วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 03:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


ใครๆ ก็อยากมีความสุข แต่หากแสวงหาไม่ถูกวิธี ก็ใช่จะมีความสุข
ในทางกลับกัน ถ้าแสวงหาถูกวิธี ก็จะมีความสุขด้วยวิธีที่แสนเรียบง่าย
และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่างที่สุด



ในรอบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์และเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้ผู้เขียนมีความสุขมาก
และคิดว่าบางเรื่องหากนำมาเล่า
ก็อาจจะทำให้หลายคนพลอยมีความสุขไปด้วยเช่นเดียวกัน


ติช นัท ฮันห์

เรื่องที่หนึ่ง เป็นความสุขทางจิตวิญญาณล้วนๆ ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เขียนโชคดี
ได้รับอาราธนาให้ไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการเจริญสติกับสังฆะแห่ง หมู่บ้านพลัม
เมืองบอร์โดซ์ ประเทศฝรั่งเศส เวลาสองอาทิตย์ ที่ผู้เขียนได้ใช้ชีวิต
อยู่ในชุมชนแห่งผู้ฝึกปฏิบัติเพื่อการเจริญสติ นับเป็นโมงยามแห่งความสุข
ความรื่นรมย์ของชีวิตโดยแท้ เพราะที่หมู่บ้านพลัมนั้น
นักบวชทุกคนและอาคันตุกะผู้มาเยือนทุกคน ไม่ว่าจะมาจากไหนก็ตาม
ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน กล่าวคือ
ทุกคนล้วนมาเพื่อต้องการฝึกเจริญสติด้วยการตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันขณะทั้งสิ้น
เราแทบไม่พูดถึงเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากเรื่องการฝึกเจริญสติเลย
มองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มของมวล “กัลยาณมิตร” นานาชาติกว่า 700 ชีวิต
แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราจะพูดน้อยอย่างยิ่ง
แต่บรรยากาศโดยรวมก็ถือว่า เรามีความเข้าใจกันอย่างสูงยิ่ง
เป็นความเข้าใจในกันและกันโดยไม่ผ่านคำพูด



หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ นั้น นับเป็นรูปธรรมของการตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันที่ชัดเจนที่สุด
ชนิดไม่ต้องการคำบรรยายใดๆ อีก เพราะไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวอิริยาบถ
การพูด การมอง การลบกระดาน การก้าวย่าง การเหลือบ การแล การดื่ม
การขบฉัน การยิ้ม ทุกอิริยาบถของท่าน
ล้วนแสดงให้เห็นถึงความสงบที่ถูกอบร่ำด้วยพลังแห่งสติมาอย่างยาวนานลึกซึ้งทั้งสิ้น
เมื่อได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งสติ
พลังแห่งสติภายในตัวของเราเองก็พลอยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ที่ผู้เขียนรู้สึกโชคดีไม่ใช่เพียงเพราะว่าได้ไปเยือนที่หมู่บ้านพลัมในฐานะ นักบวชรูปหนึ่งเท่านั้น
แต่ที่หมู่บ้านพลัม ผู้เขียนได้รับความเมตตาอย่างสูงยิ่งจากท่านติช นัท ฮันห์
และจากพี่น้องบนเส้นทางธรรมเสมือนหนึ่งเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
ทุกวัน ผู้เขียนได้นั่งสวดมนต์ใกล้ชิดกับหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้เดินจงกรมร่วมกับท่าน
ได้ฟังธรรมจากท่านซึ่งๆ หน้า และที่ถือว่าเป็นความเมตตาอย่างสูงยิ่งก็คือ
หลวงปู่ได้เมตตาให้เข้าไปเยี่ยมชมกุฏิที่พำนักส่วนตัวของท่านทุกหลังในวัด
แต่ละแห่ง ซึ่งทำให้ผู้เขียนเกิดแรงบันดาลใจหลายอย่างต่างประการ
จนไม่อาจพูดออกมาเป็นถ้อยคำได้


ก่อนกลับจากหมู่บ้านพลัม วันนั้น ขณะที่ผู้เขียนเดินจงกรมตามหลวงปู่อยู่นั่นเอง
ท่านก็หยุดเดิน พร้อมกับก้มลงเด็ดดอกหญ้าดอกหนึ่งจากบนพรมหญ้าเขียวขจี
ที่เป็นทางเดินจงกรม ยื่นให้แก่ผู้เขียน
พร้อมกับเชื้อเชิญขอให้กลับมาเยี่ยมหมู่บ้านพลัมอีกจะกี่ครั้งก็ได้ ตามแต่ใจต้องการ
จนถึงวันนี้ ดอกไม้ดอกนั้นยังคงผลิบานอยู่ในใจผู้เขียนเสมอมา
เป็นดอกไม้แห่งไมตรี ดอกไม้แห่งสติ ดอกไม้แห่งความปีติเบิกบาน
จากขุนเขาหิมาลัยทางปัญญาของโลก แด่กรวดทรายกระจิริดจากประเทศไทย


สองอาทิตย์ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครูบาอาจารย์ผู้เป็นวิปัสสนาจารย์ชั้นยอดของโลก
นับเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตมิรู้ลืมของผู้เขียนไปตลอดกาล
ก่อนเดินทางกลับ ผู้เขียนสรุปประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตตลอดสองอาทิตย์นั้น
เป็นปณิธานในการ ดำเนินชีวิตให้กับตัวเองว่า “เราจะเดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง”
เพราะเราได้เห็นแล้วว่า ผู้ที่เดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง “อริยมรรค” นั้น
มีชีวิตที่ประเสริฐและเป็นประโยชน์เกื้อกูลต่อโลกเพียงใด



รายงานโดย :ว.วชิรเมธี:
วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553
ที่มา...โพสต์ทูเดย์


:b48: :b8: :b48:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร