วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 17:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 20:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


หลายล็อคอินมีความรูัปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวก(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)
มีความรู้ของพ่อแม่ครูบาอาจารณ์ของวัดสายป่า สายเมือง และความรู้ของพำระไตรปิฎกทั้งนั้น

แต่ก็ไม่เห็นจิตจะวูบเหมือนคนตกต้นไม้ หูช้างกระดิก เห็นทิวเขาเป็นลายเส้นลางๆ เห็นวัดวาอารามละลายไปต่อหน้า เห็นร่างกายแยะแตกออกไปเป็นดินน้ำลมไฟ

แสดงว่ายิ่งรู้มาก ยิ่งจะกลายเป็นพระโพธิรัก หรือเปล่า ที่สอนพระอื่นสำเร็จอรหันต์มาต้อง7 พระพุทธเจ้าแต่ตัวเองไม่สำเร็จอะไรเลย ต้องให้เณรมาสอน ถึงสำเร็จได้ เป็นที่มาของคำว่า ใบลานเปล่า ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
หลายล็อคอินมีความรูัปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวก(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)
มีความรู้ของพ่อแม่ครูบาอาจารณ์ของวัดสายป่า สายเมือง และความรู้ของพำระไตรปิฎกทั้งนั้น

แต่ก็ไม่เห็นจิตจะวูบเหมือนคนตกต้นไม้ หูช้างกระดิก เห็นทิวเขาเป็นลายเส้นลางๆ เห็นวัดวาอารามละลายไปต่อหน้า เห็นร่างกายแยะแตกออกไปเป็นดินน้ำลมไฟ

แสดงว่ายิ่งรู้มาก ยิ่งจะกลายเป็นพระโพธิรัก หรือเปล่า ที่สอนพระอื่นสำเร็จอรหันต์มาต้อง7 พระพุทธเจ้าแต่ตัวเองไม่สำเร็จอะไรเลย ต้องให้เณรมาสอน ถึงสำเร็จได้ เป็นที่มาของคำว่า ใบลานเปล่า ?



ปฏิเวธครับ ไม่ใช่ปฏิเวก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปริยัติ พุทธพจน์อันจะพึงเล่าเรียน, สิ่งที่ควรเล่าเรียน (โดยเฉพาะหมายเอาพระบาลีคือพระไตรปิฎก พุทธพจน์หรือพระธรรมวินัย) การเล่าเรียนพระธรรมวินัย


ปฏิบัติ ประพฤติ, กระทำ ฯลฯ


ปฏิเวธ เข้าใจตลอด, แทงตลอด, ตรัสรู้, รู้ทะลุปรุโปร่ง ลุล่วงผลปฏิบัติ


สัทธรรม ธรรมที่ดี, ธรรมที่แท้, ธรรมของคนดี, ธรรมของสัตบุรุษ มี สัทธรรม ๓ คือ

๑. ปริยัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งที่พึงเล่าเรียน ได้แก่ พุทธพจน์

๒. ปฏิบัติสัทธรรม สัทธรรม คือ สิ่งพึงปฏิบัติ ได้แก่ ไตรสิกขา

๓. ปฏิเวธสัทธรรม สัทธรรมคือผลที่พึงบรรลุ ได้แก่ มรรค ผล และนิพพาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 01:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
แต่ก็ไม่เห็นจิตจะวูบเหมือนคนตกต้นไม้ หูช้างกระดิก เห็นทิวเขาเป็นลายเส้นลางๆ เห็นวัดวาอารามละลายไปต่อหน้า เห็นร่างกายแยะแตกออกไปเป็นดินน้ำลมไฟ


จำมาจากไหน ครับ อาการอย่างนั้น คือบรรลุธรรม

บรรลุ คืออะไร
ธรรม คืออะไร

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 05:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
หลายล็อคอินมีความรูัปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวก(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)
มีความรู้ของพ่อแม่ครูบาอาจารณ์ของวัดสายป่า สายเมือง และความรู้ของพำระไตรปิฎกทั้งนั้น

แต่ก็ไม่เห็นจิตจะวูบเหมือนคนตกต้นไม้ หูช้างกระดิก เห็นทิวเขาเป็นลายเส้นลางๆ เห็นวัดวาอารามละลายไปต่อหน้า เห็นร่างกายแยะแตกออกไปเป็นดินน้ำลมไฟ

แสดงว่ายิ่งรู้มาก ยิ่งจะกลายเป็นพระโพธิรัก หรือเปล่า ที่สอนพระอื่นสำเร็จอรหันต์มาต้อง7 พระพุทธเจ้าแต่ตัวเองไม่สำเร็จอะไรเลย ต้องให้เณรมาสอน ถึงสำเร็จได้ เป็นที่มาของคำว่า ใบลานเปล่า ?

ชื่อกระทู้...ทำไมล็อคอินในลานธรรมจักร ถึงบรรลุธรรมกันไม่ได้เลย

แล้ว...รู้ได้ยังงัย...ละพี่ :b32: :b32:

อ้างคำพูด:
"แต่ก็ไม่เห็นจิตจะวูบเหมือนคนตกต้นไม้ หูช้างกระดิก เห็นทิวเขาเป็นลายเส้นลางๆ เห็นวัดวาอารามละลายไปต่อหน้า เห็นร่างกายแยะแตกออกไปเป็นดินน้ำลมไฟ"

ไปจำมาจากไหน... :b32: :b32: :b32:

เอาเป็นว่า....
1. อย่าประมาทบุคคล..ในเรื่องการบรรลุธรรม.ครับ..
ตราบใดที่ผู้นั้นยังมีความเพียรปฏิบัติได้ตรงอยู่...โอกาสก็มีได้เสมอ

2. อย่าไปจำท่าทาง..อาการ..การบรรลุธรรมอะไรอย่างนั้น...เลยครับ...มันจะเป็นการยึดโดยไม่รู้ตัว..สุดท้ายจะได้เจอถูกหลอกง่ายๆ..เดียวได้เจอ.".ฉันเห็นกำแพง..ศาลา..ประตู..ละลายไปต่อหน้าต่อตา.."..ได้ไหว้ประลก..ประหลกละทีนี้... :b32: ..หากอดงมงายไม่ได้ก็มาไหว้ผมนี้ :b13: :b13: :b13:

ไปที่ไหน..ก็ให้ดูที่..ศีล..สมาธิ..ปัญญา...ก็พอ..ดูว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ..ก็พอ..จะบรรลุธรรมมั้ย..มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวเขา...อย่าไปบ้าตัดสินใครบรรลุหรือไม่บรรลุ..คนไปตัดสินจะกลายเป็นบ้าไป

3. อย่าโทษ..พระโปฐิลเถระ..ให้เลิกยกตัวอย่างของท่านเพื่อไปกระแหนะกระแหน่ใคร..ก็ขนาดพระพุทธเจ้าทั้ง 6 พระองค์ก่อนหน้านี้หรือพระองค์ปัจจุบัน..ยังไม่กล่าวโทษอะไรท่านเลย..แล้วเราเป็นใคร.? ( แต่ก่อนกระผมก็เป็น..คือยกกรณีของท่าน..มาท้วงติง...ในจิตลึกๆมันยกมาว่าเขาทั้งนั้นแหละ)..

ในกรณีของพระโปฐิลเถระ...ให้พิจารณาในแง่ของการตั้งจิตอธิฐาน..ครับ..จะเห็นว่า..จะบรรลุเร็วหรือช้า..ก็อยู่ที่การอธิฐานเหมือนกัน...ตอนอธิฐานนั้นเราอธิฐานตามที่เราชอบใช่มั้ยละ...สมัยพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง..โปฐิลเถระท่านชอบพระองค์หนึ่งก็ตั้งจิตอธิฐานขอให้เป็นอย่างนี้บ้าง...ก็เลยเป็นอย่างนี้คือเก่งชำนาญ...

นี้ถ้าชอบแบบพระปัจเจก...หรือชอบแบบอัครสาวก..ก็ช้าไป สองอสงไข แสนกัป.
และถ้าชอบแบบพระพุทธเจ้า...ก็ช้าไปโน้นแหละ...อย่างเร็วที่สุด...แบบปัญญาธิกะ..สะสมบารมี3ขั้นก็ปาไป 20 อสงไขยโน้น

จะเห็นว่าชอบแบบไหนก็อธิฐานแบบนั้น..และความชอบนี้มันก็ห้ามกันไม่ได้นี้นา..จริงมั้ย?

ดังนั้น..จึงไม่ใช่เรื่องอะไรของเราที่จะไปโทษใครต่อใครว่าทำไมยังไม่บรรลุธรรม...

เอาตัวให้รอดก็พอแล้วมั้ง..คุณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มรรค 1. ทาง, หนทาง, 2. มรรค ว่าโดยระดับการการให้สำเร็จกิจ คือ ทางอันให้ถึงความเป็นอริยบุคคลแต่ละขั้น, ญาณที่ทำให้ละโยชน์ได้ขาด เป็นชื่อแห่งโลกุตรธรรม คู่ กับ ผล


มรรคจิต จิตที่สัปยุตด้วยมรรค


ผล สิ่งที่เกิดจากเหตุ, ประโยชน์หรือโทษที่ได้รับสนองหรือตอบแทน ฯลฯ


ผลญาณ ญาณในอริยผล, ญาณที่เกิดขึ้นในลำดับ ต่อจากมัคคญาณและเป็นผลแห่งมัคคญาณนั้น ซึ่งผู้บรรลุแล้วได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลขั้นนั้นๆ


นิพพาน การดับกิเลสและกองทุก์ เป็นโลกุตรธรรม


นิรฺวาณมฺ ความดับ เป็นคำสันสกฤต เทียบกับภาษาบาลี ก็ได้แก่ศัพท์ว่า นิพพาน นั่นเอง ปัจจุบันนิยมใช้เพียงว่า นิรวาณ กับ นิรวาณะ


นิโรธ ความดับทุกข์ คือดับตัณหาได้สิ้นเชิง, ภาวะปลอดทุกข์เพราะไม่มีทุกข์ที่จะเกิดขึ้นได้ หมายถึงพระนิพพาน


นิพพานธาตุ ภาวะแห่งนิพพาน ฯลฯ

บรรลุ ถึง, สำเร็จ

สัจฉิกรณะ การทำให้แจ้ง, การประสบ, การเข้าถึง, การบรรลุ เช่น ทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน คือ บรรลุนิพพาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมช. ท่านใดซึ่งยังไม่เคยตั้งกระทู้ก็ตั้งๆกันมาเถอะครับ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศัพท์เหล่านี้ ถูกยกขึ้นพูดบ่อย จึงนำคำศัพท์พร้อมความหมายให้พิจารณาเอาตามกำลังสติปัญญา



โลก แผ่นดินเป็นที่อาศัย, หมู่สัตว์ผู้อาศัย, โลก ๓ คือ ๑. สังขารโลก โลกคือสังขาร ๒. สัตวโลก โลกคือหมู่สัตว์ ๓. โอกาสโลก โลกคือแผ่นดิน
อีกนัยหนึ่ง ๑. มนุษยโลก โลกมนุษย์ ๒. เทวโลก โลกสวรรค์ ๓. พรหมโลก โลกของพระพรหม


โลกธรรม ธรรมที่มีประจำโลก, ธรรมดาของโลก, ธรรมที่ครอบงำสัตว์โลกและสัตวโลกก็เป็นไปตามมัน มี ๘ อย่าง
คือ
มีลาภ เสื่อมลาภ
มียศ เสื่อมยศ
นินทา สรรเสริญ
สุข ทุกข์


โลกธาตุ แผ่นดิน, จักรวาลหนึ่งๆ


โลกามิษ เหยื่อแห่งโลก, เครื่องล่อ ที่ล่อให้ติดอยู่ในโลก, เครื่องล่อใจให้ติดในโลก ได้แก่ ปัญจพิธกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันน่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ, โลกามิส ก็เขียน


โลกิยะ, โลกียะ, โลกีย์ เกี่ยวกับโลก, ทางโลก, เนื่องในโลก, เรื่องของชาวโลก, ยังอยู่ในภพสาม, ยังเป็นกามาวจร รูปาวจร หรืออรูปาวจร คู่กับ โลกุตตระ


โลกิยธรรม ธรรมอันเป็นวิสัยของโลก, สภาวะเนื่องในโลก คู่ กับ โลกุตรธรรม


โลกียสุข ความสุขอย่างโลกีย์, ความสุขที่เป็นวิสัยของโลก, ความสุขที่ยังประกอบด้วยอาสวะ เช่น กามสุข มนุษยสุข ทิพยสุข ตลอดจนถึงฌานสุข และวิปัสสนาสุข


โลกียภูมิ ภูมิที่เป็นโลกียะ ได้แก่ สามภูมิแรก ในภูมิ ๔, บางทีเรียกรวมกันว่า “ไตรภูมิ” ได้แก่ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ ส่วนภูมิที่สี่ เป็นโลกุตรภูมิ


โลกุดร, โลกุตระ, โลกุตตระ พ้นจากโลก, เหนือโลก, พ้นวิสัยของโลก, ไม่เนื่องในภพทั้งสาม คู่ กับ โลกิยะ

โลกุตรธรรม ธรรมอันมิใช่วิสัยของโลก, สภาวะพ้นโลก มี ๙ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ คู่กับโลกยธรรม


โลกุตรปัญญา ปัญญาที่สัมปยุตด้วยโลกุตรมรรค ความรู้ที่พ้นวิสัยของโลก, ความรู้ที่ช่วยคนให้พ้นโลก


โลกุตรภูมิ ชั้นที่พ้นจากโลก, ระดับจิตใจของพระอริยเจ้า


โลกุตรวิมุตติ วิมุตติทีเป็นโลกุตระ คือ ความหลุดพ้นที่เหนือวิสัยโลก ซึ่งกิเลสและความทุกข์ที่ละได้แล้วไม่กลับคืนมาอีก ไม่กลับกลาย ได้แก่ วิมุตติ ๓ อย่างหลัง คือ สมุจเฉทวิมุตติ, ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ และ นิสสรณวิมุตติ


โลกุตรสุข, โลกุตตรสุข ความสุขอย่างโลกุตระ, ความสุขที่เหนือกว่าระดับของชาวโลก, ความสุขเนื่องด้วยมรรค ผล นิพพาน


โลกุตตราริยมรรคผล อริยมรรคและอริยผลที่พ้นวิสัยของโลก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 19:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขมาด้วยครับ ขอบคุณสมาชิกพูดชี้แจงให้หายสงสัยด้วยครับ กรรมใดหลบหลู่ผู้ทรงธรรมในนี้ไปใคร่ขอขมา ขออโหสิให้ข้าพเจ้าด้วยครับ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร