วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 13:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร


วัดป่าหมู่ใหม่
ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่



ถิ่นกำเนิด-ชาติสกุล

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เกิดที่บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๔ บิดาชื่อ พ่อสนธิ์ มารดาชื่อแม่มุก นามสกุล สิมมะลี มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๗ คน เป็นชาย และหญิง ๔ คน ดังนี้

๑. นางสาวเสรี สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๒๕ ปี
๒. หลวงพ่อประสิทธิ์ ปญฺญมากโร อายุ ๖๖ ปี (พ.ศ.๒๕๔๙)
๓. นายยสมคิด สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๓๖ ปี
๔. นายสวัสดิ์ สิมมะลี มีชีวิตอยู่ อายุ ๖๒ ปี
๕. เด็กหญิงเสาร์ศักดิ์มน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๗ ปี
๖. นางทองใส คุนุ มีชีวิตอยู่ อายุ ๕๔ ปี
๗. นางสาวหนูพวน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๒๘ ปี

ชีวิตในวัยเด็ก

หลวงพ่อประสิทธิ์ เท่ากับเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เมื่อมีอายุ ๗ ปี ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ สอบไล่ได้ตำแหน่งที่ ๑ หรือ ที่ ๒ เป็นประจำทุกปี ตลอดจนจบชั้นประถมปีที่ ๔ พอจบชั้นประถมแล้ว ครูใหญ่ชื่อ “ปรีชา” ให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมพิทยานุกุล ในตัวจังหวัดอุดรธานี หลวงพ่อได้ถามบิดาว่า “ จะเรียนดีหรือไม่เรียนดี” และเมื่อบิดาบอกว่ “ทำไร่ทำนาดีกว่า สบายใจดี” หลวงพ่อฯ จึงตัดสินใจช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา
หลวงพ่อประสิทธิ์ เมื่อเยาว์วัย จึงเป็นแรงสำคัญช่วยงานบิดา มารดา อย่างเต็มความสามารถ ตั้งแต่ยังเรียนหนังสือชั้นประถม จนเช้าสู่วัยหนุ่มอายุ ๑๙ ปี จึงเกิดความคิดอยากเข้าวัด เนื่องจากวัดป่า
นิโครธาราม ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อยู่ใกล้บ้าน ท่านได้ทบทวนชีวิตฆราวาส ผ่านมาได้ช่วยบิดามารดามา จนเป็นที่พอใจแล้ว ฐานะทางครอบครัวก็พอดีๆ ไม่รวยและไม่จน และพี่น้องต่างก็โต พอจะช่วยงานของครอบครัว พ่อแม่ได้แล้ว

หลวงพ่อท่านคิดว่า ได้เกิดมาใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่พอที่ได้อาศัย ท่านมาเกิดในชาตินี้แล้ว จึงคิดมองหา เส้นทางจิต ที่คิด ไม่อยากกลับมาเกิดเป็นหนี้ภพชาติอีกต่อไป โดยเกิดศรัทธาปัญญาในทางพระพุทธศาสนา คิดจะบวชไม่มีกำหนดตลอดชีวิต หวังอยู่ปฏิบัติ ตนเพื่อหลุดพ้น ความเกิดจนถึงอมตะพระนิพพาน

รูปภาพ
พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล)

รูปภาพ
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ

รูปภาพ
พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่สวัสดิ์ ขันติวิริโย)


บรรพชาและอุปสมบท

ต่อมาครอบครัวได้พาท่านเข้าไปฝากตัวกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๓ เวลา ๑๙.๐๐ น. และได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๓ ณ วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ.ศ.๒๕๐๔ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๔ โดยมี พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่สวัสดิ์ ขันติวิริโย) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๒ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เจ้าอาวาสวัดป่าหมู่ใหม่ มีอายุ ๖๙ ปี พรรษา ๔๙


แก้ไขล่าสุดโดย อริยชน เมื่อ 12 มี.ค. 2009, 13:27, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 12:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว


คำบอกเล่าจากลูกศิษย์

รูปภาพ
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) อ.วังสะพุง จ.เลย



หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ศิษยในองค์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ และ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
ท่านเป็นพระในจำนวนไม่กี่องค์ที่ผมเคยสัมผัสเองและมั่นใจว่าท่านเป็นผู้ทรงคุณธรรมส่วนจะขั้นไหนผมคงมิบังอาจคาดเดาในตัวท่าน
เคยมีพระรูปหนึ่งกล่าวว่า “ลองไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์ดูแล้วจะคิดเหมือนเราว่าท่านเป็นพระอรหันต์”
หลังจากที่ได้ไปกราบและได้รู้จักลูกศิษย์ฆราวาสที่ติดตามใกล้ชิดท่านจึงมั่นใจในคำพูดของพระรูปนั้นจริงๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาท่านไม่เคยตำหนิหรือกล่าวว่าผู้ใดเลย สมดังที่หลวงปู่ดู่ วัดสะแกว่า “คนดีเขาไม่ตีใคร” ใครบางคนอาจจะว่าก็แค่นี้แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะไม่ตำหนิใครเลยแม้แต่คนที่เรามั่นใจว่าแย่มาก ท่านก็ไม่ตำหนิ ถ้าเราไปว่าใครให้ท่านฟัง ท่านจะเงียบหรือไม่บางก็พูดช่วยให้คนๆนั้น นี้คือที่ท่านทำมาตลอดหลายสิบปี

รูปภาพ
พระอาจารย์อุทัย (ติ๊ก) ฌานุตฺตโม
วัดป่าห้วยลาด ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย



ผู้มักน้อยสมควรแก่สมณธรรม

เคยมีบริษัทเคื่องดื่มมึนเมาบริษัทหนึ่งเข้าไปกราบท่านแล้วถวายเช็ค 10,000,000บาท พิมพ์ไม่ผิดครับสิบล้านจริงๆเข้าไปถวายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเข้าไปถวายเพราะศรัทธาจริงๆ แต่พอหลวงพ่อรับเช็คดูยอดเงินท่านก็ยื่นเช็คคืนพร้อม กล่าวเรียบๆว่า “ตอนนี้วัดไม่มีอะไรต้องใช้” และก็ไม่เอาจริงๆ
หรือแม้แต่ ท่านพระอาจารย์อุทัย (ติ๊ก) ฌานุตฺตโม ขอโอกาสสร้างโบสถ์ถวายท่านขอเพียงหลวงพ่อตกลงที่เหลือท่านพระอาจารย์ติ๊กจะจัดการเอง ท่านก็ปฏิเสธ ให้เหตุผลเพียงว่า “เสียดายป่า” ใครไปวัดท่านก็จะเห็นเพียงศาลาหลังน้อยที่ถ้าคนไปนั่งแบบเบียดๆก็นั่งได้แค่ร้อยกว่าคน ท่านบอก “แค่นี้ก็พอแล้ว”

รูปภาพ
บริเวณวัดป่าหมู่ใหม่ ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การภาวนา


เทวดามาใส่บาตร

เห็นท่านเงียบๆแต่ถ้าถูกกาลก็มีเรื่องอภินิหารให้ได้ฟังบ้าง ครั้งหนึ่งท่านเล่าให้ฟังว่าท่านไปอยู่ทางภาคใต้ ท่านก็คิดว่าเขตนี้มีแต่ชาวมุสลิมไปบิณฑบาตรคงไม่ได้อะไร แต่ครูบาอาจารย์ท่านก็สั่งไว้ข้อวัตรบิณฑบาตรยังไงก็ต้องทำไม่จำเป็นจริงๆไม่ควรเว้นท่านก็พิจารณาไปทำข้อวัตรส่วนจะได้อาหารหรือไม่ไม่ใช่หน้าที่ท่าน คนขับรถก็พาท่านไปที่ตลาดในตัวเมือง ท่านเล่าว่าพอจะลงจากรถยังไม่ทันปิดประตูรถก็ไม่ทราบมีมือจากไหนยื่นมาใส่บาตรท่านเต็มไปหมดแวบเดียวเต็มบาตร ท่านจึงกลับเข้าไปในรถ คนขับจึงถามท่าน ว่าไม่ไปบิณฑบาตรแล้วหรือครับ ท่านก็เปิดบาตรให้ดูว่าเต็มแล้ว คนขับรถก็ยืนยังตรงนั้นไม่มีใคร แล้วใครหละมาใส่บาตรท่าน พอท่านพิจารณาก็ทราบว่า เทวดามาใส่บาตร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝนมิต้องกาย

เมื่อครั้งหลวงพ่อท่านเดินธุดงค์ไปภาคตะวันออก ท่านได้ไปปักกลดอยู่หาดบางแสน ผูกกลดใต้ต้นมะพร้าว คืนนั้นไม่ทราบพายุฝนมาจากไหนพัดกระหน่ำหาดบางแสน ลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสก็รีบมาดูหลวงพ่อกลัวหลวงพ่อลำบาก แต่พอเข้าใกล้กลดท่านก็ต้องตกใจรอบกลดท่านมีแสงสว่างเรืองออกมา ห่างจากกลดราว1วา ทรายทุกเม็ดยังแห้งสนิทลมที่พัดอย่างรุนแรงมิได้โยกคลอนกลดท่าน หลวงพ่อยังคงนั่งสมาธิสงบอยู่เหมือนมิได้รับรู้กับพายุที่กระหน่ำแรงพอจะพัดทุกอย่างลงสู่ทะเล


รู้จริง!

หลายปีก่อนผมนำคณะขึ้นไปทำบุญที่ภาคเหนือ โดยมีหลวงพ่อประสิทธิ์เป็นหนึ่งในเป้าหมายการเดินทาง และเพื่อความไม่ประมาทจึงได้โทรถามกับลูกศิษย์ฆราวาสของท่าน ว่าท่านอยู่วัดหรือไม่ แต่ทางลูกศิษย์ท่าน มีเหตุติดขัดบางประการจึงไม่ได้โทรไปเช็คให้
และแล้วเย็นนั้นหลวงพ่อก็ได้สั่งให้คนขับรถท่านโทรมาบอกศิษย์คนนี้ว่า ท่านจะไปต่างจังหวัด 3 วัน
เกือบ10ปีที่ผ่านมาลูกศิษย์ท่านยืนยันว่าท่านไม่เคยทำเช่นนี้เลย
ผมเองเคยไปกราบท่านหลายหนแต่ผมก็ยืนยันว่าท่านไม่รู้จักผม ผมจึงอัศจรรย์ในความรู้ความเห็นของท่านมาก

รูปภาพ
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี



รูปภาพ
หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี



หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร เคารพ

หากใครเคยไปกราบ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
คงอาจทราบว่าหลวงปู่เจี๊ยะท่านมักจะแนะนำลูกศิษย์
ให้ไปกราบ หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหาย
โดยให้เหตุผลที่ควรไปกราบ
นอกเหนือจากคุณธรรมขั้นสูงของหลวงปู่จันทร์เรียน ว่า

“ท่านมีฤทธิ์มาก ไม่น้อยไปกว่าหลวงปู่ฝั้นเลย”

“พระทั่วประเทศ เราคบจันทร์เรียนองค์เดียว”

“พระยอดธงของเรา จันทร์เรียนเสก ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว”


พระเครื่องแทบทุกรุ่นของหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
ท่านต้องสั่งศิษย์ให้นำไปถวายหลวงปู่จันทร์เรียนอธิษฐานก่อนแจก

มีเรื่องเล่าในหมู่ศิษย์ว่า มีครั้งหนึ่ง หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
ไปเยี่ยมหลวงปู่จันทร์เรียนที่วัดถ้ำสหาย
แต่การไปไหนทุกครั้งของหลวงพ่อประสิทธิ์จะไม่มีกำหนดการ
ทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์เฉพาะหน้าของท่าน
ดังนั้น การไปวัดถ้ำสหายจึงไม่มีใครทราบ วันนั้นฝนตกพรำๆ พอถึงวัด
ปรากฏหลวงปู่จันทร์เรียนท่านกางร่มรอรับหลวงพ่อประสิทธิ์อยู่

ถ้าเป็นเรื่องครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่จันทร์เรียนเคารพ
ท่านจะทำถวายเองทุกอย่าง อย่างเช่น หลวงปู่เคน เขมาสโย
แห่งวัดป่าหนองหว้า ต.ทรายมูล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
อาพาธไม่ยอมไปโรงพยาบาล หลวงปู่จันทร์เรียนทราบ
ท่านก็รีบไปรับหลวงปู่เคนไปโรงพยาบาล หลวงปู่เคนท่านเดินไม่ไหว
หลวงปู่จันทร์เรียนก็อุ้มหลวงปู่เคนด้วยตัวท่านเอง
(ปัจจุบันหลวงปู่เคนได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗)


ทันพอดีไปหมด

เมือเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผมพาคณะไปทำบุญที่ภาคอิสาน ซึ่งปรกติการไปกราบพระทางอิสาน ซึ่งถ้าจะเอาปริมาณก็มักจะได้กราบไม่ถึงครึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คราวนี้เป็นช่วงกฐิน และยังเป็นครั้งแรกของการไปทำบุญกับพระกรรมฐานของใครหลายๆคน ยังไงก็ต้องเน้นปริมาณ และก็มีเหตุบังเอิญกันตลอดทางที่ไปกราบพระ นั่นคือแล้วทันกราบท่านทุกองค์ไม่ว่าจะไปกราบหลวงปู่เพียร วัดป่าหนองกอง ก่อนท่านขึ้นพักแค่10 นาที ซึ่งท่านอาพาธมากถ้าพักแล้วห้ามเยี่ยมเด็ดขาด, ได้กราบหลวงพ่อคูณ วัดป่าภูทอง ก่อนคณะทัวร์วัด 3 คันรถบัสจะมาถึงครึ่งชั่วโมง, ได้กราบหลวงปู่แฟ๊บ วัดป่าดงหวาย ก่อนคณะทัวร์วัด 1 คันรถบัสมาถึงไม่กี่สิบนาที ได้กราบหลวงปู่แตงอ่อน วัดป่าโชคไพศาล ก่อนท่านทำวัตรสวดมนต์แค่ 5 นาที, ได้กราบหลวงปู่ลี วัดภูผาแดง, หลวงพ่ออินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย, หลวงปู่คำพัน วัดศรีวิชัย ทั้งที่ไม่ได้ไปวัดท่าน, ได้กราบหลวงปูบุญหนา วัดป่าโสถิผล ทั้งทีเลยเวลาพัก เนื่องจากมีคนมากราบท่านแล้วยังไม่กลับ จนหลวงปู่ท่านออกปากว่า “ถ้าคนมากราบก่อนไม่อยู่เลยเวลา หลวงปู่เข้าพักแล้ว มาตะโกนเรียกก็ไม่ออกมานะ”, ได้กราบหลวงปู่เคน วัดหนองหว้า โดยที่หลวงปู่เพิ่งกลับจากไปกิจนิมนต์ต่างอำเภอ แค่ไม่กี่สิบนาที และจุดมุ่งหมายต่อไปคือหลวงพ่อจันทร์เรียนแต่คณะทราบว่าท่านอาพาธการไปกราบเหมือนโยนเหรียญวัดดวงไม่ทราบท่านจะออกรับแขกรึเปล่า ซึ่งการไปวัดท่านลำบากมากถ้าไปต้องตัดวัดอื่นทิ้ง 2-3 วัด แต่การโทรเช็คไปยังวัดป่านิโครธารามทำให้บังเอิญทราบว่าหลวงพ่อประสิทธิ์ มาวัดป่านิโครธาราม คณะผมจึงรีบบึ่งไปกราบเพราะหลวงพ่อเพราะท่านจะอยู่วัดป่านิโครธารามไม่นาน ไม่มีใครรั้งหลวงพ่อให้รอคณะเราได้ และไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อจะไปไหนต่อ ระหว่างทางนั้นฝนก็ตกหนักทำให้คณะมีมติว่าการจะไปกราบหลวงพ่อจันทร์เรียนต่อคงต้องยกเลิกเพราะถ้าฝนตกอย่างนี้รถตู้ขึ้นเขาไม่ได้แน่นอน และถ้าไปไม่ทันหลวงพ่อประสิทธ์คงต้องตีรถไปพักวัดหลวงพ่อเมือง ที่จ.กาฬสินธุ์เลย เพราะไม่สามารถไปไหนต่อได้
และแล้วรถตู้ 2 คันของคณะก็สวนกับรถตู้โฟลค์ ที่ลานกว้างหน้าวัดป่านิโครธาราม รถของคณะจอด รถตู้โฟลค์ก็จอดเหมือนรู้ ผมรีบลงไปกราบท่าน ท่านก็ยิ้มแล้วบอกว่า “เรากำลังจะขึ้นถ้ำสหาย เราจะไปค้างที่นั่น” ผมก็เรียนท่านโดยไม่คิดเลยว่าและไม่ปรึกษาคณะเลยว่า “หลวงพ่อครับพวกผมตามขึ้นไปด้วยครับ” รถตู้โฟลค์ขับนำโดยมีคณะผมตาม และเพิ่งคิดออกว่าตามท่านไปคงไม่ต้องกลัวฝนและยังไงไปกับท่านก็ต้องได้กราบหลวงพ่อจันทร์เรียน เป็นจริงดังคิด ฝนที่กระหน่ำที่ด้านล่างไม่ปรากฎแม้ซักเม็ดตลอดการเดินทาง และคณะเราก็ได้กราบท่านสมใจ เมื่อตอนจะลาหลวงพ่อประสิทธิ์กลับ ท่านก็พูดขึ้นมาว่า “อยัมภทันตา บุญทันตาเห็น น่าแปลกนะที่มาทันพอดีไปหมด นี่แหละบุญทันตาเห็น อยัมภทันตา” ผมแปลกใจท่านรู้ได้อย่างไร มันบังเอิญตลอดการเดินทางถึงกว่า10ครั้ง
ทันพอดีไปหมด
แต่ผมไม่ได้เล่าให้ท่านฟังนะ!

รูปภาพ
หลวงพ่อนำพระออกรับบิณฑบาตร


แก้ไขล่าสุดโดย อริยชน เมื่อ 12 มี.ค. 2009, 13:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
ลูกศิษย์ถวายน้ำล้างเท้าให้หลวงพ่อ ชึ่งเป็นธรรมเนียม
พระกรรมฐาน



เหตุเกิดเมื่อปีที่น้ำท่วมเชียงใหม่

วัดป่าหมู่ใหม่เป็นวัดติดชลประทานแม่แตง หากน้ำจะท่วมเข้ามาในวัดก็มิใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ถ้าน้ำท่วมเชียงใหม่แต่หมู่ใหม่ไม่ท่วมนี้สิแปลก
เรื่องมีอยู่ว่าในคืนก่อนวันที่น้ำหลากเข้าท่วมเชียงใหม่
อยู่ดีๆหลวงพ่อก็มีคำสั่งกลางดึกให้พระเณรเอากระสอบทรายที่เตรียมไว้ไปวางยังจุดต่างๆรอบวัดแต่ไม่ใช่วางรอบหมดเป็นเพียงบางจุดเท่านั้น แล้วคืนนั้นเรื่องแปลกก็เกิด จุดที่หลวงพ่อสั่งทุกจุดเป็นจุดที่น้ำหลากเข้ามา และก็แปลกที่กระสอบทรายไม่กี่กระสอบจะเปลี่ยนทิศทางน้ำไม่ให้ท่วมวัดได้ เช้าขึ้นมาหมู่บ้านรอบวัดป่าหมู่ใหม่แทบจมให้บาดาล แต่วัดป่าหมู่ใหม่ยังคงเป็นปรกติ

กลุ่มพลัง

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อภาวนาอยู่บนเขา
ท่านได้เห็นกลุ่มพลังงานกลุ่มหนึ่ง ท่านจึงพิจารณาว่า กลุ่มพลังงานนั้นคืออะไร
ท่านจึงทราบว่า นี้เป็นกลุ่มพลังที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล อธิษฐานจิตแผ่เมตตาทิ้งไว้ในโลก หากใครมีวาสนาเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ดูลย์ก็จะได้รับพลังนี้ นอกจากนี้หลวงพ่อยังเคยพบกลุ่มพลังเช่นนี้แต่เป็นขององค์อื่นอีหลายครั้ง
และท่านก็กล่าวไว้ ไม่ใช่จะมีแต่กลุ่มก้อนพลังที่ดี ที่ไม่ดีก็มี (ไม่ได้เรียนถามท่านว่ามาจากไหน)
ถ้าใครเจอเข้าก็จะมีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
เมื่อได้ฟังท่านเช่นนี้แล้วทำให้ผมเองก็รีบขวนขวายหาพระหลวงปู่ดูลย์ มาแขวนทันทีเพราะผมคิดว่า
หลวงปู่ท่านคงทิ้งกลุ่มพลังงานที่ดีไว้ในเหรียญท่านแน่ๆ


ด้วยบารมีหลวงพ่อ

การไปมาของหลวงพ่อเป็นที่รู้กันว่า แล้วแต่อัธยาศัยท่าน
พี่ที่นับถือกันท่านหนึ่งเปิดร้านทองอยู่ที่เชียงใหม่
วันดีคืนดีหลวงพ่อท่านก็แวะมาเยี่ยม
พี่เขาเล่าให้ฟังว่า ท่านมาก็นิมนต์ขึ้นห้องพระชั้นบนปล่อยให้น้องสาวและลูกน้องขายของไป ท่านอยู่ไม่นานไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็กลับไป น้องสาวก็มาสกิดบอกช่วงที่พี่ขึ้นไปดูแลหลวงพ่อ มีลูกค้ามาเยอะมาก ขายทองได้ สามแสนกว่า (สมัยทองบาทละไม่เกิน 6,000) นี้มันผิดปรกตินะ!
ผมก็สงสัยฟลุครึเปล่า
และแล้วท่านก็มาอีกครั้ง แต่คราวนี้ขายได้5แสน
แฮะๆ คงไม่ฟลุคหรอกครับ
ทองคำแม้การขายให้ได้ 3 แสน 5 แสนมันแค่ทองไม่กี่สิบบาทแต่ผมขอถามว่าจะมีใครพร้อมใจกันไปซื้อทองพร้อมกันเวลาใกล้เคียงกันเยอะขนาดนี้ในยุคที่ทองขึ้นจากบาทละ 4,000 ผมเป็นคนหนึงหละที่คิดว่ามันต้องลงเพราะมันเสถียรที่ 4,000 มาเป็น 10 ปี


อ้างอิงที่มา
คุณ im http://www.udon108.com/board/index.php?topic=6914.0


แก้ไขล่าสุดโดย อริยชน เมื่อ 12 มี.ค. 2009, 13:24, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว




index.jpg
index.jpg [ 78.83 KiB | เปิดดู 22385 ครั้ง ]
อัศจรรย์กระดูกหลวงพ่อใสเป็นแก้ว
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2009, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 16:30
โพสต์: 411


 ข้อมูลส่วนตัว


ตำนานวัดป่าหมู่ใหม่

วัดป่าหมู่ใหม่ ตั้งอยู่พื้นที่บ้านป่าหมู่ใหม่ หลังสำนักงานชลประทานแม่แตง ตำบลแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ หลวงพ่อ ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๙ โดยได้ขออนุญาตใช้ที่ดินจาก กรมป่าไม้อย่างถูกต้อง

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร บรรพชาและอุปสมบทอยู่กับ หลวงปู่อ่ออน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ภายหลังหลวงปู่อ่อน มรณภาพลง ท่านได้ไปปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

จากนั้นได้เดินธุดงค์ขึ้นสู่ภาคเหนือ มาอยู่ปฏิบัติธรรมร่วมกับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโร วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ แล้วเดินธุดงค์ แสวงหาความวิเวก จนกระทั่งมาพบสถานที่ป่าสงบเงียบ หลังที่ทำการชลประทานแม่แตง จึงได้ขออนุญาตจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ และยกฐานะเป็นวัดตามลำดับ

วัดป่าหมู่ใหม่ เป็นวัดป่าสายธรรมยุตที่สงบเงียบ หลวงพ่อประสิทธิ์ ได้อนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าเดิม พร้อมกับปลูกป่าเสริมเพิ่มต้นไม้ตลอดเวลา ทำให้วัดมีต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์ร่มรื่น โดยมีกุฏิไม้แทรกอยู่ระยะห่างกันพอสมควร นอกจากศาลาอเนกประสงค์สองชั้น ชั้นล่างใช้เป็นที่ไหว้พระสวดมนต์ ฟังเทศน์ เป็นโรงฉันพร้อมสรรพ ส่วนชั้นสอง ใช้เป็นอุโบสถ ยังมีศาลาโรงครัวอีกหลังหนึ่ง นอกนั้นเป็นกุฏิพระ และกุฏิสำหรับอุบาสา อุบาสิกา และญาติโยม มาพักเพื่อปฏิบัติธรรม วัดป่าหมู่ใหม่เป็นสถานที่สงบเงียบ เหมาะแก่การทำสมาธิภาวนา และเดินจงกรมเป็นอย่างยิ่ง

ภายในวัดป่าหมู่ใหม่ มีไฟฟ้าใช้เฉพาะไฟส่องถนน และบริเวณศาลา-อุโบสถ กับห้องสุขาส่วนด้านหน้าเท่านั้น ส่วนกุฏิพระทั้งหมด ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าเข้าไป พระภิกษุสามเณร และญาติธรรม ใช้อาศัยแสงไฟจากไฟฉาย เทียนไข หรือตะเกียงในยามค่ำคืน ส่วนน้ำดื่ม น้ำฉันก็จากน้ำแทงค์น้ำเก็บน้ำฝน ส่วนน้ำใช้ก็จากน้ำ จากชลประทาน แม่แตงและจากน้ำบ่อที่ขุดไว้ ภายในวัดไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีการใช้โทรศัพท์พื้นฐาน หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นความ ประสงค์ของหลวงพ่อประสิทธิ์ ที่ต้องการให้มีการปฏิบัติภาวนา โดยไม่มีสิ่งอื่นมาล่อใจให้ไขว้เขวได้

การที่วัดป่าหมู่ใหม่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง แต่ละกฏิไม่มีการสะสมสิ่งของ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ เป็นวัดปฏิบัติธรรม จึงเป็นวัดป่าศักดิ์สิทธิ์ และมีเสน่ห์สำหรับผู้เข้าไปสัมผัส ทั้งนี้เพื่อ มรรค ผล นิพพาน อย่างแท้จริงนั่นเอง

(จากหนังสือสวดมนต์แปล ที่ระลึกปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี
และโอกาสครบรอบ ๒๐ ปี วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ หน้า๑-๒)






บริเวณวัดป่าหมู่ใหม่

รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2011, 11:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุๆๆ ค่ะขอบพระคุณค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร