วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 00:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34 ... 45  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2010, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled.bmp
untitled.bmp [ 183.65 KiB | เปิดดู 5802 ครั้ง ]
อุด้งน้ำเห็ดหอม

ส่วนผสม


เส้นอุด้ง 1 ห่อ

น้ำซุปผัก 2-3 ถ้วย

แครอทหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 1/2 ถ้วย

เห็ดหอมสดหรือแห้ง 1/2 ถ้วย

แป๊ะก๊วยต้มสุก 1/2 ถ้วย

ผักกวางตุ้งลวก หรือผักกาดแก้วจำนวนพอเหมาะ

เกลือ โชยุ หรือซีอิ๊ว น้ำตาลกรวดอย่างละเล็กน้อย


วิธีทำ



1. ลวกอุด้งและผักกวางตุ้งไต้หวันในน้ำเดือด ตักขึ้นพักไว้ โดยแยกลวกไม่รวมกัน
นำเส้นไปเขย่าๆในน้ำเย็นก่อน แล้วนำไปลวกน้ำร้อนอีกครั้ง สะบัดๆน้ำออกไป
แล้วนำเส้นไปเคล้าน้ำมันพักไว้


2. ต้มแครอทในน้ำซุปผักพอนิ่ม ใส่เห็ดหอม แป๊ะก๊วย ปรุงรสด้วยเกลือ โชยุ น้ำตาลกรวด ชิมรสตามชอบ


3. นำเส้นอุด้งและผักใส่ชาม ตักน้ำซุปผักร้อนๆ ใส่ รับประทานนทันที

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2010, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




1229665295.jpg
1229665295.jpg [ 73.72 KiB | เปิดดู 5797 ครั้ง ]
เมี่ยงเห็ด


ส่วนผสม

เห็ดฟาง (เห็ดนางรมหรือเป๋าฮื้อ) 1 1/2 ขีด
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นสี่เหลี่ยม 1/4 ถ้วย
น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1–2 ช้อนชา
พริกไทย 1/2 ช้อนชา
พริกชี้ฟ้าหั่นสี่เหลี่ยม 1/2 ช้อนชา
ผักกาดแก้วหรือผักกาดหอม

วิธีทำ

ล้างเห็ดให้สะอาด แล้วหั่นสี่เหลี่ยม
นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันและกระเทียมลงผัดให้หอม ใส่เห็ดหอมลงผัดจนหอม ใส่เห็ดฟางผัดพอสุก
ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทาย พริกไทย ผัดให้เข้ากันโรยพริกชี้ฟ้าหั่น ตักใส่จาน
เสิร์ฟพร้อมกับผักกาดแก้วตัดเป็นใบๆ หรือจะตักใส่ในผักกาดแก้ว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 03:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เห็นคนทางเมืองไทยบ่นร้อนกัน
เลยนึกถึงข้าวแช่เพรชบุรี อยากทานมากค่ะ อ.น้ำ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 08:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

อยาก...เหมือนกัน..
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 23:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled.bmp
untitled.bmp [ 446.32 KiB | เปิดดู 5735 ครั้ง ]
ข้าวแช่ สูตรชาววัง


ข้าวแช่ เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับฤดูร้อนของเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง เป็นภูมิปัญญาของไทย
โบราณที่สร้างสรรค์อาหารชนิดนี้ขึ้นมา นิยมรับประทานในมื้อกลางวัน เพื่อทำให้เกิดความเย็นสบาย
ทั้งกายและใจ ในยามที่อากาศร้อนอบอ้าว

และในปัจจุบันนี้หาคนที่จะทำขายได้น้อยเต็มทีแล้ว
นี่แหละค่ะ ในวันนี้ดิฉันจึงแนะนำสูตรข้าวแช่ ไว้สำหรับขายในฤดูปิดเทอมฤดูร้อน

โดยเฉพาะข้าวแช่ต้นตำรับคือ ข้าวแช่เพชรบุรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเขาหลวง
เขาวังหลายครั้ง พนักงานต้นเครื่องนำข้าวแช่ขึ้นถวายเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่ง
จึงทำให้ข้าวแช่เป็นที่นิยมในเวลาต่อมา

การทำข้าวแช่

ต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกสรรข้าวสาร ที่ต้องใช้ ข้าวหอมมะลิ เท่านั้น
นำมาล้างขัดกับก้อนสารส้มจนเมล็ดข้าวมีสีขาวใส
แล้วนำไปใส่หม้อ (หากใช้หม้อดินก็จะได้บรรยากาศ) ใส่น้ำน้อยตั้งไฟ
แนะนำว่าให้หุงแบบนี้ดีกว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เพราะจะได้ตักดูข้าวได้ตลอดเวลา
โดยการหุงให้ข้าวสุกแต่เมล็ดข้าวไม่บาน

เมื่อข้าวได้ที่แล้วนำมาล้างด้วยน้ำเย็นทันที โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านข้าวแล้วใช้มือล้าง
ให้น้ำข้าวออกให้หมด

นำไปใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ แล้วเทข้าวใส่ผ้าขาวบาง
หากจะใช้รับประทานหรือขายเลยก็นำไปนึ่งในลังถึงนาน 15 นาทีก็ยกลงใช้ได้
แต่ถ้ายังไม่ใช้ก็เก็บไว้ในตู้เย็นได้ถึง 2 วัน

เตรียมน้ำ

ต้มน้ำให้สุกทิ้งไว้ให้เย็นสนิท ใช้กระดังงาลนไฟ เทียนอบ และดอกชมนาด
มาอบโดยการปิดฝาภาชนะทิ้งไว้ หรือจะใช้ดอกมะลิก็ได้

ทำ

ลูกกะปิ มีตะไคร้, กระชาย, หอมแดงหั่นฝอยและกะปิอย่างดี โขลกรวมกันให้ละเอียด
ใช้ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อไม่เอาหนัง โขลกลงไปรวมกัน แล้วจึงนำขึ้นไปผัดใส่น้ำตาลปึก
ผัดให้เหนียวจนปั้นเป็นลูกได้ ปั้นลูกเท่ากับนิ้วกลาง นำไปชุบแป้งสาลีละลายน้ำไม่ข้นและไม่เหลวมาก
แล้วชุบไข่ที่ตีเตรียมไว้ นำไปทอดจนเหลือง ก็ใช้ได้ ลูกกะปิจะมีรสชาติเค็ม ๆ-หวาน ๆ

ปลาหวาน
ใช้ปลาริวกิวที่ขายอยู่ทั่วไปนำมาฉีกให้เป็นเส้นฝอย ๆ
นำไปผัดในกระทะจนเหนียวเป็นสีน้ำตาลอ่อนก็ใช้ได้

เนื้อหรือหมูหวาน นำมาฉีกเป็นเส้น ฝอย ๆ นำไปผัดจนแห้ง

พริกหยวกยัดไส้
โขลกรากผักชี, กระเทียมและพริกไทยให้เข้ากัน นำหมูบดลงไปคลุกใส่น้ำปลาเล็กน้อย
เลือกพริกหยวกที่มีสีเขียวอ่อน ผ่าตามยาวเอาไส้พริกทิ้ง
นำหมูที่คลุกไว้มาใส่ในพริกหยวก แล้วนำไปนึ่งให้สุก
หากไม่ต้องการความสวยงามมากนักก็สามารถนำไปชุบไข่ทอดอีกครั้งได้เลยก็เป็นอันเสร็จ

การทำหรุ่มไข่

ตีไข่เหมือนไข่เจียวธรรมดา เหยาะสีเหลืองลงไปเล็กน้อยหรือจะไม่ใส่ก็ได้

ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อนทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ

ใช้นิ้วทั้ง 5 ชุบไข่นำไปราดในกระทะไปมาเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม
ดูพอสุกใช้มือหยิบขึ้นมาห่อพริกหยวก ที่นี่ใช้กระทะขนาดพอดีที่จะห่อพริกหยวกได้เลย

แต่ถ้าเราจะใช้กระทะใหญ่ก็ได้ ทำเป็นแผ่นใหญ่ทีเดียวแล้วนำมาตัดเป็นชิ้นให้พอห่อพริกได้

ไชโป้วหวาน
ใช้หัวไชเท้าที่เป็นเส้นยาวๆแบบหวาน นำมาผัดใส่น้ำตาลปี๊บ
ผัดจนแห้งน้ำตาลเกาะไชโป้วจนเป็นเงา

หอมแดงยัดไส้
ใช้หอมแดงขนาดค่อนข้างใหญ่ ปอกเปลือกคว้านเอาชั้นในออก
นำหมูที่ใส่ในพริกหยวกมายัดไส้หรือจะเพิ่มกุ้งสับผสมลงไป หรือจะใช้ปลาหวานก็ได้
แล้วนำไปนึ่งให้สุก นำมาชุบแป้งสาลีแล้วชุบไข่ทอดเหมือนกับลูกกะปิ

เท่านี้ก็ได้เครื่องเคียงของข้าวแช่แบบชาววังกันแล้ว
ที่นี่จำหน่ายในราคาชุดละ 120 บาท แต่ในตลาดเมืองเพชรนั้น 10 บาท
ก็หารับประทานกันได้แล้ว แต่มีเครื่องเคียงให้เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น ไม่ครบเครื่อง

เวลาเสิร์ฟนั้นจะตักข้าวใส่ถ้วยแล้วตักน้ำอบตามด้วยน้ำแข็งบดละเอียดเล็กน้อย
ข้าวและน้ำอบนั้นจะต้องใส่ไว้ในหม้อดินเท่านั้นจึงจะเย็นได้นาน


นำมาจาก http://kruning.cocons.co.th/index.php/t ... cold_rice/


ขอสารภาพค่ะ ไม่เคยทำเลยค่ะ เคยทานที่สนามหลวง เย็น หอม ชื่นใจ และอร่อยค่ะ
น้ำว่ามันเหมือนขนมนะคะ ขนมแบบน้ำแข็งไสประมาณนั้นน่ะค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 00:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้าวแช่เนี่ยผมทานไม่เป็น แต่ทะลึ่งไปชอบบะหมี่ใส่น้ำเย็นของญี่ปุ่นอะคุณน้ำ เขาเรียกอะไรไม่รู้ครับ.. :b22: :b22: :b38: :b39:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled.bmp
untitled.bmp [ 269.12 KiB | เปิดดู 5737 ครั้ง ]
ขนมจีนน้ำเงี้ยวมังสวิรัติ

เครื่องปรุง

ขนมจีน 500 กรัม
เต้าหู้เหลืองชนิดแข็ง 2 แผ่น
เห็ดฟาง 200 กรัม
เห็ดหูหนู 100 กรัม
มะเขือส้ม 300 กรัม
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยวดำโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 5 ถ้วย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

ผักและเครื่องเคียง
ผักกาดดองซอย
ถั่วงอกดิบเด็ดหาง
ต้นหอม-ผักชีซอย
กระเทียม - หอมแดงเจียว
พริกขี้หนูแห้งทอด
แคบหมูเจ

วิธีทำ

1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด

2. ล้างเห็ดฟาง เฉือนเอาสิ่งสกปรกออก สับหยาบ ๆ จากนั้น ล้างเห็ดหูหนู ตัดโคนแข็ง ๆ ออก แล้วสับหยาบ ๆ มะเขือส้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ล้างเต้าหู้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้

3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่น้ำพริกที่โขลกไว้ลงผัดให้

4. ใส่เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เต้าหู้ ผัดพอทั่ว ใส่น้ำ 1/ 2 ถ้วย ผัดอีกครั้ง ใส่ซีอิ้วขาว เกลือ มะเขือส้ม เต้าเจี้ยวโขลก ผัดให้หอม ใส่น้ำที่เหลือ คนให้ทั่ว ลดไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนสุกหอม

5. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับขนมจีนและเครื่องเคียง

สูตรน้ำจิ้ม,เครื่องเคียง,ไส้

พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ 7 เม็ด
หอมแดงซอย 7 หัว
กระเทียม 1 หัว
ข่าหั่นละเอียด 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
ขมิ้นชิ้นเล็ก ๆ 1 ชิ้น (ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร)
ถั่วเน่าย่างไฟพอหอม 1 แผ่น
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีปรุง

โขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด

เคล็ดลับความอร่อย

รสชาติของขนมจีนน้ำเงี้ยว ควรจะออกเปรี้ยวและเค็มมัน ได้รสหวานจากเห็ดและเต้าหู้
รสเปรี้ยวกลมกล่อมได้จากมะเขือส้มลูกกลมเล็ก ถ้าเราหาซื้อไม่ได้ ก็สามารถใช้มะเขือเทศสีดา
แบบที่ใส่ส้มตำแทนได้ แต่ควรเลือกมะเขือที่สุกแดงก่ำ

ขนมจีนน้ำเงี้ยวไม่นิยมทำให้ออกรสเผ็ด ดั้งนั้น สำหรับคนที่ชอบรสจัด ๆ
คงต้องเติมพริกป่น หรือทานแกล้มกับพริกทอดเอาเอง

น้ำแกงขนมจีนน้ำเงี้ยว ควรตั้งทิ้งไว้บนไฟอ่อน ๆ เพื่ออุ่นให้น้ำแกงร้อนตลอดเวลา
การทำอย่างนี้ก็จะช่วยเครื่องปรุงจึงจะเข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้น

ขนมจีนที่เราจะใช้รับประทาน ควรนำไปนึ่งสักครู่ เพื่อไม่ให้เสาะท้องและยังช่วยรักษา
ไม่ให้ขนมจีนเสียง่ายด้วย

การเคี่ยวน้ำเงี้ยวจะต้องใช้ไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำแกงเริ่มข้น ซึ่งอาจจะใช้เวลานานพอสมควร
น้ำเงี้ยวจึงจะอร่อย

ถั่วงอก ที่นำมาใช้เป็นเครื่องเคียวควรนำมาแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูสักครู่ ถั่วงอกจะได้กรอบอร่อย

วิธีเจียวหอมแดง และ กระเทียม

ทำโดยใส่หอมแดงซอยบาง ๆ และกระเทียมโขลกทั้งเปลือก
ลงไปพร้อม ๆ กับน้ำมัน ตั้งไฟอ่อน เจียวจนมีสีเหลืองอ่อน ๆ แล้วตักขึ้น
หอมและกระเทียมก็จะสุกเหลืองต่อ จะกรอบพอดี

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


-dd- เขียน:
ข้าวแช่เนี่ยผมทานไม่เป็น แต่ทะลึ่งไปชอบบะหมี่ใส่น้ำเย็นของญี่ปุ่นอะคุณน้ำ เขาเรียกอะไรไม่รู้ครับ.. :b22: :b22: :b38: :b39:



เรียกว่า บะหมี่เย็นค่ะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 01:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

ขอสารภาพค่ะ ไม่เคยทำเลยค่ะ เคยทานที่สนามหลวง เย็น หอม ชื่นใจ และอร่อยค่ะ
น้ำว่ามันเหมือนขนมนะคะ ขนมแบบน้ำแข็งไสประมาณนั้นน่ะค่ะ


ตั้งใจจะถามว่า...หุงครั้งแรกแต่ไม่ให้เม็ดข้าวบาน..แล้วยังจะมี..นำมานึ่งอีก 15 นาที..ด้วยรึ่

แต่พอเห็นคำสารภาพ...ก็ไม่รบกวนถามแล้วละ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะคุณน้ำ สำหรับขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ
เราเคยทำหลายครั้งแล้วค่ะ
แต่! ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเรานำเต้าหู้ไปปั่นแทนเนื้อหมู
เราลืมนึกถึงเห็ด :b1:

ขนมจีนน้ำเงี้ยวนี่ เราชอบมากๆเลยค่ะ
เราชอบตรงผักดิบเครื่องเคียง
คุณน้ำ ขอสูตรข้าวซอยเจทางเหนือหน่อยสิค่ะ อยากทานจัง :b1:

คุณน้ำค่ะ ขนมจีนที่เราเคยทำตามสูตรของคุณน้ำ
และหลายๆสูตร เราคงจะมีปัญหาตรงบีบเส้นค่ะ
เวลาบีบออกมาเส้นจะขาดค่ะ
ตรงวิธีบีบนี่ เค้าต้องมีเคล็ดลับอะไรหรือปล่าวค่ะ
ทุกวันนี้เราใช้เส้นหมี่ค่ะ :b41: :b45: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 11:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

อยาก...เหมือนกัน..
:b16: :b16:


ข้าวแช่ชุดนี้ อ.น้ำ ทำไว้สำหรับทักทายคนเดียว
ไม่ได้ทำเผื่อนท่านกบฯนะค่ะ :b28: :b28:

ขอบคุณค่ะ อ.น้ำ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 19 เม.ย. 2010, 11:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


walaiporn เขียน:
-dd- เขียน:
ข้าวแช่เนี่ยผมทานไม่เป็น แต่ทะลึ่งไปชอบบะหมี่ใส่น้ำเย็นของญี่ปุ่นอะคุณน้ำ เขาเรียกอะไรไม่รู้ครับ.. :b22: :b22: :b38: :b39:



เรียกว่า บะหมี่เย็นค่ะ :b12:


อยากทาน "ชาจังเหมี่ยน" ของเกาหลี
เหมือนกันป่าวค่ะ? อ.น้ำ :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กบนอกกะลา เขียน:
walaiporn เขียน:

ขอสารภาพค่ะ ไม่เคยทำเลยค่ะ เคยทานที่สนามหลวง เย็น หอม ชื่นใจ และอร่อยค่ะ
น้ำว่ามันเหมือนขนมนะคะ ขนมแบบน้ำแข็งไสประมาณนั้นน่ะค่ะ


ตั้งใจจะถามว่า...หุงครั้งแรกแต่ไม่ให้เม็ดข้าวบาน..แล้วยังจะมี..นำมานึ่งอีก 15 นาที..ด้วยรึ่

แต่พอเห็นคำสารภาพ...ก็ไม่รบกวนถามแล้วละ :b32: :b32: :b32:


ขออนุญาตตอบ ไม่เคยทำเหมือนกัน แต่พอจะทราบว่าหุงครั้งแรก
ไม่ให้ข้าวสุก คือยังมีแกนข้างในนิดหนึ่ง จึงต้องนำไปนึงอีกครั้ง
เพื่อให้แกนข้างในสุก แต่เม็ดข้าวไม่บานค่ะท่าน :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 21:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

อยาก...เหมือนกัน..
:b16: :b16:


ข้าวแช่ชุดนี้ อ.น้ำ ทำไว้สำหรับทักทายคนเดียว
ไม่ได้ทำเผื่อนท่านกบฯนะค่ะ :b28: :b28:

ขอบคุณค่ะ อ.น้ำ :b8:



cry cry

Onion_no


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2010, 21:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
walaiporn เขียน:

ขอสารภาพค่ะ ไม่เคยทำเลยค่ะ เคยทานที่สนามหลวง เย็น หอม ชื่นใจ และอร่อยค่ะ
น้ำว่ามันเหมือนขนมนะคะ ขนมแบบน้ำแข็งไสประมาณนั้นน่ะค่ะ


ตั้งใจจะถามว่า...หุงครั้งแรกแต่ไม่ให้เม็ดข้าวบาน..แล้วยังจะมี..นำมานึ่งอีก 15 นาที..ด้วยรึ่

แต่พอเห็นคำสารภาพ...ก็ไม่รบกวนถามแล้วละ :b32: :b32: :b32:


ขออนุญาตตอบ ไม่เคยทำเหมือนกัน แต่พอจะทราบว่าหุงครั้งแรก
ไม่ให้ข้าวสุก คือยังมีแกนข้างในนิดหนึ่ง จึงต้องนำไปนึงอีกครั้ง
เพื่อให้แกนข้างในสุก แต่เม็ดข้าวไม่บานค่ะท่าน :b1:


:b8:

แม้ไม่เคยทำ...จะลองทำดูไหมครับ..

กบฯ..จะยอมเอาตัวไปเสี่ยง..ชิม..ให้..ไม่คิดตังค์ :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34 ... 45  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร