วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 15:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำนองนี้

https://www.youtube.com/watch?v=jODtYWQhvWo

นึกออกไหม :b13: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คคห. คุณโรสทั้งหมดทั้งสิ้นจะออกแนวนี้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น

อ้างคำพูด:
Rosarin
ทุกขณะกำลังเกิด ดับ ตามเหตุตามปัจจัยเดี๋ยวนี้มีแล้ว โดยความเป็นอนัตตา เกิดแล้ว ไม่ได้เลือกให้เกิดได้

เองตามใจอยากได้

อยากให้เกิดแล้ว ไปทำ คือ ความเห็นผิด เพราะตนเองไม่ได้เห็นแค่สี ทำได้แค่คิดถูกตามคำสอนได้

viewtopic.php?f=1&t=55490&p=428481#p428481



ทุกขณะกำลัง เกิด ดับตามเหตุปัจจัย มันเป็นอนัตตา เห็นแค่สี ตามคำสอนตถาคตว่าไป :b13:

ถ้าถามว่า เห็นมันกำลังเกิดกำลังดับไหม ? เห็นความเป็นอนัตตาไหม ? ตอบ: ไม่รู้ไม่เห็น ก็ในเมื่อไม่รู้ไม่เห็นประจักษ์กับตนเอง ก็จึงเข้าสู่กระบวนการคิดฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านธรรม เป็นธรรมะในจินตนาการ ด้วยประการฉะนี้แล.

จบข่าว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คคห. คุณโรสทั้งหมดทั้งสิ้นจะออกแนวนี้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น

อ้างคำพูด:
Rosarin
ทุกขณะกำลังเกิด ดับ ตามเหตุตามปัจจัยเดี๋ยวนี้มีแล้ว โดยความเป็นอนัตตา เกิดแล้ว ไม่ได้เลือกให้เกิดได้

เองตามใจอยากได้

อยากให้เกิดแล้ว ไปทำ คือ ความเห็นผิด เพราะตนเองไม่ได้เห็นแค่สี ทำได้แค่คิดถูกตามคำสอนได้

viewtopic.php?f=1&t=55490&p=428481#p428481



ทุกขณะกำลัง เกิด ดับตามเหตุปัจจัย มันเป็นอนัตตา เห็นแค่สี ตามคำสอนตถาคตว่าไป :b13:

ถ้าถามว่า เห็นมันกำลังเกิดกำลังดับไหม ? เห็นความเป็นอนัตตาไหม ? ตอบ: ไม่รู้ไม่เห็น ก็ในเมื่อไม่รู้ไม่เห็นประจักษ์กับตนเอง ก็จึงเข้าสู่กระบวนการคิดฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านธรรม เป็นธรรมะในจินตนาการ ด้วยประการฉะนี้แล.

จบข่าว

:b12:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกขณะกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเดี๋ยวนี้มีแล้ว
โดยความเป็นอนัตตาเกิดแล้วไม่ได้เลือกให้เกิดได้เองตามใจอยากได้
อยากให้เกิดแล้วไปทำคือความเห็นผิดเพราะตนเองไม่ได้เห็นแค่สีทำได้แค่คิดถูกตามคำสอนได้


ดูคำตอบที่นี่

viewtopic.php?f=1&t=56647&p=428485#p428485

:b12:
ความจริงตามคำตถาคตคือหังแล้วคิดถูกตามได้
ไม่ใช่ไปทำให้เกิดความจริงเท่ากับพระพุทธเจ้าไง
ไม่เข้าใจหรือตถาคตมีได้1คนในจักรวาลนี้ที่รู้จริง
และทรงแสดงปัญญาของพระองค์เท่าใบไม้3ใบคือ
ทุกคำในพระไตรปิฎกปัญญาตนเองต้องคิอตรงตาม
ถ้าคิดไม่ตรงเขาเรียกว่าคดโกงเอาคำตถาคตไปใช้ทำด้วยความไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32: :b32:

viewtopic.php?f=1&t=55490&start=135
:b1:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงพระธรรมเทศนาให้คนที่ฟังเท่านั้นเข้าใจ
อ่านคือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับเป็นอนุสัยกิเลสที่นอนในจิตไหล
ออกมาตามความคิดตนเองที่จินตนาการไปตามสิ่งที่อ่านแล้วไงคะ
ไม่ได้กำลังฟังเพื่อสร้างปัญญาอยู่ตรงตามเสียงณปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงพระธรรมเทศนาให้คนที่ฟังเท่านั้นเข้าใจ
อ่านคือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับเป็นอนุสัยกิเลสที่นอนในจิตไหล
ออกมาตามความคิดตนเองที่จินตนาการไปตามสิ่งที่อ่านแล้วไงคะ
ไม่ได้กำลังฟังเพื่อสร้างปัญญาอยู่ตรงตามเสียงณปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้


อ้า...สุตมยปัญญา ไม่เอาแล้วหรอ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงพระธรรมเทศนาให้คนที่ฟังเท่านั้นเข้าใจ
อ่านคือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับเป็นอนุสัยกิเลสที่นอนในจิตไหล
ออกมาตามความคิดตนเองที่จินตนาการไปตามสิ่งที่อ่านแล้วไงคะ
ไม่ได้กำลังฟังเพื่อสร้างปัญญาอยู่ตรงตามเสียงณปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้
:b32: :b32: :b32:

ลองจินตนาการให้ตรงตามสิทำได้ไหม
จิตเห็นสีล้วน1สี
จิตได้ยินเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียง
จิตรู้กลิ่นทีละ1กลิ่น
จิตรับรสทีละ1รส
จิตรับกระทบสัมผัสทีละ1ความรู้สึกตรงๆ
จิตคิดนึกได้ตรงทีละ1พยางค์
ทั้งหมดข้างบนมันเกิดไม่พร้อมกันและดับไม่พร้อมกันจึงต้องเพียรฟังเพื่อรู้ตาม
ถ้าจิตแต่ละ1ไม่ดับจะไม่มีจิตขณะต่อไปเกิดต่อมันเกิดดับเองไม่ต้องทำรู้ยังมีแล้วไปทำเพื่อต้องการอะไร
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงพระธรรมเทศนาให้คนที่ฟังเท่านั้นเข้าใจ
อ่านคือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับเป็นอนุสัยกิเลสที่นอนในจิตไหล
ออกมาตามความคิดตนเองที่จินตนาการไปตามสิ่งที่อ่านแล้วไงคะ
ไม่ได้กำลังฟังเพื่อสร้างปัญญาอยู่ตรงตามเสียงณปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้
:b32: :b32: :b32:

ลองจินตนาการให้ตรงตามสิทำได้ไหม
จิตเห็นสีล้วน1สี
จิตได้ยินเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียง
จิตรู้กลิ่นทีละ1กลิ่น
จิตรับรสทีละ1รส
จิตรับกระทบสัมผัสทีละ1ความรู้สึกตรงๆ
จิตคิดนึกได้ตรงทีละ1พยางค์
ทั้งหมดข้างบนมันเกิดไม่พร้อมกันและดับไม่พร้อมกันจึงต้องเพียรฟังเพื่อรู้ตาม
ถ้าจิตแต่ละ1ไม่ดับจะไม่มีจิตขณะต่อไปเกิดต่อมันเกิดดับเองไม่ต้องทำรู้ยังมีแล้วไปทำเพื่อต้องการอะไร
:b32: :b32: :b32:

ฟังเพื่อเข้าใจความจริงถูกเกิดสัมมาตามคำสอนนะคะไม่ใช่ไปทำอย่างอื่นค่ะ
https://youtu.be/PgBFygIjLUo


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงพระธรรมเทศนาให้คนที่ฟังเท่านั้นเข้าใจ
อ่านคือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับเป็นอนุสัยกิเลสที่นอนในจิตไหล
ออกมาตามความคิดตนเองที่จินตนาการไปตามสิ่งที่อ่านแล้วไงคะ
ไม่ได้กำลังฟังเพื่อสร้างปัญญาอยู่ตรงตามเสียงณปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้
:b32: :b32: :b32:


ลองจินตนาการให้ตรงตามสิทำได้ไหม

จิตเห็นสีล้วน1สี
จิตได้ยินเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียง
จิตรู้กลิ่นทีละ1กลิ่น
จิตรับรสทีละ1รส
จิตรับกระทบสัมผัสทีละ1ความรู้สึกตรงๆ
จิตคิดนึกได้ตรงทีละ1พยางค์
ทั้งหมดข้างบนมันเกิดไม่พร้อมกันและดับไม่พร้อมกันจึงต้องเพียรฟังเพื่อรู้ตาม
ถ้าจิตแต่ละ1ไม่ดับจะไม่มีจิตขณะต่อไปเกิดต่อมันเกิดดับเองไม่ต้องทำรู้ยังมีแล้วไปทำเพื่อต้องการอะไร


นี่ไง จินตนาการ คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
ลองจินตนาการให้ตรงตามสิทำได้ไหม


ก็บอกแว้วว่า ให้คนที่นั่งฟังแม่สุจินพูด ร้อยคนร้อยความคิดร้อยจินตนาการ ฟังแล้วให้เขาเหล่านั้นวาดรูปผีในใจของแต่ละคนๆ ก็จะได้ผีร้อยแบบร้อยผี ซึ่งมีลักษณะต่างๆกันตามจินตนาการในใจของแต่ละคนๆ คณโรสก็ได้ผีอย่างหนึ่งแบบหนึ่ง เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ

ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า
แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้
ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ
ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น
ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ
บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ


ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ

ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น

ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ

บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง



นี่ฮากว่า

อ้างคำพูด:
ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


นั่นดิ ถึงได้ว่า ครั้งหนึ่ง นั่งฟังหลวงตามหาบัวเทศน์แล้วได้ฌาน 3 อิอิ ไม่ได้ทำ คือ ฟังเอา นี่คือความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่ง

ภาวนา คือ การทำให้มีให้เป็นขึ้นมา อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มีก็สร้างก็ทำก็ปฏิบัติก็ภาวนาให้มีให้เป็นขึ้นมา เช่น สติสัมปชัญญะ ยังไม่มีไม่เกิดก็ไปภาวนา ไปทำให้มันมีมันเป็นขึ้นมา

ไม่ใช่ทำเพื่อให้รู้เท่าพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ๆๆ

ถ้าคุณโรสคิดอย่างนี้ "ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ" พระอริยบุคคลก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า ผู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปสิ้นไปก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ


ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ

ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น

ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ

บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง



นี่ฮากว่า

อ้างคำพูด:
ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


นั่นดิ ถึงได้ว่า ครั้งหนึ่ง นั่งฟังหลวงตามหาบัวเทศน์แล้วได้ฌาน 3 อิอิ ไม่ได้ทำ คือ ฟังเอา นี่คือความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่ง

ภาวนา คือ การทำให้มีให้เป็นขึ้นมา อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มีก็สร้างก็ทำก็ปฏิบัติก็ภาวนาให้มีให้เป็นขึ้นมา เช่น สติสัมปชัญญะ ยังไม่มีไม่เกิดก็ไปภาวนา ไปทำให้มันมีมันเป็นขึ้นมา

ไม่ใช่ทำเพื่อให้รู้เท่าพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ๆๆ

ถ้าคุณโรสคิดอย่างนี้ "ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ" พระอริยบุคคลก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า ผู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปสิ้นไปก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า :b13:

Kiss
ยึดติดแต่อดีต
ไม่เข้าใจหรือไง
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้
ต้องอาศัยคิดตามการฟังคำสอน
ตรงขณะเดี๋ยวนี้คุณไม่เรียนทีละ1ทาง
คุณจะรู้สึกตัวตรงทางได้อย่างไรในเมื่อเดี๋ยวนี้
คุณมีครบแล้วทั้ง6ทางมีแล้วและกำลังเกิดดับเองตลอดเวลา
จะไปทำอะไรคะทุกคำในพระไตรปิฎกมีแล้วตรงกับที่ทุกคนกำลังมี
การฟังเพื่อระลึกตามถูกตัวตนตรงทางที่กำลังปรากฏให้รู้เดี๋ยวนี้ทันทีที่รู้ชัด1ตัวธัมมะ
ทุกอย่างก็ดับคนทั้งตัวแล้วคุณยังคิดจะไปทำอะไรนอกเหนือจากการฟังเพื่อรู้คิดถูกตามความเป็นจริง
ที่สภาวะธรรมตรงที่กายใจคุณกำลังมีกำลังดับหายจากตัวคุณไปด้วยความไม่รู้คิดตามตรงสิ่งที่คุณมีนั้นเอง
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ


ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ

ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น

ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ

บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง



นี่ฮากว่า

อ้างคำพูด:
ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


นั่นดิ ถึงได้ว่า ครั้งหนึ่ง นั่งฟังหลวงตามหาบัวเทศน์แล้วได้ฌาน 3 อิอิ ไม่ได้ทำ คือ ฟังเอา นี่คือความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่ง

ภาวนา คือ การทำให้มีให้เป็นขึ้นมา อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มีก็สร้างก็ทำก็ปฏิบัติก็ภาวนาให้มีให้เป็นขึ้นมา เช่น สติสัมปชัญญะ ยังไม่มีไม่เกิดก็ไปภาวนา ไปทำให้มันมีมันเป็นขึ้นมา

ไม่ใช่ทำเพื่อให้รู้เท่าพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ๆๆ

ถ้าคุณโรสคิดอย่างนี้ "ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ" พระอริยบุคคลก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า ผู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปสิ้นไปก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า :b13:

Kiss
ยึดติดแต่อดีต
ไม่เข้าใจหรือไง
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้
ต้องอาศัยคิดตามการฟังคำสอน
ตรงขณะเดี๋ยวนี้คุณไม่เรียนทีละ1ทาง
คุณจะรู้สึกตัวตรงทางได้อย่างไรในเมื่อเดี๋ยวนี้
คุณมีครบแล้วทั้ง6ทางมีแล้วและกำลังเกิดดับเองตลอดเวลา
จะไปทำอะไรคะทุกคำในพระไตรปิฎกมีแล้วตรงกับที่ทุกคนกำลังมี
การฟังเพื่อระลึกตามถูกตัวตนตรงทางที่กำลังปรากฏให้รู้เดี๋ยวนี้ทันทีที่รู้ชัด1ตัวธัมมะ
ทุกอย่างก็ดับคนทั้งตัวแล้วคุณยังคิดจะไปทำอะไรนอกเหนือจากการฟังเพื่อรู้คิดถูกตามความเป็นจริง
ที่สภาวะธรรมตรงที่กายใจคุณกำลังมีกำลังดับหายจากตัวคุณไปด้วยความไม่รู้คิดตามตรงสิ่งที่คุณมีนั้นเอง




ไม่ใช่ฮาธัมมดาทีนี้ฮาเร็มเบย

อ้างคำพูด:
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้


คุณโรส กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มโนกรรม นั่นแหละความคิด จิตก็ความคิด (ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต) ทำไมจะคิดเองไม่ได้ มันก็คิดของมันเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ


ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ

ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น

ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ

บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง



นี่ฮากว่า

อ้างคำพูด:
ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


นั่นดิ ถึงได้ว่า ครั้งหนึ่ง นั่งฟังหลวงตามหาบัวเทศน์แล้วได้ฌาน 3 อิอิ ไม่ได้ทำ คือ ฟังเอา นี่คือความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่ง

ภาวนา คือ การทำให้มีให้เป็นขึ้นมา อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มีก็สร้างก็ทำก็ปฏิบัติก็ภาวนาให้มีให้เป็นขึ้นมา เช่น สติสัมปชัญญะ ยังไม่มีไม่เกิดก็ไปภาวนา ไปทำให้มันมีมันเป็นขึ้นมา

ไม่ใช่ทำเพื่อให้รู้เท่าพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ๆๆ

ถ้าคุณโรสคิดอย่างนี้ "ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ" พระอริยบุคคลก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า ผู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปสิ้นไปก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า :b13:

Kiss
ยึดติดแต่อดีต
ไม่เข้าใจหรือไง
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้
ต้องอาศัยคิดตามการฟังคำสอน
ตรงขณะเดี๋ยวนี้คุณไม่เรียนทีละ1ทาง
คุณจะรู้สึกตัวตรงทางได้อย่างไรในเมื่อเดี๋ยวนี้
คุณมีครบแล้วทั้ง6ทางมีแล้วและกำลังเกิดดับเองตลอดเวลา
จะไปทำอะไรคะทุกคำในพระไตรปิฎกมีแล้วตรงกับที่ทุกคนกำลังมี
การฟังเพื่อระลึกตามถูกตัวตนตรงทางที่กำลังปรากฏให้รู้เดี๋ยวนี้ทันทีที่รู้ชัด1ตัวธัมมะ
ทุกอย่างก็ดับคนทั้งตัวแล้วคุณยังคิดจะไปทำอะไรนอกเหนือจากการฟังเพื่อรู้คิดถูกตามความเป็นจริง
ที่สภาวะธรรมตรงที่กายใจคุณกำลังมีกำลังดับหายจากตัวคุณไปด้วยความไม่รู้คิดตามตรงสิ่งที่คุณมีนั้นเอง




ไม่ใช่ฮาธัมมดาทีนี้ฮาเร็มเบย

อ้างคำพูด:
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้


คุณโรส กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มโนกรรม นั่นแหละความคิด จิตก็ความคิด (ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต) ทำไมจะคิดเองไม่ได้ มันก็คิดของมันเอง

:b32:
ดูคุณเขียนสิ...(จิตก็ความคิด)...มีที่ไหน
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละ1
คุณกรัชกายแสดงความคิดเห็นผิดไง
จิตคิดนึกไม่ใช่จิตเห็นไม่ใช่ตัวตนด้วย
ตลกมากเลยดื้อและไม่รอบคอบ55556
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2018, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่คือตัวอย่างของผู้ปฏิบัติทางจิต จับประเด็นให้ได้นะ สติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม มีคนสอนเขา แต่ตอนฝึกทำไม่เป็น เขาว่าอย่างนั้น (แต่เขาก็ทำภาวนานั่นแหละ มีเดินจงกรม กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน)

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน



เขาไม่ได้นั่งนับจิต 1 ขณะ มี 7 ชวนะ ถึงอยากนับก็นับไม่ได้ นับไม่ทัน ดังนั้น ธรรมะคุณโรสจึงเป็นธรรมะในจินตนาการ คิกๆๆ


ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ

ความจริงถูกตามคำสอนจริงๆตามนั้น

ตัวเองรู้ความจริงที่ตัวเองมีตรงกะคำไหนต้องรู้สึกตัวตรงคำนั้นเดี๋ยวนี้ทันทีที่คิดได้ทันตรงปัจจุบันขณะ

บอกแล้วว่าต้องรู้ตามปกติวิสัยตรงสัจจะทีละ1คำตรงวิสยรูป7คือสติปัญญาตรง1สัจจะของตนเองไง



นี่ฮากว่า

อ้างคำพูด:
ฮาตรึมเลยคำสอนของพระพุทธเจ้า

แสดงไว้โดยละเอียดเพื่อให้คิดถูกตามได้

ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ


นั่นดิ ถึงได้ว่า ครั้งหนึ่ง นั่งฟังหลวงตามหาบัวเทศน์แล้วได้ฌาน 3 อิอิ ไม่ได้ทำ คือ ฟังเอา นี่คือความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่ง

ภาวนา คือ การทำให้มีให้เป็นขึ้นมา อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มีก็สร้างก็ทำก็ปฏิบัติก็ภาวนาให้มีให้เป็นขึ้นมา เช่น สติสัมปชัญญะ ยังไม่มีไม่เกิดก็ไปภาวนา ไปทำให้มันมีมันเป็นขึ้นมา

ไม่ใช่ทำเพื่อให้รู้เท่าพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ๆๆ

ถ้าคุณโรสคิดอย่างนี้ "ไม่ใช่ไปทำเพื่อรู้เท่าพระพุทธเจ้าไงคะ" พระอริยบุคคลก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า ผู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปสิ้นไปก็ไม่มี นอกจากพระพุทธเจ้า :b13:

Kiss
ยึดติดแต่อดีต
ไม่เข้าใจหรือไง
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้
ต้องอาศัยคิดตามการฟังคำสอน
ตรงขณะเดี๋ยวนี้คุณไม่เรียนทีละ1ทาง
คุณจะรู้สึกตัวตรงทางได้อย่างไรในเมื่อเดี๋ยวนี้
คุณมีครบแล้วทั้ง6ทางมีแล้วและกำลังเกิดดับเองตลอดเวลา
จะไปทำอะไรคะทุกคำในพระไตรปิฎกมีแล้วตรงกับที่ทุกคนกำลังมี
การฟังเพื่อระลึกตามถูกตัวตนตรงทางที่กำลังปรากฏให้รู้เดี๋ยวนี้ทันทีที่รู้ชัด1ตัวธัมมะ
ทุกอย่างก็ดับคนทั้งตัวแล้วคุณยังคิดจะไปทำอะไรนอกเหนือจากการฟังเพื่อรู้คิดถูกตามความเป็นจริง
ที่สภาวะธรรมตรงที่กายใจคุณกำลังมีกำลังดับหายจากตัวคุณไปด้วยความไม่รู้คิดตามตรงสิ่งที่คุณมีนั้นเอง




ไม่ใช่ฮาธัมมดาทีนี้ฮาเร็มเบย

อ้างคำพูด:
ไม่ได้เห็นสีคิดเองไม่ได้


คุณโรส กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มโนกรรม นั่นแหละความคิด จิตก็ความคิด (ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต) ทำไมจะคิดเองไม่ได้ มันก็คิดของมันเอง

:b32:
ดูคุณเขียนสิ...(จิตก็ความคิด)...มีที่ไหน
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละ1
คุณกรัชกายแสดงความคิดเห็นผิดไง
จิตคิดนึกไม่ใช่จิตเห็นไม่ใช่ตัวตนด้วย
ตลกมากเลยดื้อและไม่รอบคอบ55556



อ้างคำพูด:
ดูคุณเขียนสิ...(จิตก็ความคิด)...มีที่ไหน

ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละ1


คุณโรสกำลังนำความคิดความเห็นของตัวเองใส่ปากพระพุทธเจ้านะขอรับ "จิตแต่ละ 1" หนึ่งอะไรหรอ 1 ในตองอูหรือยังไง คิกๆๆ

เพราะคุณโรสเข้าใจยังงั้นนั่นเองแหละ ถึงได้ตามหาจิตกันให้วุ่นวาย จะพาไปดูสติปัฏฐานข้อ จิตตานุปัสสนา มันก็ความคิดนั่นเอง

จิต แปลตรงตัว ความคิด นั่นเองแล

เอางี้ คุณโรสคิดนึกถึงกรัชกายสิ นึกหน้าออกไหม ไม่ออก เพราะไม่เคยเจอหน้ากันเลยใช่ไหม ได้แต่คิดฟุ้งไปว่า กรัชกายนี่ปากจัดฉิบhาย อิอิ หน้าตาเป็นยังไงฟ่ะ นึกหน้าไม่ออก แต่ถ้าเคยเจอะเจอกันเห็นหน้ากันก็นึกหน้าได้ ถูกไหม (ไม่ต้องไปแยกเป็นเจตสิกหรอก เพราะมันเกิดร่วมกันอยู่ในนั้น)

เพราะฉะนั้น มนุษย์ทุกคนก็ใช้จิตนี่แหละคิดทำนั่นทำนี่ คิดดีคิดร้าย เรียกเป็นศัพท์ทางธรรมว่า มโนกรรม ฝ่ายกุศล,ฝ่ายอกุศล

ถ้าคิดแรงมันล้นออกมาทางกาย ก็เป็นกายกรรม เช่น ตบหน้า เตะปาก นี่กายกรรม

ถ้าพูดด่า พูดดี นี่เป็นวจีกรรม ฝ่ายอกุศล ฝ่ายกุศลแล้วแต่

มันก็เรื่องในชีวิตประวันนี่เองคุณโรส

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร