วันเวลาปัจจุบัน 02 ส.ค. 2025, 15:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2021, 17:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2020, 07:10
โพสต์: 465

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
ตราบใดที่ยังมีเงื่อนไขเวลากำหนด
บุคคลไม่อาจกำหนดเอาตัวตนเป็นสรณะได้
เพราะตัวตนไม่มี หลงจำผิดว่ามีตัวตนก็วิบัติจากปัญญาไปแล้ว
จิตคือขณะใหม่ทั้งหมดทุกเวลาปัญญาเกิดได้ตามลำดับการนับเลฃ123
กิเลสก็เกิดตามการนับเลขเหมือนกันแต่กิเลสนั่งครองในหัวใจตลอดเวลาเพราะว่า
ที่หัวใจเป็นที่เกิดของจิตคิดนึกในความมืดสนิทไม่มีแสงสว่างอันใดเกิดในนั้นได้เลยแม้หนึ่งก็หามีแสงไม่
ดังนั้นขณะเดียวที่เห็นแสงคือขณะลืมตาดูและตาไม่บอดแต่เห็นแค่แสงวาบเข้ากลางตาดำดูดไปที่หัวใจทันที
หลังนั้นจิตเกิดสลับคิดจำว่ามีตัวเราได้ยินรู้กลิ่นรู้รสสัมผัสที่กายเกิดขึ้นสลับกันถูกส่งไปหัวใจดับ11ขณะมืด
จิตมี6วิถีแต่ละวิถีถูกส่งไปเก็บที่จิตแปลว่าจิตเกิดดับได้แค่1ทางใน1ขณะจิตสลับคิดเป็นทวิปัญจวิญญาณ
มีอินทรีย์5ที่ตาสว่าง1ทางต่อไปมืดบอดทันที คิด หู คิด จมูก คิด ลิ้น คิด กาย คิด ใจ คิด วนใน6ทางเริ่มที่ตา
ขณะมีผัสสะกระทบที่ตาหูจมูกลิ้นกายใจคือที่ปรากฏของผลกรรมในอดีต แต่ความคิดที่เกิดแทรกสลับนั้นคิดคือจิตคิดนึกถึงจิตที่ดับก่อนหน้า ส่วนสิ่งที่จำผิดคือจำว่ามีตัวเองเพราะจิตจำได้แค่จิตขณะก่อนที่เพิ่งดับ
จิตเห็นขณะนี้ดับมืดแล้วขาดสติแล้วเพราะคิดว่ายังเห็นได้อยู่เป็นตัวเรามีอวิชชามากและขาดการฟังคำสอน
จิตคิดนึก1ขณะที่เกิดคั่นระหว่างวิบากกรรมทางตาหูจมูกลิ้นกายใจไม่คิดนอกที่ตรงทางไม่คิดปนทางกันเลย
แสดงว่าเรามีความโง่แต่ไม่รู้ตัวว่าโง่และไม่พิจารณาธรรมตรงกรอบจำกัดแค่1ทางจิตจำสิ่งที่เพิ่งดับไปไม่อาจ
จำปนทางกันได้ดังนั้นการอบรมเจริญปัญญาจากการฟังจึงเป็นสัจจะบารมีเบื้องต้นที่จะรู้ตรงทางตามเป็นจริง
จิตเกิดตามลำดับเรียงลำดับมีอากาศแทรกคั่นตลอดเวลาเกิดห่างกันเยอะมากแต่ละวิถีจิตไม่เกิดพร้อมกันค่ะ
คือ จิตเห็น จิตคิด จิตได้ยิน จิตคิด จิตดมกลิ่น จิตคิด จิตลิ้มรส จิตคิด จิตสัมผัสกาย จิตคิด จิตทางใจ จิตคิด
รวม12ขณะจิต วนหลูบตามลำดับจิตมี6ทางเห็นคิดได้ยินคิด...ไปเรื่อยๆแต่จิตเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมรูปมีแสง
จิตทางอื่นเป็นรูป27รูปที่เกิดในความมืดสนิทอันว่าความคิดของเรานั้นเห็นผิดว่าสว่างมากกว่ามืดคือเห็นผิด
จะคิดเห็นถูกตรงทางตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจนเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏได้จากการฟังตรง1ทาง
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงว่าปกติในชีวิตประจำวันจิตมีดวงเดียวเกิดได้ตรงแค่ทางเดียวคิดต่าง89ประเภท
เฉพาะปกติลืมตาตื่นรู้ตามปกติไม่นับรวมจิตประเภทที่่ชอบทำกิเลสพิสดารพันลึกที่เหลือประเภทที่90-121
ทรงแสดงว่าการคิดเป็นเรื่องราวตัวตนว่ามีคนสัตว์วัตถุมีครบทั้ง31ภพภูมิคือคิดถึงนิมิตกิเลสตัวเองที่ไปอ่าน
ท่องจำคำในพระไตรปิฏกได้แต่ไม่รู้ความจริงตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ตรงเห็นตรงคิดตรงได้ยินจึงเพี๊ยน
เพราะมีตาหามีแววไม่คือไม่ตระหนักถึงการเกิดมาพบคำสอนคิดว่าเก่งเทียบพระพุทธเจ้าได้เลยชอบเดาทำ
จิตเห็นจึงเป็นสภาพธรรมอันเดียวในการรู้แจ้งทุกสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ตรงตามเป็นจริงที่ทรงตรัสไว้ดีแล้ว
ดื้อด้านอาจหาญทำกันตามใจชอบไม่เห็นหัวพระพุทธเจ้าทำอะไรเอาไว้ตนย่อมรู้อยู่แก่ใจดีประมาทฟังอยู่
https://youtu.be/xDpKtdB9Se0
:b12:
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร