วันเวลาปัจจุบัน 30 ก.ค. 2025, 14:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2021, 07:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2020, 07:10
โพสต์: 465

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool
พระ แปลว่า ผู้ประเสริฐ
พุทธ แปลว่า ผู้รู้ ตื่น เบิกบาน
ศาสนา แปลว่า คำสอน
ศาสดา แปลว่า เจ้าของคำสอน
ศาสนาพุทธ=คำสอนผู้รู้ตื่นเบิกบาน
ศาสดายกคำสอนแทนพระองค์ดังนั้นศาสดา=ศาสนา(คำสอน=พระธรรมและพระวินัย)
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นไม่ใช่ศาสนวัตถุไม่ใช่พิธีกรรมและไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน
:b8:
คนอื่นที่มาขอบวชคือเข้าใจคำสอนต้องการสละสิ่งที่ชาวบ้านทำ
เพื่อมาศึกษาและประพฤติตนให้ถูกต้องตามพระพุทธเจ้าเท่านั้น
การบวชมาหาเงินทองแจกทานก่อสร้างวัตถุทำไม่ได้มันบาป
ถ้ายังชอบหาเงินใช้เงินก็ไม่บวชก็ศึกษาและทำตามคำสอนได้
เป็นชาวบ้านไม่มีสิกขาบทคือข้อห้ามทำผิดด้วยกำกับเหมือนบวช
สิกขาบทเกิดจานปุถชนมาขอบวชแล้วทำผิดจึงบัญญัติไว้ให้รู้ว่ากิเลสเพิ่มแล้ว
ต้องปลงอาบัติดังนั้นการบวชมีสิกขาบทคือข้อห้ามทำพึงระลึกตามว่าได้มีกิเลสเพิ่มทำตามไม่ได้ลาสิกขาได้
:b1:
ถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ยังชอบหาเงินใช้เงินก็ลาสิกขาออกไป
การคิดว่าห่มผ้าจีวรแล้วได้เงินง่ายคือความชั่วที่ต้องตกนรกเท่านั้น
เพราะความจริงในพระพุทธศาสนานั้นคิดเองไม่ได้แม้แต่คำเดียว
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกที่เป็นขันธ์ที่แตกดับเสื่อมสลายทุกเวลา
โลกที่ยังติดข้องใน31ภพภูมิโดยขาดการฟังพระธรรมเป็นโรคไม่รู้อะไรทั้งนั้น
มีแต่ความต้องการอยากได้ไม่สิ้นสุด ยังพอใจติดข้องใน31ภพภูมิเพราะยังขาดปัญญา
โลก แปลว่า สิ่งที่เกิดดับ ขันธ์ แปลว่า เกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนมีแต่ธรรม
อัตตาตัวตนไม่มีอยู่จริงเพราะเป็นอุปาทานขันธ์5ยึดของไม่มีเป็นเรามีกิเลสตัณหาอวิชชา นิมิตภพภูมิ=กิเลส
:b12:
นิมิต
(มาจากบาลี)
นิมิตฺต (การกำหนด, เครื่องหมาย)
(แปลว่า)
เครื่องหมายให้เกิดกิเลส หมายถึง ส่วนหยาบที่เป็นรูปร่าง สัณฐาน ความหมายที่จิตคิดถึงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เช่น เห็นเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เป็นโต๊ะ เก้าอี้ ได้ยินเสียงผู้หญิง หรือผู้ชาย ได้กลิ่นดอกไม้ ลิ้มรสเป็ดไก่ ถูกต้องสัมผัสสำลี คิดนึกเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นไปด้วยอกุศลจิต เป็นการยึดนิมิต
(กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาดับกิเลสได้เกิดขณะกำลังฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ=ปริยัติ)
ขณะที่รู้รูปร่างสัณฐาน ความหมายต่างๆ ด้วยกุศลจิต ขณะนั้นไม่ใช่เป็นการยึดนิมิต แต่เป็นบัญญัติอารมณ์ของกุศลจิต เท่านั้น
อ้างอิงจากมศพ. http://www.dhammahome.com
:b11:
สิ่งที่มีจริง เรียกว่า ธรรม
ธรรมทุกชนิดเกิดโดยอนัตตา
ไม่มีใครทำหรือสร้างขึ้นแต่เกิดแล้ว
ดับหายไปทันทีว่างเปล่าจากสิ่งนั้นทันทีเอากลับมารู้ไม่ได้
แปลว่า ไม่มีเรา มีแต่ความว่างเปล่ามืดๆแบบหลับสนิทไม่รู้อารมณ์โลก
ขณะนี้ที่รู้อารมณ์ว่ามีโลกทางตาหูจมูกลิ้นกายใจคืออารมณ์ไม่รู้ความจริงของ1ขณะจิต
จะรู้จักความจริงนี้ได้จะต้องเริ่มศึกษาเรียนรู้ความจริงนี้จากฟังผู้รู้ที่อธิบายทีละคำให้รู้เรื่องตามเป็นจริงค่ะ
https://youtu.be/uPO25il3kzM
:b16:
:b20: :b20:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร