วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 21:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ระวัง! แบคทีเรียร้ายใน “ตู้เย็น”

ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ควบคุมและป้อง กันโรคติดต่ออู่ซี เปิดเผยว่า จากการศึกษาพบว่าแบคทีเรียลิสเทอเรีย (Listeria) สามารถเจริญได้ดีที่อุณหภูมิตู้เย็น ดังนั้นแต่ละบ้านที่ใช้ตู้เย็นเพื่อเก็บรักษาอาหารต่างๆ จึงกลายเป็นแหล่ง อาศัยชั้นดีของแบคทีเรียสายพันธุ์นี้

ขณะที่คนทั่วไปเข้าใจว่าการเก็บผลิตภัณฑ์อาหารในตู้เย็น จะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานกว่าปกติ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหากการเก็บรักษาไม่ถูกวิธี แบคทีเรียก็จะเจริญได้ดีในอาหาร และยังชี้ถึงอันตรายของแบคทีเรียว่า หากเข้าสู่ร่างกายคนจะ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตถึง 30 %

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคฯ แนะนำว่าก่อนรับประทานอาหารที่นำออกจากตู้เย็น ควรแน่ใจว่าผ่านการล้างทำความสะอาด เนื่องจากแบคทีเรียลิสเทอเรียมักเกาะอยู่บนผิวผลิตภัณฑ์ หากเป็นอาหารสดควรปรุงสุกก่อนรับประทาน และทานให้หมด หลีกเลี่ยงการนำเข้าตู้เย็น นอกจากนี้ยังต้องทำความสะอาดตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ แบคทีเรียลิสเทอเรีย หรือลิสเทอเรีย โมโนไซโตจินนีส (Listeria monocytogenes) เป็นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคลิสเทอริออซิส (Listeriosis) หรือโรคที่เกิดจากการปนเปื้อนในอาหาร บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดได้แก่ สตรีมีครรภ์

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผลวิจัยระบุคนแก่แค่หลับยากขึ้น ยังต้องนอน 8 ชม.ให้สมองโปร่ง

งานศึกษาชิ้นใหม่พบว่า คนวัยกลางคนและผู้สูงวัยต้องการเวลาในการนอนหลับพอๆ กับหนุ่มสาว หากอยากให้สมองปลอดโปร่งในเช้าวันรุ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มมากขึ้นที่ผู้สูงวัยจะถูกขัดจังหวะการนอนจากปัญหาสุขภาพ นำไปสู่พฤติกรรมในการงีบหลับหรือการอ่อนเพลียในตอนกลางวัน

ดร.ฌอน ดรัมมอนด์ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก กล่าวว่าการค้นพบนี้ตรงข้ามกับ สิ่งที่เชื่อกันมานานว่า ชั่วโมงการนอนจะลดลงเมื่อคนเราเข้าสู่วัยกลางคนและวัยชรา จากการวิจัยการนอนหลับพบว่า คนส่วนใหญ่ต้องการนอนวันละ 7-8 ชม. โดย 1 ใน 20 ต้องการนอน 9 ชม. เป็นอย่างน้อย และ 1 ใน 50 สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดวันโดยนอนแค่วันละไม่ถึง 6 ชม.

สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย นักวิจัยพบว่าชั่วโมงการนอนหลับมีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำงานของสมองในวัน รุ่งขึ้น ยิ่งได้นอนหลับนานเท่าไหร่ในคืนก่อน วันรุ่งขึ้นสมองของผู้สูงวัยยิ่งทำงานอย่าง มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเรียนรู้และจดจำข้อมูลใหม่ๆ ได้ ขณะที่ หนุ่มสาวนั้น ชั่วโมงการนอนหลับไม่มีอิทธิพลมากนัก

ดร.ดรัมมอนด์เสริมว่า ผู้สูงวัยต้องการเวลานอนหลับพอๆ กับหนุ่มสาว แต่มักได้หลับน้อยกว่าการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อแก่ตัวลง กลับตื่นกลางดึกมากขึ้น

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สธ.เตือนระวัง 6 โรคอันตรายหน้าร้อน 2 เดือนแรก ป่วยแล้วกว่า 2 แสนราย

น.พ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคติดต่อสำคัญที่เกิดในฤดูร้อน ได้แก่ อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค และไข้ไทฟอยด์ โดยในปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 28 กุมภาพันธ์ 53 พบผู้ป่วยรวม 200,576 ราย เสียชีวิต 14 ราย โดยสาเหตุการติดเชื้อเกิดจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน เช่น อาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีแมลงวันตอม หรืออาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านานๆ ส่วนการดูแลเบื้องต้นหลังมีอาการดังกล่าว ในระยะแรกควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ โดยใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซองผสมน้ำต้มสุกเย็น 1 แก้ว หากไม่มี ให้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือป่นครึ่งช้อนชา ละลายกับน้ำต้มสุกเย็น ในปริมาณ 1 ขวดน้ำปลากลม โดยต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารเหลว เช่น น้ำข้าว น้ำแกงจืด หรือข้าวต้ม ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

ส่วนโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งมีแนวโน้มคนถูกสุนัขกัดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน โรคนี้ติดต่อจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีแผลรอยข่วน หรือน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อเข้าตา ปาก จมูก สัตว์นำโรคที่พบมากสุดคือ สุนัข รองลงมาเป็นแมว และอาจพบในสัตว์เลี้ยงอื่น เช่น หมู ม้า วัว ควาย และสัตว์ป่า เช่น ลิง ชะนี กระรอก กระแต เป็นต้น การป้องกันคือ นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละครั้ง และไม่เล่นกับสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะกินว่านหางจระเข้สดๆ ช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต

รศ.นพ.สุขชาติ เกิดผล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยว่า คณะวิจัย มข.ได้ทำการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับสารซิเตรตและสาร ทาร์เตรต ในว่านหางจระเข้ ซึ่งมีผลในการช่วยยับ ยั้งการเกิดนิ่วในไต

โดยจากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบในปัสสาวะในเด็ก ด้วยการให้เด็กที่เป็นอาสาสมัคร รับประทานว่างหางจระเข้สด ครั้งละ 100 กรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน และเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ ผลการวิจัยพบว่า ว่านหางจระเข้มีสารที่มีศักยภาพในการป้องกันการเกิดนิ่วในไตในเด็กได้เป็น อย่างดี และเมื่อขยายผลการศึกษาในผู้ใหญ่ ก็พบว่าได้ผลดีในการป้องกันการเกิดนิ่วในไตเช่นกัน

นอกจากว่านหางจระเข้จะช่วยยับยั้งการเกิดนิ่วแล้ว ยังช่วยยับยั้งนิ่วให้ไม่โตขึ้น และป้องกันการเกิดนิ่วในไตซ้ำได้ การรับประทานว่านหางจระเข้ เพื่อให้เกิดผลทางการแพทย์ในการป้องกันการเกิดนิ่วในไตนั้น ให้นำว่านหางจระเข้สดมาปอกเปลือก ล้างยางสีเหลืองออกให้หมดด้วยน้ำสะอาด นำเฉพาะส่วนที่เป็นวุ้นสดๆ มารับประทานสดๆ หรือผสมกับน้ำหวาน ไม่ควรนำไปปรุงสุก เพราะสารต่างๆ ที่เป็นตัวสำคัญในว่านหางจระเข้จะสูญเสียไปกับการต้มสุก

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดื่มน้ำเย็นจัด ลดขีดความสามารถสมอง

วารสารนิวไซเอินทิสต์ ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยของทีมนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอลในอังกฤษ พบว่า คนที่ดื่มน้ำเย็นจัดในยามที่ร่างกายไม่ได้เกิดความรู้ สึกกระหายน้ำนั้น จะทำให้ขีดความสามารถในการทำงานของสมองลดลงไปทันที โดยน้ำเย็นจัดเพียงแค่แก้วเดียวก็มากพอที่จะทำให้สมรรถภาพทางจิตใจของบางคน ลดลงไปถึง 15%

ดร.ปิเตอร์ โรเจอร์ นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอลและทีมงาน ได้ทดสอบผลกระทบของ น้ำต่อกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 60 คน ได้ข้อสรุปว่า การดื่มน้ำ เย็นจัดมากเกินไปจะมีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการขับรถ หรือทำงานที่ต้องใช้สมอง หรือความคิดมากๆ โดยอุณหภูมิ ของน้ำดื่มอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสมอง

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 113 เมษายน 2553 โดย ธาราทิพย์)

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รอบรู้โรคภัย : เจ็บคอเรื้อรัง ระวังอันตราย!!

การเจ็บคอเรื้อรัง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย อาการนี้เป็นที่น่ารำคาญแก่ผู้ป่วย และอาจทำให้ผู้ป่วยต้อง ไปพบแพทย์หลายคนบ่อยๆ เนื่องจากไม่หายเสียที ผู้ป่วยบางรายอาจต้องรับประทานยาต้านจุลชีพหลายชนิดเป็นระยะเวลานาน

สิ่งสำคัญในการรักษา คือ ต้องหาสาเหตุของอาการเจ็บคอเรื้อรังให้พบ และรักษาตามสาเหตุ อาการผู้ป่วยถึงจะหาย และมีโอกาสน้อยที่จะกลับมาเป็นอีก

การวินิจฉัยสาเหตุของอาการเจ็บคอเรื้อรัง จำเป็นต้องซักประวัติ ตรวจร่างกาย และทำการตรวจจมูก ไซนัส ช่องคออย่างละเอียด ส่วนใหญ่แพทย์จะทำการส่องกล้องตรวจจมูก ไซนัส ช่องคอ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยสาเหตุของอาการเจ็บคอเรื้อรังที่ถูกต้อง

• สาเหตุของอาการเจ็บคอเรื้อรัง

1. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และโรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้

โรคนี้เกิดจากเยื่อบุจมูกไวผิดปกติ เมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นทำให้เยื่อบุจมูกบวม ทำให้คัดจมูกเรื้อรัง ต้องอ้าปากหายใจ ทำให้เยื่อบุลำคอแห้ง มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนี้โรคนี้ยังทำให้มีน้ำมูกไหลลงคอ ระคายคอตลอดเวลา ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้เช่นกัน

2. โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง

โรคนี้จะทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกบวม มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง ทำให้ต้องหายใจทางปากตลอด เกิดเยื่อบุลำคอแห้ง มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้

นอกจากนั้นสารคัดหลั่งจากไซนัสและจมูกที่อักเสบ ที่ไหลลงคอ จะทำให้มีอาการอักเสบระคายเคืองของผนังคอ ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้เช่นกัน

3. การติดเชื้อของลำคอ และ/หรือต่อมทอนซิลเรื้อรัง

เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรัง อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งดื้อต่อยาต้านจุลชีพที่รับประทาน หรือเกิดจากผู้ป่วยรับประทานยาต้านจุลชีพไม่ครบตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น หรือมีแหล่งของเชื้อโรคอยู่ในช่องปาก เช่น มีฟันผุ หรือโรคเหงือก

นอกจากนั้นการติดเชื้อบางชนิดอาจทำให้เจ็บคอเรื้อรังได้ เช่น การติดเชื้อราบางชนิด เชื้อวัณโรค เชื้อโรคเรื้อน หรือเชื้อซิฟิลิส อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อดังกล่าวนี้พบได้น้อย

4. โรคผนังช่องคอ และ/หรือสายเสียงอักเสบเรื้อรัง

จากการระคายเคืองจากการสัมผัสกับฝุ่น ควันบุหรี่ อาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด หรือเกิดจากการใช้เสียงผิดวิธี หรือเกิดจากการไอเรื้อรัง ทำให้มีการกระแทกกันของสายเสียง และมีการใช้กล้ามเนื้อของผนังคอมากเกินไป

5. โรคกรดไหลย้อน

ซึ่งกรดอาจไหลย้อนขึ้นมาที่ผนังคอ ทำให้เยื่อบุและกล้ามเนื้อของผนังคอมีการอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บคอเป็นๆ หายๆได้ นอกจากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการเสียงแหบ กลืนติด กลืนลำบาก มีเสมหะอยู่ในลำคอ หรือระคายคอตลอดเวลาร่วมด้วย

6. โรคเนื้องอกของคอและกล่องเสียง

เนื้องอกอาจไปกดเบียดเส้นประสาท ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนั้นผู้ป่วยมักมีอาการกลืนลำบาก น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อาจมีเสมหะปนเลือด หรือปวดร้าวไปที่หูได้

7. โรคของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงบริเวณคอ (neuralgia)
เช่น เส้นประสาทสมองคู่ที่ 9 (glossopharyngeal nerve) ซึ่งอาจมีการกระตุ้น หรือการระคายเคืองของเส้นประสาทดังกล่าว ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังเป็นๆ หายๆได้ อาการปวดมักจะเริ่มจากผนังคอ แล้วร้าวไปยังหู คอ และศีรษะนานเป็นวินาที มักกระตุ้นโดยการกลืน การหาวนอน การเคี้ยว และการไอ

8.สิ่งแปลกปลอม

เช่น ก้างปลา กระดูกชิ้นเล็กที่คาอยู่ในผนังลำคอ ต่อมทอนซิล หรือโคนลิ้น เป็นระยะเวลานาน จะทำให้บริเวณดังกล่าวอักเสบเกิดการติดเชื้อ ทำให้เจ็บคอเรื้อรังได้ อย่างไรก็ตามสาเหตุนี้พบได้น้อย

• การรักษาอาการเจ็บคอเรื้อรัง

รักษาตามสาเหตุ ควรปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊กหรือข้าวต้มที่ไม่ร้อนจนเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดหรือรสจัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการใช้เสียงชั่วคราว

ควรพยายามทำความสะอาดคอบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ด้วยการแปรงฟัน หรือกลั้วคอด้วยน้ำยาบ้วนปาก น้ำเกลืออุ่นๆ หรือน้ำเปล่าหลังอาหารทุกมื้อ เนื่องจากการที่ไม่รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี อาจมีเศษอาหารตกค้างในช่องปากและลำคอ ทำให้เจ็บคอมากขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าอาการเจ็บคอเรื้อรัง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคของจมูก ไซนัส ลำคอ กล่องเสียง หลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร และพยาธิสภาพ เป็นได้ตั้งแต่โรคธรรมดาที่ไม่อันตราย เช่น โรคภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง จนถึงโรคที่อันตราย เช่น เนื้องอกของคอและกล่องเสียง

ดังนั้น อย่านิ่งดูดาย ถ้ามีอาการเจ็บคอเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์หู คอ จมูก เพื่อหาสาเหตุของอาการดังกล่าว

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 113 เมษายน 2553 โดย ผศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล)

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร