วันเวลาปัจจุบัน 19 ธ.ค. 2025, 01:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: เมื่อวานนี้, 11:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5436


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้จิตอยู่กับกาย พุทโธอยู่กับใจ ขันติความอดทน วิริยะความเพียร อย่าคลุกคลีกับหมู่คณะมันเป็นสัญญา ภาวนาถ้าจิตสบาย 3 เดือนมันบ่โดน บึดเดียว (ภาวนาถ้าจิตสบาย 3 เดือนมันไม่นาน แป๊บเดียว)

#หลวงพ่อสมศรี อตฺตสิริ

วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย






"ผู้ปฏิบัตินั้นใครทำเรา เราให้อภัยไป
ไม่ผูกเวรผูกกรรม ขอให้ต่างอยู่เย็นเป็นสุข
รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
ทำอย่างนี้ รักษาบุญไว้ในใจ บุญก็รักษาใจเรา
ให้ไม่ดุร้าย จิตใจก็สม่ำเสมอ เบิกบานด้วยบุญกุศล
ไม่อ่อนแอท้อแท้ จากหนุ่มตราบเฒ่าชรา"

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ






"กรรมดีหรือชั่ว ถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั้นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด
ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเราพูดจริงพูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องกรรม
พอตายไปแล้ว ยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก
จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว
จะอธิบายบอกเล่าให้ฟังเอง"

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม







"วันหนึ่งๆ เราควรอ่านตัวเองเสมอว่า
วันนี้ได้มีความผิดพลาด ไปในทางใดบ้าง
มีความเสียหายเกิดขึ้น แก่ตัวของเราอย่างไรบ้าง
หรือมีความเจ็บช้ำจิตใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง

เฉพาะอย่างยิ่ง คือครอบครัวหรือไม่ หรือคนอื่นใดบ้าง
ที่การกระทำของเรานี้ เป็นการกระทบกระเทือน
แก่บุคคลเหล่านั้น เราต้องคิดเสมอ

แม้คนอื่นไม่ทราบ ไม่เห็นก็ตาม แต่การกระทำนั้น
เป็นการกระเทือนตนเองหรือไม่ การกระเทือนตนเอง
ก็คือความเสียหายสำหรับตน นี่เราก็ควรคิด

ที่ท่านเรียกว่า หัดคิด หัดอ่าน อ่านตัวเอง คิดตัวเอง
และแก้ไขตัวเองไปโดยลำดับ"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน








"ถ้าเอาแต่ส่งจิตออกนอกนะ
เดี๋ยวก็เห็นโน่น....เห็นนี่
...เห็นสารพัดเห็น
เดี๋ยวก็มีเทวดามาคุย
มีเสียงบอกทำอย่างนั้น
อย่างนี้...สุดท้ายต้องหาจิตไม่เจอ
เจอแต่นิมิตเหล่านี้
เดี๋ยวก็กลายเป็นบ้าไป
ถ้าไม่อยากบ้า...ไม่ต้องสนใจมัน.

#หลวงปู่เยื้อน ขันติพโล







#เราไม่ได้ทำมันก็ไม่ได้ซิ..!!

"... ฟังดูซิ "กุสลาธรรมา อกุสลาธรรมา
เราทำมามันจึงได้" นี่เราไม่ทำมาแต่ยากได้ อยากได้อันโน้นอยากได้อันนี้ "เราไม่ได้ทำมันก็ไม่ได้ซิ" เราทำมามันจึงได้ สิ่งใดไม่ได้ทำมามันก็ไม่ได้

"สุขทุกข์เราทำมามันจึงได้ เข้าใจไหมละ" ต่อไปให้พากันนั่งดูนะ บ้านเมืองเราอยากให้มันสงบ ประเทศชาติไม่วุ่นวาย "อย่าให้มันวุ่นที่ใจเรา" ต่างคนต่างสงบ .. " "มนุษย์ ๗ จำพวก ..."
----------------------------------------
#พระอาจารย์ฝั้น_อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม
จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)






"..ผู้ปฏิบัติพึงใช้อุบายปัญญาฟังธรรมเทศนาทุกเมื่อ ถึงจะอยู่คนเดียวก็ตาม คืออาศัยการกำหนดพิจารณาธรรม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นรูปธรรมที่มีปรากฏอยู่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็มีอยู่ ได้ยินอยู่ สัมผัสอยู่ ปรากฏอยู่ จิตใจเล่าก็มีอยู่ ความนึกคิด รู้สึกในอารมณ์ต่างๆ ทั้งดี และร้ายก็มีอยู่ ความเสื่อม ความเจริญ ทั้งภายนอก ภายใน ก็มีอยู่ ธรรมชาติอันมีอยู่โดยธรรมดา เขาแสดงความจริงคือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ให้ปรากฏอยู่ทุกเมื่อ เช่น ใบไม้มันเหลืองหล่นร่วงลงมา พินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา โดยอุบายมีอยู่เสมอแล้ว ชื่อว่า ได้ฟังธรรมทุกเมื่อแล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)







“เราฟังธรรมะกันนี้ไม่ค่อยจะจำอยู่ในใจกัน
แต่ว่าถูกคนอื่นเขาด่า ด่าอย่างจริงจัง โน้น ...
ด่าแต่วันเข้าพรรษาโน้น ด่าอย่างหนัก
ถึงวันจะออกพรรษาแล้ว มันก็ยังไม่ลืม
อีกพรรษาหนึ่งมันก็ยังไม่ลืม ชั่วชีวิตนี้
ก็ยังไม่ลืม ถ้ามันเข้าถึงใจจริงๆ

แต่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าท่านสอน
ให้มักน้อย ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ทำไมไม่อยากจะเอาเข้าไปในใจนั้น
ทำไมมันถึงลืมกันมาตั้งนมนาน” ...
...
หลวงพ่อชา สุภัทโท







อกฺขาธูโต อย่าเป็นนักเลงเล่นการพนัน เพราะการพนันมีหลายประเภทจนไม่สามารถจะนับอ่านได้ เพราะผู้ชอบในทางนั้นผลิตกันขึ้นทุกวัน เราควรทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ ว่า การหวังแพ้หวังชนะมีเงินทองหรือสิ่งของมีค่ามากหรือน้อยก็ตามเป็นเครื่องตอบแทนในความแพ้ความชนะนั้นๆ เรียกว่าการพนันทั้งนั้น ผู้ชอบเล่นการพนันจนติดนิสัยแล้ว ต้องเป็นนักพลิกแพลงทางกลมายาเพื่อล่อลวงทรัพย์จากคนอื่นมาเป็นของตน พูดฟังง่ายๆ ก็ว่านักคว่ำกินหงายกินนั่นเอง เรียกว่าทำตนให้หมดความเชื่อถือไม่มีใครไว้วางใจได้ เหมือนวานร สัตว์ประเภทนี้แม้ใครๆ จะนำมาเลี้ยงไว้ในบ้านเป็นเวลานานจนคุ้นและเชื่องต่อเจ้าของแล้วก็ตาม แต่จะประมาทนอนใจในสัตว์ประเภทนี้ไม่ได้อยู่นั่นเอง พอเจ้าของบ้านเผลอเมื่อไรทั้งได้โอกาสก็ทุบถ้วยทุบชาม ทุบต่อยหม้อข้าวหม้อแกง กัดฉีกเสื้อผ้าและทำลายสิ่งของมีค่าในบ้าน ตลอดจนเอาไฟเผาบ้านเผาเรือนให้ไหม้แหลกเป็นจุณวิจุณไปหมดไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้นสัตว์ประเภทนี้ใครจะนำมาเลี้ยงไว้ ต้องผูกล่ามหรือขังไว้ในกรง จะปล่อยให้เป็นอิสระเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ย่อมไม่ได้ และเป็นสัตว์อันใครๆ ไว้ใจไม่ได้ตลอดกาลด้วย
นักเลงเล่นการพนันก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน โทษที่ตนได้รับย่อมมีการก่อเวรกับผู้แข่งขัน เสียทรัพย์โดยปราศจากประโยชน์หนึ่ง เสียนิสัยกลายเป็นคนอันใครๆ ไม่เชื่อถือหนึ่ง ชอบเป็นขโมยเพราะการพนันเป็นต้นเหตุหนึ่ง ทรัพย์มีมากน้อยย่อมหมดไปเพราะการพนัน ทรัพย์ที่ได้มาก็เพื่อการพนัน แม้การแสวงหาทรัพย์ก็ชอบแสวงหาในทางที่ผิด สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีไม่ชอบแต่งงานด้วย เพราะกลัวจะเผาผลาญทรัพย์สินแล้วพาเขาให้ล่มจม นี่อธิบายเพียงย่อๆ พอเป็นคติเครื่องเตือนใจให้ท่านผู้ฟังได้ทราบว่า การเป็นนักเลงเล่นการพนัน เป็นความเสื่อมเสียนิสัยและโภคทรัพย์ได้ทางหนึ่ง

พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
จากธรรมเทศนา “อบายมุข”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๐๕
ณ วัดป่าบ้านตาด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร