วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 21:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2018, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ในพรรษาที่ ๕ หลังจากออกพรรษาแล้วพระองค์เดินทางไปกรุงกบิลพีสดุ์ทราบว่าพระพุทธบิดาประชวรหนัก พระองค์แสดง "อนิจจตาทิธรรม" เรื่องธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา โปรดพุทธบิดา จนบรรลุอรหันตผล และปรินิพพานในกาลต่อมาไม่นาน

พระองค์เสด็จประทับที่นิโคธราม เพื่อจัดการพระศพของพุทธบิดา ทรงโปรดให้พระมหากัสสปะ พิจารณาสถานที่และดำเนินสร้าจิตกาธาน ให้พระสารีบุตรจัดการเรื่องน้ำสรงพระศพ เมื่อจิตกาธานเสร็จแล้ว พระพุทธองค์ประตองพระเศียรพุทธบิดา แล้วทรงสรงน้ำพระเศียร

หลังจากนั้นพระศาสดาทรงเป็นประธานจุดเพลิงถวายพระศพ พระมหาประชาดี พร้อมทั้งพระประยูรญาติที้ง ๖ พระนคร เข้าเฝ้าถวายพระเพลิงตามลำดับ พระองค์ทรงแสดงอนิจจตาธรรมสูตรอีกครั้ง เพื่อระงับความโศกแก่มหาชน และมีผู้บรรลุธรรมจำนวนมาก แล้วเสด็จกลับนิโคธาราม

รุ่งขึ้นเสด็จไปห้าเหล่าศากยะ และเหล่าโกลิยะซึ่งตั้งหลักแหล่งทะเลาะกันอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี เรื่องแย่งน้ำกันเข้านา จนถึงลุกลามไปถึงชาติตระกูล ตั้งกำลังเช่นดังสงคราม พระองค์ทรงทราบว่าเมื่อพระองค์เสด็จไป ความวิวาทก็จะสงบลง แม้ทั้งสองฝ่ายเมื่อฟังธรรมเทศนาก็จะสงบลง จักถวายพระราชกุมารให้บรรพชา สมาคมใหญ่จักมีเพราะเหตุแห่งความสามัคคี

เมื่อพระองค์เสด็จมาถึง ตรัสถามว่า พวกเธอทะเลาะกันเรื่องอันใด กษัตริย์ทั้งสองฝ่ายกราบทูลสาเหตุแห่งการทะเลาะวิวาท พระองค์ตรัสว่า มหาราชทั้งหลาย ไฉนพวกท่านจึงจะยังกษัตริย์ซึ่งหาค่ามิได้ให้พินาศ ด้วยสาเหตุแห่งน้ำที่มีค่าเพียงเล็กน้อยเล่า แล้วจึงตรัสชาดกเรื่องผันทนชาดก (หมีกับต้นตะคล้อ) ทุททุภายชาดก (กระต่ายตื่นตูม) และลฏฺกิกชาดก (นางนกใส้) เพื่อระงับการวิวาทกัน

แล้วตรัส เรื่องรุกขธรรมชาดก (ต้นไม้ที่โดดเดี่ยว) และ วัฏฏกชาาดก (นกคุ้ม) ให้เกิดความพร้อมเพรียงกันว่ามีญาติมากขึ้นยิ่งดี ต้นไม้ที่เกิดอยู่ในป่า แม้จะใหญ่โตเป็นเจ้าป่า ถ้าตั้งอยู่โดดเดี่ยวย่อมถูกแรงลมโค่นลงได้ เป็นต้น

ในที่สุดตรัส อัตตทีณฑสูตร ว่าเราเห็นหมู่สัตว์กำลังดิ้นรนอยู่ด้วยตัณหาและทิฏฐิดหมือนปลาในแอ่งน้ำน้อย ภัยได้เข้ามาถึงแล้ว เพราะเห็นคนพิโรธกันและกัน ท่านจงทำกิเลสในอดีตให้เหือแห้ง กิเลสในอนาคตอย่าได้มี ปัจจุบันมีสติตั้งมั่นพึงศึกษาไตรสิกขาเพื่อกำจัดธุรีทั้งหลาย ท่านจักเป็นผู้สงบเที่ยวไป

ผันทนขาดก หมีกับต้นตะคล้อ
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt24.php
ทุททุภายชาดก กระต่ายตื่นตูม
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt03.php
ลฎุกิกขาดก นางนกไส้
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt07.php
รุกขธรรมชาดก
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt131.php
วัฏฏกชาดก
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt113.php
อัตตทัณฑสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... 75&Z=10734

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2018, 05:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

กูฏาคารศาลาป่ามหาวัน กรุงเวสาลี
- สถานที่พระองค์เสด็จมาประทับครั้งแรกในพรรษาที่ ๕
- ทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ประการแก่พระภิกษุณี
- พระนางมหาปชาบดีโคตมี อุปสมบทเป็นภิกษุณีองค์แรกในพระพุทธศาสนา

....................................................................................

กษัตริย์ทั้งสองฝ่ายฟังธรรมเทศนาจบแล้ว ต่างพากันทิ้งอาวุธ
นมัสการพระพุทธองค์ กล่าวกันว่า ถ้าพระศาสดาไม่เสด็จมา
พวกเราจักฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จนเลือดไหลนองเป็นแม่น้ำ พวกเราได้ชีวิต
เพราะอาศัยพระศาสดาโดยแท้ เมื่อทราว่าอดีตเคยเป็นพระญาติกัน
จึงถวายราชกุมาร ๕๐๐ คือ

กุมารฝ่ายศากยะ ๒๕๐ และฝ่ายโกลียะ ๒๕๐ ให้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์ทรงประทาน เอหิภิกขุอุปสัมปทา แก่ราขกุมารทั้งหมด
จำเดิมแต่วันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระภิกษุเหล่านั้นเป็นปัจฉาสมณะ
เสด็จเที่ยวไปบิณฑบาตไปในพระนครทั้งสอง บางคราวเสด็จไปเมืองกบิลพัสดุ์
บางคราวก็ไปเมืองเทวทหะ

ภิกษุเหล่านั้นมิได้บวชด้วยความสัทธา จึงคิดอยากสึก ซ้ำเจ้าหญิงยังกล่าวถ้อยคำ
และส่งสาส์นไปชักชวน ทำให้เบื่อหน่ายในสมณเพศมากขึ้น พระองค์ทรงทราบ
ความกระสันของภิกษุเหล่านั้น จึงพาภิกษุราชกุมารไปยังสระดุเหว่า
ด้วยอานุภาพของพระองค์ ภิกษุเหล่านั้นได้เห็นสถานที่และวัตถุเหล่านั้นอันน่ารื่นรมณ์
ความกำหนัดยินดีต่อพระชายาก็เสื่อมหายไป พระองค์จึงตรัส กุณาชาดก ชี้โทษของมาตุคาม
ตามถ้อยคำของนกดุเหว่า ชื่อกุณาละ ภิกษุเหล่านั้นบรรลุโสดาปัตติผล พร้อมด้วยฤทธิ์ที่สำเร็จด้วยมรรค

กุณาลชาดก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=28&i=296

:b39: ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา (อ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=35006

:b39: พุทธสังเวชนียสถาน
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

วีดีโอ แม่่น้ำโรหิณี-รามคามสถูป
https://www.facebook.com/mr.ongart/post ... 78125239:2

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร