วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ย. 2025, 13:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2018, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นคือรูปพิเศษรูปเดียวที่เห็นได้รูปอื่นๆไม่เห็น
การลืมตาตื่นรู้ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือการใช้ตาที่ไม่บอดและหูที่ไม่หนวกทำเหตุปัจจัยใหม่
ในการเพิ่มปัญญาเพราะตัวตนพร้อมกิเลสมีแล้วจึงเกิดมา
ฟังความจริงเพื่อดูความจริงที่ตนกำลังเห็นเพื่อละเห็นผิดที่มี
จึงเป็นการตามฟังเพื่อตามดูความจริงตรงตามที่กำลังฟังจน
สามารถเปลี่ยนมิจฉามรรคที่มีให้เป็นสัมมามรรคตามคำสอน
ใช้หลักกาลามสูตร10ในการเพียรรู้ตามเพื่อรู้เห็นที่มีตามปกติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2018, 15:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ความจริงเป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง
เพราะการเกิดดับที่กำลังมี
เป็นสภาพปกปิดความจริง
ที่กำลังมีจริงๆทำให้หลงผิด
เพียรฟังเพื่อเข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง
เพื่อตามเข้าใจความจริงสิ่งที่กำลังมีจริงๆ
https://youtu.be/esK3WtHyefg


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2018, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ความจริงของเห็นไม่มีใครรู้
นอกจากพระพุทธเจ้าเท่านั้น
เพราะจิตเห็นเพียงสี1สีดับทันที
เกิดจิตทางอื่นสลับไม่ได้มีแค่เห็น
แต่จิตเห็นจะไม่ไปเกิดกับจิตทางอื่น
เห็นเป็นเห็นไม่ใช่รูปที่กำลังเห็นและ
กำลังเห็นสีเพียง1สีที่มหาภูตรูปแล้วดับ
เป็นจำอดีตสีที่ดับไปหลากสีหลายขณะจน
ปรากฏเป็นสัณฐานของสีแค่ปรากฏให้เห็นได้
เพราะการปรากฏของสีเกิดที่มหาภูตรูปเท่านั้น
และจะไม่ได้รู้ความใกล้หรือไกลของสีเลยเพราะ
จิตเห็นแค่สีที่กระทบตาแล้วดับทันทียังไม่เป็นสิ่งใด
:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2018, 11:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เห็นเป็นธัมมะ
เห็นจึงไม่ใช่เรา
เห็นเป็นเห็นดับทันที
เห็นไม่ใช่สิ่งที่เห็นและ
เห็นก็ไม่ใช่สิ่งใดๆทั้งสิ้น
เห็นไม่ใช่ตาและตาไม่เห็น
แต่เป็นจิตเห็นรูปที่กำลังปรากฏ
เห็นจึงเป็นสภาพรู้ชื่อจักขุวิญญาณ
เห็นไม่เราเห็นจึงไม่ใช่คนแต่เป็นเราเห็น
แล้วคิดถึงสีที่ปรากฏเป็นสัณฐานรูปร่างต่างๆ
จำสีที่หลากสีเหล่านั้นเป็นคนสัตว์วัตถุคือเห็นผิด
จำผิดคลาดเคลื่อนจากความจริงของเห็นที่กำลังเห็น
เป็นเราเห็นแล้วคิดนึกไปตามสิ่งที่จำได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ตถาคตแสดงว่าเห็นเป็นเห็นแค่เห็นสีกระทบตา1สีแล้วดับทันที
เห็นจึงไม่ใช่ใครสักคนและเห็นก็ไม่ใช่แมว/เห็นไม่ใช่เทพพรหมเทวา
แต่แมวเห็น/คนเห็น/เทพพรหมเทวาเห็นนิมิตสีที่ดับไปแล้วหลายขณะค่ะ
จนปรากฏจำเป็นอดีตสีที่ปรากฏเป็นรูปร่างแล้วยึดมั่นถือมั่นว่ามีสิ่งนั้นมีจริงๆ
แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้นและ
จะรู้ว่ามีที่ตั้งของสิ่งที่เห็นนั้นได้จากการสัมผัสแตะต้องแล้วสัมผัสเป็นที่ตั้งจริงๆ
เห็นเพียงสีที่มหาภูตรูปและจะรู้ว่ามีมหาภูตรูปจากเห็นไม่ได้ต้องสัมผัสจึงมีมหาภูตรูปค่ะ
:b43: :b43: :b43:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร