ถ้ายังยุ่งอยู่แต่กับความคิดเห็นของตัวเอง
โดยไม่ฟังพระธรรมตามปกติว่าไม่มีใครเลย
มีแค่ความคิดเห็นของตัวตนเข้าไปยุ่งทำงาน
ร่วมทำกับคนโน้นคนนี้คนนั้นมีสารพัดเรื่องเลย
นั่นแหละเรียกว่าคิดไปเองว่ามีคนสัตว์วัตถุจริง
ความจริงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เราไม่ฟังเลย
ชอบถกคิดเห็นไปเถียงกันไปต่างๆนานาว่ารู้ดี
ไม่เคยคิดได้เลยว่าขณะนี้แหละไม่มีตัวตนแล้ว

โลกมีแค่โลกเดียวตามปกติที่เป็นแล้วชาตินี้
เป็นคนก็เป็นตลอดภพชาตินี้คิดเองรู้ได้ไหม
โลกไม่ได้แยกออกเป็น2โลกแบบที่พูดกันมา
ทางโลกกับทางธรรมมันคือโลกทางเดียวกัน
ที่เกิดไม่ซ้ำจิตดวงเดิมทุกภพชาติก็คือโลกนี้
ที่เป็นแล้วคิดผิดไม่พึ่งคิดตามคำสอนทีละคำ
โลก ในภาษาบาลีแปลว่า สิ่งที่่เกิดดับที่มีแล้ว

คือขณะนี้ที่จะต้องฟังพระธรรมให้รู้สึกสำนึก
คิดได้ว่าทุกคนบนโลกหรือวิญญาณใดก็ตาม
ไม่ได้รู้ความจริงตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ถ้าตรัสรู้เองได้โดยไม่ต้องทำฟังก็ไม่ตรงแล้ว
เพราะยุคมีคำสอนคือยุคของพระพุทธเจ้าค่ะ
คือพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ถูกตรงสัจจะทุกคำ
เพราะทรงสิ้นอาสาวะกิเลสแล้วจึงมาเทศนา

เทศนาคือการอธิบายเพื่อขยายคำสิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริง ในภาษาบาลีตรงกับคำว่า ธรรมะ
คนไทยเรียกสิ่งที่มีจริง(คือพระธรรมทุกคำ)
ในพระไตรปิฏกคือสิ่งที่มีจริงกำลังเกิดดับอยู่
เร็วเท่าพริบตาเดียวมีจิตเกิดดับภายในกาย
แสนโกฏิขณะ=ล้านล้านทางซึ่งจิตมีแค่6ทาง
จิตกำลังเกิดดับนับไม่ถ้วนเป็นอดีตหมดแล้ว

ขาดอย่างเดียวคือคุณไม่ฟังพระพุทธพจน์
ให้คิดถูกตรงแค่โลกทางเดียวที่ตรงสัจจะ
พระธรรมทุกคำในพระไตรปิฏกสำหรับฟัง
เพื่อให้คิดไตร่ตรองทบทวนสัจจะเทียบตัวตน
ว่าเรามีความเพียรอดทนฟังเพื่อคิดตรงได้มั๊ย
ไม่ใช่ทฤษฏีที่เอาไปคิดทำเองขึ้นมาอีกทีนึง
โลกที่เกิดดับตรงปัจจุบันธรรมมีแค่1ดวงจิต
เวลาศึกษาจึงต้องฟังเพื่อทำความเห็นถูกตาม
ไม่ใช่ไปเดาทำตามความคิดเห็นอัตตาตัวตน

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเร็วแค่พริบตาเดียวมีกิเลสเพิ่มแล้วแสนโกฏิดวงจิต
สมควรกลับบ้านไปตั้งใจฟังไม่เข้าใจให้จดไว้รอไปถามให้ผู้รู้ตอบจะได้รู้ว่าคิดถูกหรือยัง
https://youtu.be/BQvBAagrdC4