23050.คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

อมิตาพุทธ

walaiporn เขียน:

ขอบคุณมากค่ะคุณอมิตาพุทธ :b8:

เปลี่ยนใจแล้วค่ะ ไม่ซื้อแล้ว เอาตังค์ไว้ทำบุญดีกว่า ..

คิดๆดูแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรมากมาย :b1:

คุณอมิตาพุทธเคยทำผัดกระเพราใส่ผักอย่างเดียวมั๊ยคะ?

อร่อยนะคะ วิธีทำง่ายๆค่ะ ...

สวัสดีครับคุณน้ำ เปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้วหรือครับ
เห็นด้วยครับที่ว่าเก็บเงินไว้สร้างบุญสร้างกุศลดีกว่า
ถ้าของเก่ายังใช้ได้อยู่ ก็อย่าเพิ่งซื้อดีกว่าครับ
เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ประหยัดเงินไว้ครับ :b12:

ผัดกระเพราแบบใส่ผักอย่างเดียว ยังไม่เคยทำเลยครับคุณน้ำ
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองทำดูครับ :b16:

walaiporn

ลองทำแล้วหรือยังคะคุณอมิตาพุทธ รสชาติเป็นอย่างไรบ้างคะ จะใส่เห็ดเพิ่มลงไปก็ได้นะคะ

ความจริงแล้ว เราแค่โขลกๆพริก แล้วนำมาผัดกับผักสารพัดผัก ปรุงรสตามชอบ

เท่านี้เราก็ได้ทานอาหารแสนอร่อยแล้วแหละค่ะ ไม่ต้องไปเสริมเติมแต่งให้มากมาย

แต่อย่างว่าแหละนะคะ ธรรมชาติของคน อะไรที่มันเดิมๆซ้ำๆ ทานอาหารซ้ๆ

เราย่อมเบื่อเป็นเรื่องธรรมดาๆมากๆเลยค่ะ ที่น้ำเป็นคนไม่ค่อยเบื่อ มีอะไรๆก็กวาดๆทานได้หมด

เพราะเป็นคนค่อนข้างจะขยันม๊ากมากค่ะ :b32:

กับคนอื่นๆขยันทำให้เขาทาน แต่กับตัวเองนี่โหลยโท่ยมากๆเลยค่ะ :b12:

อมิตาพุทธ

สวัสดีครับคุณน้ำ
ยังไม่ได้ทำผัดกระเพราแบบที่คุณน้ำแนะนำมาเลยครับ
กะว่าจะทำวันนี้ แต่พอดี มีคนทำกับข้าวอย่างอื่นมาฝากซะก่อน :b16:

เลยคิดว่า พรุ่งนี้ จะลองทำดู ครับ :b1:

เรื่องรสชาติอาหาร ตอนนี้ก็ไม่ได้ยึดติดอะไรแล้วมากแล้วล่ะครับคุณน้ำ
เพราะรู้สึกว่า ฝีมือทำครัวของตัวเอง ไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ในการทำอาหาร :b12:

ขอแค่ทำออกมาแล้ว กินได้ ไม่ท้องเสีย ก็โอเค แล้วครับ :b32:

P_kae

ตายแล้วเก๋ไม่ได้มาตั้งนานมีภาค 2 แล้วเหรอคุณน้ำ ฮอทมั๊กๆสงสัยต้องมานั่งจดเมนูอีกยาวรอบใหม่แน่ๆเลยค่ะ :b32:

แวะมาทักทายคุณน้ำและเพื่อนๆทุกๆคนนะคะ ไว้ว่างๆเก๋จะมานั่งไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก
วันนี้เอาข่าวเรื่องขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป A มาแปะ แล้วจะมาใหม่นะจ้ะ

รักนะทุกคน จุ๊ฟ จุ๊ฟ :b12:

ฝากกระทู้บริจาคเลือดด้วยนะคะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24150:b8: :b8:

walaiporn

ไปมาแล้วค่ะคุณเก๋ ... แต่ว่าเลือดของน้ำใช้ไม่ได้ค่ะ

อะแฮ่มมม .. เพราะเลือดของน้ำกรุ๊ป บีค่ะ :b32:

หลงคิดว่าตัวเองเลือดกรุ๊ปเอมาตั้งนาน .. แต่ก็ร่วมบริจาคกับเขานะคะ

เขาจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่นๆได้ เห็นเขาบอกว่าตอนนี้เลือดไม่ค่อยพอสำหรับผู้ป่วยค่ะ

ตอนแรกที่ให้กรอกประวัติ ขำๆอาจารย์หมอ ตัวน้ำเล็กน่ะค่ะเป็นคนกระดูกเล็ก

ท่านถามน้ำว่าไม่ได้โกงน้ำหนักแน่นะ คือน้ำลงไปว่าประมาณ 48-50 กิโล

( จริงๆแล้วนั่นคือน้ำหนักก่อนที่จะทานมังสวิรัติ ตอนนี้น้ำหนักลดลง แต่ยังไงๆมากกว่า 45 แน่นอนค่ะ)

เกือบจะไม่ได้บริจาคแล้วแหละค่ะ ท่านมาบีบๆที่ตัว ที่แขน ฮ่าๆๆๆๆๆ ...

ลองนึกภาพดูสิคะ ตล๊กตลก ไล่บีบตามเนื้อตัวเรา คือเขาไม่เชื่อ

น้ำเลยบอกว่าลองชั่งใหม่ก็ได้ค่ะ หนูคนกระดูกเล็กค่ะอาจารย์ มีแต่เนื้อ ตกลงท่านให้บริจาคได้

ก็ขึ้นไปชั้นสอง อิอิ .. ใจก็ภาวนาตลอดว่า สาธุ!!!! หากวิบากกรรมที่ข้าพเจ้า

ได้เคยล่วงเกินคนไข้ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม หากวิบากกรรมที่ข้าพเจ้าเคยมีกับคนไข้นั้น

ได้หมดเวรกรรมต่อกันและกันแล้ว ขอให้พยาบาลแทงน้ำเกลือแค่ครั้งเดียวด้วยเทอญ สาธุ

เส้นน้ำหายากมากๆ เป็นคนเส้นลึก แล้วผิวของน้ำมันบาง ถ้าแทงไม่ดีก็แตก

ใจม่ดีเลยนะคะ กลัวเข็มมากๆ เฮ้อ ... เวรกรรมจริงๆ นึกออกเลยสมัยก่อนเวลาแทงน้ำเกลือเขา

เขาก็คงเหมือนกับเราในตอนนี้ แล้วตั้งกี่คนที่โดนเราแทง กว่าเราจะมือแม่น ... กรรมจริงหนออ

ทั้งแขนซ้าย แขนขวา โดนตีซะแขนแดงเลย สรุปต้องเปลี่ยนเตียง ได้แขนขวา

จิตนี่มันไวนะ ตั้งแต่เช็ดแอลกอฮอลล์ จนกระทั่งเข็มที่แทงเข้าไปในเนื้อ มันรู้รายละเอียดหมดเลย

ไม่ได้มองเลยค่ะ หันหน้าไปอีกด้าน กลัวมากๆ ฮ่าๆๆๆๆ .. ตลกดีนะน้ำเนี่ย ..

เวลาทำคนอื่นทำได้ แต่เวลาเขาทำกับตัวเองมั่งทนไม่ได้ นี่แหละเวรกรรม ไม่ต้องรอชาติหน้าหรอก

ชาตินี้แหละค่ะ ที่ต้องมาชดใช้กัน ยิ่งปฏิบัติมากเท่าไหร่ ยิ่งชดใช้ไวขึ้นมากเท่านั้น

จริงๆแล้วก่อนจะบริจาคเลือด เราจะต้องทานน้ำให้มากๆ ทานอาหารให้เรียบร้อย

แต่น้ำเปล่าเลย ทานเพียงน้ำลูกเดือย ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ชามเล็กๆ น้ำดื่มนิดหน่อย นั่นแหละคือสิ่ง

ที่ทานก่อนไปรพ. แต่ปกติจะทานน้ำอย่างต่ำวันละ 2 ลิตร .. เมือ่เช้าออกจากบ้านสายแล้ว

นั่งรถเมล์เลยรพ.ด้วย ก็ไม่เคยไป ไม่รู้จักว่าอยู่ตรงไหน ได้แต่บอกกระเป๋ารถเมล์ว่า ..

ถ้าถึงรพ.จุฬาช่วยบอกด้วย เพราะไม่เคยไป แล้วน้ำก็นั่งหลับ หลับสนิทเลย

ตื่นอีกที เกือบถึงสายใต้ กระเป๋าหันมาเห็น เขาตกใจ ขอโทษขอโพยใหญ่

ก็ไม่โกรธเขา ต้องลงจากรถ แล้วข้ามมาอีกฝั่ง รอรถใหม่

ทีนี้โชคดี มีคุณยายมานั่งข้างๆ คือ ไม่เชื่อใจกระเป๋าละ .. ถามคุณยายเรื่องรพ.

คุณยายน่ารักมากๆเลยค่ะ พอใกล้ถึงรพ.จุฬา คุรยายบอกว่า ลงป้ายนี้แหละ แล้วเดินไปหน่อย

เราก็ขอบคุณคุณยาย ทีนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น บริจาคเลือดต้องไปที่สภากาชาดไทย

ถามยามที่ป้อมยาม ยามบอกว่า เสาร์-อาทิตย์เขาหยุดนี่ ตอนนั้นใจกองไปที่ตาตุ่มแล้วแหละ

ว่าเสียเวลาจริงๆ ทั้งวันเลยนะเนี่ย ก็เดินออกมาเจอวินมอไซค์ เขาบอกว่า สภากาชาดรับบริจาคทุกวัน

ถึง 5 โมงเย็น เขาให้นั่งมอไซค์ไป แต่เราจะเดิน โชคดีวันนี้ใส่คัชชูส้นเตี้ย ถ้าส้นสูงล่ะตายเลย

ฝนตกอีก หนักด้วย ก็คิดละ อารัยฟะ .. รู้สึกมีอุปสรรคตลอดเลย ก็เดินไปทั้งฝนตกแหละ

ขากางเกงเปียกหมดเลย รองเท้าหนังนี่ เสียดายใจจะขาด กลัวหนังพัง คู่นี้ชอบมากๆด้วย

หนังแข็งจริง แต่ใส่สบาย .. หัวก็ใช้กระเป๋าตัวเองแหละกันฝนเอา ..

โชคดีไม่ได้เอากระเป๋าหนังอีกใบมาใช้ ไม่งั้นเสียดายตายเลย ...

ระหว่างที่นอนบนเตียง เตียงเขาเปียกหมดเลย พยาบาลถามว่าเปียกฝนมาหรือคะ

เลือดนี่ไหลแรงมากๆเลยนะ ฟังเสียงเลือดมันพุ่ง แล้วระหว่างเราบีบมือ มันจะมีเสียง

เป็นจังหวะ เกือบจะหลับคาเตียง เวลาแค่แป๊บเดียวเอง ..

มองไปฝั่งตรงข้าม เขาให้เลือดก่อนอีก แต่เลือดเขาเพิ่งออกมานิดเดียวเอง ทำไมเลือดน้อยจัง

ส่วนเตียงข้างๆเป็นผู้ชาย ให้เลือดเวลาไล่เรี่ยกัน เราก็เพิ่งรู้นะว่าตัวเองเลือดดี

ใช้เวลาไวมากในการบริจาค คนอื่นมาก่อนเราอีก เขายังไม่เสร็จเลย

เขาให้นอนพักแป๊บนึงก่อน ตอนแรกจะลุกเลย ก็เราไม่มีอาการอะไรเลยนี่

หลังจากนั้นก็ไปรับน้ำผลไม้ กับโอวัลตินร้อนเย็นแล้วแต่เราจะทาน

ขากลับนั่งรถสายเดิม น้ำก็หลับอีกเหมือนเดิม มาตื่นอีกทีเกือบถึงปากน้ำ ..

เกิดอาการมึนหัวมากๆ ไม่รู้ว่าเพราะหลับมากไปหรือเปล่า หิวข้าวสุดๆ

วันนี้อยากนอนแต่วัน น้ำจะเป็นแบบนี้แหละ ถ้าออกจากบ้าน แล้วไปอยู่ในคนหมู่มาก

จะมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลียแบบบอกไม่ถูก เป็นแบบนี้ทุกที ... เลยไม่ค่อยชอบออกจากบ้านเท่าไรนัก

ส่วนที่ไปบริจาคเลือด ตรงนั้นน้ำเฉยๆนะ ไม่มีอาการเหนื่อยหรืออ่อนเพลียเลย ...

มีคนเป็นลมด้วยแหละที่ไปบริจาค ... ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ เพลียมากๆเลย ..

ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ :b8:

ศิริพงศ์

นึกว่าหมึกแดงชวนชิม แซวเล่นนะอิๆๆ

COMA!

หวัดดีจ๊ะ...คุณน้ำ..ทำกับข้าวเก่งนะ...น่าทานทั้งนั้นเลย
ป้าก็ชอบนะแต่..เจไม่เต็ม..หรอกจ๊ะ..แค่ไม่ใส่เนื้อสัตว์เท่านั้น
ต้องมาดูเมนูพิเศษบ่อยๆ แล้วล่ะจ๊ะ

ปลายฟ้า...ค่ะ

walaiporn

ยินดีต้อนรับค่ะ มาทานข้าวด้วยกันนะคะ :b8:

งั้นสักเมนูละกันนะคะ น้ำไม่ทราบว่าจะถูกใจมั๊ยนะคะ แต่เต็มใจจัดให้ค่ะ :b12:

ซุปเห็ดหอม

ส่วนผสม :

เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม 5 ดอก

เต้าหู้ขาวชนิดอ่อน 1 เเผ่น

แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น 1/2 ช้อนซา

น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุปผัก 1 ถ้วย

น้ำแช่เห็ดหอม 1/2 ถ้วย

น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ :

1. ล้างเต้าหู้ให้สะอาด หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

2. หั่นเห็ดหอมเป็นเสี้ยว

3. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เห็ดหอมลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

4. ผสมน้ำซุปและน้ำแช่เห็ดหอมเข้าด้วยกัน ตั้งไฟพอเดือดใส่เต้าหู้ เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำตาล ต้มต่อจนเดือด ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำใส่ ยกลง เสิร์ฟ

walaiporn

ขนมจีบเจ

แผ่นขนมจีบ

แป้งอเนกประสงค์ 500กรัม
แป้งข้าวโพด 50 กรัม
ฟักทองต้ม 200 กรัม
ยีสต์ 1 ห่อ (11 กรัม)ละลายน้ำก่อนผสม
เกลือ 2 ช้อนชา

ไส้ขนมจีบ

มันฝรั่งต้ม 2 หัว
เห็ดหอม 5 ดอก
เต้าหู้ขาว 1 แผ่น
ขิง 4 แว่น
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
งาขาว และ งาดำอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย หมักเห็ด อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1 ร่อนสองแป้งกับเกลือพักไว้
2 นำฟักทองมาต้มให้สุก แล้วนำมาผสมกับแป้งทั้งสอง เติมยีสต์ลงไป
ปิดพักไว้ครึ่งชม. แป้งขึ้นแล้วก็นำมานวดสักครู่ แล้วแบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ
เพื่อนำไปรีดกับไม้รีดแป้ง ให้เป็นแผ่นกลม ๆ
3 ส่วนใส้ขนมจีบ เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มหั่นเป็นชิ้น ๆ คลุกกับซีอิ้วขาวและน้ำตาล
หมักไว้ให้เข้ากัน ขิง เต้าหู้และมันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็ก นำไปคลุกรวมกับ
เห็ดหอมแล้วเติมน้ำมันงา แป้งข้าวโพด งาขาวและงาดำ คลุกให้เข้ากัน
4 แผ่แผ่นเติมใส้แล้วห่อขนมจีบวางบนซึ้ง
5 หม้อนึ่งน้ำต้องเดือดจัด ๆ แล้วจึงวางซึ้งลงไปนึ่งประมาณ 10 นาทีจึงยกลง

หมายเหตุ เดี๋ยวนี้เขามีแผ่นห่อเกี๊ยวเจขายค่ะ เราแค่ซื้อแบบสำเร็จมา

แล้วมาทำไส้ เท่านี้เองค่ะ ก็ได้ขนมจีบอร่อยๆทานแล้ว

walaiporn

คิดถึงทุกคนค่ะ เพิ่งออกกรรมฐานมา นำบุญมาฝากทุกคนค่ะ :b8:

ออกปั๊บ หิวเลยค่ะ ได้ทานขนมจีนน้ำยาเจ น้องหิ้วมาฝากจากบ้านงาน

อร่อยมากๆ ทำให้คิดถึงทุกๆคนค่ะ เลยนำสูตรมาฝาก ลองทำทานกันนะคะ

คุณเต้ .. หายหน้าไปเลย เป็นอย่างไรบ้างคะ แล้วการปฏิบัติเป็นอย่างไรบ้างคะ

น้ำยามี 2 สูตรนะคะ เลือกทำได้ค่ะ

สูตรที่ 1

ส่วนผสม•โปรตีนเกษตรขนาดเล็ก 100 กรัม (แช่น้ำให้นิ่ม)
•ขนมจีน 1 กิโลกรัม
•มะพร้าวขูด 500 กรัม (คั้นให้ได้หัวกะทิ 1 1/4 ถ้วยตวง, หางกะทิ 4 ถ้วยตวง)
•น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
•ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วยตวง
•ใบมะกรูด 1/4 ถ้วยตวง (ซอยบางๆ ตามขวาง)
•เห็ดฟาง 180 กรัม (หั่นบางๆ ตามขวาง)

ส่วนผสมเครื่องแกง
•พริกแห้งเม็ดใหญ่ 25 กรัม (นำเมล็ดออก หั่นเป็นท่อนสั้นๆ แช่น้ำให้นิ่ม)
•ข่า 1 ช้อนโต๊ะ (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•ผิวมะกรูด 2 ช้อนชา (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•กระชาย 1 ถัวยตวง (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•ตะไคร้ 3 ช้อนโต๊ะ (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•เกลือป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.นำส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดและหัวกะทิใส่ลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียดแล้วจึงใส่เห็ดฟาง ปั่นให้ละเอียดอีกครั้ง ใส่โปรตีนเกษตร ปั่นต่อจนส่วนผสมละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
2.นำขนมจีนมาม้วนขนาดพอคำ เรียงใส่ในถาดฟอยล์เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 8 นิ้ว วางเรียงในตะแกรงนึ่ง พักไว้
3.ใส่ส่วนผสมที่ปั่นไว้ หางกะทิ น้ำตาลปี๊บ และซีอิ๊วขาว ลงในหม้อใน คนให้เข้ากัน ปิดฝาหม้อ กดปุ่ม COOK (หุง) เวลาประมาณ 20 นาที (คนส่วนผสมทุก 10 นาที)
4.ใส่ใบมะกรูด คนให้เข้ากัน วางตะแกรงนึ่งบนหม้อใน ปิดฝาหม้อ เวลาประมาณ 5 นาที จึงเลื่อนปุ่มมาที่ WARM (อุ่น)
5.นำขนมจีนใส่จานสำหรับเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำยาเจที่เตรียมไว้ รับประทานคู่กับเครื่องเคียง

ส่วนผสมเครื่องเคียง
•มะระจีนต้ม 200 กรัม (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•ใบแมงลัก 100 กรัม
•ถั่วงอก 200 กรัม
•ผักกาดดอว 150 กรัม (หั่นบางๆ ตามขวาง)
•พริกแห้งเม็ดเล็กทอด 1/2 ถ้วยตวง

สูตรที่ 2

เครื่องปรุง
1. มะพร้าว 1 กก
2. เห็ดนางฟ้า 1 ขีด
3. เห็ดฟาง 4 ขีด
4. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 1 ขีด
5. หอมแดง 1/4 ถ้วยตวง
6. กระชาย 4 ขีด
7. กระเทียมกลีบเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ1/2 ช้อนชา
9. ซีอิ้ว 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. กระชายล้างให้สะอาดหอมแดงหั่น ต้มกับหางกะทิพักไว้ให้เย็นแล้วมาปั่นให้ละเอียด
2. พริกแห้งกรีดกลางเอาเม็ดออกให้หมด ล้างน้ำแช่น้ำไว้สักครู่แล้วนำไปต้มให้นิ่มพอปั่นได้แล้วปั่นให้ละเอียด(อย่าใส่น้ำเยอะ)
3. เอาหางกะทิที่ปั่นใส่กระชายตั้งไฟกลาง
4. ตำเห็ดฟางและเห็ดนางฟ้าให้หยาบ กะทิเดือดแล้วใส่เห็ดที่ตำ
5. รอให้เดือดอีกทีแล้วใส่พริกปั่นแล้วปรุงรสตามชอบ
6. ใส่หัวกะทิรอให้เดือดแล้วเสร็จ(ใช้เห็ดนางฟ้าผสมเคี่ยว เวลาเคี่ยวจะปุยน่ารับประทาน)

มีบทสวดมนต์เพลงธิเบตมาฝากค่ะ บทอัปปมัญญานะ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ
http://www.imeem.com/people/GF5-hA/musi ... -of-metta/

บทนี้ของจีนค่ะ
http://www.imeem.com/people/vWasGKu/music/Na-VBWz3//

คนไร้สาระ

อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณน้ำ ทั้งเรื่องบุญ
จากกรรมฐานและบุญจากโภชนาทานสูตรอาหารเจ

คนไร้สาระ

เจ้าของบ้านไปไหน จ๊ะ...รออ่านอยู่ล่ะ คุณน้ำ

walaiporn

อิอิ .. รออยู่หรือคะ :b32:

งั้นอนุโมทนาบุญกับน้ำก่อนดีกว่ามังคะ

เพิ่งออกจากกรรมฐานมาค่ะ :b8:

แผ่เมตตา และกรวดน้ำให้ตลอดค่ะ ให้ทั้งบอร์ดแหละค่ะ

ขืนเอ่ยชื่อทุกคน ตายแน่ๆเลย ยาวเหยียด :b5:

ได้แต่บอกว่า ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแด่บุคคลทั้งหลายในเว็บบอร์ดลานธรรมจักรทั้งหมด

เอ่ยนามก็ดี ไม่เอ่ยนามก็ดี ขอจงมีความสุขทุกรูปทุกนามเทอญ สาธุค่ะ :b8:

สักเมนูนะคะ คนโพสก็โพสไปกลืนน้ำลายไปค่ะ

พริกหยวกสอดไส้เจ

ส่วนผสม

พริกหยวก 5-6 เม็ด, กุ้งเจ 50 กรัม, โปรตีนเกษตร 30 กรัม, เห็ดฟางสับละเอียด 50 กรัม, แป้งสาลี ¼ ถ้วยตวง, พริกไทย ½ ช้อนชา, เกลือ ½ ช้อนชา, น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา,ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ, รากผักชี 5 กรัม, แครอทสับ 5 ช้อนชา และเห็ดหอม 20 กรัม

วิธีทำ

1.นำโปรตีนเกษตร และกุ้งเจ แช่น้ำให้นิ่ม และตักพักไว้
2.นำพริกหยวกมาล้างน้ำตัดส่วนหัวออกและเอาไส้ข้างในออก
3.นำเห็ดฟาง โปรตีนเกษตร และกุ้งเจมาสับให้ละเอียด นำเครื่องปรุงทั้งหมดนวดให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งสาลีนวดต่อให้เหนียว
4.นำส่วนผสมทั้งหมดยัดไส้ใส่ในพริกหยวก จากนั้นนำไปชุบลงในแป้งทอด (แป้งสาลีผสมน้ำ)
5.เอาพริกหยวกไปชุบกับเกล็ดขนมปัง
6.ตั้งกระทะให้ไฟร้อนปานกลาง นำพริกหยวกไปทอดให้พอเหลือง ตักขึ้นพักแล้วจัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย หรือซอสพริก

กรัชกาย

ออกจากห้องกรรมฐาน แล้วก็เข้าครัวจับตะหลิวปรุงอาหารอยู่หน้าเตาไฟนี่ล่ะเหมาะสมแล้วนะขอรับ

อย่าออกไปข้างนอกเลย ผู้คนเยอะแยะ ดูสิหน้าก็มันผมกะเซิงเชียว :b32:

กฎการใช้บอร์ด

23050.คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

ผู้ใช้งานขณะนี้