วันเวลาปัจจุบัน 26 ก.ค. 2025, 12:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


เหตุที่ทำให้เกิดฝันขึ้นนั้น มี ๔ ประการ คือ

๑. บุพพนิมิต ๒. จิตอาวรณ์ ๓. เทพสังหรณ์ ๔. ธาตุกำเริบ

ผู้ที่ฝัน ได้แก่ บุคคล ๖ คือ
๑. ทุคคติบุคคล (เว้นสัตว์นรก)
๒. สุคติบุคคล
๓. ทวิเหตุกบุคคล
๔. ติเหตุกบุคคล (เว้นรูปพรหม อรูปพรหม)
๕. โสดาบันบุคคล
๖. สกทาคามิบุคคล

ที่สัตว์นรกไม่ฝัน เพราะถูกทรมานตลอดเวลา จนไม่มีโอกาสที่จะได้หลับนอนฝัน
ที่รูปพรหม อรูปพรหม ได้ละนิวรณ์ ๕ มี กามราคะ ถีนะมิทธะแล้ว ท่านจึงไม่หลับ
อนาคามีบุคคล และอรหัตตบุคคล ไม่ฝัน เพราะท่าน เหล่านี้ ได้ละกามราคะ

บุคคลที่ยังฝันอยู่ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ยังมีกามราคะ กามฉันทะอยู่

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 294

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


ด้วยความอ่อนด้อยแห่งปัญญา ขออนุญาตเรียนถามครับ
ยกตัวอย่างคืนที่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นบรรลุอรหัตผลญาณ
ท่านก็มีนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมสาวกอรหันต์มาอนุโมทนา
อย่างนี้ถือว่าเป็นธรรมนิมิตหรือไม่ครับ

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


McArowana เขียน:
ด้วยความอ่อนด้อยแห่งปัญญา ขออนุญาตเรียนถามครับ
ยกตัวอย่างคืนที่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นบรรลุอรหัตผลญาณ
ท่านก็มีนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมสาวกอรหันต์มาอนุโมทนา
อย่างนี้ถือว่าเป็นธรรมนิมิตหรือไม่ครับ


ลองอ่านแล้วทำความเข้าใจใหม่ คำตอบมีอยู่แล้ว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 12:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
๑. บุพพนิมิต ๒. จิตอาวรณ์ ๓. เทพสังหรณ์ ๔. ธาตุกำเริบ 



ช่วยให้ความรู้..
อธิบายความหมายความเกิดขึ้นแต่ละเหตุได้ใหมคะลุง :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 294

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
อ้างคำพูด:
๑. บุพพนิมิต ๒. จิตอาวรณ์ ๓. เทพสังหรณ์ ๔. ธาตุกำเริบ 



ช่วยให้ความรู้..
อธิบายความหมายความเกิดขึ้นแต่ละเหตุได้ใหมคะลุง :b8:


๑. บุรพนิมิต ความฝัน เกิดจากเรื่องราวในอดีตมาปรากฏให้คนนั้นฝันไป มักเป็นเหตุการณ์
ที่จะเกิดขึ้นจริงมาปรากฏบอกลางหรือโชคลาภ

๒. จิตอาวรณ์ ความฝัน เกิดเพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝัน อย่างนี้
เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ ผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา
เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่หรือได้ พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม

๓. เทพสังหรณ์ ความฝัน เกิดขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝัน เช่นนี้เป็นเพราะเทวดา
ผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไปเพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า
โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน

๔. ธาตุกำเริบ ความฝัน เกิดเพราะกินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด ท้องขึ้นท้องเฟ้อ
ธาตุอาหารไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิทจึงฝันไปไร้สาระไม่มีมูลความจริง
หรือให้ประโยชน์แต่อย่างใด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 16:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


McArowana เขียน:
ด้วยความอ่อนด้อยแห่งปัญญา ขออนุญาตเรียนถามครับ
ยกตัวอย่างคืนที่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นบรรลุอรหัตผลญาณ
ท่านก็มีนิมิตเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมสาวกอรหันต์มาอนุโมทนา
อย่างนี้ถือว่าเป็นธรรมนิมิตหรือไม่ครับ


ไม่ใช่ความฝัน...ครับ...

ฝันนี้..ต้องนอนหลับ..ก่อนนะครับ :b13: :b13:
จึงจะใช้เกณท์นี้ได้
อ้างคำพูด:
เหตุที่ทำให้เกิดฝันขึ้นนั้น มี ๔ ประการ คือ

๑. บุพพนิมิต ๒. จิตอาวรณ์ ๓. เทพสังหรณ์ ๔. ธาตุกำเริบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2015, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามอะไรอย่างนึงเจ้าค่ะ ทำไมพระอรหันต์ที่ยังไม่ละสังขาร ถึงไม่มีความฝันที่เป็นบุพนิมิต (บุพนิมิตไม่เกี่ยวกับจิตปรุงแต่ง) และทำไมไม่มีความฝันที่เกิดจาก ธาตุกำเริบ (เกี่ยวกับสภาวะทางร่างกาย) พระพุทธเจ้ามีตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมเจ้าค่ะ อยากลองศึกษาเป็นความรู้เจ้าค่ะ เทพสังหรณ์ จิตนิวรณ์ คุนน้องตัดไป เพราะคุนน้องเชื่อว่า พระอรหันต์ที่ละสังโยชน์ได้หมด
ปราศจากอาสวะกิเลศ ย่อมไม่ฝันที่เป็นจิตนิวรณ์
และคงไม่มีเทพสังหรณ์จะมาเนรมิตฝันพระอรหันต์ได้ แต่ กรณี บุพนิมิต และ ธาตุกำเริบ ยังข้องใจ
เพราะเคยอ่านเกี่ยวกับ หลวงปู่เทส ที่ท่านบอกว่าผีอำเลยเกิดข้อกังขา ผีอำก็น่าจะเกิดจากสภาวะของร่างกายอีกเหตุนึงที่ใครก็เกิดได้
viewtopic.php?t=49411
และคุนน้องจำได้มีท่านผู้นึงในลาน เคยกล่าวว่า
พวกเรารู้ได้อย่างไรพระอรหันต์ไม่ฝัน เลยสงสัยขึ้นมา เลยอยากได้ความกระจ่างน่ะเจ้าค่ะ
:b8: :b8:
ปล.ขอประธานโทษนะเจ้าค่ะ ที่ตั้งข้อกังขาในสิ่งที่ไม่รู้ คือเกิดมามีกรรม สงสัยเยอะไปหน่อย เลยต้องหาความจริงเพื่อให้จิตเข้าถึงสิ่งนั้น ถึงหายสงสัยน่ะเจ้าค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 05:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ขอถามอะไรอย่างนึงเจ้าค่ะ ทำไมพระอรหันต์ที่ยังไม่ละสังขาร ถึงไม่มีความฝันที่เป็นบุพนิมิต (บุพนิมิตไม่เกี่ยวกับจิตปรุงแต่ง) และทำไมไม่มีความฝันที่เกิดจาก ธาตุกำเริบ (เกี่ยวกับสภาวะทางร่างกาย) พระพุทธเจ้ามีตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมเจ้าค่ะ อยากลองศึกษาเป็นความรู้เจ้าค่ะ เทพสังหรณ์ จิตนิวรณ์ คุนน้องตัดไป เพราะคุนน้องเชื่อว่า พระอรหันต์ที่ละสังโยชน์ได้หมด
ปราศจากอาสวะกิเลศ ย่อมไม่ฝันที่เป็นจิตนิวรณ์
และคงไม่มีเทพสังหรณ์จะมาเนรมิตฝันพระอรหันต์ได้ แต่ กรณี บุพนิมิต และ ธาตุกำเริบ ยังข้องใจ
เพราะเคยอ่านเกี่ยวกับ หลวงปู่เทส ที่ท่านบอกว่าผีอำเลยเกิดข้อกังขา ผีอำก็น่าจะเกิดจากสภาวะของร่างกายอีกเหตุนึงที่ใครก็เกิดได้
viewtopic.php?t=49411
และคุนน้องจำได้มีท่านผู้นึงในลาน เคยกล่าวว่า
พวกเรารู้ได้อย่างไรพระอรหันต์ไม่ฝัน เลยสงสัยขึ้นมา เลยอยากได้ความกระจ่างน่ะเจ้าค่ะ
:b8: :b8:
ปล.ขอประธานโทษนะเจ้าค่ะ ที่ตั้งข้อกังขาในสิ่งที่ไม่รู้ คือเกิดมามีกรรม สงสัยเยอะไปหน่อย เลยต้องหาความจริงเพื่อให้จิตเข้าถึงสิ่งนั้น ถึงหายสงสัยน่ะเจ้าค่ะ :b1:

"รูปพรหม อรูปพรหม อนาคามีบุคคล และอรหัตตบุคคล ไม่ฝัน เพราะท่าน เหล่านี้ปราศจาก กามราคะแล้ว"
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่เรื่อง สุบินวิถี คู่มือพระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉทที่ ๔ หน้า ๒๖-๒๗)

http://www.thepathofpurity.com/%E0%B8%9 ... %E0%B9%94/

ถ้าฝันไม่ใช่พระอรหันต์ หลวงตามหาบัว
http://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 38&CatID=2

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
nongkong เขียน:
ขอถามอะไรอย่างนึงเจ้าค่ะ ทำไมพระอรหันต์ที่ยังไม่ละสังขาร ถึงไม่มีความฝันที่เป็นบุพนิมิต (บุพนิมิตไม่เกี่ยวกับจิตปรุงแต่ง) และทำไมไม่มีความฝันที่เกิดจาก ธาตุกำเริบ (เกี่ยวกับสภาวะทางร่างกาย) พระพุทธเจ้ามีตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมเจ้าค่ะ อยากลองศึกษาเป็นความรู้เจ้าค่ะ เทพสังหรณ์ จิตนิวรณ์ คุนน้องตัดไป เพราะคุนน้องเชื่อว่า พระอรหันต์ที่ละสังโยชน์ได้หมด
ปราศจากอาสวะกิเลศ ย่อมไม่ฝันที่เป็นจิตนิวรณ์
และคงไม่มีเทพสังหรณ์จะมาเนรมิตฝันพระอรหันต์ได้ แต่ กรณี บุพนิมิต และ ธาตุกำเริบ ยังข้องใจ
เพราะเคยอ่านเกี่ยวกับ หลวงปู่เทส ที่ท่านบอกว่าผีอำเลยเกิดข้อกังขา ผีอำก็น่าจะเกิดจากสภาวะของร่างกายอีกเหตุนึงที่ใครก็เกิดได้
viewtopic.php?t=49411
และคุนน้องจำได้มีท่านผู้นึงในลาน เคยกล่าวว่า
พวกเรารู้ได้อย่างไรพระอรหันต์ไม่ฝัน เลยสงสัยขึ้นมา เลยอยากได้ความกระจ่างน่ะเจ้าค่ะ
:b8: :b8:
ปล.ขอประธานโทษนะเจ้าค่ะ ที่ตั้งข้อกังขาในสิ่งที่ไม่รู้ คือเกิดมามีกรรม สงสัยเยอะไปหน่อย เลยต้องหาความจริงเพื่อให้จิตเข้าถึงสิ่งนั้น ถึงหายสงสัยน่ะเจ้าค่ะ :b1:

"รูปพรหม อรูปพรหม อนาคามีบุคคล และอรหัตตบุคคล ไม่ฝัน เพราะท่าน เหล่านี้ปราศจาก กามราคะแล้ว"
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่เรื่อง สุบินวิถี คู่มือพระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉทที่ ๔ หน้า ๒๖-๒๗)

http://www.thepathofpurity.com/%E0%B8%9 ... %E0%B9%94/

ถ้าฝันไม่ใช่พระอรหันต์ หลวงตามหาบัว
http://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 38&CatID=2

ขออนุญาติคัดลอกคำพูดหลวงตามหาบัว มาให้อ่านท่อนที่หลวงตากล่าวถึง ประเด็นพระอรหันต์ไม่ฝัน??
ใครจะไม่รู้เวลาหลับตื่น นี้มันไม่รู้จะให้ว่าไง ถ้าว่าตื่นมันก็ตื่นอยู่แล้ว แน่ะ ถ้าว่าหลับก็ไม่ทราบว่าหลับเมื่อไร ก็จะทราบเอาตอนที่มันฝัน โอ๋ หลับตอนนั้นๆ คือถือเอาความฝันนั่นแหละเป็นเวลาหลับ มันเปลี่ยนอย่างนั้นแหละ นี้ยังมีผู้ที่แต่งหนังสือมา เราได้อ่าน นี่ละการแต่งหนังสือเอาทิฐิความรู้ความเห็นของตนแทรกเข้าในธรรม เลยกลายเป็นธรรมมัวหมองไปด้วย ไม่บริสุทธิ์ แต่ก่อนเราก็ไม่ได้คิดเท่าไรนัก หากอ่านไปเจอเข้ามันหากจำของมันได้เอง สิ่งใดที่ควรจะจำมันก็จำของมันเอง อ่านไปถึงบทที่ว่าพระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน ว่างั้นนะ ถ้ายังฝันอยู่ไม่ใช่พระอรหันต์ เขียนไว้ในหนังสือเราอ่านไปเจอ เราก็ยังไม่ได้ปักใจอะไรมากนัก ว่าพระอรหันต์นอนหลับไม่ฝัน ถ้าฝันอยู่ไม่ใช่พระอรหันต์
ยังอวดเก่งเข้าไปอีก ถ้ายังฝันอยู่ไม่ใช่พระอรหันต์ นี้อวดเก่งในความจอมปลอมของตัวเอง มันก็รู้ได้ชัดเจน นี้ตัวจอมปลอม นอนหลับแล้วไม่ฝัน พระอรหันต์นอนหลับไม่ฝัน ถ้าฝันไม่ใช่พระอรหันต์ ดูซิน่ะมันทับเข้าไปอีก
จึงกระเทือนใจเรามาก เราอยากจับมือมาถามต่อหน้ากัน โคตรพ่อโคตรแม่มึงเคยเป็นอรหันต์แล้วหรือ อยากว่าเข้าใจไหม มาอวดพ่อมึงหรือ พ่อกูไม่ได้เป็นอรหันต์ก็ตาม แต่กูก็หันไปนั้นหันไปนี้ได้ กูไม่ได้เป็นอรหันต์ กูก็หันนั้นหันนี้ได้อยู่มึงอย่ามาอวดกูนา อย่างนี้ละมันบอกชัดเจน ที่เขียนไว้ในบุพพสิกขาว่าพระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน ถ้าฝันไม่ใช่อรหันต์ ผิดทั้งเพเลย ก็ขันธ์ ๕ เป็นสมมุติจะไม่ให้มันดีดมันดิ้นไปตามสมมุติแล้วจะให้มันดิ้นไปไหน จิตเป็นจิตตวิมุตติมันคนละอย่าง ครองขันธ์อยู่ อันหนึ่งเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ อันหนึ่งเป็นสมมุติล้วนๆ มันก็เป็นไปตามสมมุติ วิมุตติก็เป็นหลักธรรมชาติของวิมุตติไปเท่านั้นเอง
นี่ละการเขียนหนังสือ มันเอาความรู้ความเห็นของตนไปแทรกในหนังสือที่บริสุทธิ์ให้มัวหมองไปด้วยได้ อย่างที่ว่าพระอรหันต์นอนหลับไม่ฝัน ถ้าฝันไม่ใช่พระอรหันต์ นู่นน่ะมันตีตราเข้าไปอีก ธาตุขันธ์มันก็เป็นสมมุติ ขันธ์ก็เป็นสมมุติมันเข้ากันไม่ได้ยังไง มันก็เข้ากันได้สนิท จิตที่บริสุทธิ์ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องฝันไม่ฝันแหละ พูดเหล่านี้เป็นเรื่องของสมมุติในขันธ์ทั้งนั้น ได้เห็นชัดเจนที่ว่าพระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน ถ้าฝันไม่ใช่พระอรหันต์ นี่เห็นชัดเจน คือความจอมปลอมของคนๆ นี้ผู้เขียนนี้ จะทำให้คนอื่นหลงไปตามได้ มันไม่จริง

สรุปจะตีความหมายที่หลวงตากล่าวว่าอย่างไรเจ้าค่ะ เอาเป็นว่าคนมีปัญญาก็พิจารณาด้วยกันปฏิบัติ ถ้าอยากรู้ว่าอรหันต์ฝันได้ไหม ก็คงปฏิบัติให้บรรลุเป็นอรหันต์แล้วจะได้ฟันเฉาะได้แบบหลวงตาบัวกล่าว :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 07:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


ยกตัวอย่างมาให้ดูว่าคนจะไม่เชื่อถึงจะยกพระไตรปิฎกมาให้ดูก็ไม่เชื่ออยู่ดี
ก็ยังมีคำพูดว่าอันนี่ไม่ใช่พุทธวจนะ เป็นสาวกรุ่นหลังแต่งขึ้น ครั้นจะให้ไปถามพระพุทธองค์เอง
ท่านก็ปรินิพพานไปเสียแล้ว คงจะต้องปฏิบัติให้เป็นพระอรหันต์เสียก่อนก็แล้วกันว่าจะฝันได้ไหม
หรือไม่ก็ต้องอดใจรอไปอีก ๑ พุทธันดรเพื่อรอถามพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่ต่อไป
ครั้นจะให้ไปถามพระอรหันต์ในปัจจุบันนี้ ก็ไม่รู้ว่าองค์ไหนเสียด้วยเพราะไม่มีญาณหยั่งรู้

http://www.thepathofpurity.com/%E0%B8%9 ... %E0%B9%94/

สุบินวิถี

สุบินวิถี คือ ความเป็นไปของจิตในเวลาฝัน ได้แก่ กามชวนมโนทวารวิถี ที่ เกิดขึ้นในขณะนอนหลับ
การฝัน ก็มีชัดมากและชัดน้อย ชัดมากก็มีถึงตทาลัมพนะได้ ชัดน้อยก็มีเพียง ชวนะเท่านั้น
เหตุที่ทำให้เกิดฝันขึ้นนั้น มี ๔ ประการ คือ
๑. บุพพนิมิต กรรมใด ๆ ที่ได้กระทำมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกุสลกรรม หรือ อกุสลกรรม กระตุ้นเตือนจิตใจให้ใฝ่ฝันถึงกรรมนั้น ๆ
๒. จิตอาวรณ์ จิตใจจดจ่อในเรื่องใดๆ เป็นพิเศษยิ่งก็ทำให้ใฝ่ฝันถึงเรื่องนั้นๆ
๓. เทพสังหรณ์ เทวดาดลใจให้ฝัน
๔. ธาตุกำเริบ เวลาที่ธาตุไม่ปกติ ก็ทำให้ฝันได้เหมือนกัน


--------------------------------------------------------------------------------


หน้า ๒๗

ผู้ที่ฝัน ได้แก่ บุคคล ๖ คือ
๑. ทุคคติบุคคล (เว้นสัตว์นรก) ๒. สุคติบุคคล
๓. ทวิเหตุกบุคคล ๔. ติเหตุกบุคคล (เว้นรูปพรหม อรูปพรหม)
๕. โสดาบันบุคคล ๖. สกทาคามิบุคคล
ที่สัตว์นรกไม่ฝัน เพราะถูกทรมานตลอดเวลา จนไม่มีโอกาสที่จะใฝ่ฝัน
ที่รูปพรหม อรูปพรหม อนาคามีบุคคล และอรหัตตบุคคล ไม่ฝัน เพราะท่าน เหล่านี้ปราศจาก กามราคะแล้ว บุคคลที่ยังฝันอยู่ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ยังมีกามราคะ กามฉันทะอยู่

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


มีกระทู้นี้ก็ถกเถียงเรื่องฝันไม่ฝันพระอรหันต์
http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 78732.html
ซึ่งคุนน้องหมดความกังขาแล้วเจ้าค่ะ
เพราะใครจะมีทิฏฐิเยี่ยงไร แต่คุนน้องจะมีทิฏฐิว่าตราบใดที่เรายังมีขันธ์ สังขารก็เป็นไปตามอนิจจัง
ควบคุมบังคับบัญชาไม่ได้ ถ้าธาตุกำเริบเป็นเหตุให้ฝันก็ย่อมฝัน แต่พระอรหันต์จะไม่ฝันเกี่ยวกับกามราคะ (เสพเมถุน) ถ้าหากว่าทิฏฐิคุนน้องเป็นความเห็นผิด บิดเบือนพระอรหันต์ คุนน้องขอชดใช้วิบากกรรมเจ้าค่ะ แต่คุนน้องมั่นใจและเชื่อมั่นในทิฏฐิของตนเจ้าค่ะ เพราะคุนน้องมั่นใจมากว่า ได้ปัญญาบารมีติดตัวมาเยอะ และคุนน้องมีปัญญา
คุนน้องเข้าใจความหมายหลวงตามหาบัวกล่าวอรหันต์ไม่ฝัน ถ้ายังฝันไม่ใข่อรหันต์??อย่างแจ่มแจ้งเจ้าค่ะ :b8: อนุโมทนา :b8:
ปล.คุนน้องจะทำตามหลักกาลามาสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
คุนน้องขออนุญาติคัดลอกพระสูตรนี้เกี่ยวกับความฝันพระอรหันต์

๕๔๕] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์ ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น
ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามท่านพระทัพพมัลลบุตรว่า ดูกรทัพพะ เธอยังระลึกได้
หรือว่า เป็นผู้ทำกรรมดังนางภิกษุณีนี้กล่าวหา
ท่านพระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ย่อมทรงทราบว่า ข้าพระ-
พุทธเจ้าเป็นฉันใด
แม้ครั้งที่สองแล พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามท่านพระทัพพมัลลบุตรว่า ดูกรทัพพะ
เธอยังระลึกได้หรือว่า เป็นผู้ทำกรรมดังนางภิกษุณีนี้กล่าวหา
ท่านพระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ย่อมทรงทราบว่า ข้าพระพุทธ-
เจ้าเป็นฉันใด
แม้ครั้งที่สามแล พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามท่านพระทัพพมัลลบุตรว่า ดูกรทัพพะ
เธอยังระลึกได้หรือว่า เป็นผู้ทำกรรมดังนางภิกษุณีนี้กล่าวหา
ท่านพระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ย่อมทรงทราบว่า ข้าพระพุทธ-
เจ้าเป็นฉันใด
ภ. ดูกรทัพพะ บัณฑิตย่อมไม่กล่าวแก้คำกล่าวหาเช่นนี้ ถ้าเธอทำก็จงบอกว่าทำ ถ้าเธอ
ไม่ได้ทำ ก็จงบอกว่าไม่ได้ทำ
ท. พระพุทธเจ้าข้า ตั้งแต่ข้าพระพุทธเจ้าเกิดมา แม้โดย "ความฝัน" ก็ยังไม่รู้จักเสพเมถุน
ธรรม จะกล่าวไยถึงเมื่อตอนตื่นอยู่เล่า

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น
แล พวกเธอจงให้ภิกษุณีเมตติยาสึกเสีย และจงสอบสวนภิกษุเหล่านี้ รับสั่งดังนี้แล้ว
พระองค์เสด็จลุกขึ้นจากที่ประทับ เข้าพระวิหาร
-------------------------

ปล.ใครตีความหมายพระสูตรนี้ไม่ออก ก็ไม่รู้จะเปิดของที่คว่ำให้หงายได้อย่างไรแล้วล่ะเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเห็นนี้เข้าท่าและเหมาะกับกระทู้นี้ดีเจ้าค่ะ



พระอรหันต์ท่าน สติ+สมาธิสมบูรณ์
และท่านก็ไม่มี จุตูปปาตะ (การเคลื่อนและการเกิดขึ้นของกิเลส) อีกแล้ว ...
ท่านเข้าถึงซึ่งความว่างอย่างยิ่งแล้ว ....

เมื่อจุตูปปาตะไม่มี, กิเลสอะไรๆ ก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างแห่งโลกทั้งสอง…

แล้วทำไมท่านจะฝันไม่ได้ละ . . . ? ? ?

เอาละ ท่าน(พระอรหันต์)จะฝันหรือไม่ฝัน ก็เชิญท่านๆ(ที่คิดว่าพระอรหันต์ไม่ฝัน)ว่ากันตามสบาย
ส่วนผม(ยังไม่ใช่อรหันต์) จะไปนอนหลับฝันแล้ว
จากคุณ : P2wichai Bloggang
เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 00:29:02

(ชอบ ตลก น่ารัก :b32: )


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2018, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็จะต้องเป็นไปอย่างที่คุนน้องว่านั่นแหละ
ว่าเราจะใช้ ทัศนะ ทิฏฐิ ความเห็น ความเชื่ออย่างไร ของตน
แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังโปรดสัตว์โลกบรรลุธรรมไม่ได้ทั้งหมดเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร