วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 04:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2010, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


สร้างสมดุลให้ชีวิตพิชิตโรค

ทุกวันนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สังคมโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน
ทำให้ร่างกายต้องเสียสมดุลไปจากเดิม



กิจกรรมหลายอย่างที่เคยสร้างความสมดุลอย่างการออกกำลังกาย
ถูกคำว่า “ไม่มีเวลา” เข้ามาแทรกแซง
ส่งผลกระทบให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บไข้ต่างๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ในแต่ละวันโรงพยาบาลต่างๆ จึงมีคนไข้มาใช้บริการจำนวนไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนยังคงติดภาพโรงพยาบาล
กับบริการในรูปแบบของการรักษาพยาบาลเท่านั้น
แต่จะดีกว่าหรือไม่ หากโรงพยาบาลจะปรับรูปแบบ
มาให้บริการในลักษณะเพื่อการดูแลสุขภาพ
ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ


คุณจอห์น ลีโคชุน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมดุลในร่างกายที่ผิดไปจากเดิม
ดังนั้นการดูแลสุขภาพด้วยการปรับสมดุลจึงเป็นคำตอบไปสู่การป้องกันโรค
“สังเกตได้ง่ายๆ ว่าความสมดุลในชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป
จากอดีตที่คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร
เป็นชาวนามีที่ดินหลายร้อยไร่
เพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างกันหลายร้อยเมตร
แต่ปัจจุบันนี้เราอาศัยอยู่ในคอนโด พื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร
วันนี้ผมทำอะไรกินข้างบ้านรู้หมด
ไม่มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่ของเราหายไป แต่ใจเราอยู่นอกเมือง
พูดง่ายๆ ว่าสุดสัปดาห์เมื่อไหร่ขับรถไปนอกเมืองเลย เพราะต้องการพักผ่อน”


ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า หากร่างกายยังปกติก็จะยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
จึงเกิดความประมาท แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อร่างกายเจ็บป่วย
ก็เหมือนเป็นสัญญาณที่ต้องการบอกว่าตอนนี้ร่างกายกำลังเสียสมดุลอยู่
“มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุล
แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
เช่น การทำงานจนลืมเวลา พอตกบ่ายก็เพิ่งรู้สึกหิว
แล้วพอเย็นวันศุกร์หรือในวันหยุดก็ใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง
จริงๆ แล้ววันธรรมดาควรหาเวลาพักผ่อนสักหน่อย
ส่วนสุดสัปดาห์ก็สนุกเต็มที่ แต่ไม่จำเป็นต้องดื่มหนัก
แต่ก่อนเคยมีคนบอกว่าดื่มชากาแฟไม่ดีต่อหัวใจ
แต่ตอนนี้การดื่มกาแฟวันละ 1 - 2 แก้ว กลับช่วยหัวใจของเรา
ดังนั้นทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ความสมดุลจึงเป็นสิ่งจำเป็น”


ทุกวันนี้โรคร้ายบางโรคไม่มีแล้ว
แต่เมื่อมีโรคหนึ่งหายไปก็เกิดโรคใหม่ขึ้นมาแทน
และโรคที่คนไทยวัยสูงอายุเป็นกันมากที่สุดคือ โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง
และเริ่มมีโรคเกี่ยวกับกระดูก
“ข่าวดีคือโรคเหล่านี้ป้องกันได้
ข่าวร้ายคือมันมาจากการขาดสมดุลของร่างกาย มาจากวิถีชีวิตของเรา
คืออาหารการกิน ความตึงเครียด
ส่วนใหญ่เมื่อเกิดความเครียดก็จะทานอาหารมากจนเดินไม่ไหว
ในขณะที่บางโรคก็สามารถเชื่อมต่อกันได้
คนที่เป็นเบาหวาน สักวันหนึ่งจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ
โรคเหล่านี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด
ดังนั้น เราต้องป้องกันตัวเราเอง เราเปลี่ยนเพื่อสร้างสมดุลได้
“จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขทำให้เราทราบว่าส่วนใหญ่
ชาวกรุงไม่ได้เป็นโรคติดต่อแล้ว ในอดีตคนไทยไม่กล้าทานน้ำแข็ง
เพราะไม่มั่นใจว่าใช้น้ำสะอาดหรือเปล่า
และไม่กล้าทานผักผลไม้ข้างนอกบ้าน
เพราะไม่ทราบว่าล้างสะอาดหรือเปล่า
แต่เดี๋ยวนี้ความเชื่อแบบนี้เริ่มจางหายไปแล้ว”


รูปภาพ


สำหรับวิธีที่ช่วยรักษาสมดุลให้แก่ร่างกาย
เพื่อไม่ให้ต้องไปใช้บริการโรงพยาบาลในฐานะคนไข้นั้น
คุณจอห์นกล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุลเกิดจากการใช้ชีวิตที่สุดโต่ง
เมื่อจะกินก็กินมากถึง4 - 5 มื้อต่อวัน พอไม่กินก็อดอาหารทั้งวัน
เครียดก็เครียดจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผ่อนคลายก็ดื่มเหล้าจนเมา
คือสุดโต่งทั้งสองด้านนั้นไม่ดี การแสวงหาความสมดุลนั้นสำคัญ
ผมเชื่อว่าทำได้ถ้าตั้งใจทำ
“ผมมีนิสัยเสียอย่าง คือขณะทานอาหารเช้าอยู่
ก็อยากจะทราบว่าเมื่อคืนตลาดหุ้นที่อเมริกาและที่ยุโรปเป็นอย่างไร
คือต้องดูหุ้นขึ้นหรือลง และวันนี้จะทำอย่างไร
ต้องเตือนตัวเองไม่ให้หมกมุ่นเรื่องนี้ ไม่ให้กล่องสี่เหลี่ยม
กระดานสี่เหลี่ยมมาบังคับชีวิตของผม”


เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น
ย่อมเป็นผลดีและผลเสีย อย่างเช่นการผ่อนคลาย
คุณจอห์นเลือกการฟังดนตรี
จึงถือได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผ่อนคลาย
หรือแม้แต่การสงบนิ่งยามเช้า
มองดูสายน้ำก็ยังเป็นอีกหนึ่งทางหากไม่ต้องการพึ่งเทคโนโลยี
“บางคนเลือกใช้เทคโนโลยีผิดทาง
อย่างเวลาทานอาหารไม่ควรดูทีวีไปด้วย
จะดีกว่าหรือไม่หากช่วงรับประทานอาหาร
ให้เรียนรู้ที่จะรับรสชาติของอาหารอย่างเต็มที่
แต่ละคนต้องหาบางสิ่งบางอย่างมาเพื่อสร้างบรรยากาศที่สมดุล
เช่นการที่ผมมองดูแม่น้ำ อย่างน้อยที่สุด เสาร์ - อาทิตย์
เราหาต้นไม้สักต้นหนึ่งที่ทำให้มองเห็นสีเขียว มองเห็นธรรมชาติ
หาสิ่งเหล่านี้เข้ามาช่วยสร้างสมดุล สร้างความผ่อนคลาย”


เมื่อนึกย้อนกลับไป ทำให้เราเริ่มรู้สึกตัวว่า
ร่างกายของคนส่วนใหญ่นั้นขาดสมดุลไปมาก
แต่เมื่อทราบแนวทางการใช้ชีวิตแบบง่ายๆ แล้ว
ก็เหมือนเป็นการเตือนตัวเองให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ
เพื่อรักษาความสมดุลให้แก่ร่างกาย
และโรคร้ายก็จะไม่มาเบียดเบียนเราอย่างแน่นอน



ที่มา...บทสัมภาษณ์ คุณจอห์น ลีโคชุน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)

http://www.kbeautifullife.com/health_we ... B8%84.html

:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2011, 09:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุๆ :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร