วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 05:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


เคล็ดลับการขจัด "รังแค"

รังแคที่หนังศีรษะ รังแคมีลักษณะเป็นขุยขาวเล็กที่บริเวณหนังศีรษะ
ทำให้มีอาการคัน และมองดูไม่สะอาดตา ยิ่งเกายิ่งคัน
และจะมีขุยหลุดร่วงมากขึ้น สร้างความรำคาญ
และบั่นทอนบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก บางครั้งสามารถรักษาให้หายได้
แต่มักจะกลับเป็นซ้ำได้อีก รังแคจะไม่มีการอักเสบบวมแดงทีบริเวณหนังศีรษะเลย
เนื่องจากรังแคคือขุยบนเส้นผม บนหนังศีรษะ อาจมีลักษณะแห้งหรือมันก็ได้
เป็นความแปรปรวนของเซลล์หนังศีรษะที่แบ่งตัวมากขึ้นกว่าปกติ แล้วหลุดออกง่าย
และเร็วกว่าปกติ กลายเป็นขุยขนาดใหญ่ที่สามารถสังเกตได้


ปัญหารังแคเกิดขึ้นที่เซลล์ชั้น บนสุดของหนังศีรษะลอกตัวหลุดออก
ตามปกติแล้วเซลล์หนังศีรษะของคนเรา ซึ่งเกิดใหม่จะค่อยๆ เลื่อนจาก
ใต้ผิวหนังขึ้นมาจนถึงผิวชั้นบนสุด และหลุดออกไปในเวลา
ประมาณ 28 วันโดยเฉลี่ย โดยเซลล์ที่หลุดออกจะเป็นชิ้นเล็กๆ
ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แต่ถ้ามีสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้วงจรนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้น
เช่น จาก 28 วัน เหลือแค่ 7-21 วัน โดยเซลล์ที่หลุดออกแทนที่จะเป็นชิ้นเล็ก
กลับมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขุยสีขาวหรือเทา และมองเห็นได้ชัด
แถมยังจะมีอาการคันศีรษะร่วมด้วย แสดงว่ามีรังแคเกิดขึ้น
หนังศีรษะมีเซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกอยู่ตลอดเวลา
แต่คนที่มีรังแคนั้นเซลล์ผิวหนังจะหลุดลอกเร็วมาก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ
ตั้งแต่ความเครียด ไปจนถึงต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
รวมทั้งผิวหนังอักเสบที่เรียกว่า ผื่นรังแค (seborrhoeic dermatitis)


รังแคเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก บางคนอาจมีรังแคมาก
บางคนอาจมีรังแคน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ หนังศีรษะที่มีรังแคจะคัน และมีกลิ่นเหม็น
จากสถิติพบว่ารังแคมักเกิดขึ้นตั้งแต่อายุก่อน 20 ปี โดยทั่วไปวัยรุ่นจะเริ่มมีรังแค
และเมื่ออายุ 50 ปี จะสังเกตพบว่ารังแคเริ่มหายไป
จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าชาวคอเคเชียนประมาณครึ่งหนึ่งมีปัญหาเรื่อง รังแค


สาเหตุ

:b39: 1. รังแคเกิดได้อย่างไรยังไม่ทราบ แน่ชัด แต่เชื่อว่าเชื้อราชนิดหนึ่ง
และฮอร์โมนแอนโดรเจน มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการเกิดรังแค
ภาวะที่ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สบาย มีความเครียด รังแคอาจกำเริบขึ้นมาอีกได้


:b39: 2. เชื้อราที่เกี่ยวข้องกับการเกิดรังแคเป็นเชื้อราเซลล์เดียว
หรือที่เรียกว่า 'เชื้อยีสต์' ชื่อวิทยา ศาสตร์คือ malassezia
หรือชื่อเดิมว่า pityrosporum เชื้อราพวกนี้อาศัยอยู่ที่หนังศีรษะ
กินน้ำมันที่สร้างมาจากต่อมรากผมและต่อมไขมันเป็นอาหาร
โดยปกติไม่ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด
แต่บางครั้งพบว่าเชื้อกำเริบและเติบโตรวดเร็วผิดปกติ
จะก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังศีรษะ ทำให้เซลล์มีการแบ่งตัวที่เร็วขึ้น
และพบมีเซลล์ที่ตายแล้วอยู่บนหนังศีรษะเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเป็นรังแคในที่สุด


:b39: 3. คนที่หนังศีรษะมันมากจึงมักเป็นรังแคง่าย
มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารังแคมักเกิดจากเชื้อราเซลล์เดียว หรือที่เรียกว่า 'เชื้อยีสต์'
ชื่อ พิไทโรสโพรัม ออร์บิคูแลร์ (pityrosporum orbiculare)
ซึ่งกินน้ำมันที่ผิวหนังเป็นอาหาร


:b39: 4. รังแคยังอาจเกิดจากการรบกวนต่อหนังศีรษะ
ซึ่งอาจเป็นทางเคมีหรือกายภาพก็ได้ การรบกวนทางเคมี เช่น แชมพู
น้ำยาดัดผม หรือน้ำยาย้อมผม ส่วนการรบกวนทางกายภาพ เช่น การเกา การถู เป็นต้น


:b39: 5. บางคนเชื่อว่า รังแคเกิดจากผิวหนังแห้ง ผิวหนังมันเกินไป
การสระผมด้วยแชมพูบ่อยเกินไป การสระผมด้วยแชมพูน้อยเกินไป
ภาวะโภชนาการไม่ดี ความเครียด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมมากเกินไป


อาการ

:b55: 1. ผิวหนังคัน และลอก ซึ่งเป็นได้ทั้งใบหน้า และอก รวมทั้งหนังศีรษะ


:b55: 2. รังแคทำให้มีอาการคัน และมองดูไม่สะอาดตา ยิ่งเกายิ่งคัน
และจะมีขุยหลุดร่วงมากขึ้น สร้างความรำคาญ และบั่นทอนบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก
บางครั้งสามารถรักษาให้หายได้ แต่มักจะกลับเป็นซ้ำได้อีก


:b55: 3. โรคบางอย่างที่ก่อให้เกิดโรครังแคได้ เช่น โรคสะเก็ดเงิน
โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ โรคผิวหนังอักเสบ การแพ้สารเคมีบางชนิด เป็นต้น


:b55: 4. รังแคมีทั้งชนิดผมมัน และชนิดผมแห้ง อาจตรวจสอบได้ง่ายๆ
ด้วยการก้มศีรษะลง วางกระดาษดำ หรือผ้าสีเข้มๆ ไว้ตรงหน้า
แล้วหวีเอาฝุ่นผงต่างๆ จากเส้นผมออก ดูว่าฝุ่นผงที่หลุดมาจากเส้นผม
มีลักษณะอย่างไร ถ้าเป็นผงเล็กๆ เหมือนแป้ง แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมแห้ง
แต่ถ้าฝุ่นผงที่หลุดออกมามีลักษณะชิ้นใหญ่ เป็นก้อน และชื้น
แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมมัน


:b55: 5. โดยทั่วไปรังแคจะไม่มีการอักเสบ บวมแดงทีบริเวณหนังศีรษะเลย
แต่ถ้ามีรังแคมาก ร่วมกับอาการคัน หรือผื่นแดงที่หนังศีรษะ
อาจเป็นอาการของโรคผิวหนัวบางชนิด เช่น โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม
(seborrheic dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
หรือโรคแพ้สารเคมี หรือน้ำยาบางอย่าง


การวินิจฉัย

สามารถให้การวินิจฉัยได้ไม่ยาก ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ
เกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์


การรักษา

:b48: 1. ดูแลเอาใจใส่ผมด้วยการสระผมบ่อยๆ จะช่วยให้ดีขึ้นได้
พิจารณาใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของยาบางตัว เช่น เซเลเนี่ยม ซัลไฟด์
(selenium sulfide) , ซิงค์ ไพรีตั้น (zinc pirition)
หรือ คีโตโคนาโซล (ketoconazole) เป็นต้น
ซึ่งช่วยให้ปัญหารังแคทุเลาเบาบางลงได้ โดยใช้สระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เนื่องจากมีส่วนผสมของตัวยา
ที่อาจทำให้ผมแห้งเป็นสีเหลืองน้ำตาลได้ ถ้ามีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์


:b48: 2. เวลาสระผมต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก
เพื่อให้แชมพูออกฤทธิ์เต็มที่ ยิ่งเป็นรังแคมากก็ยิ่งต้องทิ้งไว้นาน
ยีให้เป็นฟองทั่วศีรษะ แล้วใช้หมวกอาบน้ำคลุมไว้สัก 1 ชั่วโมงค่อยล้างงออก


:b48: 3. เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ ซีลีเนียมซัลไฟด์
(selenium sulphide) ซิงค์ไพริไทออน (zinc pyrithione)
หรือทาร์ (tar) สาร สองอย่างแรกช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์หนังศีรษะ
มีอยู่ในแชมพูขจัดรังแคสูตรอ่อนโยน เช่น เฮดแอนด์โชลเดอร์ส
ส่วนแชมพูที่ผสมทาร์จะยับยั้งการเติบโตของเซลล์
แชมพูทั้งสองชนิดนี้ล้วนขจัดรังแคได้ดีกว่าแชมพูที่ผสมซัลเฟอร์ (sulphur)
หรือกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) ซึ่งแค่ทำให้หนังศีรษะหลุดลอกออกมา
แล้วล้างออกไประหว่างการสระ


:b48: 4. ถ้าใช้แชมพูขจัดรังแคสูตรอ่อน โยนแล้วไม่ดีขึ้น
ให้ใช้แชมพูผสมสารคีโตโคนาโซล (ketoconazole)
เช่น ไนโซรัล คีโตโคนาโซลเป็นยาฆ่าเชื้อรา
จะช่วยฆ่ายีสต์ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดรังแค


:b48: 5. ถ้าใช้แชมพูขจัดรังแคไปสักพัก แล้วเริ่มกลับมามีรังแคอีก
แสดงว่าหนังศีรษะจเกิดอาการดื้อยา ลองเปลี่ยนไปใช้แชมพู
ที่ผสมสารขจัดรังแคชนิดอื่น ใช้ไปสัก 2-3 เดือนแล้วค่อยกลับมาใช้ยี่ห้อเดิม


แชมพูขจัดรังแค หรือ Antidandruff

สารที่เป็น Anti-dandruff นั้น ควรมีคุณสมบัติ 2 อย่าง คือ

:b41: 1. ลดการแบ่งตัวของเซลล์ที่หนัง ศีรษะ และต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย
ได้แก่ ซิงค์ไพริไทออน (zinc pyrithione หรือ ZPT)
และ เซลิเนียมซัลไฟต์ (selenium sulfide)


:b41: 2. สามารถลดขุย (keratolytic) ขจัดเซลล์ชั้นที่ตายแล้ว ให้หลุดออกไป
ได้แก่ รีซอร์ซินอล (resorcinol) ซัล เฟอร์ (sulfur)
และกรดซาลิซิลิค (salicylic acid)



เลือกใช้แชมพู ขจัดรังแคอย่างไรดี

:b54: 1. ถ้ามีรังแคเพียงเล็กน้อย การใช้แชมพูธรรมดาๆ ก็สามารถช่วยได้แล้ว
ปฏิบัติร่วมกับการดูแลเส้นผม และหนังศีรษะอย่างถูกต้อง เช่น ไม่เกา
ไม่ขูดหนังศีรษะแรงเกินไป โดยต้องสระผมให้บ่อยพอควร
โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก และมีอาการคัน


:b54: 2. ถ้ามีรังแคค่อนข้างมาก ควรเลือกใช้แชมพูที่ผสมตัวยาที่กล่าวไปแล้ว
ที่นิยมใช้กันมาก คือ ZPT และ selenium sulfide
เนื่องจากใช้ได้ผลดีกว่า salicylic acid และ sulfur
ซึ่งใช้ได้ผลดีพอควร ถ้านำมาผสมกัน


:b54: 3. ZPT มีข้อดีกว่า selenium sulfide ที่มีข้อแทรกซ้อนน้อยกว่า
ในแง่ของการเกิดพิษต่อตา หรือเยื่อบุตาอักเสบ


:b54: 4. selenium sulfide ยังมีกลิ่นไม่ค่อยดีนัก ทำให้บางคนไม่ชอบใช้ได้


สระผมอย่างไรให้ ถูกวิธี

:b53: 1. การสระผมให้ถูกวิธีนั้น ควรสระผมเบาๆ
โดยไม่เกาเพื่อไม่รบกวนหนังศีรษะ ไม่ว่าจะใช้แชมพูใดก็ตาม


:b53: 2. สำหรับ ZPT shampoo นั้นหลังจากขยี้ผมทั่วแล้ว
ให้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วค่อยล้างออก


:b53: 3. ถ้าเป็นรังแคเพียงเล็กน้อย คันไม่มาก
สามารถใช้แชมพูธรรมดาสระผมทุกวัน เพื่อขจัดอาการคันให้หายไป
ห้ามเกาแรงหรือหวีขูดหนังศีรษะเป็นอันขาด


:b53: 4. ถ้ามีรังแคปานกลาง คันไม่มาก ใช้ ZPT shampoo
สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็ช่วยลดอาการคัน และปริมาณรังแคได้


:b53: 5. ถ้ามีรังแคค่อนข้างมาก และคันมาก ควรสระผมด้วย ZPT ทุกวัน


:b53: 6. การขจัดรังแคบนหนังศีรษะ ต้องอาศัยการดูแลผม
และหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง โดยเลี่ยงการรบกวนต่อหนังศีรษะโดยเฉพาะการเกา
การสระผมให้ถี่พอ และควรสระเมื่อมีอาการคัน
ไม่ปล่อยทิ้งไว้โดยใช้แชมพูที่เหมาะสม แต่ถ้าปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล
หรือมีปัญหาว่าอาจเป็นโรคอื่นของหนังศีรษะ ควรไปปรึกษาแพทย์


ที่มา...หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร