ยอมรับในอุดมการณ์ของท่านพลศักดิ์จริงๆ ไม่ว่าจะบี้ถูกแบนถูกบดอย่างไร ก็จะหาวิธีเข้ามาอีกจนได้ เข้ามาก็

ไม่อำพรางตนอย่างไร ประกาศตนเลยว่า ข้านี่ล่ะคือ...

หากเป็นกรัชกายนอนเกาสะดือเล่นสบายใจกว่า

ชอบคุณพลศักดิ์ ตรงนี้แล

คุณกรัชกายและคุณหลับอยู่ครับ


ถ้าเว็บนี้เปิดให้มีการเลือกตั้งผู้ดูแลเว็บ ไม่ใช่การแต่งตั้งหรือการลากตั้ง เลือกผมด้วยนะครับ นโยบายแรกของผม คือ กำจัดอำนาจเผด็จการในเว็บธรรมจักรออกไป นโยบายสอง คือ ถ้าเขาไม่มีทำผิดกฎระเบียบของเว็บ ห้ามแบนเขาและห้ามไล่เขาออก

ผมเบอร์ 7 ครับ seven eleven ส่งเข้าประกวด

ผมก็เคยมีทุกข์เรื่องความรัก ทุกข์ขนาดต้องไปขอให้พระพรหมที่โรงแรมเอราวัณช่วย พระพรหมท่านไปหาผมที่บานเลย ขณะนั้นเป็นเวลาบ่าย 2 ผมกำลังนอนพักอยู่ในภวังค์ แทนที่ท่านจะช่วย ท่านกลับซ้ำเติม เปิดกรรมให้ผมดูเลยว่า ผมทำอะไรกับผู้หญิงมาบางในชาตินี้

ผมจึงยอมรับกรรม และบอกว่ากรรมที่ได้รับนั้นสมควรแล้ว เบาไปด้วยซ้ำ

ภรรยาที่อยู่ด้วยกันปัจจุบันนี้เนื้อคู่กันแต่ชาติก่อนหรือว่าเพิ่งมาก่อร่างสร้างสัมพันธ์กันในชาตินี้ครับ แล้วทะเลาะกันบ่อยไหมครับ

ผมไม่เคยบอกว่ามีเมียนะครับ ผู้หญิงที่ผมรักมีคนเดียว แล้วเธอก็แต่งงานไป 14-15 ปีแล้วด้วย แต่ผมยังมีกรรมต้องพัวพันอยู่กับเธอตลอด คอยช่วยเหลือเมื่อเธอมีทุกข์ที่แก้ไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องงาน เงิน และเรื่องส่วนตัวอื่นๆ บางครั้งเธอไปมีชู้ สามีไม่รู้ แต่เธอตัดสินใจเลิกกับชู้ กลับเป็นคนดี ผมยังรู้ทางจิตเลย แต่ไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเธอ เดี๋ยวเธอรู้ว่า...ผมสามารถอ่านจิตของเธอได้ แม้แต่จิตของแมลงสาบผมก็อ่านได้

ผมยังเห็นในจิตด้วยว่า เมื่อผมตายไปแล้ว ผมจะอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต และท่องเที่ยวอยู่ในปรโลกทุกชั้น รวมทั้งแดนสุขาวดีของพระอมิตา เธอคนนี้ก็จะมาเป็นบริวารของผม...โอ๊ย! หลีกเธอไม่พ้นจริงๆ รักของหนุ่มสาวหมดไป กลายเป็นรักบริสุทธิ์ที่ไม่ต้องการสิ่งใดเข้ามาแทน มีแต่ให้เขาอย่างเดียว โชคดี..ผมเลิกคิดปรุงแต่งเกือบสมบูรณ์แล้ว เลยไม่มีทุกข์

หลังจากนั้นอีก 500 ปี ผมจะลงมาเกิดใหม่เพื่อต่ออายุให้พุทธศาสนาให้มีอายุยืนถึง 5000 ปี ตามพุทธพยากรณ์ ไม่มาเกิดก็ไม่ได้ เดี๋ยวพระพุทธองค์จะพยากรณ์ผิดพลาด ในยุตนั้น...เธอคนนี้ก็จะมาเกิดเป็นเมียผมอีก....หนียายนี่ไม่พ้นจริงๆด้วย

ภรรยาของผมในชาติก่อน อยู่ที่ราชบุรี เคยคุยและช่วยเหลือทางการเงินเธอหลายครั้ง...อย่าถามว่าผมรู้ได้อย่างไรนะครับ

ชีวิตของคุณดูๆช่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆนะครับ

คุณเป็นใครกันแน่ หรือ เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นศาสดาองค์ต่อหลังพุทธศาสนาสิ้นแล้วใช่ไหม

ครับ

โอววว...วว..ววว..ววว...ว

นี่หรือ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์....

เธอคงจำคุณพลศักดิ์ไม่ได้แล้ว...เพราะข้ามภพชาติมาแล้ว... แต่คุณพลศักดิ์ กลับจำเธอได้

โอว...ว.....วว...วว..วว.....วววว....

แสดงว่า เนื้อคู่จริงๆหามีไม่

มอบให้คุณพลศักดิ์ ครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณจขกท.
ขอให้คุณใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างชีวิตใหม่ให้ตัวเองเพื่อลูกนะคะ
รอเวลาฟ้าหลังฝน อย่าคิดถึงอดีตมันผ่านไปแล้ว อย่าโทษตัวเอง
สู้ๆคะ

ขอบคุณทุกท่านครับ ผมเข้าใจแล้วครับ แต่กำลังทำใจและปฎิบัติให้ได้อยู่ ว่าอย่าไปยึดติดในสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ผมคิดว่าเรื่องของผมเป็นคู่เวรคู่บาปครับ เพราะตลอดเวลาที่อยู่กันมา รู้สึกว่าชีวิตไม่ดีขึ้นเลย
ส่วนตัวแล้วงานการ การเงินของผมตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ ก็ปกติดี แต่พออยู่ด้วยกัน ผมยิ่งแย่ลง ทั้งการงานการเงิน ส่วนตัวเธอจากปกติอยู่ก็ดีขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ชั่งมันเถอะครับ มันได้ผ่านไปแล้ว
ผมจะทำใจให้ดีและผ่านพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้ ขอบคุณทุกท่านครับ

สวัสดีครับ คุณkittiwan

ผมเองมีประสบการณ์ในเรื่องนี้อยู่บ้าง
จึงอยากเล่าให้ฟังและเสนอแนะทางออกให้แก่ "จิต" ของคุณkittiwan
ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องลองทำดูครับ ไม่ขอให้เชื่อ

อย่างไรก็ดี หากบ้างถ้อยคำ อาจจะดูเหมือนคัดค้านความคิดของคุณkittiwan ไปบ้าง
ก็ขอทำความเข้าใจก่อนว่า เป็นการวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา เพื่อให้ได้ความหมายที่ไม่ผิดเพี้ยน
ไม่ใช้ต้องการตำหนิ หรือ ซ้ำเติมนะครับ


ขอภาวนาให้ คุณkittiwan เข้าใจจริงๆ นะครับ

เมื่อประมาณ 20 ปี มาแล้ว ผมเคยมีประสบการณ์ครั้งหนึ่ง
แต่ผู้หญิงที่ทำกับผมเป็นแค่คนรักกัน
โดยนอกจากมีผมซึ่งคบกับมาประมาณ 2 ปี แล้ว
เธอยังไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นอยู่ประมาณ 3 เดือน
และจึงเป็นอันเลิกกันไป

ขนาดระดับความสัมพันธ์แค่นี้ผมยังเสียใจอยู่แสนนาน
แล้วพฤติกรรมที่เกิดขึ้นก็เกินกว่าเรื่องขอผมมากๆ

ดังนั้น จึงพอจะเข้าใจความรู้สึกเสียใจของคุณกิติวรรณ
ซึ่งระดับความสัมะพันธ์ ล้ำลึกกว่าผมมากนัก


ก็ดีครับ แต่หากเป็นแค่ "คิด" เอาว่า จะไม่ยึดในสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ...ฯลฯ...
ในที่สุดก็ .....ไม่มีทางพ้นทุกข์นี้ได้โดยง่ายครับ

แต่ถ้าการไม่ยึดติดดังกล่าว เป็นโดยจิตมีสติระลึกรู้ทัน
ในเวลาที่จิตเมื่อเกิดอุปปาทาน เข้าไปยึดติด แล้วรู้ทัน ..... รู้แล้วปล่อย รู้แล้วปล่อย
แบบนี้จึงชื่อว่า "ไม่ยึดติด" แบบชาวพุทธแท้ๆ ครับ


อยากให้คุณkittiwan ย้อนดูจิตใจขอตนเองในขณะเล่าถึงตอนนี้ อีกสักครั้งหนึ่ง
พิจารณาให้ดีๆ สักเกตได้มั๊ยครับว่า เป็นการ คร่ำครวญ กับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
ไม่ได้ต้องการตำหนิครับ....แต่อย่างชี้ให้เห็นว่า จิต ในขณะที่คร่ำครวญเช่นนี้
ถูกกิเลส - ตัณหา ครอบงำไว้ทั้งหมด

ทุกข์ที่ถูกภรรยากระทำ (ความจริงเราก็มีส่วนกระทำด้วย) ผ่านไปแล้ว
นี่เป็นตัว ตัณหา ตัวแรกครับ คือ "วิภวตัณหา" ไม่อยากให้เป็นให้เกิดขึ้น แต่ก็เป็นก็เกิดขึ้น
ผลที่ตามมา คือ โทสะ ความไม่พอใจ ความโกรธ กิเลสเข้าเล่นงานแล้วครับ
โดยสืบต่อมาจาก "กามตัณหา" ก็คือ ความรักนั่นละครับ อยากได้รับความสุขต่างๆ
..................นี่เป็นเหตุแห่งทุกข์ตัวที่ 1 ที่คุณมีส่วนกระทำมันขึ้น (คือ มีอุปปาทาน)
..................พระพุทธองค์ท่านเปรียบเสมือน "ถูกยิงด้วยลูกศรดอกที่ 1"

ทุกข์ตัวใหม่ คือ ทุกข์ที่เกิดจากการคร่ำครวญ กำลังซ้ำเติมคุณkittiwan อยู่
ทุกข์ตัวใหม่ คือ ทุกข์ที่เกิดจากความต้องการ(อยาก)ลืม เรื่องราวครั้งนี้
นี่เป็น "ตัณหา" ตัวใหม่ครับ "ภวตัณหา" อยากให้เป็นให้เกิด
..................เหตุแห่งทุกข์ตัวใหม่ อาจเป็นตัวที่ 2 ...ที่ 3...ที่ 4....และเรื่อยไป.... ที่คุณสร้างเอง
..................พระพุทธองค์ท่านเปรียบเสมือน "ถูกยิงด้วยลูกศรดอกที่ 2"

ดังนั้น หากรู้สึกตัว ด้วยมี สติสัมปชัญญะ รู้เท่าทัน จิต ที่มีกิเลส ในลักษณะนี้ได้บ่อยๆ เนืองๆ
เชื่อว่าทุกข์ในครั้งนี้ผ่านพ้นได้โดยไม่เนิ่นช้าแน่ๆ ครับ


คำว่ารักนี้ครอบคลุมถึง รักที่เกิดในอดีตด้วยนะครับ
คือ หากในจิตใจของคุณยังมีเรื่องความรักครั้งที่ผ่านมาแล้วนี้อยู่
ก็คงยังต้องทุกข์ต่อไปละครับ

รักครอบคลุมทั้งในอดีต ปัจจุบัน และ ความอยากมีรัก
แล้วทุกข์มันตามเล่นงาน กันอยู่ตรงหน้าโดยตลอด
เสมือนลูกศรที่ถูกระดมยิงมายังผู้ที่หมกมุ่นอยู่ในความรักทั้ง 3 กาลนั้น

ขอเอาใจช่วยให้ มีสติระลึกรู้ทัน ตัวตัณหา ที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ครั้งนี้ครับ

ผู้หญิงที่บาปมากๆ อายตนมักจะดูดวิบากกรรมที่ไม่ดี มาให้....
เช่นกันหากชายใดที่มีบาปอกุศลมาก ก็จะ ดูดอะไรๆที่ไม่ดีมา สู่ฝ่ายหญิงเช่นกัน ครับ

นี่อาจเป็นอีกเหตุปัจจัยนึง บางทีคุณอาจจะไปทำกรรมอะไรๆไม่ดีไว้ชาติก่อนๆก็ได้ ครับ จำไม่ได้หรอกครับ หรือหากเขาล้างผลาญคุณทำให้คุณเจ็บช้ำใจ หมายได้ว่าเป็นหนี้กันมาหน่ะครับ

ศึกษาพระชาดกดูนะครับ...ไว้เป็นความรู้ประดับตัวไป(ลองย้อนนึกดูว่าเธอๆมีอาการแบบนี้หรือเปล่า)

หญิงย่อมดูหมิ่นสามีเพราะเหตุการ ๘ ประการ
หญิงย่อมนำความประทุษร้ายมาให้สามีด้วยเหตุ ๙ ประการ
หญิงย่อมยั่วยวนชายด้วยเหตุ ๔๐ ประการ
หญิงเป็นคนประทุษร้ายสามีด้วยเหตุ ๒๕ ประการ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘ บรรทัดที่ ๑๘๙๗ - ๒๒๕๗. หน้าที่ ๗๕ - ๘๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0
ศึกษาอรรถกถาชาดกนี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=28&i=296

...ตอนใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน...อดทนกันไป...พอความรักหมดลง...
...คงเหลือแต่ความเป็นเพื่อน...และเมื่อไม่อาลัยต่อกันแล้ว...ใจจึงเปลี่ยนไป...

...จากข้อความอ้างอิง...เป็นความรู้สึกที่สะสมอคติต่อคนรักมานาน...
...คนที่ใกล้ชิดกันเป็นภรรยาจะรับรู้ความรู้สึกนั้นไม่ได้เชียวหรือคะ...
...เธออาจเสียใจและทุกข์ใจอยู่นาน...และไม่มีที่ปรึกษาก็เป็นได้...
...พอมีผู้ที่ช่วยคลายทุกข์ให้เธอ...ใจเลยถลำไปเพราะความใกล้ชิด...

...เมื่อไม่อาจย้อนกลับมาสู่ที่เดิม...และมีทางเดินใหม่ให้เลือก...
...เธอจึงเลือกทางเดินใหม่และตัดสินใจด้วยตัวเธอเอง...
...ถามว่าเป็นคุณคุณkittiwanก็อาจจะตัดสินใจแบบเธอก็ได้ค่ะ...
...ลองย้อนมองตัวเองว่าที่ผ่านมา...เป็นเพราะเราที่เปลี่ยนความรักจากเธอไหม...

...ชีวิตคือการเริ่มต้นใหม่ทุกวัน...ขอให้มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน...

...หากแนะนำผิดพลาดประการใด...ขออโหสิกรรมด้วยไม่เจตนาตอกย้ำอดีต...