วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ย. 2025, 01:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว




FB_IMG_1531452611128.jpg
FB_IMG_1531452611128.jpg [ 34.19 KiB | เปิดดู 3968 ครั้ง ]
มงคล ที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
มงคลชีวิต 38 ประการ ฉบับทางก้าวหน้า

ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์
เมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมออกดอกออกผลให้แก่เจ้าของฉันใด
คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
เมื่อมีโอกาสย่อมตอบแทนคุณพ่อแม่และผู้มีอุปการคุณฉันนั้น
ทองคำแท้หรือไม่ โดนไฟก็รู้
คนดีแท้หรือไม่ ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่
ถ้าดีจริงต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยงแสดงว่าไม่ดีจริง
เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊

พระคุณของพ่อแม่

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด

ยังมีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ ยอดเขาพระสุเมรุ แทนปากกา น้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่ จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษร ภูเขาสึกกร่อนจนหมด น้ำในมหาสมุทรเหือดแห้ง ก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด

บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ

๑. เป็นต้นแบบทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลาย ในโลกมีค่าสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ก้อนดินเหนียวธรรมดา ถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตา ก็ทำให้ดินก้อนนั้นมีค่าขึ้นมา เป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้ หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีก เช่นแบบเป็นพระพุทธรูป ดินเหนียวก้อนนี้ก็จะทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น ผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่า คุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแบบที่พิมพ์นั่นเอง

ในทำนองเดียวกัน การเกิดของสัตว์ เช่นเป็น ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ แม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่ โชคดีที่เราได้เกิดเป็นคน ได้โครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย เหมาะในการ ทำความดีทุกประการ เราจึงสามารถใช้ความรู้ความสามารถประกอบคุณความดีได้เต็มที่ ทั้งนี้ก็เพราะเรามีพ่อแม่เป็นต้นแบบทางกายให้นั่นเอง

๒. เป็นต้นแบบทางใจ ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ฟูมฟัก ทะนุถนอม อบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาท ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก

พระคุณพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เรา ก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้ว ยิ่งท่านอบรมเลี้ยงดูเรามา เป็นต้นแบบทางใจให้ด้วย ก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกอนันต์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b1:
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นเรื่องการบวชทดแทนคุณพ่อแม่
ในชาติหนึ่งแม้พระเทวทัตยังเคยเกิดเป็นบิดาของพระสมณโคดม
การออกบวชคือการปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิกขาบทอย่างเคร่งครัด
มีปกติทำผิดตลอดต้องปลงอาบัติตลอดไม่ใช่บุญเป็นการแอบอ้างบวชค่ะ
เพราะไม่ทำตามสิกขาบทแปลว่าไม่สามารถเป็นนักบวชได้คือการเป็นพุทธบริษัท
มี4เหล่า2ประเภทต้องเลือกให้ถูกต้องเพราะชาวบ้านก็บรรลุธรรมถึงพระอรหันต์ได้
แต่เมื่อถึงอรหันต์แล้วถ้าไม่บวชครองจีวรต้องเข้านิพพานทิ้งร่างกายทันทีเข้าใจไหมคะ
คฤหัสถ์หรือฆราวาสคือชาวบ้านมีชายคืออุบาสกและหญิงคืออุบาสิกาบรรลุถึงอนาคามีได้ไม่ต้องบวช
ส่วนบรรพชิตบวชประกาศตนว่าสละบ้านเรือนไม่ทำแบบคฤหัสถ์เพื่อทำตามสิกขาบททำไม่ได้ให้ลาสิกขา
บรรพชิตมีเพศชายคือภิกษุต้องมีสิกขาบทครบ227และเพศหญิงคือภิกษุณีต้องมีสิกขาบทครบ311ข้อ
สมัยพุทธกาลเขาเข้าใจคำสอนพ่อแม่ไม่ให้บวชเพราะไม่มีคนสืบสกุลค่ะควรศึกษาคำสอนให้เข้าใจก่อน
ส่วนแม่ชีคืออุบาสิกาค่ะไม่ใช่นักบวชและไม่มีสิกขาบทที่ต้องอาบัติแต่แม่ชีไปอยู่วัดนั้นไม่เข้าใจคำสอน
ให้ลูกบวชคิดดูสิพระพุทธเจ้าเคยเป็นลูกพระเทวทัตทำไมพ่อในอดีตชาติอย่างพระเทวทัตไม่ขึ้นสวรรค์
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว




20180715_112001.png
20180715_112001.png [ 354.45 KiB | เปิดดู 3855 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
ในชาติหนึ่งแม้พระเทวทัตยังเคยเกิดเป็นบิดาของพระสมณโคดม

ช่วยหาที่อ้างอิงหน่อยน๊าอยากรู้จังน้องพิมพ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
ในชาติหนึ่งแม้พระเทวทัตยังเคยเกิดเป็นบิดาของพระสมณโคดม

ช่วยหาที่อ้างอิงหน่อยน๊าอยากรู้จังน้องพิมพ์

ฟังจากบ้านธัมมะค่ะลองโทรเข้าไปถามข้อมูลนะคะ
เพราะศึกษามาจากการฟังล้วนๆมาจากคลิปบ้านธัมมะค่ะ
http://www.dhammahome.com


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
ในชาติหนึ่งแม้พระเทวทัตยังเคยเกิดเป็นบิดาของพระสมณโคดม

ช่วยหาที่อ้างอิงหน่อยน๊าอยากรู้จังน้องพิมพ์

ฟังจากบ้านธัมมะค่ะลองโทรเข้าไปถามข้อมูลนะคะ
เพราะศึกษามาจากการฟังล้วนๆมาจากคลิปบ้านธัมมะค่ะ
http://www.dhammahome.com


อ๋อ...บ้านยายจินนี่เองถอนตัวเถอะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 22:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




20180715_115242.png
20180715_115242.png [ 329.52 KiB | เปิดดู 3855 ครั้ง ]
ลุงหมาน เขียน:
Rosarin เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
ในชาติหนึ่งแม้พระเทวทัตยังเคยเกิดเป็นบิดาของพระสมณโคดม

ช่วยหาที่อ้างอิงหน่อยน๊าอยากรู้จังน้องพิมพ์

ฟังจากบ้านธัมมะค่ะลองโทรเข้าไปถามข้อมูลนะคะ
เพราะศึกษามาจากการฟังล้วนๆมาจากคลิปบ้านธัมมะค่ะ
http://www.dhammahome.com


อ๋อ...บ้านยายจินนี่เองถอนตัวเถอะ

:b12:
เห็นคนสัตว์วัตถุคือกิเลสที่จิตตนคลาดเคลื่อน
ทิ้งความเห็นผิดของตนเพื่อตามรู้ความจริงตรงๆ
จากการฟังเพื่อตามรู้สิ่งที่มีแล้วทุกขณะตรงสัจจะ
ที่กายใจตนกำลังมีและต้องมีรูปพิเศษที่ลืมตาเห็นด้วย
จะได้แยกแยะถูกผิดดีขั่วได้ชัดเจนคือตื่นรู้เบิกบานในธรรม
ทีละคำตรงปรมัตถ์ที่กายใจตนกำลังมีและสะสมจริงได้ทีละ1ขณะ
ปัญญาเจตสิกอาจเกิดได้เพียง1ในล้านของอกุศลจิตของตนนั่นเองค่ะ
เพราะไม่มีคนมีแต่เหตุปัจจัยที่กายตนกระทบด้วยความไม่รู้เพราะไม่พึ่งวิสยรูป7+ฟังพระพุทธพจน์ทางหู
onion onion onion
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 06:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว




20180715_112615.png
20180715_112615.png [ 386.76 KiB | เปิดดู 3865 ครั้ง ]
ทำไมคุยกันมันไม่เป็นเรื่องเดียวกันเลยล่ะ
จะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ถามจริงๆน่ะคุณพิมพ์
ยังต้องกินยารักษาอยู่ไหมครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ทำไมคุยกันมันไม่เป็นเรื่องเดียวกันเลยล่ะ
จะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ถามจริงๆน่ะคุณพิมพ์
ยังต้องกินยารักษาอยู่ไหมครับ

Kiss
คนบนโลกที่คิดว่าตนเองปกติสำคัญตนมีความยึดมั่นถือมั่นในบัญญัติคำต่างๆจริงจังยิ่งกว่าอะไร
แต่อริยบุคคลรู้ความแตกต่างของโลกตามปกติเป็นปกติว่าโลกยึดถืออย่างไรเพราะเคยเป็นมาก่อน
แสดงว่าอริยบุคคลรู้ละวางบัญญัติคำตามเป็นจริงคือรู้ว่าไหนคือสมมุติไหนคือจริงคือรู้ตรงปรมัตถ์แล้ว
จะให้กลับไปเป็นผู้หลงยึดถืออย่างที่คนบนโลกไม่เห็นความต่างหาได้ไม่เข้าใจไหมคะรู้จริงไม่ใช่แค่จำได้
:b12: :b16:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว




20180715_120755.png
20180715_120755.png [ 384.34 KiB | เปิดดู 3859 ครั้ง ]
พระอริยะบุคคลจะต้องเจริญมรรค ๘ ให้ได้ก่อนไม่ใช่คิดจะเป็นก็เป็นได้
อย่าไปนึกเอาเองว่าตัวเองใช่

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
พระอริยะบุคคลจะต้องเจริญมรรค ๘ ให้ได้ก่อนไม่ใช่คิดจะเป็นก็เป็นได้
อย่าไปนึกเอาเองว่าตัวเองใช่

rolleyes
ถูกต้องค่ะไม่ว่าปัญญาหรือมรรคหรือฌาน
แต่ละตัวธัมมะจะเกิดไปในทางเดียวกันตามลำดับ
ไม่มีการข้ามขั้นเช่นปัญญาเจริญขึ้นจากการฟังคำสอน123...
ฌานเจริญขึ้นจากฌาน123...มรรคก็ต้องเริ่มที่สัมมาทิฏฐิคือปัญญาคือ
ความรู้ถูกเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามคำสอนจึงขาดการฟังคำสอนไม่ได้
เพราะคำสอนคิดเองผิดทันทีต้องอาศัยฟังการสาธยายให้เข้าใจตามลำดับเพื่อรู้ตามได้
:b12:
:b4: :b4:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 15 ก.ค. 2018, 20:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
พระอริยะบุคคลจะต้องเจริญมรรค ๘ ให้ได้ก่อนไม่ใช่คิดจะเป็นก็เป็นได้
อย่าไปนึกเอาเองว่าตัวเองใช่

rolleyes
ถูกต้องค่ะไม่ว่าปัญญาหรือมรรคหรือฌาน
แค่ละตัวธัมมะจะเกิดไปในทางเดียวกันตามลำดับ
ไม่มีการข้ามขั้นเช่นปัญญาเจริญขึ้นจากการฟังคำสอน123...
ฌานเจริญขึ้นจาก123...มรรคก็ต้องเริ่มที่สัมมาทิฏฐิคือปัญญาคือ
ความรู้ถูกเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามคำสอนจึงขาดการฟังคำสอนไม่ได้
เพราะคำสอนคิดเองผิดทันทีต้องอาศัยฟังการสาธยายให้เข้าใจตามลำดับเพื่อรู้ตามได้


พูดเอาทั้งเพทั้งระยองเกาะเสม็ด :b32:

พูดน่ะมันพูดง่าย แต่ทำมันยาก มรรคนั่นมรรคนี่ ผลนี่ผลนั่น ไหนบอกวิธีทำสิเอ้า สองคนช่วยกันเอ้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
พระอริยะบุคคลจะต้องเจริญมรรค ๘ ให้ได้ก่อนไม่ใช่คิดจะเป็นก็เป็นได้
อย่าไปนึกเอาเองว่าตัวเองใช่

rolleyes
ถูกต้องค่ะไม่ว่าปัญญาหรือมรรคหรือฌาน
แค่ละตัวธัมมะจะเกิดไปในทางเดียวกันตามลำดับ
ไม่มีการข้ามขั้นเช่นปัญญาเจริญขึ้นจากการฟังคำสอน123...
ฌานเจริญขึ้นจาก123...มรรคก็ต้องเริ่มที่สัมมาทิฏฐิคือปัญญาคือ
ความรู้ถูกเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามคำสอนจึงขาดการฟังคำสอนไม่ได้
เพราะคำสอนคิดเองผิดทันทีต้องอาศัยฟังการสาธยายให้เข้าใจตามลำดับเพื่อรู้ตามได้


สองคนช่วยกันนี่ เขาเป็นอะไร ไปต่อยังไง


อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิแล้วเห็นภาพหัวกะโหลกบ้าง โครงกระดูกบ้าง ทำให้รู้สึกกลัว ทำไมถึงมีภาพเหล่านี้มาปรากฏ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
พระอริยะบุคคลจะต้องเจริญมรรค ๘ ให้ได้ก่อนไม่ใช่คิดจะเป็นก็เป็นได้
อย่าไปนึกเอาเองว่าตัวเองใช่

rolleyes
ถูกต้องค่ะไม่ว่าปัญญาหรือมรรคหรือฌาน
แต่ละตัวธัมมะจะเกิดไปในทางเดียวกันตามลำดับ
ไม่มีการข้ามขั้นเช่นปัญญาเจริญขึ้นจากการฟังคำสอน123...
ฌานเจริญขึ้นจากฌาน123...มรรคก็ต้องเริ่มที่สัมมาทิฏฐิคือปัญญาคือ
ความรู้ถูกเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามคำสอนจึงขาดการฟังคำสอนไม่ได้
เพราะคำสอนคิดเองผิดทันทีต้องอาศัยฟังการสาธยายให้เข้าใจตามลำดับเพื่อรู้ตามได้


สองคนช่วยกันนี่ เขาเป็นอะไร ไปต่อยังไง


อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิแล้วเห็นภาพหัวกะโหลกบ้าง โครงกระดูกบ้าง ทำให้รู้สึกกลัว ทำไมถึงมีภาพเหล่านี้มาปรากฏ

:b12:
ไม่มีใครช่วยใครได้...สิ่งไหนถูกก็บอกว่าถูก...สิ่งไหนผิดก็ต้องบอกได้
ถ้าไม่เข้าใจก็บอกไม่ได้...เวลาลืมตาเห็นสิ่งที่กำลังมีจิตต้องมั่นคงใช้สมาธิมาก
ปกติลืมตาเห็นมีจิตเห็นคือมีจักขุวิญญาณจิตน่ะรู้แจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาที่มีตาไม่บอด
แล้วที่ไปหลับตาไม่มีจักขุวิญญาณไม่มีรูปพิเศษที่จะแยกแยะสิ่งที่ปรากฏทางตาคือความหลงผิดนะคะ
ลืมตาดูจึงมีจิตเห็นก็หลงคิดไปตามนิมิตที่ปรากฏตอนลืมตาหลงผิดไม่เข้าใจตามคำสอนแล้วยังไปทำหลับ
หาจิตเห็นจะเจอไหมคะแค่หลับตาสิ่งที่เห็นทางตาก็ไม่่มีปรากฏเลยหลงคิดว่ายังมีเหมือนลืมตาจริงไหมคะ
โลกคือสิ่งที่เกิดดับมันว่างเปล่าจากตัวตนจริงๆหลับเป็นจิตคิดนึกไม่มีจิตเห็นดังนั้นหลับตาคิดไปตามนิมิต
แปลว่าลืมตาก็ไม่รู้หลับตาก็ไม่รู้แล้วจะรู้จักกิเลสได้อย่างไรในเมื่อมีกิเลสคือมีความไม่รู้ความจริงทั้งหมด
ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตาก็แยกไม่ออกว่าอะไรคือบัญญัติอะไรคือปรมัตถ์แล้วจะระลึกถูกตรงธัมมะได้ไหม
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 05:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8595


 ข้อมูลส่วนตัว




20180716_063847.png
20180716_063847.png [ 408.73 KiB | เปิดดู 3836 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
สองคนช่วยกันนี่ เขาเป็นอะไร ไปต่อยังไง


อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิแล้วเห็นภาพหัวกะโหลกบ้าง โครงกระดูกบ้าง ทำให้รู้สึกกลัว ทำไมถึงมีภาพเหล่านี้มาปรากฏ


เรื่องเห็นนั่นเห็นนี่เป็นเรื่องจิ๊บๆ มันเป็นเรื่องปรกติธรรมดา
ไม่ใช่ของวิเศษอะไรตรงไหนเลย ไม่ต้องไปตื่นเต้น
เกิดขึ้นกันแทบทุกคน ที่เป็นอย่างนั้นเพราะจิตเขาถูกบังคับ
ให้ตั้งมั่นในอารมณ์เดียวที่เรียกว่าเอกัคตา

ดังนั้นจิตเป็นธรรมชาติที่ดิ้นรนหาอารมณ์ใหม่ๆ ทิ้งอารมณ์เก่าเสมอ
เมื่อจิตถูกบังคับให้ตั่งมั่นในอารมณ์เดียวเขาก็ไปสร้างอารมณ์ใหม่ขึ้น
ดังจะเห็นเป็นนั่นเป็นนี่หลากหลายมาก บางคนไปเห็นนรกบ้างสวรรค์บ้าง
การเป็นเช่นนั้นเป็นจริง แต่มันไม่ใช่เพราะอิทธิฤทธิอะไรเลย
แต่เมื่อบางคนเห็นภาพที่เห็นเช่นนั้นจริง อาจเข้าใจว่าเขาได้ฌานบ้าง ได้อภิญญา
หรืออาจเข้าใจว่าสำเร็จแล้ว ที่นี้การเห็นแบบนั้นเป็นสิ่งที่ตนไม่เคย
เห็นมาก่อนเลย ก็อาจไปเที่ยวคุยเที่ยวสั่งสอน คืออยากอวดว่างั่นเถอะ

แต่จะมีไหมที่คนเขาจะเชื่อหรือเห็นตามที่บอกกล่าว นอกเสียจากคนที่มีประสบการณ์
และคนที่มีประสบการณ์ในนัยยะนี้จะมีสักกี่คน การที่นำมาเล่าให้คนอื่น
เพื่อคนอื่นเชื่อยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำร้ายตัวเองกว้างขวางมากขึ้น
เท่านั้น สิ่งเหล่านี้มักเกิดกับผู้ไปเจริญสมาธิเอาเอง หรือขาดการ
ศึกษามาให้เข้าใจมาก่อนจากครูบาอาจารย์ที่มีประสบการณ์จริงมาก่อน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าไงคุณลุงหมาน :b12: คุณลุงทำแบบไหน ปฏิบัติแบบใดมา :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร