คุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเครียดตลอดเวลา กล้ามเนื้อตึงและปวดอยู่เสมอ
บางครั้งปรี๊ดแตกใส่เพื่อนฝูงและคนในครอบครัว จนพวกเขาตั้งรับกันไม่ทัน
หรือเมื่อคิดถึงงานที่ต้องทำ ก็วิตกกังวล และมักว้าวุ่นใจ กระสับกระส่าย
แสดงออกในทางลบ... ใช่หรือไม่

ถ้าเป็นเช่นนั้น 8 สูตรเด็ดต่อไปนี้ เป็นข้อปฏิบัติทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ซึ่งจะช่วยลดความเครียดของคุณลงได้ ให้ทำควบคู่กันไปทั้งกายและใจด้านละ 1 อย่าง
จนครบทั้ง 8 อย่าง ในแต่ละสัปดาห์

ทางร่างกาย
สูตรเด็ด 4 ข้อนี้ เป็นการปฏิบัติทางกาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียด

1. ออกกำลังกาย
คนที่ไม่ออกกำลังกาย มักมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาไปฟิตเนส
แต่คุณไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสเพื่อลดความเครียดหรอก
แม้ว่าการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก จะให้ผลดีกว่าที่ใช้แรงน้อย
แต่การเดินเร็ว ขี่จักรยาน หรือวิ่งเหยาะๆ ก็ขจัดความเครียดได้เช่นกัน
คุณจะพบว่า ความวิตกกังวลเรื่องงาน และสิ่งที่ต้องทำ
จะหายไปจากใจในขณะที่คุณกำลังง่วนอยู่กับการออกกำลังกาย

2 .นอนให้เพียงพอ
คุณเข้านอนดึก และตื่นเช้าทุกวันหรือเปล่า
และต้องดื่มกาแฟเพื่อจะได้ไม่ง่วง
หากคุณนอนไม่พอ จะยิ่งเพิ่มความเครียดเข้าไปอีก
เพราะคุณจะทำงานผิดพลาด อารมณ์ฉุนเฉียว
และต้องพยายามรักษาสมดุลของอารมณ์
ซึ่งมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติในแต่ละวัน

คำแนะนำเพื่อการนอนที่เพียงพอ
• ตั้งเวลาเข้านอน และต้องทำตามนั้น
• หยุดทำงานก่อนถึงเวลาเข้านอนราว 2 ชม.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอีเมล์ ห้ามเช็คเมล์ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง
ไม่งั้นคุณต้องจมอยู่กับการตอบเมล์
หรือถ้าไม่ตอบทันที คุณก็จะครุ่นคิดถึงมันตลอดทั้งคืน
• ปิดคอมพิวเตอร์ 1 ชม. ก่อนเข้านอน

3. กินตามหลักโภชนาการ
อาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย หรือเกียจคร้าน
มักทำให้ เกิดความเครียด
ซึ่งอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากอาหารที่รับประทาน
หลักโภชนาการที่ดีคือ ควรรับประทานอาหารเช้า
เน้นอาหารจำพวกเมล็ดธัญพืช โปรตีนไขมันต่ำ ผักผลไม้ และดื่มน้ำมากๆ

การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์โดยไม่เร่งรีบ
จะช่วยลดความเครียดลงได้ เพราะเท่ากับคุณได้หยุดพักชั่วขณะ
อย่ากินอาหารกลางวันที่โต๊ะทำงาน เพราะการกินอย่างรีบเร่ง
นอกจากจะไม่ได้เต็มอิ่มกับรสชาติของอาหารแล้ว
ยังไม่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ฉะนั้น จงลุกจากโต๊ะทำงานเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน
จะดียิ่งขึ้นถ้าได้ออกไปกินข้าวนอกออฟฟิศ
คุณจะได้มีเวลาเอร็ดอร่อยกับอาหารอย่างเต็มที่
ซึ่งจะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้น และไม่รู้สึกง่วงในตอนบ่าย

4. งดคาเฟอีน
คงทราบกันดีถึงอาการกระสับกระส่าย
อันเกิดมาจากการดื่มกาแฟมากเกินไป
คาเฟอีนทำให้ร่างกายของผู้ดื่มอยู่ในภาวะเคร่งเครียด
มันเป็นเหมือนยาพิษ และอาการกระสับกระส่ายที่เกิดขึ้น
ก็เพราะร่างกายพยายามกำจัดยาพิษออกไปนั่นเอง
และต้องไม่หันไปพึ่งเครื่องดื่มชูกำลังเช่นกัน
เพราะมันมีส่วนผสมของคาเฟอีนและน้ำตาลเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นโทษต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและยาว


ทางจิตใจ
สูตรพื้นฐาน 4 ข้อนี้ เป็นการดูแลทางจิตใจ เพื่อขจัดความเครียด

1. รู้ตัวว่ากำลังเครียด
ไม่มีใครหรอกที่อยู่ดีๆก็เกิดอาการเครียดขึ้นในทันที
แต่ความเครียดอาจสะสมมาจากการทำงานติดต่อกันหลายๆวัน
หรือหลายชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก
ปัญหาเล็กๆน้อยๆ หรืออาจมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ แสงไฟ
ความร้อนในที่ทำงาน ซึ่งสะสมมาเป็นปี

สัญญาณทางอารมณ์เหล่านี้ เป็นตัวบอกว่าคุณกำลังเครียด
- รู้สึกรับไม่ไหวแล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องงานที่ต้องทำ
- อยากจะร้องไห้หรือกรีดร้องออกมาดังๆ
- อยากทุบทำลายข้าวของ (หรือคน!!)
- บ่อยครั้งที่เราสามารถสะกดความเครียดไม่ให้เกิดขึ้น
โดยสังเกตอาการเตือนล่วงหน้าว่ามีอะไรบ้าง

2. หาเวลานอก
เมื่อคุณรู้วิธีจัดการกับสภาพอารมณ์ที่เตือนว่า
กำลังตกอยู่ในภาวะเครียด
คุณก็สามารถหยุดความเครียดไม่ให้ก่อตัวขึ้นได้
เมื่อเริ่มเครียด จงหลบออกจากสถานการณ์ตรงนั้น
อาจจะออกไปเดินเล่นสัก 5 นาที นั่งหลับตานิ่งๆ ราว 2-3 นาที
หรือถ้าสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นสาเหตุให้เครียด ก็ลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดู

เพียงแค่หลบออกจากสถานการณ์ที่ทำให้เครียด
ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้สงบลง และเริ่มได้คิด
ซึ่งนอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิตแล้ว
ยังจะดีต่อคนรอบข้างด้วย
ฉะนั้น เมื่อคุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียด
และเริ่มอารมณ์เสียใส่เพื่อนฝูงหรือ ญาติพี่น้อง
ให้ปลีกตัวออกจากตรงนั้นสักครู่
วิธีนี้จะช่วยให้สงบสติอารมณ์ลงได้ และรู้สึกดีขึ้น

3. ทำทีละเรื่อง
ปัจจุบัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงานหรือที่บ้าน
เรามักทำงานหลายอย่างไปพร้อมๆกัน
ขณะทำอาหาร ก็พูดโทรศัพท์ไปด้วย
หรือทานอาหารเย็นไปพร้อมๆกับการเช็คอีเมล์
เมื่อต้องทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
เราต้องแยกโสตประสาทเป็น 2 ส่วน และมักจะทำได้ไม่ดี
อีกประการหนึ่งการทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน
ต้องมีสมาธิสูงเพื่อทำให้ได้ดี อันจะทำให้เครียดมากยิ่งขึ้น
เพราะเราจะรู้สึกว่า ชีวิตนี้มีแต่งาน เสร็จงานหนึ่ง ก็มีอีกงานหนึ่งให้ทำ

4. เขียนไดอารี่
ท้ายสุด มีอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ลดความเครียดได้ผลมากที่สุด
นั่นก็คือการเขียนไดอารี่ ไม่ยุ่งยากและใช้เวลานิดเดียว
เพียงแค่วันละ 10 นาทีก่อนเข้านอน
เขียนลงในไดอารี่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณรู้สึกดีๆ อะไรทำให้เครียด และสิ่งที่คุณได้เรียนรู้

การเขียนไดอารี่ นับเป็นวิธีการสำคัญในการมองปัญหา
ช่วยให้เราเห็นข้อดีที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ตึงเครียดขณะนั้น
และมองเห็นรูปแบบการดำเนินชีวิตว่า สิ่งใดทำให้เครียด
เพื่อจะได้หาทางขจัดมันออกไป และที่สำคัญ
การเขียนไดอารี่ยังช่วย ขจัดสิ่งที่อยู่ในใจเราก่อนเข้านอน
บางคนใช้การเขียนไดอารี่ก่อนเข้านอน ช่วยให้นอนหลับสบายดี

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 112 มีนาคม 2553 โดย ประกายรุ้ง)

อนุโมทนาสาธุด้วยครับคุณลูกโป่ง