ดิฉันกับสามีทะเลากันมาได้ 3 วันแล้ว ทะเลาะกันเรื่องญาติพี่น้องเขา ซึ่งชอบมาเอารถดิฉันที่ผ่อนเองไปใช้ ตัวดิฉันเองจะไปไหนเขาให้เดินไปเอง ขึ้นวินไปเอง ทั้งๆที่รถนั้นดิฉันเป็นคนผ่อน ไปเอารถมาใช้ธุระก็ถูกดุด่า ตบตี หาว่าหวง พอทะเลาะกันทีไรก้อจะกลับบ้าน สามีไม่งานการทำเป็นหลักแหล่ง วันไหนขี้เกียจก้อไม่ไปทำงาน นอนอยู่บ้าน ดิฉันเป็นคนหาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวเอง ดิฉันอดทนวันนี้เพราะอยากให้ลูกอบอุ่น กับลูกเขาก็แสดงความรักดี แต่กับดิฉันเขาเย็นชาไม่พูดไม่จา ดิฉันคิดว่า ดิฉันคงไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาแล้ว วันนั้นเขาใช้เท้าถีบหน้าดิฉันขณะดิฉันกำลังให้นมลูกสาว จนหน้าชา แต่ที่ชากว่านั้นคือหัวใจ ที่ทั้งเจ็บปวดไปหมด เสียใจกับโชคชะตาชีวิตตัวเอง ดิฉันถามเขาไปว่า รถจะกลับมาให้เมื่อไหร่ จะใช้งาน เขากลับตอบว่า เมื่อแม่มึงตายไงอีสัตย์ นี่หรือ คือคนที่ดิฉันเลือกที่จะใช้วิวิตอยู่ด้วยกัน ปัญหาอะไรไม่เคยช่วยเลย ภาระทุกอย่างดิฉันเป็นคนแบกไว้เอง เวลาทะเลาะกัน ก็ไล่ดิฉันให้เก็บเสื้อผ้าย้ายออกไปอย่างกับหมูหมา ซึ่งบ้านที่ดิฉันอาศัยอยู่เป้นบ้านพี่สาวเขา สาเหตุที่อยู่เพราะมีคนเลี้ยงลูกกลับไปเจอหน้าลูก เพราะลูกอายุแค่ 1 ขวบ 2 เดือน ยังไม่เข้าโรงเรียน หากเขาเข้าโรงเรียนดิฉันยังไปเช่าหอพักอยู่ข้างนอกได้ เพราะปกติดิฉันก็ไม่เคยเพิ่งใครอยู่แล้ว ดิฉันไม่เคยเล่าให้พ่อแม่ดิฉันฟัง เพราะเขาคงเป็นห่วงดิฉันมาก ทุกครั้งที่โทรหากันก็จะพูดเสริมกำลังใจพ่อแม่ ทุกวันนี้ทุกใจเหลือเกิน แล้วลูกในท้องอีกคนละ ที่เขาไม่เคยจะถามและไม่เคยบอกเขา จะเติบโตมาอย่างไร

ทุกข์ หนอๆ วุ่นวายหนอๆ

เป็นอุทาหรณ์ เตือนจิตเตือนใจ
สำหรับชีวิตคู่ โดยเฉพาะเพศหญิง

ยุคนี้ ผมรู้สึกสงสาร เพศหญิงมากที่สุด
เพราะโดยธรรมชาติสร้างมาให้รองรับ อ่อนโยน
ถึงจิตจะเข้มแข็งอย่างไร แต่ร่างกายที่ได้มา ก็ยังบ่งบอก

โดยเฉพาะยุคของคนขาดศ๊ล ขาดธรรม ก็พึงระวังไว้ให้มาก
สร้างบุญสร้าง กุศลไว้ให้ครบ บุญกุศลจะได้กลั่นกรอง
ให้คนไม่มีศ๊ลไม่มีธรรมออกไปจากเส้นชีวิตคู่เรา

เมื่อกระโดด ลงไปในโคลนตมแล้ว
ยิ่งดื้น มันก็ยิ่งจม ถึงอยู่เฉยๆ ก็มีมือ มีตืนลากให้ลงนรก
ไหนจะลูกที่ออกตามๆกัน เป็นบ่วงมัดมือ มัดคอไม่ให้เราดิ้นหลุด

ขอให้อดทน ตั้งสติ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
สิ่งที่เจ็บไปแล้วก็ให้มันแล้วไป
อย่าเอาความเจ็บวันนั้น มาบวกเพิ่มกับความเจ็บวันนี้

ขอให้รู้ไว้เถิดว่า ไม่มีอะไรบังเอิญเลย
สิ่งที่เราได้รับในวันนี้ มันก็การกระทำของเราทั้งหมดทั้งสิ้น

ตามหลักของธรรมชาติแล้ว เพศหญิงเป็นเพศที่ถูกข่ม
ถูกกระทำ เป็นเพศที่ไว้รองรับ ถ้าได้สามี ดีก็นับว่ารอดตัวไป
ได้คนพาลมาเป็นคู่แล้ว แสนเวทนา ยิ่งนัก


ขอให้แก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความมีสติ
ถ้าคุณมีสติ ปัญหานี้ขอตอบว่า ง่ายนิดเดียว
วันใดที่ปลอด ว่างจากการทุบตี วิวาทกัน
ก็ลองเอาสิ่งที่คุณพิมพ์มาทั้งหมดนั้น
ใคร่ครวญดู ด้วยสติ คุณจะเห็นทางออก

เป็นกำลังใจให้ครับ

[282] ภรรยา 7 (ภรรยาแบบต่างๆ จำแนกโดยคุณธรรม ความประพฤติลักษณะนิสัย และการปฏิบัติต่อสามี — seven types of wives)
1. วธกาภริยา (ภรรยาเยี่ยงเพชฌฆาต, ภรรยาที่คิดร้าย ซื้อได้ด้วยเงิน มิได้อยู่กินด้วยความพอใจ ยินดีชายอื่น ดูหมิ่นและคิดทำลายสามี — a wife like a slayer; destructive wife)
2. โจรีภริยา (ภรรยาเยี่ยงโจร, ภรรยาผู้ล้างผลาญทรัพย์สมบัติ — a wife like a robber; thievish wife)
3. อัยยาภริยา (ภรรยาเยี่ยงนาย, ภรรยาที่เกียจคร้าน ไม่ใส่ใจการงาน กินมาก ปากร้าย หยาบคาย ใจเหี้ยม ชอบข่มสามี — a wife like a mistress; Madam High and Mighty)
4. มาตาภริยา (ภรรยาเยี่ยงมารดา, ภรรยาที่หวังดีเสมอ คอยห่วงใยเอาใจใส่สามี เหมือนมารดาปกป้องบุตร และประหยัดรักษาทรัพย์ที่หามาได้ — a wife like a mother; motherly wife)
5. ภคินีภริยา (ภรรยาเยี่ยงน้องสาว, ภรรยาผู้เคารพรับสามี ดังน้องรักพี่ มีใจอ่อนโยน รู้จักเกรงใจและคล้อยตามสามี — a wife like a sister; sisterly wife)
6. สขีภริยา (ภรรยาเยี่ยงสหาย, ภรรยาที่เป็นเหมือนเพื่อน พบสามีเมื่อใด ก็ปลาบปลื้มดีใจเหมือนเพื่อนพบเพื่อนที่จากไปนาน เป็นผู้มีการศึกษาอบรม มีกิริยามารยาท ความประพฤติดี ภักดีต่อสามี — a wife like a companion; friendly wife)
7. ทาสีภริยา (ภรรยาเยี่ยงทาสี, ภรรยาที่ยอมอยู่ในอำนาจสามี ถูกขู่ตะคอกเฆี่ยนตี ก็อดทนไม่โกรธตอบ — a wife like a handmaid; slavish wife)

ท่านสอนให้ภรรยาสำรวจตนว่า ที่เป็นอยู่ ตนเป็นภรรยาประเภทไหน และจะให้ดีควรจะเป็นภรรยาประเภทใด; สำหรับชาย อาจใช้เป็นหลักสำรวจอุปนิสัยของตนว่าควรแก่หญิงประเภทใดเป็นคู่ครอง และสำรวจหญิงที่จะเป็นคู่ครองว่าเหมาะกับอุปนิสัยของตนหรือไม่.

ขอปรบมือและชื่นชมในความอดทนของคุณเป็นอย่างมาก
อย่างที่บอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของมนุษย์เรานั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ มีเหตุก็ต้องมีผล เหตุทำมาอย่างไร
ผลก็จะต้องได้รับอย่างนั้น อดทน เข้มแข็งให้มากๆ นะคะ
ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็น่าจะถอยออกมาจะไม่ดีกว่า
เหรอคะ พิจารณาและไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ คุณก็จะได้รับคำ
ตอบให้แก่ตัวเองว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรในวันข้างหน้า
ชีวิตของเราก็ต้องขึ้นอยู่กับเรา เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรก็
ไม่มีใครสามารถที่จะบงการเราได้ว่า จะต้องไปทางซ้ายนะ
ทางขวานะ ยังไงก็ค่อยๆ คิดพิจารณาให้รอบคอบ อย่าใช้
อารมณ์และความรู้สึกแค่ชั่วขณะหนึ่งคิดทำอะไรที่เป็นการ
บั่นทอนชีวิตตัวเองเป็นอันขาด และก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณ
อีกหนึ่งแรงใจนะคะ

สำหรับเราแล้ว เราเห็นด้วยกับความคิด ของคุณole ที่สุดเลยค่ะ
การที่คุณมีลูก ถือว่าโชคดี คือคุณมีเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต

ถ้าลูกๆคุณโต สามีของคุณยังทำอย่างนี้ เด็กจะมีปัญหาค่ะ
คืออายเพื่อน แล้วก็ไม่อยากอยู่บ้าน ถ้าชีวิตของคุณอยู่ได้
โดยไม่ต้องพึ่งเค้า คุณกลับไปหาพ่อแม่ดีกว่าค่ะ
(บาปหรือปล่าวน่ะให้สามีภรรยาเลิกกัน)

เราอ่านๆแล้วไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

ให้กำลังใจ ให้พลังใจครับ

ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

[b]ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ดิฉันจะขอดอทนให้ได้มากที่สุดในชีวิต
คุณเชื่อไหมค่ะ 2 วันนี้เขาไม่สบายหนัก เป็นไข้ นอนหนาวสั่น
จิตใจดิฉันกลับรุ้สึกห่วงเขาขึ้นมา เช็ดตัวให้เขาทั้งคืน
ยอมหยุดงานดุแลเขา หาข้าวหายาให้เขา ดูแลทุกอย่าง
มันคงเป็นผลกรรมจากชาติที่แล้วที่ต้องชดใช้จริงๆ
ทุกวันนี้คนที่ทำให้ดิฉันมีความสุขได้คือ ลูกสาว
เขาเป็นเด็กร่าเริง น่าชัง ฉลาด รู้ว่าแม่ต้องการกำลังใจ
ดิฉันรู้สึกได้ว่า ลูกรักดิฉันมาก เพราะดิฉันอยู่ด้วยกันกับเขามาตั้งแต่เกิด
ทุกข์สุข มาด้วยกันตั้งแต่อยู่ในท้อง เขาเป็นสิ่งเดียวที่มาเป็นกำลังใจให้ดิฉัน
มีแรงก้าวเดินต่อไป ดิฉันได้สวดมนต์ภาวนาทุกคืน แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้กับสามี
เพราะแคยังมีความหวังว่า สักวัน เขาจะคิดได้ เป็นสามีที่ดีและเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก
น้ำตาของดิฉันที่มันไหลอาบแก้มทุกคืน ด้วยความที่น้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาชีวิต
ของตัวเอง มันคงทำให้ดิฉันอดทน ได้จนถึงทุกวันนี้
...........ขอบคุณทุกกำลังใจ...... ขอให้ผลการหวังดีในวันนี้
ตอบแทนให้ชีวิตครอบครัวของทุกๆคนมีความสุขนะคะ[/b]

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วก็หน้าชาแทนจริง ๆ กับพฤติกรรมที่สามีของคุณแสดงออกมา ถ้าเป็นสมัยก่อนนุชเจอกระทำแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า ถีบมาถีบกลับ ด่าเมื่อแม่เราตาย เราต้องด่าว่าให้พ่อมึงตายก่อน ไม่มากราบตีนกู กูไม่ยอม !! แต่นั่นคือตอนนั้น

แต่ตอนนี้ได้ศึกษาธรรม ซึ่งพยายามอย่างเต็มที่ ก็เลยมองภาพและคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นกรรม
แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ โดยให้มันเป็นไปในทิศทางบวก คนเราไม่จำเป็นต้องอดทนซะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้แนะนำว่าให้เลิก เพราะเป็นคนไม่ชอบเห็นคู่รักคู่ไหนเลิกกัน สำหรับนุช ความอบอุ่น มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีพ่อ มีแม่ ครบน่าครบตา เด็กบางรายในประเทศไทย มีครอบครัวสมบูณณ์แบบ ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ...

สามีภรรยาทะเลาะกัน 3 - 4 วัน นอนคุยกันเดี๋ยวดีกันเอง ... คุยกันด้วยเหตุผล ลูกโตขึ้นทุกวัน คงไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ อึกอย่างคุณก็ท้อง บรรยากาศน่าเห็นใจจริง ๆ ค่ะ

ขอให้ทุกกำลังใจในกระทู้นี้ส่งผลไปถึงสามีคุณให้คิดได้และปรับปรุงตัวดีขึ้นอย่างที่คุณคาดหวังไว้นะคะ ... นุชขอเป็นอีก 1 กำลังใจดี ๆ นะคะ ...