วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 09:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 06:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่แสง ปริปุณโณ


วัดบ้านหัวช้าง
ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม



๏ อัตโนประวัติ

เมื่อครั้งในอดีต “หลวงปู่มี กนฺตสีโล” แห่งวัดป่าสันติธรรม (ดงส้มป่อย) ต.แวงดง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ได้สร้างคุณูปการมากมายแก่พุทธศาสนิกชน ก่อให้เกิดความศรัทธาอย่างไม่รู้เสื่อมคลาย แม้ท่านจะละสังขารไปนานหลายสิบปีแล้วก็ตาม ปัจจุบัน ได้ปรากฏนามพระเถระจำนวนหลายรูป ที่ได้สืบทอดปฏิปทาอันงดงามตามแบบอย่างหลวงปู่มี หนึ่งในนั้น ได้แก่ “พระครูพิสัยธรรมรังษี” หรือ “หลวงปู่แสง ปริปุณโณ” แห่งวัดบ้านหัวช้าง ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม

ท่านเป็นพระภิกษุที่มีเมตตาธรรมสูง ถ่อมตน สมถะ ถือสันโดษ มีพลังใจที่แก่กล้า พลังจิตที่เข้มแข็ง ดำเนินวัตรปฏิบัติเจริญรอยตามหลวงปู่มี ผู้เป็นอาจารย์อย่างเคร่งครัด ชื่อเสียงจึงปรากฏขจรขจาย

หลวงปู่แสง ปริปุณโณ มีนามเดิมว่า แสง แก้วกุล เกิดเมื่อปีพุทธศักราช 2476 ณ บ้านกู่ ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายเนียม และนางปี แก้วกุล ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ปัจจุบัน สิริอายุได้ 74 พรรษา 54 (เมื่อปี พ.ศ.2550) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบ้านกู่ และเจ้าอาวาสวัดบ้านหัวช้าง ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม


๏ การบรรพชาและอุปสมบท

หลังจากเรียนจบชั้น ป.4 ออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพอย่างขันแข็ง ครั้นเมื่ออายุ 12 ปี ได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดโนนแห่ ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ท่านมีความจำเป็นเลิศ ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรีในเวลาที่ไม่นาน

เมื่ออายุได้ 21 ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดโนนรัง ต.ดงบัง อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยมีพระครูมานิตย์ วัดบ้านหัวหมู เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์จันทร์ สุภัทโท วัดโนนแห่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพ็ง สุขวโร วัดโนนรัง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ปริปุณโณ” มีความหมายว่า “ผู้บริบูรณ์”

หลังอุปสมบท ได้ไปจำพรรษาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดยางสีสุราช จนสอบได้นักธรรมชั้นโท ก่อนเดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดอุทัยมรรครารามหินดาด จ.นครราชสีมา ศึกษาเล่าเรียนต่อจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก


๏ ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มี กนฺตสีโล

ต่อมา คณะศรัทธาญาติโยมชาวบ้านอีโต้ อ.นาเชือก ได้นิมนต์หลวงปู่แสง ให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านอีโต้ โดยท่านได้ทุ่มแรงกายแรงใจ พัฒนาสร้างวัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

ในช่วงเวลาดังกล่าว หลวงปู่มี กนฺตสีโล วัดป่าสันติธรรม (ดงส้มป่อย) มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเขตอีสานตอนกลางและอีสานใต้ในฐานะพระเกจิ และด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม ไสยเวทสายเขมร

เมื่อท่านรับทราบกิตติศัพท์ของหลวงปู่มี เกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า ได้ออกเดินทางไปอยู่จำพรรษากับหลวงปู่มี ณ วัดป่าสันติธรรม ขอฝากตัวเป็นศิษย์ปรนนิบัติรับใช้ และขอศึกษาเล่าเรียนวิทยาคม วิปัสสนากัมมัฏฐาน ทั้งนี้ หลวงปู่มี ได้เมตตาถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างมิมีปิดบัง สอนการอ่านเขียนอักษรลาว ขอม และอักษรไทยน้อย ทำให้หลวงปู่แสงมีความรู้ในการอ่านอักขระโบราณด้วย


๏ รับนิมนต์จำพรรษาที่วัดบ้านหัวช้าง

หลวงปู่แสง จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่มี จนถึงปี พ.ศ.2522 ต่อมาคณะศรัทธาญาติโยมชาวบ้านหัวช้าง ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ได้มานิมนต์ให้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหัวช้าง ด้วยความตั้งใจอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด ท่านจึงตอบรับนิมนต์

วัตรปฏิบัติของหลวงปู่แสง ถือการเดินจงกรม และนั่งสมาธิภาวนาทุกวัน รวมทั้งหลังออกพรรษาทุกปี จะออกท่องธุดงควัตรไปตามป่าเขาในภาคอีสาน แสวงหาความหลุดพ้นตามรอยพระตถาคต


๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2506 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหัวช้าง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม

พ.ศ.2507 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดบ้านหัวช้าง

พ.ศ.2518 เป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอยางสีสุราช

พ.ศ.2543 เป็นเจ้าคณะตำบลบ้านกู่

พ.ศ.2548 เป็นพระอุปัชฌาย์


๏ ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูพิสัยธรรมรังษี

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทในราชทินนามเดิม


๏ พระเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

หลวงปู่แสง มีความรู้ทั้งด้านพระธรรมวินัย วิปัสสนากัมมัฏฐาน และวัตรปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลายเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม และเป็นศิษย์หลวงปู่มี ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง ในแต่ละวัน มีผู้เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์อันเข้มขลังเสริมความเป็นสิริมงคลอย่างไม่ขาดสาย

แม้คณะศรัทธาญาติโยมจะมากมาย แต่ท่านไม่เคยปริปากบ่น ยังคงรักษาศรัทธาญาติโยม ด้วยท่านรู้ว่าญาติโยมที่มาหาต่างมีทุกข์ร้อน ท่านจึงต้องใช้เมตตาบารมีชี้ทางผ่อนทุกข์ให้กับญาติโยม

สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคศรัทธาของญาติโยม หลวงปู่จะนำมาพัฒนาวัด บริจาคสาธารณกุศลช่วยชุมชน เป็นค่าอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ทุนการศึกษาพระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น หาได้เก็บงำไว้เป็นสมบัติส่วนตัวไม่ หลวงปู่แสงท่านปรารภเสมอว่า ทรัพย์สินเงินทองไม่มีความจำเป็นต่อสมณเพศ เพราะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยศรัทธาของญาติโยม

ครั้งหนึ่ง คณะศิษยานุศิษย์ได้ขออนุญาตหลวงปู่แสง สร้างวัตถุมงคล แต่ท่านปฏิเสธเนื่องจากไม่ต้องการให้คณะศรัทธาญาติโยมยึดติดในวัตถุมากเกินไป ท่านสอนให้ถือเอาพระธรรมคำสอนของพุทธองค์เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิต ส่วนหัวข้อธรรมที่หลวงปู่แสงพร่ำสอนมาโดยตลอด คือ เรื่องสัปปุริสธรรม แปลว่า ธรรมของคนดีหรือคนที่แท้ มีคุณสมบัติของความเป็นคนที่สมบูรณ์ ผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมนี้จะถือได้ว่าเป็นคนดีที่สมบูรณ์

หลวงปู่แสง เป็นพระเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งครัดพระธรรมวินัยมาโดยตลอด นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์ ยังเป็นพระนักพัฒนา ตลอดเวลาที่ปกครองวัดบ้านหัวช้าง ทำให้วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรือง ศาสนสถานและถาวรวัตถุไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ กุฏิ หอระฆัง กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ เป็นต้น มีครบหมด

รวมทั้ง ปรับปรุงพัฒนาวัด ทำการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์เพื่อสร้างความร่มเย็น เหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนาและเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจของภิกษุสงฆ์ยิ่ง

ตลอดเวลาในการปกครองพระเณร หลวงปู่แสง ยึดหลักเมตตาธรรมส่งผลให้พระภิกษุ-สามเณร ในปกครองไม่เคยปฏิบัติตนนอกลู่นอกทาง แต่ละปีจึงมีพระภิกษุ สามเณร มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก หลวงปู่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระพุทธศาสนาโดยไม่เคยขาดตกบกพร่อง

แม้ล่วงอายุเข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่ง แต่สุขภาพพลานามัยของหลวงปู่แสง ยังคงแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจใดๆ ทั้งสิ้น หลวงปู่แสง นับเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง สามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจโดยแท้



.............................................................

คัดลอกมาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5925

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




191.JPG
191.JPG [ 27.24 KiB | เปิดดู 4018 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร