได้แต่น้ำท่วมปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดิฉันต้องทำยังไงค่ะไม่อยากให้แม่ต้องทุกข์ใจกับเรื่องของดิฉัน แล้วอีกอย่างคือเรื่องเงินค่ะ เพราะดูแล้วยังไง ๆ เค๊าคงไม่เคลียร์ให้ดิฉันแน่ เค๊าบอกว่า ก็จะแต่งงานกันแล้วมันก็กระเป๋าเดียวกัน หรือว่าดิฉันยอมยกทุกอย่างให้เค๊าทั้งหนี้และทรัพยฺสินที่ทำด้วยกันมา แล้วถอยออกมาเพื่อสนใจธรรมมะและพุทธศาสนา และที่สำคัญที่สุดดิฉันอยากให้แฟนดิฉันสนใจศึกษาด้านธรรมมะค่ะ เพราะในภายภาคหน้าดิฉันไม่อยากให้เค๊าต้องตกนรกหมกไหม้เพราะกรรมที่เค๊าทำกับคนอื่นค่ะ รบกวนสอบถามผู้รู้ด้วยค่ะ ขอกราบขอบพระคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 22:29
โพสต์: 77

อายุ: 43

 ข้อมูลส่วนตัว


..แฟนดิฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวมากค่ะ เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ฉลาดแต่อยู่บนความเอาเปรียบของคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งเรื่องความรัก

ตามหลักพระพุทธศาสนาคนจะดีหรือเลวไม่ใช่เพราะชาติตระกูล แต่เพราะการกระทำว่าทำดีหรือทำเลวอย่างไร

ดังนั้น..ความรู้ดีและความประพฤติดีนั้นเป็นสาระสำคัญของคน คนเราจะเกิดในตระกูลใด หรือมียศศักดิ์อย่างไร แต่ถ้าขาดความรู้ดีและความประพฤติดีเสียแล้ว ก็เสื่อมความนิยมนับถือและเสื่อมเกียรติ ในสองอย่างคือความรู้และความประพฤตินั้น ถ้าบกพร่องทางความรู้ก็จะเป็นคนดีที่โง่เขลา ถ้าบกพร่องทางความประพฤติก็จะเป็นคนฉลาดรอบรู้ที่ไม่น่าไว้วางใจ เป็นอันตรายได้มาก ทั้งสองอย่างรวมกันจึงให้ความสำเร็จได้มาก

.....................................................
บุคคลขาดสติย่อมนำชีวิตไปสู่ความทุกข์ความล้มเหลวฉันใด ในทางตรงกันข้าม บุคคลผู้มีสติสมบูรณ์ มีสติชอบ (สัมมาสติ) ย่อมนำชีวิตไปสู่ความสุขความรุ่งเรืองฉันนั้น และความแตกต่างระหว่างปุถุชนกับพระอรหันต์ก็อยู่ตรงนี้ คือ ปุถุชนมีสติไม่สมบูรณ์ ส่วนพระอรหันต์มีสติสมบูรณ์ ปุถุชนจึงต้องหัวเราะบ้าง ร้องให้บ้าง ดีใจบ้าง เสียใจบ้าง เพราะเผลอสติ ส่วนพระอรหันต์ท่านไม่มีไม่เป็นอย่างนั้น.....กฤษฏ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2011, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 15:56
โพสต์: 79

ชื่อเล่น: pa
อายุ: 41
ที่อยู่: St. Oswald Sebenellen 3 Deutschland

 ข้อมูลส่วนตัว


มาให้กำลังใจ หรือมายุก็ไม่รู้นะ

เลิกมันเถอะค่ะอย่าไปเสียดายเลยไอ้พวกผู้ชายแย่ๆๆๆๆ ชีวิตคุณมีค่ามากนักอย่าจมปลักอยู่กับของเน่าอีกเลยคุณมีปัญญาหาด้วยตัวเองได้ ค่อยทำไปตั้งสติรับรองคุณจะยิ้มได้อย่างภาคถูมิใจ ไม่ต้องมีของเน่าคุณก็มีความสุขแถมสุขกว่าเก่าด้วย อีกอย่างยกให้มันไปเถอะของนอกกาย ยกให้มันไปแล้วก็คิดเสียว่ามันเป็นเพื่อน แล้วไม่ต้องไปเสียดายถือเสียว่าชาติที่แล้วเอาของมันมา ที่เขียนว่ามัน เพราะคุณจะได้เห็นได้ชัดเจนกว่า เขียนว่าคนที่คุณรัก หรือผู้ชายคนนี้ เอาแบบลูกทุ่งเลย มันนั้นแหละชัดดี ถ้าคนดีจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดไม่คิดเอาแต่ได้เห็นแก่ตัว เพราะคุณเป็นคนดีมองเห็นแต่สิ่งดี ทุกคนมีสิ่งดีแต่สิ่งดีมันผ่านไปแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งไม่ดีมันทำให้คุณเจ็บปวด เลิกเถอะแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใส่ไม่ต้องเสียดายมันให้มันผ่านไป พ่อแม่ของคุณเค้าไม่อยู่ร่วมทุกข์กับคุณตลอดชีวิต คนที่ทุกข์คือตัวคุณ เลือกเอา เลิกมันหรือจะเอามันต่อไป ขอโทษนะถ้าเขียนไม่สุภาพ เพราะสงสารผู้ถูกกระทำเหลือเกินจากน้ำมือผู้ชาย และก็น้ำมือผู้หญิงทีไร้สติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


จะยอมมีแผลใจในวันนี้ หรือยอมมีแผลฉกรรจ์ในวันหน้าดีค่ะ?
เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน....แค่เริ่มต้นยังเข้ากันไม่ได้
อนาคตก็เห็นๆอยู่....เชื่อว่าความไมสมใจหวังของคุณแม่ในวันนี้
คงจะไม่เท่ากับความทุกข์ร้อนในวันข้างหน้าถ้าคุณฝืนใจแต่งงานกัน
แล้วล้มเหลว....อย่านำปัญหามารวมกัน...แยกปัญหาออกที่ละข้อ
แล้วแก้โจทย์ไปตามนั้น....จะได้คำตอบที่แน่ชัดกว่า.....
ขอให้โชคดีนะค่ะ.... :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร