วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 13:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ


วัดตาอี
ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์



๏ อัตโนประวัติ

ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดกลียุคทั่วโลก ยิ่งประเทศเล็กประเทศน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องรับกรรมหนักเพราะครอบครัวแตกสลาย เนื่องจากความแร้นแค้นยากจนเป็นสาเหตุใหญ่ ครอบครัวของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาก็ได้รับความรุนแรงของไฟสงครามเช่นเดียวกัน ทำให้ญาติพี่น้องล้มหายตายจากไปหลายคน ซึ่งประเทศกัมพูชาขณะนั้นร้อนระอุสุดๆ จนดูโหดร้ายไปทุกอย่าง ทำให้หลวงปู่ชื่นเกิดความเบื่อหน่ายจึงเดินธุดงค์เข้ามายังแผ่นดินไทยที่มีแต่ความสงบร่มเย็น

“หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ” มีนามเดิมว่า ชื่น ศรีโสด เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 11 ปีมะเมีย ตรงกับปี พ.ศ. 2461 ณ บ้านหินกอง อำเภอหินกอง จังหวัดสวายศรีโสพล ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่อ นายชุม ศรีโสด โยมมารดาชื่อ พิม ศรีโสด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม 7 คน คือ นายเรียว, นายโพธิ์, นายบุญ, นายเกิด, หลวงปู่ชื่น, นางยอด และนางยาว ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ตามประสาชาวบ้านในชนบททั่วไปของชาวเขมร


๏ การบรรพชาและอุปสมบท

ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่ชื่น นิสัยท่านเป็นคนใจบุญ มีความสุขุมลุ่มลึก และมีใจโอบอ้อมอารี ชอบเอื้อเฟือเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้อง ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาตั้งแต่เด็กๆ พออายุได้ 15 ปี ได้ขออนุญาตโยมบิดา-มารดา เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งโยมบิดา-มารดาก็มีความยินดีไม่ขัดข้อง ท่านจึงได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดในหมู่บ้านเกิดของท่าน

หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรได้ระยะหนึ่ง ครั้นพอถึงอายุ 20 ปีบริบูรณ์ หลวงปู่ชื่นก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยได้รับนามฉายาว่า “ติคญาโณ”

เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว หลวงปู่ชื่นได้ศึกษาบทสวดมนต์และบทสวดปาติโมกข์ ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งพรรษาก็สวดพระปาติโมกข์ได้แล้ว นับว่าหาพระที่เก่งเช่นนี้น้อยมาก เพราะการท่องบทพระปาติโมกข์พระบางรูปต้องใช้เวลานานนับ 5 ปี 10 ปี เนื่องจากเป็นบทสวดที่ยาวและยากที่สุดนั้นเอง

“หลวงปู่ชื่นสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในพรรษาที่ 3 หลังจากนั้นท่านจึงออกเดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชา ทำให้ท่านได้พบกับครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ อยู่หลายรูป ซึ่งแต่ละอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น โดยเฉพาะฤาษีที่บำเพ็ญพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้หลวงปู่ชื่น เพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไปอีก”

หลวงปู่ชื่นเป็นพระเถระที่มีความเป็นอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย สันโดษ มีศีลาจารวัตรอันงดงาม เพียรบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่กล้าขึ้น ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสามทำวัตรสวดมนต์ และช่วงค่ำก็เช่นกันท่านจะสวดมนต์มิได้ขาด (นอกจากจะมีกิจนิมนต์และป่วยเท่านั้น)

“หลวงปู่ชื่นชอบทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านจึงเป็นที่รักเคารพของศิษย์และประชาชนโดยทั่วไปเป็นจำนวนมาก”

รูปภาพ

๏ ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคม

หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เป็นศิษย์สาย “เขากุเลน” ซึ่งเป็นศูนย์รวมเวทวิทยาอาคมชั้นสูง ที่เป็นฉบับแท้ดั้งเดิมของเขมรโบราณ อาจารย์องค์แรกของท่านคือ หลวงปู่เอื้อย และหลวงปู่ดี สุวรรณดี สองปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำ ทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์มากมายเป็นที่เลื่องลือกันมากในประเทศกัมพูชา

หลวงปู่ชื่นได้มองเห็นกาลไกลไปข้างหน้าว่า “พรเวทวิทยาคม” ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนต่างๆ ในอนาคตภายหน้าแน่นอน ท่านจึงมุมานะพยายามขยันศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนสุดความสามารถ ตลอดจนศึกษาการเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มพูนพลังจิตให้แก่กล้าขึ้น

“หลวงปู่ชื่นท่านเรียนกรรมฐานควบคู่ไปกับวิชาอาคม จนท่านเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยมีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะหลวงปู่เอื้อยท่านมีเมตตาถ่ายทอดวิชาและเคล็ดลับต่างๆ ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น หลวงปู่เอื้อยท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขมร ดังชนิดผู้หลักผู้ใหญ่ในเขมรขณะนั้นยังมอบตัวเป็นศิษย์หลายคน”

ในเวลาต่อมาเมื่อหลวงปู่เอื้อยมรณภาพลง หลวงปู่ชื่นจึงออกเดินธุดงค์บุกป่าฝ่าดงดิบในดินแดนเขมรเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์อีกมากมาย จนกระทั่งท่านได้พบกับ หลวงปู่ดี สุวรรณดี บน “เขากุเลน” ซึ่งท่านเป็นพระผู้มากด้วยอภิญญาญาณชั้นสูง และเป็นผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมหัศจรรย์เหนือโลกโดยแท้ ด้วยบุญญาบารมีของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ทำให้หลวงปู่ดีรับหลวงปู่ชื่นเป็นศิษย์ แล้วจึงพากันออกเดินธุดงค์ไปด้วยกันตามสถานที่ต่างๆ

“หลวงปู่ชื่นได้ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคมกับธาตุทั้ง 4 ตลอดจนเกร็ดเคล็ดลับการสร้าง-การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางต่างๆ มากมายจากหลวงปู่ดี ทำให้ท่านมีวิชาติดตัวมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้”

หลวงปู่ชื่นได้เมตตาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในการออกเดินธุดงค์ของท่านให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังว่า “หลวงปู่ดีท่านนี้เก่งมาก ท่านเชี่ยวชาญพระเวทแทบทุกชนิด ท่านเคยเสกผ้าให้เป็นนกกระยางได้ และเสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตนได้ ทั้งยังสามารถสื่อสารและรู้ภาษาสัตว์แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านสามารถล่องหนหายตัวและย่นระยะทางได้ ตลอดจนท่านเดินบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย”

หลวงปู่ชื่นเล่าว่า “หลวงปู่ดีท่านเคยแสดงให้ดูมาแล้ว ท่านเห็นกับตามาแล้วจึงกล้ามาเล่าให้ฟัง ท่านแสดงให้ดูก็เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมสืบต่อกันไปนั่นเอง การเรียนวิชาอาคมจะมีฤทธิ์เข้มขลังได้ ต้องประกอบไปด้วยพลังจิตอันเป็นสมาธิแก่กล้าควบคู่กันไปด้วย” หลวงปู่ชื่นกล่าว

หลวงปู่ชื่นเป็นพระที่คงแก่เรียน คือท่านชอบศึกษาค้นคว้าตำรับตำราและวิชาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ หรือวิชาอาคมอะไรท่านจะทดลองสร้างทดลองปลุกเสกอยู่เสมอ เมื่อท่านลองแล้วเห็นว่าดีจริงและใช้ได้ผลดีจริงตามตำรา ท่านก็คัดวิชาวิเศษเหล่านั้นมาสร้างมาปลุกวัตถุมงคลให้บรรดาลูกศิษย์ และลูกหลานท่านให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคลเป็นของวิเศษไว้บูชากัน จากการคัดเลือกพิจารณาตรวจจากหลวงปู่ชื่นแล้วว่า “ดีจริง-เห็นผลจริง” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ต่อเนื่องเรื่อยมา จนเป็นที่กล่าวขานร่ำลือจากปากของผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นว่ายอดเยี่ยมอยู่ในชณะนี้

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอนำท่านผู้อ่านทั้งหลายได้มีโอกาสรู้จักและใกล้ชิดหลวงปู่ชื่นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนมากขึ้น เพราะลูกศิษย์บางคนอยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีโอกาสเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่ จะด้วยสาเหตุและปัจจัยใดๆ ก็ตาม ผู้เขียนขอเป็นสื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นการหยั่งความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่ลูกศิษย์ที่มีความเคารพนับถือหลวงปู่ หรือท่านที่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นไว้แล้ว ขอให้รู้ว่าเราทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องค์เดียวกัน เพราะมีวัตถุมงคลที่มาจากการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพื่อช่วยจรรโลงเกียรติคุณของหลวงปู่ชื่นให้แพร่หลายขจรไป ตลอดยั่งยืนนานต่อไปในภายภาคหน้านั่นเอง


(มีต่อ)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

๏ พบหลวงปู่นิล อนุตโร สหธรรมิกเก่า

หลังจากที่หลวงปู่ชื่นจาริกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ มานาน จนกระทั่งท่านเดินทางไปพักจำพรรษาอยู่ที่ วัดนาราก ตำบลอรพิมพ์ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ท่านอยู่ได้ 5 พรรษาจึงได้เดินธุดงค์ต่อเรื่อยไปจวบจนอายุท่านมากขึ้น กำลังวังชาถดถอย ท่านจึงอยู่กับที่ระยะหนึ่ง

ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ชื่นได้รับนิมนต์เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ งานนั้น หลวงปู่นิล อนุตโร เจ้าอาวาสวัดตาอีรูปปัจจุบัน ซึ่งเคยเป็น “สหธรรมิก” (เพื่อน) เก่าก่อนกันมา ก็ได้รับนิมนต์จากทางเจ้าภาพให้เป็นพระคู่สวดเช่นกัน

หลังจากพระทุกองค์เสร็จจากกิจนิมนต์แล้ว ทางเจ้าภาพได้จัดถวายอาหารเพลให้ฉัน หลวงปู่นิลกับหลวงปู่ชื่นได้นั่งฉันในวงเดียวกัน หลวงปู่นิลหันมองพระที่นั่งอยู่ข้างตัวท่าน คิดอยู่ในใจว่าคล้ายเคยเห็นกันมาก่อน แต่ท่านยังจำไม่ได้ว่าเคยเห็นกันที่ไหน เพราะความที่จากกันมานานหลายสิบปีทำให้ท่านทั้งสองแทบจำกันไม่ได้

หลวงปู่นิลได้แต่คิดในใจว่า พระองค์นี้ทำไมช่างเหมือนหลวงปู่ชื่นเสียเหลือเกิน จนอดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถามไปว่า

“หลวงพ่อท่านอยู่วัดไหน ชื่ออะไร”

หลวงปู่ชื่นตอบกลับไปทันที “อาตมาชื่อชื่น เป็นพระธุดงค์ยังไม่มีวัดจำพรรษา”

หลวงปู่นิล อนุตโร ท่านนั่งคิดตั้งนานที่แท้ก็ใช่หลวงปู่ชื่นจริงๆ ด้วย เมื่อท่านทั้งสองได้สนทนากันแล้ว หลวงปู่นิลจึงได้ออกปากนิมนต์หลวงปู่ชื่นให้มาพักจำพรรษาอยู่ด้วยกันที่ วัดตาอี ประกอบกับช่วงนั้นหลวงปู่ชื่นมีอายุมากแล้ว และญาติโยมชาวบ้านตาอีก็ได้นิมนต์ท่านไว้ไม่ให้เดินธุดงค์อีก นับตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ชื่นจึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาอี เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้


๏ เพชรเริ่มทอแสง

หลังจากหลวงปู่ชื่นมาอยู่วัดตาอีแล้ว ท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิหลังเล็กๆ เหมือนพระหลวงตาแก่ๆ ธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เลยว่าท่านเป็นพระที่มี “พลังจิต” และมีอาคมเข้มขลังมาก

จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่างๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มี “พลังมหัศจรรย์” ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัย ที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงของหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นไปแล้ว ซึ่งผู้นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของท่านเยี่ยมดีจริงๆ ใช้แล้วได้ผลเกินคาด

ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการ เนื่องจากท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งยังขาดปัจจัยอยู่อีกมาก อีกประการหนึ่งหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า

“ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมา สงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรื่องสืบต่อไป”

รูปภาพ

รูปภาพ
หลวงปู่ธรรมรังษี จันทสุวัณโณ-หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ


๏ เสกหินลงสระกลายเป็นงูยักษ์

เมื่อครั้งที่หลวงปู่ชื่นมาอยู่ที่วัดตาอีใหม่ๆ นั้น ท่านได้เร่งทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนพลังจิตแก่กล้า ด้วยท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ชอบเก็บตัวเงียบๆ อยู่แต่ภายในกุฏิ ชาวบ้านจึงคิดว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ๆ ไม่มีอะไร เป็นพระธรรมดาไม่มีวิชาอาคมอันใด

ต่อมาทางวัดได้ขุดสระใหม่ ทางเจ้าอาวาสจึงประกาศบอกชาวบ้านว่า “ห้ามลงอาบน้ำในสระ” เพราะสระน้ำแห่งนี้พระเณรต้องใช้ดื่มกิน แต่ชาวบ้านขาดความเกรงใจท่าน ตกเย็นทั้งหนุ่มสาวพากันลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างสนุกสนาน บ้างก็นำผ้ามาซักทำให้ฟองแฟ็บที่ซักลอยเต็มคุ้งสระ บอกแล้วก็เฉย เตือนแล้วก็ไม่หยุด

หลวงปู่ชื่นจึงใช้ไม้ตายเพื่อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง และที่มิควรกันบ้าง ท่านจึงนำก้อนหินมาสองก้อนแล้วเสกด้วยคาถาอาคม จากนั้นท่านจึงโยนลงไปในสระน้ำ

“สามวันต่อมาพวกที่ชอบลงเล่นน้ำในสระภายในวัด ต่างก็ตกใจแตกตื่น ขึ้นตลิ่งกันแทบไม่ทัน เพราะเห็นพญางูยักษ์สองตัวว่ายน้ำไปมาในสระให้เห็นกับตากันจะจะ ชาวบ้านตาอีเห็นกันทั้งหมู่บ้าน”

เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมากในอำเภอบ้านกรวด ถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ไปที่วัดตาอี ลองสอบถามชาวบ้านดูก็ได้ และจากวันนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำในสระที่วัดตาอีกันอีกเลย...

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในเรื่องประสบการณ์อภินิหารของผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นไปแล้ว ยังมีอยู่มากที่ไม่ได้นำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายได้อ่านและฟัง ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าประสบการณ์ต่างๆ ให้ทุกๆ ท่านที่นับถือหลวงปู่ชื่นได้ฟังต่อไป


๏ หลวงปู่ผู้เมตตา

หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ท่านมีเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกคน โดยให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่เลือกหน้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนเดือดร้อนมาหาท่านๆ ก็ช่วยหมด กราบนิมนต์ท่านไปทำอะไรที่ไหนท่านก็เมตตาไปโปรดทุกคน ถึงแม้แต่ท่านมรณภาพ (มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2547) ไปแล้ว หลวงปู่ท่านก็ยังมาโปรดลูกศิษย์ทุกคน ใครมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ไว้ หากบูชาด้วยความเคารพศรัทธาหลวงปู่แล้วปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม จะไม่มีคำว่ายากจน ขัดสน หรืออดอยากเด็ดขาด จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองดียิ่งๆ ขึ้นไป ถึงขนาดปรารถนาสิ่งใด หากอธิษฐานขอและไม่เกินวิสัยแล้วละก็จะได้ดังใจปรารถนาทุกประการ

รูปภาพ



..............................................................

♥ คัดลอกเนื้อหามาจาก ::
http://www.siammongkol.com/monk_history/lp_chern.htm
♥ ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพทุกแหล่ง
โดยเฉพาะเว็บไซต์ http://www.konrakmeed.com/
และ https://www.weloveshopping.com/

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ย. 2009, 21:54
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2013, 11:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2013, 14:43
โพสต์: 68

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: สาธุ สาธุ สาธุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร