ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วม “ปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ” ด้วยการร่วมสวดพุทธคุณ ๒,๖๐๐ จบ โดยมี “พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา” (พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา) เป็นประธาน เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พร้อมกับพุทธศาสนิกชนจาก ๕ ทวีป ๑๕ ประเทศทั่วโลก ผ่านการถ่ายทอดสดจากท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ และอีก ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศไทย ณ สถานที่ที่แต่ละจังหวัดจัดไว้ ในค่ำคืนวันวิสาขบูชานักขัตฤกษ์ วันจันทร์ที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นต้นไป อย่างพร้อมเพรียงกัน


เมื่อครั้งพุทธกาล...หลังการตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชานักขัตฤกษ์...พุทธกิจตลอด ๔๕ พรรษาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อสร้างธรรมทายาท ให้เกิดพุทธสาวก พุทธสาวิกาที่แตกฉาน และจะทำงานตามพุทธประสงค์ คือการพัฒนาชีวิตให้สงบเย็น และไม่ละเลยการเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวาง เพื่อมวลมนุษยชาติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ บัดนี้ พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระองค์ พุทธศาสนิกชนกำลังทำอะไรกันอยู่...นี่เป็นคำถามที่ชาวพุทธควรถามตัวเอง และหาคำตอบให้ได้...ก่อนที่จะสาย...เกินไป

พุทธศักราช ๒๕๕๕...ปีแห่งพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...ในค่ำคืนของวันวิสาขบูชานักขัตฤกษ์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ขอเชิญปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ ด้วยการร่วมสวดพุทธคุณ ๒,๖๐๐ จบ โดยมี พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา (พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา) เป็นประธาน เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พร้อมกับพุทธศาสนิกชนจาก ๕ ทวีป ๑๕ ประเทศทั่วโลก อย่างพร้อมเพรียงกัน ผ่านการถ่ายทอดสดจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร และอีก ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศไทย ณ สถานที่ที่แต่ละจังหวัดจัดไว้ ตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นต้นไป

หลายคนอาจสงสัยว่า...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา คืออะไร
...ทำไมต้อง พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา

ณ แดนพุทธภูมิ เมื่อกว่า ๑,๐๐๐ ปีผ่าน...พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางมารวิชัยในท่านั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักด้วยหินดำ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้ว ความสูงนับจากพระเพลาถึงยอดพระเกตุ ๖๙ นิ้วฟุต ประดิษฐานอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในบันทึกของ “ท่านปิลาซิงห์” กล่าวว่า สร้างขึ้นโดยท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือ ระหว่างปี พ.ศ. ๑๓๕๓-๑๓๙๓ ครั้นต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๑๗๖๖ พวกต่างศาสนาได้ใช้วิธีเผยแผ่ศาสนาโดยใช้กำลังอาวุธ ถ้าใครไม่นับถือศาสนาของตนจะต้องถูกทำร้าย โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญ จะต้องถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นคนหรือทรัพย์สมบัติในพระพุทธศาสนา

ในบันทึกของ “ท่านตารนาท ธรรมสวามินปราชญ์” ได้เขียนไว้และเล่าต่อกันมาว่า เมื่อกองกำลังติดอาวุธบุกมาถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ทั้งพระนักศึกษาและพระคณาจารย์ พร้อมด้วยชาวพุทธพากันไปหลบภัยอยู่หลังพระพุทธรูปองค์ดำ ด้วยอภินิหารแห่งพระพุทธรูปองค์ดำทำให้กองกำลังต่างศาสนาไม่สามารถมองเห็นชาวพุทธเหล่านั้นได้ เมื่อกองทัพต่างศาสนายกทัพกลับไปแล้ว ชาวพุทธผู้ที่หลบซ่อนอยู่ก็พากันออกมาจากที่ซ่อน เมื่อสำรวจข้าวของที่ยังหลงเหลืออยู่ รวบรวมเท่าที่จะหาได้เพื่อฟื้นฟูบูรณะ กระทั่งอังกฤษเข้ายึดครองอินเดีย มีบันทึกกล่าวไว้ว่า ชาวอังกฤษเข้าไปค้นหาปูชนียวัตถุ และได้พระพุทธรูปมากมายหลายองค์ จึงส่งเข้าไปรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประเทศอังกฤษ และบูรณะมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา

พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของพวกต่างศาสนา และไม่ถูกอังกฤษยึดไป ทั้งยังเล่าต่อๆ กันมาอีกว่า ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายองค์พระไปจากที่ที่ประดิษฐานเดิม ก็มักเกิดเหตุอาเพทที่ไม่คาดฝันเสมอ เช่น ฝนตกอย่างหนัก เกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรง เป็นต้น เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จ และชาวบ้านจึงเป็นผู้ดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธรูปองค์ดำรักษาโรคต่างๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ

ณ แดนสุวรรณภูมิ ในปีพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักจากหินแกรนิตสีดำบ่อเดียวกันจากทวีปแอฟริกา จัดสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ปี พ.ศ. ๒๕๕๕) โดยจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปองค์ดำ แห่งเมืองนาลันทา กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หลังจากเป็นพระประธานในการสวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษจากท้องสนามหลวง จะอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการถาวร ณ เสถียรธรรมสถาน ต่อไป เพื่อเป็นพระประธานของ “สาวิกาสิกขาลัย” มหาวิชชาลัยธรรมะที่จัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรมและเยียวยาสังคม เพื่อสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข พ้นทุกข์ร่วมกัน

จากศรัทธา...สู่ศรัทธา...จาการเยียวยาคน...สู่การเยียวยาสังคม...จากพระพุทธรูปองค์ดำ ณ มหาวิทยาลัยนาลันทา...สู่พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา…พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา ณ สาวิกาสิกขาลัย

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา…พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา สู่ท้องสนามหลวง ในวันพฤหัสที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. และขอเชิญปฏิบัติบูชา ร่วมเป็นหนึ่งในการเฉลิมฉลอง “พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม-๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ในบรรยากาศของนิทรรศการ “พุทธชยันตี” ณ เสถียรธรรมสถาน ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. ๐-๒๕๑๙-๑๑๑๙ หรือที่ http://www.sdsweb.org และนิตยสาร “ธรรมสวัสดี” ฉบับเดือนมิถุนายน

ไพเราะในเบื้องต้น...ไพเราะในท่ามกลาง...ไพเราะในที่สุด


ที่มา...นิตยสาร “ธรรมสวัสดี” ฉบับเดือนมิถุนายน
: มองนอกดูใน โดยแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต, komchadluek.net

“หลวงพ่อองค์ดำ” หรือ พระพุทธรูปองค์ดำ
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา กรุงราชคฤห์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39407

พิธีอัญเชิญ “พระพุทธชยันตีองค์ดำ” ประดิษฐานท้องสนามหลวง

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน เปิดเผยว่า เสถียรธรรมสถาน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ประดิษฐานยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา เนื่องในโอกาสปีพุทธชยันตี ครบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเนื่องในวันวิสาขบูชา วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังยกพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีหน้าตักกว้าง ๖๙ นิ้ว สร้างจากหินแกรนิตลงจากรถบรรทุก เพื่อประกอบพิธีชุมนุมเทวดา โดยมี พระครูสังฆรักษ์ (ปารมี สุรยุทโธ) หรือพระอาจาร์ปารมี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาแก้ว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นประธาน

ในระหว่างประกอบพิธีอัญเชิญ “พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา” ได้เกิดเหตุการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดขึ้น สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี จนต้องวิ่งออกจากเต็นท์ออกมาดูให้เห็นกับตา โดยได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดอยู่ตลอดการประกอบพิธีนานถึง ๑๕ นาที

สำหรับพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ดังกล่าว ได้จัดสร้างขึ้นโดยจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปองค์ดำ แห่งเมืองนาลันทา กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยใช้หินแกรนิตแบบเดียวกับที่ใช้สร้างพระพุทธรูปองค์ดำ ซึ่งในระหว่างประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ลงจากรกบรรทุกก็ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพุทธานุภาพของพระพุทธรูปองค์ดำ ประเทศอินเดีย ที่แผ่มายังพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา

ทั้งนี้ ในวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา จะมีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษในเวลา ๒๓.๐๐ น. ที่ท้องสนามหลวง โดยจะมีการสวดสรรเสริญพุทธคุณจากพระสงฆ์ ๒,๖๐๐ รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย จากนั้นในวันที่ ๕ มิถุนายน จะอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ไปประดิษฐานเป็นการถาวรที่เสถียรธรรมสถาน เพื่อเป็นพระประธานของ “สาวิกาสิกขาลัย” มหาวิชชาลัยธรรมะที่จัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรมและเยียวยาสังคม เพื่อสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข พ้นทุกข์ร่วมกัน ต่อไป


ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน ออนไลน์

“หลวงพ่อองค์ดำ” หรือ พระพุทธรูปองค์ดำ
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา กรุงราชคฤห์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39407

ภาคใต้ตอนล่างไม่มีบ้างหรือครับ

สรุปว่า มีการจัดงานทั่วทั้งประเทศไทยค่ะ คุณฝึกจิต