วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2012, 06:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
คุณาลังกาโรมหาเถระ
(หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร)
“ครูบาคำแสนน้อย”


วัดดอนมูล (วัดสันโค้งใหม่)
บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่



ประวัติ

นามเดิม ของท่าน คือ คำแสน เพ็งทัน
เป็นบุตรของนายเป็งและนางจันทร์ตา เพ็งทัน

เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๖
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีมะเมีย
ที่บ้านสันโค้งใหม่ ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

บรรพชา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ อายุ ๑๗ ปี ที่วัดดอนมูล
มีครูบาโพธิ วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๘
ณ วัดดอนมูล โดยมีครูบาโพธิ วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์
ครูบาพิมพิสาร วัดแช่ช้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

อุปนิสัย หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย มีอุปนิสัยเยือกเย็น
อ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส ผู้ที่ได้รับฟังธรรมจากท่านแล้วก็หายทุกข์โศก
ท่านได้เสริมสร้างคุณงานความดีทั้งที่เป็นอัตประโยชน์
และปรหิตประโยชน์ไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นอเนกประการ

หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต องค์หนึ่ง
เพราะครั้งหนึ่งพระอาจารย์มั่นเคยธุดงค์มาในสมัยที่วัดดอนมูลยังเป็นสำนึกป่าช้า
หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย ได้ปฏิบัติตามปฏิปทาของพระอาจารย์มั่นอย่างดี

รูปภาพ
วิหารหลวงปู่ครูบาคำแสน ณ วัดดอนมูล (วัดสันโค้งใหม่) จ.เชียงใหม่
สถานที่เก็บอัฐิและบริขารของครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร


รูปภาพ
มณฑปอัฐิครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร

รูปภาพ

รูปภาพ
จากซ้าย : พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร (หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย)
วัดดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต)

หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย (วัดชัยมงคล) อ.เมือง จ.ลำพูน
ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน บุญ-หลง อาภรโณ)
วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
ครูบาธรรมชัย ธมฺมชโย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แต่ง จ.เชียงใหม่

ครูบาอาจารย์ท่านเดินทางมาร่วม
ในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเกศมาลา
ขององค์พระพุทธรูป “พระพุทธมหามงคลบพิตร”
ณ พระวิหารน้ำน้อย (พระวิหารพระพุทธมหามงคลบพิตร)
ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙

ภาพนี้บันทึกที่หน้าบ้านพักอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙


รูปภาพ
หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร (หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย)
กับครูบาธรรมชัย ธมฺมชโย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แต่ง จ.เชียงใหม่ ในงานปลุกเสกพระ



ปฏิปทาบางส่วนของหลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย

สมัยที่ท่านได้ทราบข่าวจากชาวบ้าน ว่าทางราชการได้จับ ครูบาเจ้าศรีวิชัย
ยอดนักบุญแห่งลานนาไทย มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย
ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย มีความเคารพและเลื่อมใสในท่านครูบาฯ เป็นอย่างยิ่ง
ก็ให้รู้สึกเสียใจ และอยากจะไปกราบนมัสการให้กำลังใจท่าน
ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิ
หรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง ๒-๓ คนเท่านั้น
ได้เดินทางประมาณ ๑๕-๑๖ กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย
เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้น เขาใช้เชือกมนิลาเส้นโตผูกเสาวิหารไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนคอกหมู
ภายในคอกสี่เหลี่ยมนั้น มีพระสงฆ์รูปหนึ่งสูงอายุนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ
ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกลัก มีลูกประคำเส้นโตๆ คล้องคอ
กำลังนับลูกประคำนั้นอยู่ จึงคลานเข้าไปกราบตรงหน้า

ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดอารมณ์อ่อนไหว จิตใจอ่อนแอจนร้องไห้ออกมาโฮใหญ่
ด้วยอารมณ์สงสารใน]ครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำ และจะถูกจับสึกที่กรุงเทพฯ
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของพระคำแสนในขณะนั้น คงจะทำให้ท่านครูบาฯ ออกจากการปฏิบัติ
เพราะได้เอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกับดุว่า ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้
พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด
ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก
หลับตาพร้อมกับท่องคำ นโม ในใจ หลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไปเรื่อยๆ
พระคำแสนก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการสะอื้น
และน้ำตาก็หายไป ท่านครูบาฯ จึงสั่งให้ลืมตาขึ้น แล้วก็สอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน

พระคำแสนก้มลงกราบแทบเท้า และนมัสการว่ามาจาก อำเภอสันกำแพง
ท่านครูบาฯ ได้เทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้พระคำแสนฟัง
พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนาธุระ
โดยเริ่มต้นปฏิบัติดังที่ได้ทำมาแล้วเมื่อสักครู่ แล้วก็ให้นมัสการลา
จึงนับว่าเป็นบทเรียนบทแรกในชีวิตเกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา
และท่านก็ดิ้นรนหาลู่ทางจะศึกษาในเรื่องนี้ จากทุกแห่งที่มีข่าวว่ามีอาจารย์สอน
ต่อมาเมื่อท่านได้เรียนกัมมัฏฐานจาก ท่านครูบาแก้ว ชยเสโน
แล้วท่านก็ขอลาพระอาจารย์ออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ
เมื่อถึงคราวเข้าพรรษา ท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล

พออายุได้ ๓๔ ปี ๑๓ พรรษา ท่านเจ้าอาวาสก็มรณภาพลง
ทางคณะศรัทธาจึงได้นิมนต์หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย เป็นเจ้าอาวาสแทนสืบต่อมา
จนท่านมีอายุได้ ๓๙ ปี ๑๘ พรรษา มีพระธุดงค์ชื่อ ท่านพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ
เดินธุดงค์มาพักอยู่ที่อู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อหลวงปู่ทราบดังนั้น
ท่านได้ให้โยมไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแผ่อบรมศรัทธาที่วัดดอนมูล
ต่อมา ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง
ท่านพระอาจารย์แหวน และหลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย
ก็ได้ไปนมัสการและได้มอบกาย มอบจิตถวายเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่นแต่บัดนั้นมา

ต่อมาท่านพระอาจารย์แหวน ท่านได้จาริกไปๆ มาๆ ในเมืองเชียงใหม่
และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อำเภอแม่แตง
ส่วนหลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย หลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐานจากท่านพระอาจารย์มั่นแล้ว
ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับ
เดินธุดงค์ไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ที่โคราช
แล้วกลับขึ้นไปทางเหนืออีก ที่ใดเป็นที่วิเวกเป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนาตามอัธยาศัยของท่าน
ระยะหลังๆ ท่านได้ไปอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์แหวน
ตามวัดป่าต่างๆ ๑ พรรษาบ้าง ๒ พรรษาบ้าง
แม้เมื่อท่านพระอาจารย์แหวนย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่ฯ ก็ไปมาคารวะท่านพระอาจารย์อยู่เสมอๆ

และสมัยหนึ่งที่หลวงปู่ฯ ท่านกำลังหนีคนไปสร้างวัดใหม่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดเดิม
ซึ่งเริ่มไม่สงบ ท่านเรียกว่า “วัดป่าดอนมูล” ลูกศิษย์ท่านเคยท้วงติง
โดยถามท่านว่า ด้านหลังวัดอยู่ติดลำห้วย มีป่าโปร่งๆ อยู่นิดหน่อยกระหรอมกระแหรม
ไหงหลวงปู่ตั้งชื่อเสียน่ากลัวว่า วัดป่า

ท่านว่าป่าที่เอาเป็นชื่อวัดนั้น ไม่ได้หมายความตามอย่างที่ลูกศิษย์ท่านเข้าใจ
ท่านหมายถึงป่าช้าต่างหาก เพราะเดิมที่ตรงนั้นเป็นป่าช้า
เป็นอันว่าที่ท่านตั้งชื่อว่า “ป่า” ไม่ใช่เพื่อเพิ่มความขลังให้กับสถานที่
แต่เพราะเดิมมันเป็นป่าช้า ได้ตัดคำว่า “ช้า” ออกไปเพราะเกรงว่ามันจะน่ากลัวเกินไปต่างหาก

หลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย มรณภาพ
เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ เวลา ๑๐.๑๒ น.
สิริรวมอายุได้ ๘๖ ปี พรรษา ๖๔


รูปภาพ

รูปภาพ

พระอัฐิธาตุหลวงปู่ครูบาคำแสนน้อย

รูปภาพ

รูปภาพ

:b53: :b53:


ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk ... ist-02.htm
http://www.santidham.com/tatu1st/tatu/p ... 20noi.html

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2015, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบสาธุๆ Kiss :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร