โดยส่วนตัวแล้ว...ผมรู้สึกมาตั้งนานแล้วว่า..ศาสนาใหญ่อื่นๆของโลก.อย่างเช่น ศาสนาคริสต์ นี้ชัดเจนมาก
ว่า .คือ..เศษซากคำสอนของพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ..ที่หลงเหลือ..ขาดๆวิ่นๆ.ตกทอดมา...ส่วนพระเจ้าของเขาก็คือพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆที่ตามเก็บบริวารที่ยังมีบารมีไม่พอที่จะเข้าใจอริยะสัจ 4 มรรค 8 ได้ ยังไปนิพพานไม่ได้ให้ได้ไปสวรรค์ก่อน.....ส่วนพระเยซู...และ.ศาสดาพยากรณ์.คือพระโพธิสัตว์มาบำเพ็ญบารมี....ยังไม่อาจสอนอริยะสัจสี่..มรรคมีองค์ 8 ได้

บังเอิญ...พบ Youtube อันนี้เข้า..เลยลองเปิดดู..อยากรู้ว่าเขาจะพูดยังงัย..

ครั้นมาเจอ อันนี้เข้า...เลยไม่แปลกใจแม้แต่น้อย..

โปรดระมัดระวังความคิดเห็นที่อาจทำให้มีการเข้าใจผิดไปตามการหลงผิด
เพราะแต่ละศาสนามีไปตามความเห็นผิดของตนๆแต่หลังตรัสรู้แล้วเท่านั้น
ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนาพระองค์ตรัสถึงอนัตตาคือเป็นเอง
ไม่มีใครสร้างแต่เกิดเองตามเหตุตามปัจจัยเป็นแต่ละธาตุที่เกิดดับสะสม
โลกไม่มีใครสร้างเพราะทุกอย่างมีอย่างนี้ตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ค่ะ
ไม่รู้ไม่มีใครเอากิเลสออกได้เพราะทุกอย่างดับแล้วมีแต่ต้องเพียรฟัง
เพื่อเข้าใจความจริงตรงสัจจะที่ตนกำลังมีตามการสะสมที่กายใจ
ด้วยความรู้ตามคำของตถาคตคือพึ่งคิดตามตรงคำวาจาสัจจะ
เป็นปัจจุบันขณะตามปกติเป็นปกติจนกว่าละคลายอยากทำ
เพราะอยากทำเมื่อไหร่เป็นกิเลสเมื่อนั้นแค่เห็นดับไป3ขณะ
อวิชชาก็สะสมแล้วเอาอดีตที่ดับไปแล้วกลับมาแก้ไม่ได้
มีแต่ต้องเพียรสะสมปัญญาเริ่มคิดถูกตามการฟังน๊า
ถ้าถามว่ารู้ได้ไงก็จิตเห็นสีและมี7ชวนะรู้เองได้หรือ
ต้องคิดถูกตามการฟังน๊าว่าตนไม่รู้มากขนาดไหน

เขาอาจจะเจอ บางสิ่งให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนมานะ



เพราะมันยังดูกระท่อนกระแท่น มีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่

นอกจากอ๊บซ์จะรู้อะไรมากกว่านี้ ... ^^

เก่งมาก..ที่ดูออก

และเห็นผิดก็คือเดี๋ยวนี้เองที่กำลังเห็นเป็นเราเห็นแต่
ตถาคตตรัสบอกตรงขณะเดี๋ยวนี้ว่าเห็นเป็นธัมมะ
เห็นเป็นเห็นเกิดแล้วดับทันทีเป็นเราจำผิดอยู่น๊า
เพราะความจริงคือเห็นเพียงสีดับหมดแล้วนะ
และกำลังเห็นผิดจำผิดวิปลาสคลาดเคลื่อน
ไม่ตรงสัจจะที่ตนกำลังมีคือไม่รู้ทุกอย่าง
ที่กำลังปรากฏว่ามีจำแต่อดีตสีที่มีรูปร่าง
เดี๋ยวนี้แหละที่กำลังขาดสุตมยปัญญา
จะไปรู้ความจริงตอนไหนเข้าใจไหมคะ555
กำลังอ่านกำลังเข้าใจคำที่อ่านคือปัญญารู้ชัดน๊า
พอคิดเองต่อมันผิดทันทีไงคะจึงควรเริ่มสะสมการฟัง
เพื่อเข้าใจตามที่กำลังดูที่กายใจตามรู้แจ้งชัดจริงๆต้องตรงปัจจุบันขณะไม่สงสัยน๊า

คำจริงทุกคำในภาษาที่ตนเข้าใจ
ต้องกำลังส่องให้เห็นความไม่รู้ที่มี
เดี๋ยวนี้ที่ไม่มีคือไม่ได้กำลังสะสมสุตะ
เพราะปัญญาเจตสิกเกิดเองไม่ได้ต้องเกิดคู่กับสติ
คือต้องกำลังระลึกตามเสียงคำวาจาสัจจะแล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
การฟังเพื่อเข้าใจถูกตามทีละน้อยไม่ทำให้จำผิดจากความจริงนะคะ

คุณโรส ...อะไรที่เกินกำลังของตน...ก็ปล่อยๆให้เขาคุยไปเถอะครับ...

ไม่พูดบ้าง..ก็ไม่มีใครว่า..

กระตุกให้รู้ตัวก็ยังเฉยๆอยู่งงด้วยแถมยังต่อว่า
แค่บอกความจริงให้เข้าใจถูกตามได้ทำได้แค่บอก
ส่วนจะทำตามที่คิดเองก็เห็นผิดไปเรื่อยๆใครจะช่วยได้

นั่นสิ่ ...

คุณโรส..เห็นเป็นการต่อว่า...ไม่เห็นเป็นสีแล้วหรือ?

เอ้....เอ่...

เออ ... เน๊อะ