วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 04:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ม่านหมอกเลือนรางจางหาย
สิ้นสุดแล้วเริ่มต้นใหม่
ชีวิตฤดูกาลผ่านพ้นไป
กี่คราวหลายหนยังวนเวียน
…………………….
วรรณ วริญญา

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 14:30, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยากแสนแค้นขัดคิดขัดแค้นแสนยาก ไฉนหากพรากจักพรากหากไฉน
ใยเยื่อเป็นเชื้อชิดเชื้อเป็นเยื่อใย จนจำให้ใจหักใจให้จำจน

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 14:14, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียงชีวิตเงียบสงัดด้วยความสงบ
เสียงหัวใจเความสุขต้นถูกกลบด้วยความนิ่งของสิ่งรอบกาย
มีเพียงลมหายใจเข้าออกเป็นสัญญาณบ่งบอกแห่งชีวิต
ความสมดุลแห่งจิตนี้พบแล้วต้องจำชั่วชีวี

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 19:35, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความสงบภายนอกนำพาสู่ความสงบภายในนี้อย่างหนึ่ง
ความสงบภายในนำพากายให้สงบนี้อีกอย่างหนึ่ง
เมื่อพบสถานที่วิเวกแล้ว บรรยากาศอันเหมาะสมแล้ว
กายวิเวก วาจาวิเวก แล้วจะไม่ทำใจให้วิเวกก็กะไร

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 19:36, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุขสงบ ยลบรรเจิด ประเสริฐแท้
สุขได้แค่ เพียรดิ้นรน ดับตัณหา
ทันกิเลส รู้อาเภท ที่จรมา
ชีวิตหนา สุขแท้ สงบเอย

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 19 ต.ค. 2010, 18:23, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2010, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุขใดเล่าจักเทียบเท่าสุขสงบ
สุขที่พบบนโลกนี้มิแม้นเหมือน
สุขเบื้องหลังเป็นครูคอยย้ำเตือน
อย่าสุขเหมือน สุขจอมปลอม ดั่งก่อนมา
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2010, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่มนุษย์จะต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าสงคราม
ก็คือ ความดีและความชั่ว หรือ กุศล อกุศล ซึ่งขึ้นอยู่ในจิตใจของตนเอง
และส่วนมากก็มักจะพ่ายแพ้แก่อกุศลกรรม ซึ่งเป็นฝ่ายกิเลสมารร้ายไปครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะความอ่อนแอในจิตใจของตนอีกเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ สรรพสัตว์ทั้งหลายจึงคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า "วัฏสงสาร"
ชาติแล้วชาติเล่า ภพแล้วภพเล่า โดยไม่มีใครคิดสงสารตัวเองแต่อย่างใด
ผู้พ่ายแพ้ต่ออกุศลกรรมดังกล่าว เขาก็ต้องชดใช้กรรมชั่วตามที่เขากระทำขึ้น

ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระตถาคตเจ้า
ด้วยความอดทน พากเพียรพยายาม ไม่ท้อถอย ย่อมประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย มธุรส. เมื่อ 25 ต.ค. 2010, 11:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2010, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มนุษย์ นับว่ามีวาสนายิ่งกว่าสัตว์ใดในโลก
มีสิทธิอันสมบูรณ์ที่จะเลือกทำกรรมดี หรือกรรมชั่วของตนเอง
ถือว่าเป็นสัตว์อันประเสริฐซึ่งพระพุทธเจ้าทรงรับสั่งว่า
เกิดเป็นมนุษย์นั้น ประเสริฐกว่าเกิดเป็นเทพ เป็นพรหมเสียอีก
เพราะเทพพรหมถึงอย่างไรก็เป็นนามธรรม
ไม่มีสังขารร่างกายที่จะทำกรรมสิ่งใดให้เป็นไปตามความประสงค์ได้
แม้จะรวมกำลังแรงให้เห็นเป็นรูปร่างได้ในบางครั้งบางโอกาส ก็เป็นเพียงภาพเนรมิตเท่านั้น

พระองค์ยังทรงชี้ให้เห็นว่า กรรมเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญของมนุษย์และสรรพสัตว์
มนุษย์จะเกิดมาได้ก็เพราะกรรม เรียกว่ากรรมเป็นแดนเกิด
มนุษย์จะสืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์กันมาได้ ก็เพราะกรรมนั่นเอง

กรรม ยังเป็นเครื่องจำแนกให้มนุษย์และสรรพสัตว์แตกต่างกันออกไป
เกิดมารูปชั่วก็มี เกิดมารูปงามก็มี เกิดมารูปร่างสมบูรณ์ด้วยอาการ ๓๒ ก็มี
เกิดมาพิกลพิการก็มี เกิดมาลำบากยากจนอดอยากก็มีเกิดมาร่ำรวยก็มี
เกิดมาใจบาปหยาบช้าก็มี เกิดมาใจบุญกุศลก็มี
และนี่แหละที่ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ประจำโลกมนุษย์เรา
ท่านเรียกว่าเป็น กฎแห่งกรรม ที่ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากมนุษย์เอง

กรรม นั้นเป็นเหตุ
ถ้ามนุษย์เลือกทำกรรมดีเป็นกุศล ก็จะได้รับผลดีเป็นการตอบสนอง
ถ้าทำกรรมชั่วเป็นอกุศล ก็จะได้รับผลชั่วไปด้วย
เราสามารถจะมองเห็นผลของกรรมดีกรรมชั่วในโลกมนุษย์แห่งนี้ได้ง่ายๆ
ถ้าเรารู้จักพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นมีขึ้นตามความเป็นจริง

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2010, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:46
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจิดจิต มืดสนิทมิตระหนกวิตกว่า
ภราดรพรอำไพไม่คืนมา แม้ดาวเดือนเลือนลานภาลัย

ฤๅสายฟ้าผ่าผางเปรี้ยงปร้างเสียง ไร้สำเนียงวิเวกหวานกังวานใส
ไก่กระชั้นขันกระชากหลากฤทัย สุวานใหญ่ไขว่เห่าหอนย้อนยอกยวน

แต่โอภาสอาจอำไพกลางใจนี้ ขับราตรีมืดสนิทวิกฤตผวน
ศรัทธานิตย์สถิตแน่มิแปรปรวน ถึงทุกข์ทวนทรมานจะทานทน

โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่ช้านี้ คงจักมีชั่วโมงสว่างกระจ่างหน
รำไรแจ้งแสงทองเรื่อเหนือสากล ภพอำพนผ่องผุดมนุษยธรรม

เมื่ออยู่เดียวยามดื่นดึกระทึกอก มืดโมงเยือนเหมือนจะปรกชีวิตถลำ
แว่วสำเนียงจำเรียงซร้องพร้องลำนำ อักขราค่าเลิศล้ำจากดวงมาน

เทียบน้ำทิพย์ลิบอำลานภามาศ ที่หยดหยาดย้อมกมลโกมลศานติ์
สองมือน้อยคล้อยสมองตรองวิญญาน นำธรรมทานธรณินจนสิ้นใจ !

โดย ชัยศรี สุนทรพิพิธ


รูปภาพ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร