วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 17:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้ตรงขณะเท่านั้น
แล้วสังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเองโดยไม่มีอะไรกั้น
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 04:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้างามและลุ่มลึกไปตามลำดับ
งามในเบื้องต้นคือปริยัติคือสุตมยปัญญาฟังจนถึงสัจญาณ
งามในท่ามกลางคือปะติปัตติคือถึงเฉพาะซึ่งหน้าจินตามยปัญญาเป็นกิจญาณ
งามในที่สุดคือปฏิเวธะเกิดผลมาจากการฟังจนรู้แจ้งชัดมาตามลำดับจนจำถูกต้องให้ผลถูกต้องมาแต่ต้น
ถ้าชาติไหนไม่ได้ฟังพระสัทธรรมจะแทงตลอดธรรมตรงตามที่กำลังฟังได้อย่างไรเพราะไม่รู้จักคำตถาคต
:b12:
:b4: :b4:
https://youtu.be/0Mbfn7v5dPo


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้ตรงขณะเท่านั้น
แล้วสังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเองโดยไม่มีอะไรกั้น
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ


คำพูดคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะมันค้านกันอยู่ในตัวเองนะขอรับ

คุณโรสแห่งบ้านธัมมะไปตั้งจิตตั้งใจนี่=>

อ้างคำพูด:
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ


การตั้งใจของคุณโรสเองนั้นแหละเป็นตัวปรุงแต่งจิตแต่งใจเป็นสังขารขันธ์นี่ =>

อ้างคำพูด:
สังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเอง


คิกๆๆ :b13: ไม่ใช่รู้ธรรมชาติตามที่มันเป็น แต่เป็นการบิดเบือนเบี่ยงเบนนามธรรม (จิตใจ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่เห็นด้วย

อ้างคำพูด:
พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่กลับมาโลกาจะวินาศ


แต่ที่คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะว่านั่นๆนี่ๆนั่น มิใช่พระธรรมคำสอนของพระพุทธ แต่...ไปเอาคำพระมาบิดจนมันเบี้ยวไปจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า จนกลายเป็นหลักทำของบ้านธัมมะไปแล้ว :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้ตรงขณะเท่านั้น
แล้วสังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเองโดยไม่มีอะไรกั้น
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ



นี่ซี่ขอรับ ถึงจะสังขารปรุงแต่จิตเองโดยไม่มีอะไรขั้น มันเป็นของมันเอง ซึ่งตนเองไม่ต้องไปตั้งอกตั้งใจไว้ชอบไว้ควรอะไร โยคีต้องรู้ตามที่มันเป็นของมันแต่ละขณะๆไป
คุณโรสเห็นความเปลี่ยนแปลงของมันไหม มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนั้น เดี๋ยวอย่างนี้ เห็นไหมขอรับ

ว่าอะไรนะ ไม่ได้ยิน อ้อ ไม่เห็น ครับโผม :b13:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนร่างกายลอยจากพื้น

ใช้วิธีอานาปานสติ ช่วงแรกนั่งสมาธิดิ่งลงมากๆจะเห็นแสงสว่างจ้ามากๆเป็นดวงแว๊บๆและสว่างตลอดเวลา เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อสดว่าอย่าวอกแวก เรานึกได้ก็ดูลมหายใจต่อ
จากนั้น ตัวมันเบามาก แถมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคุยกัน ทั้งๆที่ในห้องก็เงียบมาก และจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูด "นั่นแหละกำหนดรู้ใจคน" ก็เกิดตกใจขึ้น
ร่างกายที่เคยมี ก็หายไป แต่พอได้สติ นึกได้ก็ภาวนาต่อ
ทีนี้ร่างกายเหมือนจะลอยจากพื้นดิน อาการคือตัวโครงไม่อยู่นิ่งกับพื้น ทีนี้ก็เลยกลัว รีบออกจากสมาธิ
แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ


มีอะไรสภาวะไหนคงที่คงทนบ้าง

คุณโรสเคยได้ยินคำสอนที่ว่า จิต,มโน,วิญญาณ เปรียบเหมือนมายากลไหม นั่นแหละมายาของจิต ทำให้นักปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน...หลงมันจนกู่ไม่กลับก็เยอะ บ้าบอคอแตกก็ไม่น้อย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้ตรงขณะเท่านั้น
แล้วสังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเองโดยไม่มีอะไรกั้น
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ



นี่ซี่ขอรับ ถึงจะสังขารปรุงแต่จิตเองโดยไม่มีอะไรขั้น มันเป็นของมันเอง ซึ่งตนเองไม่ต้องไปตั้งอกตั้งใจไว้ชอบไว้ควรอะไร โยคีต้องรู้ตามที่มันเป็นของมันแต่ละขณะๆไป
คุณโรสเห็นความเปลี่ยนแปลงของมันไหม มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนั้น เดี๋ยวอย่างนี้ เห็นไหมขอรับ

ว่าอะไรนะ ไม่ได้ยิน อ้อ ไม่เห็น ครับโผม :b13:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนร่างกายลอยจากพื้น

ใช้วิธีอานาปานสติ ช่วงแรกนั่งสมาธิดิ่งลงมากๆจะเห็นแสงสว่างจ้ามากๆเป็นดวงแว๊บๆและสว่างตลอดเวลา เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อสดว่าอย่าวอกแวก เรานึกได้ก็ดูลมหายใจต่อ
จากนั้น ตัวมันเบามาก แถมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคุยกัน ทั้งๆที่ในห้องก็เงียบมาก และจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูด "นั่นแหละกำหนดรู้ใจคน" ก็เกิดตกใจขึ้น
ร่างกายที่เคยมี ก็หายไป แต่พอได้สติ นึกได้ก็ภาวนาต่อ
ทีนี้ร่างกายเหมือนจะลอยจากพื้นดิน อาการคือตัวโครงไม่อยู่นิ่งกับพื้น ทีนี้ก็เลยกลัว รีบออกจากสมาธิ
แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ


มีอะไรสภาวะไหนคงที่คงทนบ้าง

คุณโรสเคยได้ยินคำสอนที่ว่า จิต,มโน,วิญญาณ เปรียบเหมือนมายากลไหม นั่นแหละมายาของจิต ทำให้นักปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน...หลงมันจนกู่ไม่กลับก็เยอะ บ้าบอคอแตกก็ไม่น้อย :b1:

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนสมาธิลืมตาตื่นรู้ตามปกติ
ที่จิตคงที่มั่นคงคือรู้ทันวิสยรูป7ตรงทุกขณะคือ
สติปัฏฐาน4ไม่เลือกฐานคือรู้ทุกข์ละสมุทัยถึงมรรคไง
เพราะรู้ชัดว่าเป็นธัมมะจึงสะสมถูกตามปัญญาตนรอแต่ผลเท่านั้น
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้ตรงขณะเท่านั้น
แล้วสังขารขันธ์จะทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตเองโดยไม่มีอะไรกั้น
ต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อดำรงพระพุทธพจน์ไว้ในจิตใจตามรู้ทีละคำ



นี่ซี่ขอรับ ถึงจะสังขารปรุงแต่จิตเองโดยไม่มีอะไรขั้น มันเป็นของมันเอง ซึ่งตนเองไม่ต้องไปตั้งอกตั้งใจไว้ชอบไว้ควรอะไร โยคีต้องรู้ตามที่มันเป็นของมันแต่ละขณะๆไป
คุณโรสเห็นความเปลี่ยนแปลงของมันไหม มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนั้น เดี๋ยวอย่างนี้ เห็นไหมขอรับ

ว่าอะไรนะ ไม่ได้ยิน อ้อ ไม่เห็น ครับโผม :b13:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนร่างกายลอยจากพื้น

ใช้วิธีอานาปานสติ ช่วงแรกนั่งสมาธิดิ่งลงมากๆจะเห็นแสงสว่างจ้ามากๆเป็นดวงแว๊บๆและสว่างตลอดเวลา เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อสดว่าอย่าวอกแวก เรานึกได้ก็ดูลมหายใจต่อ
จากนั้น ตัวมันเบามาก แถมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคุยกัน ทั้งๆที่ในห้องก็เงียบมาก และจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูด "นั่นแหละกำหนดรู้ใจคน" ก็เกิดตกใจขึ้น
ร่างกายที่เคยมี ก็หายไป แต่พอได้สติ นึกได้ก็ภาวนาต่อ
ทีนี้ร่างกายเหมือนจะลอยจากพื้นดิน อาการคือตัวโครงไม่อยู่นิ่งกับพื้น ทีนี้ก็เลยกลัว รีบออกจากสมาธิ
แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ


มีอะไรสภาวะไหนคงที่คงทนบ้าง

คุณโรสเคยได้ยินคำสอนที่ว่า จิต,มโน,วิญญาณ เปรียบเหมือนมายากลไหม นั่นแหละมายาของจิต ทำให้นักปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน...หลงมันจนกู่ไม่กลับก็เยอะ บ้าบอคอแตกก็ไม่น้อย :b1:

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนสมาธิลืมตาตื่นรู้ตามปกติ
ที่จิตคงที่มั่นคงคือรู้ทันวิสยรูป7ตรงทุกขณะคือ
สติปัฏฐาน4ไม่เลือกฐานคือรู้ทุกข์ละสมุทัยถึงมรรคไง
เพราะรู้ชัดว่าเป็นธัมมะจึงสะสมถูกตามปัญญาตนรอแต่ผลเท่านั้น


อ่ะนะ นอกจากวิสยรูป 7 แล้ว ทีนี้ มีสติปัฏฐาน 4 ดััว อิอิ กะพริบตาหายไป เออ เอาเข้าไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร