วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 08:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 45  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 00:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำคะ ถามเรื่องงาอีกนิดนะคะ

สมมุติว่าผัดผัก แล้วจะใส่งานี่ งาที่คั่วแล้วเอามาโรยทีหลัง
หรือว่าผัดรวมพร้อมไปกับผักเลยคะ

เรื่องงานี่ชอบทานอยู่แล้วค่ะ ทั้งงาขาว งาดำได้หมด
แต่ไม่เคยเอามาใช้แทนกระเทียมค่ะ
เคยแต่เอามาโรยข้าว กล้วยน้ำว้าจิ้มงานี่ชอบมาก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


แทนขวัญ เขียน:
คุณน้ำคะ ถามเรื่องงาอีกนิดนะคะ

สมมุติว่าผัดผัก แล้วจะใส่งานี่ งาที่คั่วแล้วเอามาโรยทีหลัง
หรือว่าผัดรวมพร้อมไปกับผักเลยคะ

เรื่องงานี่ชอบทานอยู่แล้วค่ะ ทั้งงาขาว งาดำได้หมด
แต่ไม่เคยเอามาใช้แทนกระเทียมค่ะ
เคยแต่เอามาโรยข้าว กล้วยน้ำว้าจิ้มงานี่ชอบมาก :b32:



ดีจังค่ะ คนชอบทานงา น้ำก็ชอบค่ะ

นำมาปั่นรวมกับธัญพืชต่างๆ แล้วใส่ในน้ำเต้าหู้อีกทีค่ะ

งาขาวที่ให้คั่วก่อน เพื่อความหอมของงาค่ะ คือ ใช้แทนกระเทียมในเวลาการทำอาหารต่าง

เช่นผัดผัก ที่คุณถามมา คุณก็นำงาขาวคั่วลงไปผัดกับน้ำมันก่อนค่ะ แล้วค่อยใส่ผักลงไปผัดตาม

นี่แช่เห็ดหอมค้างคืนไว้เหมือนกันค่ะ มันจะบานเต็มที่ ดอกใหญ่มากๆ 2 ดอกนี่

ผัดผักได้สบายๆเลยค่ะ พูดแล้วน้ำลายไหล :b32:

ลองนำเต้าหู้อ่อนมาทำอาหารดูสิคะ .. วิธีทำง่ายมากเลยค่ะ

เวลาคุณซื้อเต้าหู้อ่อนมา คุณแบ่งออกเป็นสี่ส่วน แล้วผ่าตรงกลางอีกที รวมเป็นแปดส่วน

แล้วคุณนำมาผ่าได้อีก 4 ส่วน ทั้งหมดจะได้เต้าหู้ขาว 32 ชิ้น

นำไปทอดไม่ต้องกรอบมากนะคะ แล้วเก็บไว้ได้หลายวันค่ะ สำหรับนำมาทำอาหาร

หรือนำมาทานเล่นก็ได้ จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย แซ่บบบบมากๆค่ะขอบอก :b32:

น้ำทานที 2 ก้อน ก้อนเดียวไม่พอค่ะ :b9:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 01:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




kanomjin.jpg
kanomjin.jpg [ 23.54 KiB | เปิดดู 4283 ครั้ง ]
คุณเต้นี่กุศลแรงจริงๆนะคะ ไม่ได้ยอนะคะพูดจริงๆ ..

แถมมาเจอกับน้ำอีก งั้นสิ่งที่น้ำตีความตามคำทำนายที่เห็นเจ้าแม่กวนอิม น้ำทายถูกค่ะ

ท่านคงต้องการให้น้ำมาช่วยเหลือลูกหลานและผู้ที่ศรัทธาท่าน ตัวน้ำเองเป็นคนที่สร้างกุศล

ด้านการให้ทานและช่วยเหลือผู้อื่นไว้เยอะมากๆค่ะ ประมาณว่า อยากทานอะไรก็ได้ทาน

ไปไหนนี่ไม่มีอด แถมมีคนไม่รู้จักคอยบริการ ..

วันนี้ก็ยังนึกๆอยู่ว่า จะหาวิธีทำขนมจีนให้ได้ไง ... แล้วกุศลก็หนุนนำ พอดีไปเจอเข้า

เลยนำมาฝากค่ะ ลองทำดูนะคะ เผื่อจะดีกว่าเดิมค่ะ ...

สำหรับคุณเต้เลยนะคะเนี่ย .. น้ำเองไม่เคยทำเส้นขนมจีนทานเองหรอกค่ะ

อยู่ที่ไหนๆก็ไม่อดหรอกค่ะคุณเต้ ไปไหนก็ไม่ลำบาก อยากทานอะไรก็ได้ทานดั่งใจหวัง

เพียงเราหมั่นให้กับผู้อื่นให้มากๆ ทำเท่าที่เราสามารถทำได้ หมั่นทำทาน ไม่เลือกว่าเป็นใคร

น้ำนำอาหารเจมาโพสน้ำก็ได้กุศล ใจน้ำเป็นสุขในการให้นี่ได้แล้วกุศล ไม่ต้องไปรอชาติหน้าเลย

คุณเต้และทุกคนไปลองทำทานแล้วบอกคนอื่นๆต่อ ก็ได้กุศล .. ทุกคนต่างได้ความสุขใจกลับมา

อะไรที่ทำแล้วติดขัด ทำไม่ได้หรือสงสัยตรงไหนถามได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ :b12:

แม้แต่งานต่างศาสนา เขามาขอให้น้ำไป น้ำก็ไปค่ะ ไม่มีการปฏิเสธ ทุกอย่างอยู่ที่จิตของเรา

เรามีเจตนาที่ดี จิตคิดแต่กุศล กุศลย่อมสำเร็จที่เรา สะสมไว้ค่ะ เราได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ

เห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุขใจไปกับเขาด้วย ...เล่าให้ฟังแล้ว น้ำก็มีความสุขใจมากๆ :b16:



อุปกรณ์

1. ที่โรยเส้น มีหน้าที่บีบแป้งให้เป็นเส้นลงน้ำร้อน ชาวบ้านเรียก "อีโรย" ลักษณะเป็นกระบอก

มีรูด้านล่างหลายรู และมีอีกกระบอกเล็กมีหน้าที่เหมือนลูกสูบดันแป้ง ให้ลองไปตามร้านรับบัดกรี

แล้วขอดูได้ แต่ต้องสั่งพิเศษให้มีรูเล็กกว่าที่วางขายทั่วไปเพราะขนมจีนเราเส้นเล็กกว่า

อาจสั่งทำเป็นสแตนเลสหรือสังกะสีก็ได้ ร้านที่รับบัดกรีแทบทุกร้านสามารถทำได้แน่นอน

2. กะละมัง ใช้กะละมังก้นลึกอลูมิเนียมขนาด 50 ซ.ม. หรือกะละมังอะไรก็ได้ที่ก้นลึกหน่อย

หากไม่มีเงินจะใช้กระปีปก็ยังไหว เอาไว้โรยเส้น

3. ที่ตักเส้น มีลักษณะเหมือนโครงไม้ตีแบดแต่มีตาข่ายเป็นเชือกถักถี่ ๆ ห้อยย้อยดูง่าย ๆ

เหมือนที่สำหรับช้อนปลาของแม่ค้าปลานั่นเอง เอาไว้ช้อนเส้นที่สุกแล้วมาล้างน้ำ

4. กะละมังล้างเส้น มีไว้สัก 3-4 ลูก


5. ที่ใส่แป้งเมื่อต้ม คล้ายชะลอมไม้ไผ่ใส่แป้งดิบเมื่อต้มให้สุกอาจใช้วิธีนึ่งในซึ้งเอาก็ได้

6. กระปีปต้มแป้ง ใช้กระปีปเปิดฝาธรรมดา

7. เครื่องตีแป้ง เป็นเครื่องนวดแป้งชนิดราง แต่ไม่มีใช้วิธีตำแป้งเอาก็ได้ (ตำด้วยครกไม้ใหญ่)

วิธีทำ

1. ก่อนอื่นนำแป้งดิบสัก 4 กิโล มาต้มในกระปีปที่มีน้ำเดือดอยู่โดยใส่แป้งที่ปั้นกลม ๆ

ในชะลอมแล้วหย่อนลงไปหรืออาจใช้วิธีนึ่งในซึ้งก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที

แต่หากเป็นแป้ง 8 กิโลจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีให้ลองดูแป้ง

โดยวิธีหยิกแป้งดูถ้าแป้งสุกลึกเข้าเนื้อแป้งสักครึ่งข้อนิ้วข้อแรกเป็นใช้ได้

2. นำลูกแป้งที่สุกแล้วมาตีด้วยเครื่องนวด หากไม่มีใช้ครกใหญ่ตำก็ได้ ตีจนแป้งแตกตัว

3. นำแป้งมาใส่กะละมังเทน้ำร้อนลงไปคลุกเคล้า ช่วงนี้ต้องดูแป้งเป็นคือ อย่าใส่น้ำมากเกินเพราะ

จะเหลวบีบไม่เป็นเส้น หากข้นไปก็จะปีบไม่ออก ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการทดลองกันเล็กน้อย

แต่ไม่เกินครั้งสองครั้งก็ดูเป็น

4. เสร็จแล้วเทแป้งใส่ผ้าขาวบางแล้วรวบผ้าช่วยบีบให้แป้งลอดผ้าออกมารูดให้หมด

เนื่องจากแป้งมีความหนืดเหนียวจึงต้องออกแรงบีบเล็กน้อย

5. นำแป้งมาใส่ที่โรยเส้นแล้วโรยเส้นลงในกะละมังที่ใส่น้ำตั้งบนเตา โรยในขณะที่น้ำเดือดสำหรับ

เทคนิคการโรยคือ เวลาโรยจะต้องไม่อยู่กับที่จะต้องวนไปเรื่อย ๆ ในขณะบีบอยู่จะไม่ให้เส้นลงซ้ำกัน

และอย่าโรยสูงให้ที่โรยอยู่เหนือน้ำสัก 3-4 นิ้ว โรยจนหมดแป้งและไม่ต้องโรยแบบลีลา

ให้รีบ ๆ โรยโดยออกแรงกดมาก ๆ เร็ว ๆ ให้แป้งพุ่งออกมาจากรูเลย

6. ทิ้งไว้จนเห็นเส้นลอยขึ้นมาเป็นแพ ใช้ที่ตักช้อนเส้นออกมาให้หมดในคราวเดียว

7. นำเส้นที่ได้ไปล้างน้ำในกะละมังน้ำเย็น โดยใช้กะละมังสัก 4 ลูก ใส่น้ำวางเรียงไว้โดย

ไม่ต้องเอาเส้นออกจากที่ตัก จุ่มไปทั้งหมดใช้มือช่วยเขย่าขยำเบา ๆ ทำอย่างนี้เรื่อย ๆ

กับกะละมังลูก 2 ลูก 3 พอถึงลูกที่ 4 ก็ให้เทเส้นลงแช่ในน้ำเลย

และหากน้ำที่ใช้ล้างเริ่มจะร้อนก็ให้รีบเปลี่ยนทันที

8. ดึงเส้นออกมาจับโดยใช้วิธีพันนิ้ว เมื่อได้ขนาดแล้วเด็ดออก

หากก้อนเล็กให้พันนิ้วเดียว(นิ้วชี้ซ้าย) ก้อนใหญ่ก็สองนิ้ว ได้แล้วใช้มือบีบน้ำออกเบา ๆ

วางขนมจีนเรียงใส่กระจาด ควรจะทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว อย่าปล่อยให้แช่น้ำนาน ๆ

เป็นอันเสร็จวิธีทำเส้นสูตรหล่มเก่า

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 01:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




567.jpg
567.jpg [ 48.49 KiB | เปิดดู 4275 ครั้ง ]
นำมาฝากคุณเต้และทุกท่านค่ะ

ความที่เป็นห่วง ความที่เป็นศิษย์ บุญร่วมกันสร้าง มายาวนาน

ไม่ร้างห่าง งานที่มีโปรด แดนโลกอันขุ่น เป็นภาระหนักฟื้นฟู...จิตเวไนย

เหลาหมู่บัญชา เป็นห่วงใยเวไนยหลงคือบุตรมองดูเวียนวน

ยากพ้นเพราะกรรมไม่อาจคลาย มีเพียงใจกลาง คอยกล่อมเกลานำทางที่...สว่าง

เพียงจิตใจวาง เรื่องร้ายหนาตนต้องปลดปลง

รับงานสานโปรด สิ่งที่เพียงหวัง พุทธหวนคืน

กอบกู้แดนทุกข์...โลกีย์ เป็นแดนแห่งธรรมยั่งยืน หวังมวลศิษย์ ฟื้นฟู (รู้ญาณ)

ภาระธรรมใหญ่ เป็นซึ่งงานหนัก แรงร่วมแรงช่วย...กันจริงใจมั่นยืนหยด

เดินย่ำไปทั่ว คนมากมีโปรด ตนรู้แนวสร้าง ร่วมมือศิษย์อาจารย์รู้ญาณ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเต้ มีไก่ 2 ตัวแล้วหรือครับ :b1:
สาธุกับจิตเมตตาช่วยชีวิตสัตว์ครับ :b8:
ตัวแรก ถ้าจำไม่ผิด สามีคุณเต้ซื้อมาเพื่อที่จะให้คุณเต้
เอามาทำอาหารใช่ไหมครับ แล้วคุณเต้ก็เปลี่ยนใจเลี้ยงไว้....


สัตว์กับคน ต่างกันที่กายสังขาร แต่จิตญาณข้างในเหมือนกันครับ
สัตว์ก็เคยเป็นคนมาก่อน แต่เพราะได้ก่อกรรมทำไม่ดีไว้ เลยให้ต้องตกสู่
สภาพของเดรัจฉาน


จำได้ว่าเคยเอาพระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม ให้คุณเต้อ่านแล้วใช่ไหมครับ
อยู่หน้า 12 กระทู้อาหารเจเก่า :b1:
อมิตาพุทธ เขียน:
พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม :b8:
"ขอเตือนชาวโลกเร่งกินเจ จิตญาณของคนและจิตญาณของสัตว์มาจากที่เดียวกัน
จะมีใจโหดร้ายฆ่าและกินเลือดเนื้อพี่น้องได้ลงคอเชียวหรือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา จึงได้รู้ว่า
ช่างน่าเวทนาจริงๆ"


เอาบางส่วนของ ลังกาวตารสูตร มาให้คุณเต้อ่านครับ
ลังกาวตารสูตร เป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ได้แสดงไว้ที่เกาะลังกา
กล่าวกันว่าคัมภีร์เล่มนี้ เป็นเพียง คัมภีร์เล่มเดียวที่ ท่านพระโพธิธรรมมหาครูบา (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ)
ท่านนำติดตัวมาจากอินเดีย ตอนที่ท่านเดินทางมาเผยแผ่พุทธศาสนาที่ประเทศจีน
อันนี้แปลเป็นภาษาไทยโดย
ท่านพุทธทาสภิกขุ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
โอ, มหาบัณฑิต! ด้วยน้ำหนักแห่งเหตุผลอันมากมายเหลือจะประมวญ
บ่งแสดงว่าเนื้อทุกชนิดเป็นสิ่งที่ควรปฏิเสธโดยสาวกแห่งพระพุทธศาสนา
ผู้มีใจเปี่ยมอยู่ด้วยความกรุณา สำหรับเขาเหล่านั้น เราจักกล่าวแต่โดยย่อๆ


โอ, มหาบัณฑิต! ในวัฏสงสารอันไม่มีใครทราบที่สุดในเบื้องต้นนี้
สัตว์ผู้มีชีพได้พากันท่องเที่ยวไป ในการว่ายเวียน ในการเกิดอีก ตายอีก
ไม่มีสัตว์แม้แต่ตัวเดียว ที่ในบางสมัย ไม่เคยเป็นแม่พ่อ พี่น้องชาย พี่น้องหญิง
ลูกชาย ลูกหญิง หรือเครือญาติอย่างอื่นๆ แก่กัน สัตว์ตัวเดียวกันย่อมถือปฏิสนธิในภพต่างๆ
เป็นกวาง หรือสัตว์สี่เท้าอื่นๆ เป็นนก ฯลฯ ซึ่งยังนับได้ว่าเป็นเครือญาติของเราโดยตรง
สาวกแห่งพระพุทธศาสนา จะทำลงไปได้อย่างไรหนอ จะเป็นผู้สำเร็จแล้ว
หรือยังเป็นสาวกธรรมดาก็ตาม ผู้เห็นอยู่ว่าสัตว์เหล่านี้ทั้งหมด เป็นภราดรของตน
แล้วจะเชือดเถือเนื้อของมันอีกหรือ.....


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 03:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




pink_lotus_logo2.jpg
pink_lotus_logo2.jpg [ 71.12 KiB | เปิดดู 4245 ครั้ง ]
:b8: สาธุค่ะ ภาพพระโพธิ์สัตว์งามมากค่ะ คุณน้ำ
อ่านธรรมะของคุณอมิตาพุทธ เห็นถึงรัศมีแห่งความ
เมตตาแผ่ออกมาทีเดียว โดยส่วนตัวก็ทานอาหารเจ
ตามโอกาส และต้องขอขอบคุณ คุณน้ำที่มีความเพียร
นำเอา สูตรอาหารเจมาโพสต์เผื่อแผ่ทุกวัน สาธุค่ะ
เมื่อวานไปถวายเทียนพรรษา เอาบุญมาฝาก ทุกท่านค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 12:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำค่ะ...พอทำงานบ้านเสร็จอาบน้ำเสร็จ...พอมาเปิดเวปนี้
มาได้เจอกับเพื่อนๆในเวปนี้....รู้สึกว่าที่หน้าจะมีแต่รอยยิ้มน่ะค่ะ :b16: :b16:
คิดว่าทุกๆท่านคงจะเป็นแบบนี้เช่นเดียวกันน่ะค่ะ :b1:

คุณน้ำค่ะ...แต่เรารู้ค่ะ ว่าเพราะอะไรคุณน้ำถึงถามเรา
เรื่องการนั่งสมาธิ...แล้วเราก็รู้ค่ะ ว่าทำไมคุณอมิตาพุทธ
ถึงได้นำบทกลอนนั้นมาpost....แล้วก็ที่คุณพ้นน้ำนำรูปที่สวนที่บ้าน
แล้วมีรูปของศาลพระพรหม.....พอดีเป็นช่วงที่เพื่อนเรามาที่บ้านพอดี
เพื่อนก็เลยฝากให้เราถาม คุณพ้นน้ำเรื่องศาลพระพรหม :b8:
ตอนนี้เรารู้หมดแล้วค่ะว่าเพราะอะไร :b16:

แล้ววันหลังจะค่อยๆเล่าให้ฟังน่ะค่ะ....วันนี้คุยเรื่องการนั่งสมาธิก่อนค่ะ
เวลาเราทำสมาธิ เราจะใช้คำว่าพุท+โธ แล้วเราก็เอาจิตของเรา
ไปจ่อที่ตรงปลายจมูก คือหายใจเข้า-หายใจออก
แล้วก็จะสวดพุทธ-โธ....ไปได้สักพัก.....ก็จะมีความรู้สึกว่า....คำว่าพุทธ-โธจะหายไป
จะมีความรู้สึกว่า.....สวดไม่ได้คือจิตจะนิ่งไปเลย

แต่ทีนี้ปัญหาที่เรากลัวคือ ถ้าจิตเรานิ่งไปเลย ถ้าเราไปเห็นอะไรเข้า
เราก็จะสวดคำว่า...เห็นหนอ-เห็นหนอ แต่ทีนี้ปัญหาคือ
จิตของเราที่นิ่งไปแล้ว มีความรู้สึกว่า ถ้าเราสวดอะไรอีกก็ช่าง...เรามีความรู้สึกว่า
เราหายใจไม่ออกค่ะ...แล้วทำไมถึงเป็นยังงี้ล่ะค่ะ
เวลาที่เรานั่งเราจะนั่งเกือบ1ชั่วโมงน่ะค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำค่ะ...พอทำงานบ้านเสร็จอาบน้ำเสร็จ...พอมาเปิดเวปนี้
มาได้เจอกับเพื่อนๆในเวปนี้....รู้สึกว่าที่หน้าจะมีแต่รอยยิ้มน่ะค่ะ
คิดว่าทุกๆท่านคงจะเป็นแบบนี้เช่นเดียวกันน่ะค่ะ

คุณน้ำค่ะ...แต่เรารู้ค่ะ ว่าเพราะอะไรคุณน้ำถึงถามเรา
เรื่องการนั่งสมาธิ...แล้วเราก็รู้ค่ะ ว่าทำไมคุณอมิตาพุทธ
ถึงได้นำบทกลอนนั้นมาpost....แล้วก็ที่คุณพ้นน้ำนำรูปที่สวนที่บ้าน
แล้วมีรูปของศาลพระพรหม.....พอดีเป็นช่วงที่เพื่อนเรามาที่บ้านพอดี
เพื่อนก็เลยฝากให้เราถาม คุณพ้นน้ำเรื่องศาลพระพรหม
ตอนนี้เรารู้หมดแล้วค่ะว่าเพราะอะไร

แล้ววันหลังจะค่อยๆเล่าให้ฟังน่ะค่ะ....




คุณเต้รู้ไม๊คะว่า กำลังทำร้ายจิตใจน้ำมั่กๆเลย ... ต่อมกิเลสอยากรู้เต้นระบำเลยค่ะ :b32:



เวลาเราทำสมาธิ เราจะใช้คำว่าพุท+โธ แล้วเราก็เอาจิตของเรา
ไปจ่อที่ตรงปลายจมูก คือหายใจเข้า-หายใจออก
แล้วก็จะสวดพุทธ-โธ....ไปได้สักพัก.....ก็จะมีความรู้สึกว่า....คำว่าพุทธ-โธจะหายไป
จะมีความรู้สึกว่า.....สวดไม่ได้คือจิตจะนิ่งไปเลย

แต่ทีนี้ปัญหาที่เรากลัวคือ ถ้าจิตเรานิ่งไปเลย ถ้าเราไปเห็นอะไรเข้า
เราก็จะสวดคำว่า...เห็นหนอ-เห็นหนอ แต่ทีนี้ปัญหาคือ
จิตของเราที่นิ่งไปแล้ว มีความรู้สึกว่า ถ้าเราสวดอะไรอีกก็ช่าง...เรามีความรู้สึกว่า
เราหายใจไม่ออกค่ะ...แล้วทำไมถึงเป็นยังงี้ล่ะค่ะ
เวลาที่เรานั่งเราจะนั่งเกือบ1ชั่วโมงน่ะค่ะ


ก็จิตมันนิ่งไปแล้ว มันเข้าสู่ความสงบไปแล้ว แต่คุณเต้ไปฝืนนี่คะ

ฝืนที่จะสวดขึ้นมาใหม่ มันก็เลยทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า แน่นหายใจไม่ออก

ที่เราคิดว่าาจิตมันนิ่งนั้น จริงๆแล้วมันยังมีส่วนอื่นที่ไม่นิ่งค่ะ มันมีการเกิดอย่างต่อเนื่อง

เมื่อลมหายใจละเอียดมากขึ้น คุณเต้จะจับลมหายใจไม่ได้เลย เพราะมันเบาบางมากๆ

แทบจะไม่รู้สึกถึงลมที่กระทบปลายจมูก ต่อจากนั้น คำบริกรรมเริ่มหายไป

ส่วนมากผู้ปฏิบัติที่ใช้คำบริกรรมจะเจอสภาวะตรงนี้กันแทบทุกคน แล้วบางคนก็เกิดอาการแบบที่

คุณเต้เป็นไปต่อไปม่ถูกไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ ได้แต่นั่งมองความนิ่งที่เราคิดว่ามันนิ่ง

ความสงบตัวนี้ที่คุณเต้เจอ เขาเรียกว่า สมถะค่ะ คือ เป็นผลของการทำสมาธิ จิตเข้าสู่ความสงบ

ครั้งต่อไปเป็นแบบนี้อีก ให้คุณเต้เฝ้าดูนะคะ มันจะเห็นชัดเจนมากๆ อาการทางกายที่เกิดขึ้น

คือ ท้องพองยุบตามลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า ท้องจะพอง หายใจออก ท้องจะแฟ่บ

มันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปบริกรรมพองหนอ ยุบหนอนะคะ แค่ดูลงไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น

ซึ่งมันมีและมันเป็นธรรมชาติของกายอยู่แล้ว เพียงแต่คุณเต้อาจจะไม่ได้สนใจ เลยมองไม่เห็น

เพราะมัวเอาจิตไปจดจ่อที่ตำแหน่งเดียวคือปลายจมูก ..

คุณเต้ทำแบบนี้นะคะ พอคำบริกรรมหายไป ไม่ต้องไปฝืนดึงคำบริกรรมกลับมา

ลมหายใจที่ปลายจมูกจับไม่ได้ ให้เปลี่ยนตำแหน่งมาดูที่อาการท้องพองยุบแทนค่ะ

ดูไปเรื่อยๆ พอสักพักลมหายใจที่ปลายจมูกเริ่มกลับมาชัดเหมือนเดิม ให้กลับไปจับลม

ที่ปลายจมูกแทนค่ะ ทำสลับไปมาแบบนี้ บางทีเกิดเวทนา ก็เอาจิตไปจับที่เวทนาแทน

การทำแบบนี้เรียกว่า วิปัสสนาค่ะ คือการดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ตัวไหนกระทบความรู้สึกชัดเจน ให้จับตัวนั้น ไม่ต้องไปพิจรณาอะไรนะคะ

เฝ้าดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น รู้ลงไปในสิ่งที่เกิดอย่างเดียว สภาวะจะเปลี่ยนสลับไปมาค่ะ

แล้วถ้าเกิดจิตเขาเกิดคำบริกรรมขึ้นมา ก็ให้บริกรรมไป พอคำบริกรรมหายก็ปล่อยไปนะคะ

การที่ไปเห็นอะไรต่างๆ เป็นผลของสมาธิค่ะ ไม่มีอะไร ... คุณเต้ทำถฏแล้วกำหนดเห็นหนอ ๆๆ

ครั้งต่อไป ฝึกลมหายใจเข้าออกยาวๆนะคะ สติ สัมปชัญญะจะได้เกิดทัน :b12:

ลองดูนะคะ ติดขัดตรงไหนถามได้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ...

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 00:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




e0b980e0b8a2e0b8b7e0b988e0b8ade0b984e0b89ce0b988e0b8a2e0b8b1e0b894e0b984e0b8aae0b989e0b899e0b989e0b8b3e0b981e0b894e0b887e0b980e0b888-300x192.jpg
e0b980e0b8a2e0b8b7e0b988e0b8ade0b984e0b89ce0b988e0b8a2e0b8b1e0b894e0b984e0b8aae0b989e0b899e0b989e0b8b3e0b981e0b894e0b887e0b980e0b888-300x192.jpg [ 18.67 KiB | เปิดดู 4166 ครั้ง ]
เยื่อไผ่ยัดไส้น้ำแดงเจ

ส่วนผสม

เยื่อไผ่ 2 ขีด
เห็ดหอมแห้ง 2.5 ขีด
หน่อไม้ฝรั่ง 3 ขีด
บร็อคโคลี 3 ขีด
สาหร่ายเส้นผม 1 กรัม

เครื่องปรุง

ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 0.5 ช้อนชา
เกลือ 0.5 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 กรัม
พริกไทยป่น 0.5 ช้อนชา
แป้งมัน 1 ขีด
น้ำซุป 1 ถ้วย

วิธีทำ

ก็เริ่มจากนำบร็อคโคลี่หั่นขนาดพอดีคำ ลวกในน้ำเดือดพอสุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

จากนั้นนำผักต่างๆมาเคี่ยวต่อจนเปื่อย กรองเอาแต่น้ำ สำหรับใช้เป็นซุป จากนั้นนำเยื่อไผ่

เห็ดหอมแห้ง สาหร่ายเส้นผม นำลงไปแช่น้ำทิ้งไว้ให้นุ่ม หั่นเยื่อไผ่ และหน่อไม้ฝรั่ง

เป็นท่อนยาว 2 นิ้ว เห็ดหอมหั่นตามยาวขนาดเท่าๆกัน

นำเห็ดหอม หน่อไม้ฝรั่ง สาหร่ายเส้นผม ที่เตรียมไว้ ยัดไส้เยื่อไผ่ จัดเรียงในจานสลับกับบร็อคโคลี่

ที่ลวกสุกแล้ว ให้สวยงาม จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีก 5 นาที จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันพืช

ตามด้วยน้ำซุปผัก ปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุง แป้งมันละลายน้ำพอเหนียวข้นเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา

ตักราดบนจาน เยื่อไผ่ยัดไส้ที่นึ่งแล้วพร้อมเสิร์ฟร้อนๆได้เลย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 00:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




8585211.jpg
8585211.jpg [ 14.95 KiB | เปิดดู 4164 ครั้ง ]
แกงเทโพ

ส่วนผสม :

ผักบุ้ง 2 กำ

เห็ดฟางหรือเห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย

เต้าหู้ขาวอย่างแข็ง 1 แผ่น

ลูกมะกรูด 1 ลูก

น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย

น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย

น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ

กะทิ 1/2 กิโลกรัม



เครื่องปรุง

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 2 ช้อนชา ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ




วิธีการทำ :

ผักบุ้งหั่นเป็นท่อนยาว 2 นิ้ว เห็ดฟางผ่า 4 เต้าหู้ขาวหั่นเป็นท่อนสี่เหลี่ยมพอคำ ลูกมะกรูดปอกเปลือกผ่าครึ่ง ตั้งกระทะคั่วน้ำพริกเครื่องแกงในน้ำมันพืชพอหอมใส่น้ำกะทิตั้นรอจนเดือดใส่เห็ด ผักบุ้ง เต้าหู้ ตามด้วยน้ำมะขามเติมเครื่องปรุงทุกอย่าง ชิมรสตามต้องการ ให้ออกเปรี้ยวหวานนิดหน่อย


.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะคุณน้ำ.....ที่พูดเรื่องการนั่งสมาธิ จนเราเข้าใจมากขึ้นอีก
แล้ววันหลัง เราค่อยย้อนมาคุยเรื่องนี้กันอีกทีน่ะค่ะ :b1:

วันนี้ เราจะบอกคุณน้ำค่ะ ว่าทำไม เราถึงรู้ว่าคุณน้ำ
จะต้องพูดกับเราเรื่องการนั่งสมาธิ

คือทุกๆเช้าตอนตี5กว่าๆ เราจะไปเดินออกกำลังกายกับเพื่อนๆ4คนทีนี
สถานที่ก็จะเงียบๆดี เราก็เลยมีความคิดว่า เราอยากจะเดินจงกรม
แต่เราเดินไม่เ็ป็นค่ะ เราก็เลยตั้งใจว่าจะตั้งกะทู้ถาม

ก็พอดีคุณน้ำ พูดถึง ที่คุณน้ำไปฝึกเดินจงกลม.....ที่วัดหลวงพ่อจรัญ
แล้วคุณน้ำบอกว่า....คุณน้ำต้องใช้เวลาฝึกเดินจงกรมถึง3ปี...เราก็เลยคิดว่า
เราคงไม่ต้องถามแล้วค่ะ....คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ....แล้วเราก็ไม่ได้สนใจอีก

แต่มีอยู่คืนหนึ่งค่ะ....เราฝันเราฝันว่า....เราไปเดินตรงที่เราไปออกกำลังกาย
แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งชุดสีขาวทั้งกางเกงและเสื้อ.....เรียกเราว่าคุณเต้ๆ
น้ำจะสอนให้คุณเต้เดินจงกลม :b1:

เราก็ลงไปยืนที่ข้างล่าง แล้วก็ให้ผู้หญิงคนนั้น...ยืนตรงที่เป็นทางเดิน
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า....น้ำจะเดินให้ดูน่ะ....เดินจงกลมเดินอย่างนี้น่ะ
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินให้เราดูค่ะ....แล้วเราก็ตื่น :b1:

เราก็เลยคิดว่าแปลก อย่างไงกันนี่ เราก็เลยคิดว่า....เราจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้คุณน้ำฟัง
เราก็คิดว่า...องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม....ท่านจะต้องให้คุณน้ำ มาบอกอะไรกับเราแน่ๆ

เราก็เลยคิดว่า ถ้าพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านรับคุณน้ำคือลูกศิษย์ของท่าน
คุณน้ำจะต้องเป็นฝ่ายชวนเราคุยเรื่องสมาธิ.....ภายใน3-7วันนี้แน่นอน
แล้วก็จริงๆเลยค่ะ จู่ๆคุณน้ำถามคำนี้ออกมา

อยากจะถามคุณเต้ เรื่องการทำสมาธิ ถามได้ไม๊คะ เผื่อน้ำอาจจะช่วยอะไรคุณเต้ได้บ้าง


เรางงเลยค่ะ....มีใครพอจะอธิบายอะไรให้เราฟังได้มั๊ยค่ะ
ว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมท่านสื่ออะไรให้กับเราค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นอะไรที่แปลกมากๆเลยนะคะ ...

เรื่องราวระหว่างคุณเต้กับน้ำ ... มันเหมือนกับว่า เรื่องที่คุณเต้เล่าเรื่องลักษณะแบบนี้ให้ฟัง ..

เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน .. ตอนนี้น้ำเองก็กำลังสับสนกับเจ้าตัวสัญญาที่มันเกิดขึ้นถี่มากๆ

เมื่อไม่กี่วันมานี่ น้ำได้ถามคนๆหนึ่งว่า เขาเคยพูดแบบนี้มากับน้ำมาก่อนแล้วใช่ไหม เคยพูดใช่ไหม

แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ตอบกลับมาจากเขา ก็เลยทำให้ไม่รู้ว่า สิ่งที่เขาพูดมานั้น เคยพูดมาก่อน

หรือว่าไม่เคยพูด .. นี่ก็มีคุณเต้อีก น้ำถึงบอกว่าแปลกมาก .. พอๆกับพนักงานที่บริษัท

เขามาเล่าให้ฟังว่า น้ำไปสอนการทำสมาธิให้กับเขาในฝัน ว่าให้ทำแบบนี้ๆ ...

เรามีบุญสัมพันธ์กันน่ะค่ะคุณเต้ .. เราอาจจะเคยเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ...

เพราะเดี๋ยวนี้ เวลาน้ำแผ่เมตตา กรวดน้ำ จะอุทิศให้ทุกๆคนในเว็บบอร์ดลานธรรมจักรนี้

โดยไม่ว่าจะเอ่ยนามหรือไม่เอ่ยนาม รู้จักหรือไม่รู้จัก ขอให้จงมีความสุขทุกรูปทุกนามเทอญ :b8:

ในหนังสือกฏแห่งกรรม หลวงพ่อจรัญเคยกล่าวไว้ว่า การที่เราตั้งจิตอุทิศ แผ่เมตตา กรวดน้ำ

บางคนเคยเกิดมาเป็นญาติพี่น้องกัน อยู่ไกลคนละทวีป คนละประเทศ ยังไปสอน

กรรมฐานในความฝันกันได้เลย ถ้ากระแสจิตนั้นอุทิศถึง ทุกคนจะได้รับ ..

การเดินจงกรม ไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ แต่ที่น้ำใช้เวลานานมากๆ เพราะว่าไม่ได้

ทำต่อเนื่อง และที่สำคัญคือ ตอนนั้นดูทางวีดีโอ สายตาก็สั้น นั่งหลังสุด จอทีวีก็นิดเดียว

เลยทำให้ทำไม่ได้ค่ะ แล้วบ้านที่น้ำไปปฏิบัติกับเขา เขาก็ไม่ได้สอนเดินจงกรม ให้นั่งอย่างเดียว

กุศลน้ำคงยังไม่ถึงน่ะค่ะ เลยทำให้ชีวิตช่วงนั้นหลุดจากวัดอัมพวันไป .. แต่สุดท้ายก็ได้กลับไป

เริ่มต้นใหม่หมดทุกอย่างเลย ถูกหลวงพ่อกำหราบซะอยู่หมัดเลยค่ะ เมื่อก่อนน้ำดื้อมากๆ

รบกวนผู้ปฏิบัติไว้ก็เยอะ กฏแห่งกรรมนี่ เชื่อแต่ไม่เชื่อทั้งหมด แบบไม่ใส่ใจ .. ตอนนี้โดนหมดเลย

อะไรๆที่ทำเอาไว้มันย้อนกลับมาหาหมดทุกเรื่อง แม้แต่เพียงแค่ความคิด ยังโดนเลย ..

แล้วเดินจงกรม .. คุณเต้เดินได้ไม๊คะ? ...

เรื่องพระแม่กวนอิม .. น้ำเชื่อว่า ท่านรับรู้ในความศรัทธาที่คุณเต้มีต่อท่านน่ะค่ะ ...

หมั่นปฏิบัตินะคะ อธิษฐานจิตให้ดีๆ ... แล้วคุณเต้จะได้พบท่านอย่างแน่นอนค่ะ :b12:

น้ำน่ะเจอท่านทีไร ไม่นานค่ะ จะต้องได้ช่วยคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนน้ำเป็นผู้นำสาส์น

จากท่านมาส่งให้กับบุคคลนั้นว่า ท่านรับรู้น่ะค่ะ คุณเต้เองก็กรณีเดียวกัน ..

เดี๋ยวคนอื่นๆมาอ่านแล้วจะเข้าใจผิดคิดว่าสนับสนุนให้คนติดนิมิต .. นิมิตที่บุคคลนั้นยึดแล้ว

นำไปก่อเหตุที่เป็นอกุศล นั่นคือ สิ่งที่ไม่ถูกต้อง .. ความศรัทธาของแต่ละคนแตกต่างกันไป

เหมือนคุณเต้มีความศรัทธาในพระแม่กวนอิมมากๆ เพียงแต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่คุณเต้จะได้พบท่าน

จึงทำให้คุณเต้มีความเพียรในการสร้างกุศล น้ำสนับสนุนน่ะค่ะและอนุโมทนาด้วย :b8:

เพราะถือว่าเป็นศรัทธาที่มีเหตุและผล ไม่ใช่ศรัทธาแบบปล่อยตามยถากรรม ..

ปฏิบัติติดขัดอย่างไร สงสัยตรงไหน ถามได้ค่ะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 02:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: บร็อคโคลี่ราดหน้าเห็ดรวมเจ ปรุงจากบร็อคโคลี่,เห็ดเข็มทอง,เห็ดหอม,เห็ดหูหนูดำ และแครอท เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การปรุงน้ำราดหน้าเจ โดยใส่น้ำมันหอยเจและแป้งมันพอขลุกขลิก เสร็จแล้วยกเสิร์ฟร้อนๆ อร่อยมาก
yumme-1-409.gif
yumme-1-409.gif [ 33.79 KiB | เปิดดู 4103 ครั้ง ]
คำอธิบาย: เต้าหู้เสฉวนหม้อดินเจ ก็ถูกปากไม่แพ้กัน เขานำเต้าหู้มาหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแล้วทอดพอเหลือง ปรุงรสชาติใส่ซอสเซี่ยงไฮ้, ชิกโช่, ใส่เห็ดหอม, พริกหยวกเขียว, พริกชี้ฟ้าแดง และผักเสฉวน ใส่แป้งมันคนให้พอเหนียว เติมซีอิ๊วขาว กลิ่นหอมน่าทานดี
yumme-2-409.gif
yumme-2-409.gif [ 32.25 KiB | เปิดดู 4101 ครั้ง ]
คำอธิบาย: บะหมี่ผัดแห้งเจ ปรุงจากเส้นบะหมี่ที่ลวกน้ำร้อนแล้ว จากนั้นผัดใส่แครอท, เห็ดหอม และถั่วงอก ปรุงรสให้กลมกล่อม เส้นบะหมี่เหนี่ยวนุ่มเข้ากับเครื่องมากๆ
yumme-3-409.gif
yumme-3-409.gif [ 34.95 KiB | เปิดดู 4100 ครั้ง ]
คำอธิบาย: เต้าหู้อบหม้อดิน

ส่วนผสม : เต้าหู้หั่นเป็นแว่นทอด พุทราจีนเชื่อม เห็ดหอมแช่น้ำทั้งดอก ฟองเต้าหู้ พริกหวานสีแดง-เขียว ปลิงทะเลจีนเจ /ปลาหมึกเจ /กุ้งเจหั่นเป็นชิ้นพอคำให้สวยงาม ดอกขจร ดอกไม้จีน
วิธีการทำ : นำเต้าหู้ที่ทอดเตรียมไว้แล้ววางเรียงในหม้อดิน เติมส่วนผสมทั้งหมดวางเรียงลงไป ใส่เครื่องยาจีนอันมี พริกไทยและชวงเจียว* โดยห่อผ้าขาวบางใส่ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยเจ น้ำตาล น้ำมันพืชเล็กน้อย และน้ำซุปเจนิดหน่อย นำไปอบจนแห้งพอประมาณ พร้อมเสิร์ฟ

tofu.gif
tofu.gif [ 9 KiB | เปิดดู 4099 ครั้ง ]
คำอธิบาย: บะหมี่ผัดเจ

ส่วนผสม : บะหมี่เจ 4 ก้อน พริกหวานเขียว-แดง 2 เม็ด เห็ดหอม 4 ดอก แครอต 1 หัว ยอดข้าวโพด 6 ฟัก ถั่วงอก 1 ถ้วย ก้านผักกาดไต้หวัน 6 ก้าน หมูแดงเจ/ปลาหมึกเจ/กุ้งเจทุกอย่างหั่นเป็นเส้นเล็กๆ เห็ดหอมแช่น้ำให้นุ่มหั่นเป็นเส้นเล็กๆ
วิธีการทำ : ลวกเส้นบะหมี่แล้วพักไว้ เอาของเจลงผัดในน้ำมันพืช ใส่ผักลงไป เติมน้ำซุปเจ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเจ และน้ำตาลเล็กน้อย ใส่เส้นบะหมี่และผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้ถูกใจ ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยเห็ดหูหนูขาว

fried_noodle.gif
fried_noodle.gif [ 12.1 KiB | เปิดดู 4098 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ส่วนผสม

เต้าหู้แผ่นสีขาว 2 ชิ้น
แป้งทอดกรอบ
น้ำมันถั่วเหลือง
แป้งท้าวยายม่อม
ซอสมะเขือเทศ
พริกไทย
ลูกโป๊ยกั๊ก
อบเชย
ซี้อิ๊วขาว
ผักชี
น้ำต้มผัก 2 ถ้วย

วิธีทำ

1. นำเต้าหู้แผ่นสีขาวมาหั่นเป็นท่อนๆ หนาประมาณ ๑/๒นิ้ว
2. นำแป้งทอดกรอบละลายน้ำ จากนั้นนำเต้าหู้ที่หั่นชุบแป้งทอดจนเหลือง ตักขึ้นพักไว้
3. ตั้งกระทะตั้งน้ำต้มผักที่เตรียมไว้ให้เดือด จากนั้นใส่ผักชีทั้งต้น ลูกโป๊ยกั๊ก อบเชย ต้มต่อจนเดือดจึงใส่ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊ว ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แป้งท้าวยายม่อมที่ละลายน้ำไว้พอประมาณ จนน้ำเริ่มข้น จากนั้นตักขึ้นราดเต้าหู้ที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยพริกไทยและผักชี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

e0b980e0b895e0b989e0b8b2e0b8abe0b8b9e0b989e0b899e0b989e0b8b3e0b981e0b894e0b887-300x300.jpg
e0b980e0b895e0b989e0b8b2e0b8abe0b8b9e0b989e0b899e0b989e0b8b3e0b981e0b894e0b887-300x300.jpg [ 26.49 KiB | เปิดดู 4095 ครั้ง ]
คำอธิบาย: แปดเซียนเต้าหู้ ชื่อเป็นสิริมงคลดีแถมรสชาติก็จัดจ้านไม่เหมือนอาหารเจจานอื่นๆ เพราะปรุงจากเต้าหู้ ข้าวโพดอ่อน แครอท เห็ดหูหนูดำ ไส้หมูเจ ถั่วลันเตา พริกหวานแดง และแปะก๊วย นำไปผัดรวมกันใส่น้ำสต็อกเจ เติมแป้งมันนิดหน่อย แล้วใส่พริกเซี่ยงไฮ้รสเผ็ดด้วย ใครชอบรสชาติเข้มข้นไม่จืดชืดน่าจะชอบนะ
yumme-4-408.gif
yumme-4-408.gif [ 24.97 KiB | เปิดดู 4094 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ผัดโลฮันห่อฟองเต้าหู้เจ หรือเรียกอีกชื่อว่าแปดอรหันต์ เป็นเจผักล้วนๆ ปรุงจากสาหร่ายเส้นผม เห็ดหูหนู เห็ดหอม แปะก้วย ลวกให้สุกก่อนจะนำไปผัดรวมกัน แล้วห่อด้วยฟองเต้าหู้บางๆ นำไปนึ่ง ๕ นาที ราดน้ำสต๊อกเจเข้มข้น ยกเสิร์ฟ ทานร้อนๆ อร่อยทีเดียว
yumme-3-408.gif
yumme-3-408.gif [ 26.77 KiB | เปิดดู 4093 ครั้ง ]
คำอธิบาย: เครื่องปรุง
เห็ดเข็มทองล้างแช่สะเด็ดน้ำ 3-4 กำ
ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอมปรุงรสหั่นเสี้ยว 2-3 ดอก
เต้าหู้ขาว 2 แผ่น
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปผัก 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 2 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ล้างเห็ดต่างๆ หั่น พักไว้
2. ใส่น้ำมัน 1 /2 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เต้าหู้และงานิดหน่อย ผัดให้หอมเหลือง
3. ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม น้ำตาลนิดหน่อย และเติมน้ำซุป
4. ใส่เห็ดต่างๆ ที่เตรียมไว้ ผัดจนนิ่มแล้วละลายแป้งข้าวโพดคนให้ทั่วจนหนืด ปิดไฟยกลงตักเสริร์ฟ

1161602100.jpg
1161602100.jpg [ 37.18 KiB | เปิดดู 4092 ครั้ง ]
เต้าหู้น้ำแดงหม้อดิน

สิ่งที่ต้องเตรียม

เต้าหู้หลอดตัดเป็นท่อนแบ่ง 8 ส่วน

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 50 กรัม

น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 หลอด

ผักกาดแก้ว 50 กรัม



สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับน้ำแดง


น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

กุ้งเจ

น้ำ 250 ซีซี

เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 30 กรัม

หมูสับเจ 100 กรัม

ซอสหอยนางรมเจ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

ผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้นสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

- คลุกเต้าหู้ลงในแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่ว

- ใส่ น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใช้ไฟปานกลาง นำเต้าหู้ที่คลุกแป้งไว้ลงทอดจนสุกเหลือง

ตักขึ้นใส่ลงในหม้อสำหรับอบที่รองด้วยผักกาดแก้ว

- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำมัน ใส่งาขาวคั่ว เติมกุ้งเจ หมูสับเจและน้ำ

ใส่เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรมเจ น้ำตาลทราย และ ซีอิ๊วขาว ลงผัดพอสุก

ผัดจนมีกลิ่นหอม หยอดหน้าด้วยน้ำมันงา โรยผักชีและพริกชี้ฟ้า พร้อมรับประทาน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 03:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




1222940890.jpg
1222940890.jpg [ 46.33 KiB | เปิดดู 4093 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ผัดเห็ดเป๋าฮื้อ

เครื่องปรุง เห็ดออริจิน(เห็ดเป๋าฮื้อ) เห็ดหอม ผัดกาดหอม

วิธีทำ หั่นเห็ดออริจินเป็นแผ่น บางๆ (ถ้าอยากให้เหมือนเป๋าฮื้อ ให้ตัดหัวสีดำๆออกไป) เอาเห็ดที่หั่นแล้วและเห็ดหอมลงไปผัด ใส่น้ำมันหอยเจ ให้เดือดๆ เติมน้ำแช่เห็ดนิดหน่อย เติมเกลือและพริกไทย จากนั้นราดเห็ดขณะร้อนลงในจานที่จัดผักกาดหอมเรียงไว้ ราดลงไปจะสลบพอดี ทานได้เลย

1222941088.jpg
1222941088.jpg [ 36.46 KiB | เปิดดู 4092 ครั้ง ]
คำอธิบาย: แกงส้มผักรวมเจ

เครื่องปรุง เห็ดนางฟ้า มะนาว น้ำมะขาม น้ำตาล
วิธีทำ เอาเห็ดนางฟ้าไปตำ หรือเข้าเครื่องบดให้ละเอียดเป็นชิ้นเล็กๆ กับพริกสีแดงสด เติมน้ำแช่เห็ดหอม ต้มให้เดือด ใส่น้ำมะขาม เกลือ น้ำตาล เพื่อปรุงรส แล้วใส่ผักตามใจชอบ ส่วนของเราใส่ ไชเท้า กะหล่ำปลี และผักกาดขาว

1222941297.jpg
1222941297.jpg [ 41.98 KiB | เปิดดู 4091 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ผัดแตงหวาน

เครื่องปรุง แตงล้าน ฟองเต้าหู
วิธีทำ ปอกเปลือกกับฝานไส้แตงออกไป หั่นยาวๆพอคำ แล้วเอาฟองเต้าหู้ที่แช่ไว้ เอามาผัดด้วยกันปรุงรส เติมน้ำมัน จากนั้นเอาไปใส่ในหม้อslowcook 1 ชม ให้นิ่ม แล้วเสริฟได้เลย

1223268952.jpg
1223268952.jpg [ 55.04 KiB | เปิดดู 4090 ครั้ง ]
คำอธิบาย: เต้าหู้ผัดชะอม

อ่านชื่อแล้วอย่าพึ่งร้องยี้กันนะ เราเองตอนแรกก็ยี้เหมือนกัน เพราะเกลียดชะอมมากๆ แต่พอชิมแล้วอร่อยแฮะ ไม่มีกลิ่นชะอม แถมเต้าหู้ก็รสชาติยังกะหมูสับ(บาปไหมเนี่ย) เมนูนี้จิ๊กมาจากโรงเจแถวบ้าน อิอิ

เครื่องปรุง เต้าหูแข็ง ชะอม
วิธีทำ เอามือยีเต้าหู้ขาวแข็งให้เป็นก้อนเละๆ หรือจะใช้ตะแกรงก็ได้ จากนั้นเอามาผัดกับน้ำมันงา ให้พอหอม จากนั้นเติมชะอม และน้ำแช่เห็ดลงไป ผัดๆแปบนึงก็เสร็จ

1223269021.jpg
1223269021.jpg [ 52.11 KiB | เปิดดู 4089 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ต้มถั่วลิสง

เมนูสุดฮิตยามเทศกาลเจ

เครื่องปรุง ได้แก่ ถั่วลิสง ฟองเต้าหู้ เห็ดหอม
วิธีทำ เอาถั่วลิสง ไปต้มน้ำ แล้วเททิ้ง 1 น้ำ แล้วจากนั้นเอาเครื่องปรุงทั้งหมดไปตุ๋นในหม้อต้ม slow cook เติมซี้อิ้ว ทิ้งไว้ 1 คืน เช้ามาจะนิ่มพอดีอร่อย

1222770261.jpg
1222770261.jpg [ 112.28 KiB | เปิดดู 4087 ครั้ง ]
คำอธิบาย: ข้าวผัดแครอท

เครื่องปรุง ข้าว แครอท ข้าวโพดอ่อน ก้านบร๊อคโคลี่

วิธีทำ เอาผักทั้งหมดไปลวกก่อน จากนั้นเอาข้าวไปผัดให้หอมก่อน แล้วค่อยเติมผัดที่ลวมไว้ ลงไปผักคลุกกัน เติมซี้อิ้ว และพริกไทย เป็นอันเสร็จ

1222770582.jpg
1222770582.jpg [ 109.79 KiB | เปิดดู 4086 ครั้ง ]
คำอธิบาย: แกงจืดหัวบุกแบบญี่ปุ่น
เครื่องปรุง ได้แก่ หัวไช้เท้า แครอท หัวบุกแผ่น เต้าหู้ เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม
วิธีทำ เอาหัวไช้เท้า กับแครอท ต้มเดือดก่อน โดยน้ำแกงที่ใช้ คือน้ำแช่เห็ดหอม และน้ำเปล่าครึ่งต่อครึ่ง จากนั้นค่อยใส่เครื่องอื่นๆ แล้วเติมโชยุแบบสุกี้ญี่ปุ่นลงไป

1222769994.jpg
1222769994.jpg [ 94.58 KiB | เปิดดู 4083 ครั้ง ]
คำอธิบาย: น้ำพริกเจ

เครื่องปรุง ได้แก่ ถั่วเหลืองบด มะเขือพวง พริกขี้หนู น้ำมะนาว น้ำตาล

วิธีทำ เอาเครื่องปรุงทั้งหมดคลุกเคล้าด้วยกัน ใส่ซี้อิ้ว เกลือ เป็นอันจบ ส่วนผักลวกก็ตามใจชอบเลยค่ะ

หมายเหตุ เมนูนี้เป็นผลพลอยได้จาก การทำน้ำเต้าหู้เมื่อเช้า มีกากถั่วเหลืองเหลือ ก็เอามาบดๆๆ

1222835386.jpg
1222835386.jpg [ 51.67 KiB | เปิดดู 4084 ครั้ง ]
ข้าวอบเกาลัด

เครื่องปรุง เครื่องพะโล้ เห็ดหอม เกาลัด แปะก๊วย เก๋ากี้ เต้าหู้ทอด
วิธีทำ ซาวข้าวใส่หม้อหุง แล้วใช้น้ำพะโล้ที่ผสมต้มและปรุงรสไว้แล้ว ใส่ลงไปหุงแทนน้ำเปล่า เติมเครื่องทั้งหมดใส่ลงไป แล้วหุงตามปกติ ก็กินได้เลย

ปล 1 สัดส่วนข้าว 1 ถ้วย ต่อน้ำ 1 ถ้วยครึ่ง

2 ถ้าจะให้ดี ต้มน้ำพะโล้กะเห็ดหอมทิ้งไว้ 1 คืนในตู้เย็น แล้วช้อนเอาแต่น้ำมาใช้ ตักเอาไขมันอ้วนๆสีขาวออกไป



เมนูนี้ภาพอยู่ด้านบนสุดนะคะ

ที่นำมาลงหลายๆอย่างแบบนี้ เพียงเพื่อต้องการให้หลายๆคนมีทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้นค่ะ

ใครชอบใจแบบไหน จะได้ลองเลือกทำดู น้ำว่าน่าทานทุกอย่างเลยนะคะ แล้วก็ทำแบบง่ายๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 04:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: วันนี้อาหารเยอะมากๆ เหมือนเป็นงานเลี้ยงเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คนไร้สาระขออนุญาต copy ไปฝากคุณแม่
ด้วยค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 45  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร