วันเวลาปัจจุบัน 01 พ.ค. 2025, 23:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2025, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5325


 ข้อมูลส่วนตัว


"..ทีนี้ เราพุทธบริษัทควรจะเคารพอะไร ให้เป็นหลักของใจ จึงจะได้ชื่อว่า เรายึดถือหลักพุทธศาสนาเป็นเครื่องดำเนินในชีวิตประจำวันของเรา เบื้องต้นเราต้อง เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เราทำกรรมอะไรไว้ด้วยกาย วาจา และใจ ในที่ใด ๆ มากหรือน้อยไว้แล้ว ผลกรรมนั้นต้องตกมาเป็นของตัวอย่างแน่นอน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง คนอื่นจะมารับแทนไม่ได้ เมื่อเชื่ออย่างนี้แล้วผู้นั้นไม่สามารถกระทำกรรมอันเป็นบาปได้เด็ดขาด จะทำแต่กรรมที่เป็นบุญเป็นกุศลตลอดเวลา ได้ชื่อว่า "ถือธรรมเป็นที่พึ่ง".."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
(พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗)







"..ทีนี้ เราพุทธบริษัทควรจะเคารพอะไร ให้เป็นหลักของใจ จึงจะได้ชื่อว่า เรายึดถือหลักพุทธศาสนาเป็นเครื่องดำเนินในชีวิตประจำวันของเรา เบื้องต้นเราต้อง เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เราทำกรรมอะไรไว้ด้วยกาย วาจา และใจ ในที่ใด ๆ มากหรือน้อยไว้แล้ว ผลกรรมนั้นต้องตกมาเป็นของตัวอย่างแน่นอน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง คนอื่นจะมารับแทนไม่ได้ เมื่อเชื่ออย่างนี้แล้วผู้นั้นไม่สามารถกระทำกรรมอันเป็นบาปได้เด็ดขาด จะทำแต่กรรมที่เป็นบุญเป็นกุศลตลอดเวลา ได้ชื่อว่า "ถือธรรมเป็นที่พึ่ง".."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
(พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗)






"... เราภาวนาอานาปานสติ ก็ได้ทั้ง ศีล
สมาธิ ปัญญา อยู่ในนั้น อาการบังคับตัวเอง
ให้กำหนดลมหายใจ ข้อนี้เรียกว่าเป็นตัวศีล
การกำหนดลมหายใจได้และติดต่อไป.. จน
จิตสงบ ข้อนี้เรียกว่าสมาธิ การพิจารณากำหนดรู้ลมหายใจว่า ไม่เที่ยง ทนได้ยาก ไม่ใช่ตัวตน แล้วรู้การปล่อยวาง ข้อนี้เรียกว่าปัญญา

... การทำอานาปานสติภาวนา จึงกล่าวได้ว่าเป็นการบำเพ็ญครบ ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ไปพร้อมกัน ..."
------------------------------------------------
#พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๖๑ -​ ๒๕๓๕)






บุคคลผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร
ย่อมได้รับการยกย่องบูชาในที่ทุกสถาน

พระคติธรรม
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






#คนเกิดมาเป็นมนุษย์นี้นั้น ก็มาจากสถานที่ที่ต่างกัน คือ
1. มาจากพรหม
2. มาจากสวรรค์
3. มาจากมนุษย์ คือตายมาจากมนุษย์แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์
4. มาจากสัตว์นรก
5. มาจากเปรต
6. มาจากอสุรกาย
7. มาจากสัตว์เดรัจฉาน
สำหรับบุคคลประเภท 4 ประการหลังนี้เป็นบุคคลที่ประกอบไปด้วยความเลวทั้งกายและจิตใจ บางทีที่เราปฏิบัติความดีตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อาจจะไม่เกิดผลสมบูรณ์ ก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพึงทราบว่า นั่นเขามาจากอบายภูมิ และก็ตั้งใจจะกลับไปอบายภูมิใหม่ ที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงตรัสว่าพวกมืดมาแล้วก็มืดไป

คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 5 หน้า 154







#ทรัพย์สมบัติของโลกมันมีประโยชน์ เมื่อมีร่างกายเท่านั้น ถ้าร่างกายสลายตัวแล้ว ทรัพย์สมบัติของโลกไม่มีอะไรมีประโยชน์เลย เราจะไปหลงใหลใฝ่ฝันว่านั่นเป็นเรา เป็นของเราเพื่อประโยชน์อะไร มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ตัดร่างกายทิ้งไปด้วยกำลังใจ ขึ้นชื่อว่าขันธ์ 5 คือ ร่างกายอย่างนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก ทำใจให้สบาย จิตจะเป็นสุข ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา

คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 5 หน้า 102


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron