วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 18:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร)


วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร



๏ อัตโนประวัติ

เมื่อครั้งที่ “ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร ป.ธ.๖)” เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร ลำดับที่ ๕ ได้ละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ยังความเศร้าโศกสลดอาลัยแก่คณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นยิ่งนัก ในครั้งนั้น “ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร ป.ธ.๖)” เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่มีลำดับอาวุโสสูงสุดในวัด ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส

ต่อมา ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ ๑๑/๒๕๕๒ มติที่ ๒๓๒/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องจากได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสมาด้วยความเรียบร้อย และมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ สมควรได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) มีนามเดิมว่า อัมพร ประสัตถพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๐ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๘๙ ณ หมู่บ้าน ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี โยมบิดา-มารดาชื่อ นายนับ และนางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย ปัจจุบันสิริอายุได้ ๘๒ ปี พรรษา ๖๑ (เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔-๑๕ (ธรรมยุต) และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)

ในช่วงวัยเยาว์ เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเทวานุเคราะห์ กองบินน้อยที่ ๔ ต.โคกกระเทียม อ.เมือง จ.ลพบุรี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

รูปภาพ
สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร)

รูปภาพ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถร)


๏ การบรรพชาและการอุปสมบท

ต่อมาเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ณ วัดสัตตนารถปริวัตร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีพระธรรมเสนานี (เงิน นันโท) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์

สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ ได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติ ต.พงสวาย เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความมุ่งมั่น พ.ศ. ๒๔๘๓ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. ๒๔๘๔ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท

พ.ศ. ๒๔๘๖ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค

พ.ศ. ๒๔๘๘ สอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค

กระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๙๐ จึงย้ายมาอยู่จำพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดย “ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร)” เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระจินดากรมุนี นำมาฝากกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถร)

ครั้นต่อมา สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ ณ มหาพัทธสีมาวัดราชบพิธฯ โดยมี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระจินดากรมุนี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ พ.ศ. ๒๔๙๑ สามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค และ พ.ศ. ๒๔๙๓ สามารถสอบได้เปรียญธรรม ๖ ประโยค

ต่อมา ท่านได้สมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เป็นนักศึกษารุ่นที่ ๕ จบศาสนศาสตรบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้เข้าอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ จนสำเร็จการฝึกอบรมจากสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) เป็นพระธรรมทูตรุ่นแรก ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตผู้บุกเบิกนำพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ที่นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยมีพระขันติมาโล ชาวอังกฤษ เป็นสหธรรมิก พร้อมไวยาวัจกร ตามคำนิมนต์ของประธานพุทธสมาคมแห่งรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ท่านได้วางรากฐานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตลอดถึงเป็นเนติให้สหธรรมิกที่มาภายหลังได้เผยแผ่อย่างมีรูปแบบ ทำให้พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทมีความมั่นคงในไพรัชประเทศ (ต่างประเทศ) มีวัดและพระสงฆ์ไทยอยู่ประจำที่เครือรัฐออสเตรเลียหลายแห่ง ก่อนขยายไปยังเมืองใหญ่อีกหลายเมือง อาทิ กรุงแคนเบอร์รา นครเมลเบิร์น และเมืองดาร์วิน เป็นต้น

รวมทั้งเป็นผู้แทนมหาเถรสมาคมในคราวที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา


๏ งานด้านการศึกษา

- เป็นอาจารย์สอนธรรมวินัยแก่พระภิกษุ-สามเณร

- เป็นกรรมการสนามหลวงแผนกธรรมและแผนกบาลี

- เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เป็นต้น

- พ.ศ. ๒๕๕๒ สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ถวายปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์

- พ.ศ. ๒๕๕๓ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ

รูปภาพ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อครั้งทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ พระปริยัติกวี
ทรงเวียนเทียนในการบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
เมื่อครั้งเสด็จไปเผยแผ่พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
ณ วัดพุทธรังษี สแตนมอร์ (Wat Buddharangsee Stanmore)
นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘


(มีต่อ)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2011, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ
เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และประธานมูลนิธิพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
ขณะรับบิณฑบาต ในงานทอดผ้าป่าสามัคคีเนื่องในวโรกาส ๑๐๘ ปีชาตกาลหลวงปู่ฝั้น
ณ วัดป่าอุดมสมพร บ้านนาหัวช้าง-บ้านบะทอง ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร


รูปภาพ
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ
ในงานทอดผ้าป่าสามัคคีเนื่องในวโรกาส ๑๐๘ ปีชาตกาลหลวงปู่ฝั้น อาจาโร



๏ งานด้านสาธารณูปการ

- เป็นประธานอำนวยการฝ่ายบรรพชิต พระมหาธาตุเจดีย์และเขตพุทธาวาสเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และฉลองมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ณ วัดธัมมธโร กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย

- เป็นประธานสร้างวัดแหล่งทองแดงพรหมสราราม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เป็นต้น


๏ งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา

- เป็นรองแม่กองงานพระธรรมทูต รูปที่ ๒ ผู้นำพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ไปเผยแผ่ในประเทศออสเตรเลีย

- เป็นรองประธานกรรมการที่ปรึกษาสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต)


๏ งานด้านการศึกษาสงเคราะห์

- ได้มอบทุนสงเคราะห์แก่ผู้เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

- เป็นรองประธานกองทุนวัดช่วยวัดของมหาเถรสมาคม (มส.) ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีอุบัติภัย วาตภัย อุทกภัย หรือภัยแล้ง นำเงินบริจาคเพื่อสงเคราะห์ผู้ประสบภัยนั้นๆ ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


๏ งานปกครองคณะสงฆ์ในปัจจุบัน

- เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

- ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔-๑๕ (ธรรมยุต)

- กรรมการมหาเถรสมาคม (ธรรมยุต)

- กรรมการคณะธรรมยุต

- นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.)

- นายกกรรมการบริหารมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์

- แม่กองงานพระธรรมทูต

- ประธานมูลนิธิพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร (นับว่าท่านเป็นศิษย์พระอาจารย์ฝั้นที่มีสมณศักดิ์สูงสุดในปัจจุบัน คือเป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะ)

- พระอุปัชฌาย์



๏ ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระปริยัติกวี

พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชสารสุธี

พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพเมธาภรณ์

พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมเมธาภรณ์

พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏหรือรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ พระสาสนโสภณ วิมลญาณอดุลสุนทรนายก ตรีปิฎกธรรมาลังการภูษิต ธรรมนิตยสาทร ศาสนกิจจานุกร ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่ “สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ พิพัฒนพงศ์วิสุต พุทธปาพจนานุศาสน์วาสนวรางกูร วิบูลศีลสมาจารวัตรสุนทร ตรีปิฎกธรรมวราลงกรณวิภูษิต ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี” สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๐ รูป

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เอาใจใส่ในกิจการงานของพระอารามหลวงด้วยดีตลอดมา ดังจะเห็นได้จากตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ที่รับภารธุระอยู่ ทุกประการล้วนต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ พร้อมทั้งความตั้งใจจริงอย่างดียิ่ง ได้ทำหน้าที่ในฐานะแห่งนักปกครองที่เอาใจใส่ดูแลความเป็นไปของวัดและคนในวัดอย่างดียิ่ง รวมทั้งท่านยังได้สร้างคุณูปการแด่คณะสงฆ์อย่างมากมาย

ตลอดระยะเวลาเกือบชั่วชีวิตในการครองสมณเพศใต้ร่มบวรพระพุทธศาสนา พระมหาเถระแห่งคณะสงฆ์ธรรมยุตรูปนี้ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงผลงานและคุณสมบัติต่างๆ เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร งดงามด้วยการครองตน เปี่ยมไปด้วยเมตตาคุณเป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธาอย่างกว้างขวาง

ปัจจุบัน (เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๐) ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ มีสิริอายุได้ ๘๙ ปี พรรษา ๖๘ โดยเกิดปีเดียวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ แต่แก่เดือนกว่า ๕ เดือน

รูปภาพ
เหนือฐานพระมหาเจดีย์ใหญ่ มีซุ้มคูหากระจกประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ
และพระรูปหล่อของอดีตสมเด็จพระสังฆราชที่เคยทรงครองวัดนี้ ๒ พระองค์ อยู่โดยรอบ
จากภาพ : ซุ้มคูหากลางคือซุ้มพระรูปหล่อ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์


รูปภาพ
ปูชนียวัตถุ-ปูชนียสถานภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

รูปภาพ
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) นำพาคณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน
เข้ากราบนมัสการถวายมุทิตาสักการะแด่ “พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)”
เนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคลครบ ๙๓ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ณ วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร กรุงเทพมหานคร

นี่ล่ะพระแท้ !! พระสงฆ์เคารพนับถือกันที่อายุพรรษา
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านคำนึงถึงอายุพรรษา ไม่ใช่สมณศักดิ์
หรือตำแหน่งทางคณะสงฆ์ หรืออายุขัย
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านจึงเป็นฝ่ายนั่งก้มลงกราบหลวงพ่อวิริยังค์



.............................................................

:b8: ♥ รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหามาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน หน้า ๑ คอลัมน์ มงคลข่าวสด
วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ปีที่ ๑๙ ฉบับที่ ๖๗๕๘


= ประวัติและความสำคัญ “วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม”
ที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช องค์สังฆบิดรถึง ๓ พระองค์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19364

= โปรดเกล้าฯ เลื่อนสมณศักดิ์ ๘๖ รูป สมเด็จ ๒ รูป ปี ๒๕๕๒
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27437

= มุทิตา “๒ สมเด็จ” รูปใหม่ ฝ่ายธรรมยุต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27328

= ภาพประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งยังทรงเป็น “พระมหาอัมพร อมฺพโร”
สมัยมาพักภาวนา บิณฑบาต และฉันในบาตร ร่วมกับ
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ณ วัดป่าบ้านตาด, วัดถ้ำขาม เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๐๘

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53651

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2011, 04:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: :b44: :b8: :b8: :b8: :b39: :b47:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron