วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 12:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2011, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
ซากกองอิฐสีแดงและเศษรูปสลักหินอ่อนที่ปรักหักพังของ “มหาวิทยาลัยนาลันทา”
มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยของความยิ่งใหญ่ในอดีต
ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองราชคฤห์ (ใหม่) ห่างจากเมืองปัตนะ เมืองหลวงของรัฐพิหาร ๙๐ กิโลเมตร
“มหาวิทยาลัยนาลันทา” ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ได้แสดงพระสัทธรรมให้เราเห็นถึงกฎแห่งไตรลักษณ์


:b47: :b45: :b47:

มหาวิทยาลัยนาลันทา
มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก

:b44: นาลันทาในปัจจุบัน

มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงศ์โมริยะ ประมาณปีพุทธศตวรรษที่ ๓ และมีการสร้างติดต่อกันเรื่อยมาอีกหลายยุคหลายสมัย โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นสถานศึกษาของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา

ต่อมาก็มีการก่อสร้างส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกมากมาย ตลอดระยะเวลาอันยาวไกล นับตั้งแต่ พระเจ้าแผ่นดินในราชวงศ์คุปตะ ราชวงศ์ปาละ และพระเจ้าแผ่นดินแห่งชวาสุมาตรา อินโดนีเซีย เป็นต้น

ราวปีพุทธศตวรรษที่ ๗-๘ ท่านนาคารชุน คณาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งลัทธินิกายมหายาน ได้เดินทางไปยังปูชนียสถานสำคัญๆ หลายแห่ง พร้อมกับ ท่านอารยเทวะ ผู้เป็นศิษย์ แล้วท่านก็ได้เดินทางมาถึงนาลันทา ภายในระยะเวลาเพียง ๑-๒ ศตวรรษ จากเวลาที่ท่านนาคารชุนเดินทางมาถึงนาลันทา ต่อจากนั้น นาลันทาก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนานิกายมหายานที่สำคัญยิ่ง ขณะนั้นมหาวิทยาลัยนาลันทากำลังเจริญรุ่งเรืองเต็มที่

ต่อมาในราวปีพุทธศตวรรษที่ ๙ ได้เกิดคณาจารย์ที่สำคัญของนิกายมหายานขึ้นอีกท่านหนึ่ง นามว่า “ภิกษุอสังคะ” ท่านผู้นี้เป็นผู้ประกาศหลักธรรม ลัทธิโยคาจาร ท่านได้ใช้ช่วงเวลา ๑๒ ปีสุดท้ายแห่งชีวิตของท่านที่นาลันทาแห่งนี้ เมื่อภิกษุอสังคะได้มรณภาพลง น้องชายของท่านมีนามว่า “ภิกษุวสุพันธ์” ผู้เป็นนักปราชญ์คนสำคัญแห่งลัทธิโยคาจาร ได้เป็นประธานสงฆ์ บริหารมหาวิทยาลัยนาลันทาสืบต่อมา

ในสมัยคุปตะ ซึ่งจัดเป็นยุคทองแห่งประวัติศาสตร์ของอินเดีย ในยุคนี้มีพัฒนาการในด้านต่างๆ เกี่ยวกับชีวิต วัฒนธรรม และแนวความคิดทางศาสนาของอินเดีย ได้เป็นไปอย่างกว้างขวาง

หลักฐานจากศิลาจารึก ตลอดจนหลักฐานทางโบราณคดี ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดของพระพุทธศาสนาในยุคนี้ แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะไม่ได้เป็นศาสนาทางราชการตลอดทั่วทุกแคว้น ในมัชฌิมประเทศ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
สถูปบ้านพระสารีบุตร สถูปองค์นี้สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ท่านพระสารีบุตร
เชื่อกันว่าบริเวณนี้เป็นบ้านนาลกะหรือนาลันทคาม ในแคว้นมคธ
ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านพระสารีบุตรในครั้งพุทธกาล
(เมืองนาลันทา เป็นบ้านเกิดของพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ)


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
ด้านหลังของสถูปบ้านพระสารีบุตรนั้นเป็นพื้นที่หวงห้าม
มีพระพุทธรูปศิลปะปูนปั้นอันสวยงาม ที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่

(มีต่อ)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2011, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

:b44: มหาวิทยาลัยนาลันทาในสมัยเฮียงจัง

ในสมัยของ หลวงจีนเฮียงจัง (พระถังซัมจั๋ง, Xuanzang) ราวปีพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ นั้น พระเจ้าหรรษวรรธนะ กษัตริย์ปกครองชมพูทวีปตอนกลาง ทรงเป็นองค์อุปถัมภกที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ทรงทำนุบำรุงมหาวิทยาลัยนาลันทาด้วยพระศรัทธาอันแก่กล้า ทรงอุทิศส่วยจากหมู่บ้าน ๑๐๐ หมู่บ้านให้เป็นปัจจัยบำรุงมหาวิทยาลัย และมีบัญชาให้หัวหน้าครอบครัว ๒๐๐ ครอบครัวบำรุงพระภิกษุที่อยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยภัตตาหาร เช่น ข้าว เนย และนม เป็นประจำ โดยพระภิกษุเหล่านั้นไม่ต้องออกไปบิณฑบาตข้างนอก

พระนักศึกษาแห่งนาลันทาไม่ต้องมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องปัจจัยสี่นี้เลย ฉะนั้น จึงสามารถอุทิศเวลาทั้งหมดให้แก่การศึกษาได้เต็มที่ พระเจ้าหรรษวรรธนะ ทรงเคารพยกย่องพระภิกษุแห่งมหาวิทยาลัยนาลันทาเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงโปรดให้พระนักศึกษาแห่งนาลันทาประมาณ ๑,๐๐๐ รูป เข้าร่วมรัชสภาที่กะเนาซ์ด้วย

หลวงจีนเฮียงจัง ได้กล่าวถึงมหาวิทยาลัยนาลันทาไว้อย่างชัดเจน โดยแสดงถึงความยิ่งใหญ่และมาตรฐานการศึกษาที่สูงกว่าสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีอยู่ในตะวันออกโบราณ ในสมัยนั้น มหาวิทยาลัยนาลันทาเจริญรุ่งเรืองมาก เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด มีห้องประชุมขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุผู้ฟังได้มากกว่า ๑,๐๐๐ คนขึ้นไป มีถึง ๘ ห้อง, มีห้องเรียนกว่า ๓๐๐ ห้อง, มีห้องพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ และมีหอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัยพร้อม โดยมีโรงครัว ยุ้งฉางสำหรับการหุงหาอาหารเลี้ยงพระนักศึกษาเหล่านั้นด้วย

ในมหาวิทยาลัยนาลันทาทั้งหมด มีที่พักสำหรับนักศึกษาถึง ๑๐,๐๐๐ คน พร้อมด้วยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอีกประมาณ ๑,๕๐๐ คน มีกฎเกณฑ์เข้มงวดมาก พระนักศึกษาผู้เข้าใหม่กว่าจะถูกรับเข้าสถาบันได้ จะต้องผ่านการทดสอบมากมาย พระนักศึกษาแห่งนาลันทาได้รับการยกย่องอย่างสูงจากทั่วทุกแห่ง พระภิกษุที่ศึกษาอยู่ที่นี้ มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นองค์อุปถัมภ์ การเป็นอยู่ทุกอย่างให้เปล่าหมด ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพื่อให้สืบทอดพระพุทธศาสนา ให้มีหลักธรรมที่ลึกซึ้งและถูกต้องอย่างเต็มที่ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีพระภิกษุจากต่างแดนได้เดินทางเข้ามาศึกษาที่นี่เช่นกัน เช่น หลวงจีนเฮียงจัง (พระถังซัมจั๋ง) เป็นต้น

ในระยะก่อนที่หลวงจีนเฮียงจัง (พระถังซัมจั๋ง) จะได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยนาลันทาเล็กน้อย ท่านอาจาริยะ ธัมมปาละ ได้เป็นประมุขสงฆ์ หลังจากท่านองค์นี้แล้ว ศิษย์ของท่านชื่อ ท่านอาจาริยะ ศีลภัทระ ผู้เป็นโอรสของกษัตริย์แห่งสมตาฎ (แคว้นเบงกอลทางใต้) เป็นอธิบดีสงฆ์ต่อมา ซึ่งท่านองค์นี้เป็นอาจารย์สอนพุทธปรัชญาให้แก่หลวงจีนเฮียงจัง เป็นเวลา ๕ ปี สำหรับวิชาที่หลวงจีนเฮียงจังได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยนาลันทา ได้แก่ คัมภีร์พระพุทธศาสนาทั้งหินยาน (เถรวาท) และมหายาน, เหตุวิทยา (Logic), ศัพท์วิทยา (Gramma), จิกิตสาวิทยา (Medical Sciences), พระเวทย์ทั้งหลาย และสางขยศาสตร์ เป็นต้น

ด้านการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยนาลันทานั้น มีการสอนวิชาต่างๆ มากมาย เช่น พุทธปรัชญา ไวยากรณ์ วรรณคดี แพทยศาสตร์ ฯลฯ และมีวิชาบังคับคือ พระไตรปิฎก เป็นต้น

หลังจากสิ้นรัชสมัยของ พระเจ้าหรรษวรรธนะ แล้ว พระพุทธศาสนาในมัชฌิมประเทศเริ่มเสื่อมลงๆ หลวงจีนเฮียงจังได้เล่าว่า ท่านได้เห็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาหลายแห่งตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม แม้ในนครสาวัตถี เมืองปยาคะ และที่อื่นๆ วัดในทางพระพุทธศาสนาได้ลดจำนวนน้อยลง แต่ในขณะเดียวกัน เทวาลัยและสถานบูชาของพวกต่างศาสนากลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น มีแต่ในแคว้นมคธ ภายใต้การอุปถัมภ์บำรุงของกษัตริย์ราชวงศ์ปาละ แห่งเบงกอล และพิหารเท่านั้น ที่พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองต่อมาอีก ๒-๓ ศตวรรษ

รูปภาพ
หลวงจีนเฮียงจัง (พระถังซัมจั๋ง) เมื่อครั้งเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยนาลันทา
[ภาพดัดแปลงจากหนังสือภาพประวัติพระถังซัมจั๋ง เรียบเรียงโดย ล.เสถียรสุต]


:b47: :b45: :b47:

:b50: :b50: พระถังซัมจั๋ง : ตถาตาหมื่นลี้ที่ปลายจมูก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=20219

(มีต่อ)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2011, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
บริเวณ “มหาวิทยาลัยนาลันทา” ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองราชคฤห์ (ใหม่)

:b47: :b45: :b47:

:b44: มหาวิทยาลัยนาลันทาในสมัยปาละ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2011, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
ภายในอุโบสถ วัดไทยนาลันทา (Wat Thai Nalanda) รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
ซึ่งมี “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” จำลอง ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39407

รูปภาพ
“นวนาลันทามหาวิหาร” มหาวิทยาลัยนาลันทา (ใหม่)

:b47: :b45: :b47:


นาลันทา

:b8: :b8: :b8: คัดลอกเนื้อหามาจาก...
หนังสือสู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล
โดย พระราชรัตนรังษี (ว.ป. วีรยุทฺโธ)

http://www.wanramtang.com/images/1178204448/nalanda.pdf

:b39: พุทธสังเวชนียสถาน
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2011, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www



.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 04:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุๆค่ะ ขอบพระคุณท่านสาวิกาน้อยค่ะ :b8: :b8: :b8:

:b43: ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นทั้งหมดมีดับเป็นธรรมดา :b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 16:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ต.ค. 2009, 15:47
โพสต์: 417

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: วิปัสนา-กรรมฐาน เล่ม 1-2
ชื่อเล่น: นา
อายุ: 44
ที่อยู่: 140/19 ถ.อภัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าแก้ไขคนอื่น จงแก้ไขตัวเราเอง

....................................................

เจ้าเกิดมามีอะไรมาด้วยเล่า
เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
เจ้ามาเปล่าแล้วเจ้าจะเอาอะไร
เจ้าก็ไปตัวเปล่าเหมือนเจ้ามา

...................................................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร