วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 16:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2018, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อบายมุข ๖ (เหตุเครื่องฉิบหาย ๖)

อบายมุข คือเหตุเครื่องฉิบหาย ๖ อย่าง

๑.ดื่มน้ำเมา

๒. เที่ยวกลางคืน

๓. เที่ยวดูการเล่น

๔. เล่นการพนัน

๕. คบคนชั่วเป็นมิตร

๖. เกียจคร้านทำการงาน

ทั้งหมดนี้เป็นทางเสื่อม เป็นทางที่ใครเดินแล้วเสื่อมลงไปเรื่อยๆ

เช่น ดื่มน้ำเมา เป็นทางเสื่อมทั้งกาย ทั้งใจ เสื่อมทรัพย์ เสื่อมชื่อเสียง เสื่อมหมดทุกประการ เพราะดื่มน้ำเมามีโทษ คือ

๑.เสียทรัพย์ ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทน

๒. เกิดโรคในร่างกายจิตใจ

๓. มักก่อการทะเลาะวิวาทกัน

๔. ไม่รู้จักละอาย ทำอะไรแปลกๆ

๕. คนดีเขาดูหมิ่น ว่าเป็นทาสน้ำเมา

๖.สมองเสื่อม ปัญญาเสื่อม

นี่โทษของการดื่มน้ำเมา มีถึง ๖ อย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2018, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองคิดดูสักเล็กน้อย เช่น เรื่องเสียทรัพย์ ทรัพย์เป็นของหายาก กว่าจะได้มาแต่ละบาท แต่ละสตางค์ ต้องเหนื่อยตามสมควร เหนื่อยอย่างแบบมนุษย์ เหนื่อยอย่างแบบเทวดา มันเหนื่อยกันทั้งนั้น ทำงานแล้วก็เหนื่อย เมื่อได้เงินเราควรจะใช้เงินในรูปใด ควรจะใช้ในรูปที่มันเป็นประโยชน์ สร้างเสริมพลานามัย สร้างเสริมสุขภาพ ทางกาย ทางใจ จึงจะเป็นการชอบการควร

ทีนี้เราไม่ได้เอามาสร้างเสริม แต่เอามาทำลาย เอาไปซื้อเหล้ามาดื่ม เหล้านี่เป็นพิษทั้งนั้น ไม่ว่ายี่ห้อไหนที่เขาโฆษณาว่าดื่มแล้วสดชื่น มีกำลัง มันหลอกเป็นผี เป็นผีเหมือนกัน โฆษณาแบบนี้ หลอกคนให้ดื่มเหล้า มันไม่มีเหล้าชนิดไหนที่จะเป็นคุณแก่ร่างกาย มันให้โทษทั้งนั้น กินให้เป็นคุณเขาเรียกว่ากินเป็นยา ไอ้ยานี่ไม่ใช่กินทุกเช้าทุกเย็น กินนานๆ ที่เขาเรียกว่ากินเป็นยา เมื่อร่างกายมันไม่สบายจึงกิน ไอ้นี่เช้ายา เย็นยา ที่เขาเรียกว่า “ยาดอง” นั่นแหละ “ยาดอง” กินเช้ากินเย็นมันไม่ได้เรื่องอะไร แล้วก็เสียสตางค์มาก

คนที่ไปซื้อเหล่าน่ะ พอนั่งลงแล้วมันเปลืองสตางค์ กินไปคุยกันไป สั่งกับมา สั่งเหล้ามา สั่งโซดามา ไม่รู้เสียเท่าไหร่แล้วกี่ขวดแล้วก็ไม่รู้ กี่ก๊งแล้วก็ไม่รู้ พอล้วงสตางค์ให้เขานี่เหี่ยวแล้ว กระเป๋าเหี่ยวแล้วแต่ว่าเวลานั้นนึกไม่ได้ เพราะไม่รู้สึกตัว เมาแล้วเสียทรัพย์ ประโยชน์ที่จะได้ไม่มี

นอกจากได้ความเมากลับมา กลับไปถึงบ้าน หมาที่บ้านมันยังเห่าเพราะมันจำไม่ได้ รูปร่างหน้าตาผิดปกติไม่เหมือนเดิม หมามันมาดม เอ๊ะ กลิ่นใครนี่ ไม่เหมือนกับนายเมื่อเช้ากลิ่นมันไม่เหมือนกับนายคนก่อน มันมีกลิ่นอะไรด้วยก็ไม่รู้ หมามันจำไม่ได้

ลองอ่านหนังสือสุขภาพของหมอ เขาเขียนโรคเกี่ยวกับเหล้ามากเหลือเกิน โรคเกี่ยวกับหัวใจ เกี่ยวกับตับ เกี่ยวกับไต เกี่ยวกับระเพาะ เกี่ยวกับลำไส้ เกี่ยวกับเส้นโลหิต เกี่ยวกับสมอง มันมีทั้งนั้น เรียกว่าโรคร้อยแปด โรคเกิดจากเหล้ามีมาก ทำให้ร่างกายชำรุดทรุดโทรม แม้จะอ้วนก็อ้วนอย่างยมบาลจดชื่อจะเอาตัวไปแล้ว อ้วนไม่ได้เรื่อง ฉุๆพองๆ เตรียมตัวอยู่แล้วทั้งนั้น โรคมาก แล้วไม่ใช่เป็นคนเดียว ติดไปถึงลูกถึงเต้าด้วย คนขี้เมาโรคมาก อายุสั้น ไม่เห็นใครอายุยืนเลย พวกขี้เมาอายุ ๕๐ ก็ตายแล้ว ไม่ถึง ๖๐ ปี ไม่ได้ทันได้กินเบี้ยบำนาญ ถ้าทำราชการก็จะตายแล้ว ลูกเต้าก็ลำบาก ถ้าฐานะไม่ดี

คนบางคนบอกว่ากินเหล้าแล้วกินข้าวอร่อย มันเป็นอย่างไร กินข้าวอร่อย คือว่าเวลาเราดื่มเหล้ามากๆ นี่มันไปอยู่ในท้อง กลางคืนมันก็ระเหยขึ้นมา มาจับอยู่ที่ลิ้นเป็นฝ้า ลิ้นหนา ต่อมสำหรับรับรสอาหารไม่รู้รส เพราะมีฝ้ามาจับมากเหมือนกัน

ทีนี้ เมื่อดื่มเหล้าเข้าไปสักก๊งหนึ่ง เหล้าเข้าไปกัดฝ้าหนาๆ นั้นหายไป กินอาหารรู้รสเลยหลงไป หลงผิดไปว่ากินเหล้าแล้วกินข้าวอร่อย มูลเหตุที่กินข้าวไม่อร่อยเพราะดื่มเหล้าไม่คิด ไปคิดเอาตรงข้าวอร่อยเพราะเหล้า

แต่ความจริงที่เรากินข้าวไม่อร่อย เพราะดื่มเหล้า แล้วเหล้ามันมาจับอยู่ที่ต่อมรับรสปิดเป็นฝ้าหนา ประสาทชา พอดื่มเหล้าก่อนจะกินข้าวก็นึกว่าเป็นยาเจริญอาหาร มันไม่ใช่ทำให้อร่อยหรอก มันหลงไปตามรสชาติของสิ่งนั้น เลยทำให้เกิดโรคหลายอย่างในร่างกาย

ให้เราสังเกตเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน ถ้าเป็นคนแก่ดีกรีแล้วหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง แก่เร็วตายเร็ว พวกที่มาเผาที่วัด จะสำรวจทุกท่าตายเพราะอะไร อายุเท่าไร ๔๐ ทำไมตายไวนักล่ะ เป็นโรคตับแข็งว่าอย่างนั้น ตับแข็งเพราะอะไร ดีกรีมันสูงหน่อยว่าอย่างนั้น แล้วก็คนนั้นตายเพราะเหล้านั่นแหละ

หลวงพ่อเคยเห็นคนหลายคน เมื่อสมัยเป็นเด็ก หลวงพ่อบวชพระยังไม่ทันถึง ๑๐ พรรษาเลย พวกนั้นตายหมดแล้ว นึกว่าจะไปเทศน์โปรดสักหน่อยตายหมดแล้ว เลยไม่ได้โปรดกัน ที่เป็นญาติใกล้ชิดกันก็มี ตายหมดแล้ว เลยไม่ได้คุยกัน ตายอายุราวๆ ๓๐-๔๐ เท่านั้นเอง เพราะดื่มน้ำเมา

เมาแล้วก็ทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ พูดขวางหู ขวางตากัน ก็จวกเสียเลย เมาทั้งนั้น ในคุกเยอะ ฆ่าเพื่อนเพราะเมา พอเมาแล้วคุยกัน มันขวางหูขวางตาก็จวกเสียเลย มีดมีก็จวกเสียเลย

ถ้าถือปืนอยู่ก็ยิงเลย มันเป็นอย่างนั้น กัดกันไปกัดกันมา เมาแล้วก็กัดกันละ ถ้าไม่เมาไม่มีเรื่อง รำกันเรียบร้อย พอเมาแล้วเกิดเรื่องทุกที แล้วก็ไม่รู้จักละอาย ทำอะไรแผลงๆแปลกๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2018, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีคนเมาคนหนึ่งเมากลับบ้าน ไปไม่ถึงบ้าน ไปนอนอยู่ในป่าหญ้า ทีนี้หมูมาถึง มันมีอาหารที่อาเจียนติดปากอยู่กองหนึ่ง หมูก็มากิน กินแล้วก็มาดุนที่ปาก เพราะมีอาหารติดอยู่

คนเมาว่า น้องไม่ต้องมาจูบพี่ดอก อย่าจูบพี่ นึกว่าเมียมาจูบ หมูได้ยินเสียงคนหลบหายไปข้างหลัง ไปดุนข้างหลัง คนเมาว่า น้องอย่าเตะพี่ อย่าเตะพี่ นึกว่าเมียทุกที ที่จริงเป็นหมู เพราะเมาไม่รู้เรื่อง

อีกรายหนึ่ง เป็นข้าราชการระดับเสมียน ไม่ใช่เงินเดือนมากอะไรหรอก แต่เมา มีรถจักรยานแทนที่จะขี่ กลับเอาเชือกผูกแล้วลากไปหลายกิโลกว่าจะถึงบ้าน ถลอกปอกเปิกหมดเลย

เมียไม่ให้เข้าบ้าน เผอิญมีกองหินอยู่ที่ถนนก็เอาขว้างหลังคาบ้าน จนง่วงหลับไปเอง เช้าตื่นขึ้นมาดูบ้าน เอ๊ะ อะไรอย่างนั้นล่ะ ทำไมหลังคาโปร่งอย่างนั้น ถามเมีย เมียบอกว่าไอ้ขี้เมาที่ไหนไม่รู้ขว้างหลังคาเมื่อคืนนี้ เมาจนไม่รู้เรื่อง นี่ความเสียหายมันเกิดขึ้น สติปัญญาก็เสื่อมถอยลงไปทุกวันเวลา

เมื่อก่อนเราเคยได้ยินชื่อนายชิต บุรทัต เป็นนักเขียนอย่างดี เขียนฉันท์กล่อมช้างได้รางวัลที่ ๑ แข่งกับ น.ม.ส. น.ม.ส. สู้นายชิตไม่ได้ สมัยนั้นเป็นสามเณรอยู่วัดบวรนิเวศน์ฯ กินเหล้าทุกคืน กินแล้วเอาขวดทิ้งในคู วันนั้นทิ้งพลาดขวดแตกกระจาย แล้วตัวก็ตื่นสาย

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ฯ ที่เขียนหนังสือนวโกวาทนี้ เช้าๆท่านเดินเล่นตรวจวัดไปในตัวด้วย พบขวดเหล้าของพระชิตเข้า รีบสั่งให้หาทันที ถามว่า เธอเอาขวดอะไรทิ้งไว้ แกก็รับสารภาพว่าขวดเหล้า เธอดื่มเหล่ามาแต่เมื่อไร ดื่มมาตั้งปีแล้ว แล้วขวดเหล้าที่ดื่มๆ ล่ะ โยนทิ้งไปในคู ลงไปงมขึ้นมาเดี๋ยวนี้ สมเด็จ ฯ สั่งให้งมขวดเหล้าขึ้นมา ได้ตั้ง ๒๐-๓๐ ขวด

สมเด็จฯ กริ้วทีเดียวให้สึกเดี๋ยวนั้นเลย สั่งให้สึกทันที สึกแล้วก็สั่งลบชื่อออกจากบัญชีวัดบวร ฯ ไม่ใช่เพียงแต่เอาเส้นแดงขีดนะ ลบหมึกออกไม่ให้มีชื่ออยู่ในบัญชีเลย ไม่ให้มีรอยอยู่ในบัญชีวัดบวร ฯ อีกต่อไป

พอกลับไปอยู่บ้าน ท่านก็เมาเรื่อย เขียนหนังสือก็เมาอย่างนั้น ถ้าจะให้เขียนอะไรต้องให้ดื่มสักนิด สักเป๊กแล้วก็เขียนได้

ถ้าดื่มมากกว่านั้นเขียนไม่ได้ แต่ถ้าไม่ดื่ม มือสั่น จับดินสอไม่ได้ เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังแล้ว

เคยพบตอนมาวัดสามพระยา มาถึงใครจะให้เขียนฉันท์อะไรให้เด็กไปซื้อเหล้าขาวมานิดหน่อย พอได้สักกรึบแล้วแย่งแก้วไปวางตรงอื่นแล้วให้เขียนก่อน เขียนประเดี๋ยวก็เสร็จ พอเสร็จแล้วให้กินอีก พอกินมากให้เขียนใหม่ไม่ได้เรื่องเลย เขียนไม่ได้ตาลาย ท่านเมาจนตายเลย

ตำรวจเคยจับไปไม่มีเสื้อใส่ เที่ยวเดินเมา ตำรวจเห็นเข้า เอ้า อาจารย์ทำไมล่ะ ตำรวจเชิญมาธุระอะไรก็ไม่รู้ แกบอกว่าตำรวจเชิญ ตำรวจเคยอ่านหนังสือสามก๊กเภท - คำฉันท์ ก็เลยบอกว่าอาจารย์พักเสียก่อน หาที่ให้นอนรุ่งเช้าก็ลงจากโรงพักไป เมาเหลือเกิน

สุนทรภู่ก็อย่างนั้น เป็นนักประพันธ์ขี้เมา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2018, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหล้านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีอยู่ชาดก เรียกว่า กุมภชาดก นายพรานป่าคนหนึ่งชื่อว่า สุระ แกไปเที่ยวป่าล่าสัตว์ไปตามเรื่อง ไปถึงต้นไม้ต้นหนึ่ง มีค่าคบใหญ่เป็นแอ่งน้ำ นกมันมากิน แล้วคาบรวงข้าวสาลีบ้าง ผลไม้ต่างๆมาทิ้งไว้ในนั้น ถูกแดดแผดเผาแล้วมันก็เป็นส่า เป็นน้ำเมา

นายพรานนี้ไปเห็นเข้าเลยเอามากิน ก่อนจะกินไปเห็นนกมันนอนตายอยู่ นกกินแล้วมันเมานอนเกลื่อนกลาด แกก็เอามาปิ้งกินบ้าง ตัวสองตัว ที่เหลือก็ทิ้งไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเก็บ ไม่ทันไรนกบินปร๋อไปได้ อะไรกันนกนี่ ตายแล้วฟื้นได้

เลยนึกว่าข้างบนคงมีน้ำอะไรก็ปีนขึ้นไปดู ไปเห็นน้ำ รสพิลึกแฮะเลยลองกิน อือ เข้าที พอกินแล้วรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ชักจะมึนๆ แกชอบใจ เลยตักใส่กระบอกไม้ไผ่ เดินทางไปเจอพระฤๅษีชื่อ วารุณะ เข้า ก็เอาน้ำดีเลี้ยงพระฤๅษีหน่อย เลี้ยงเข้าไปแล้วฤๅษีกับนายพรานเต้นระบำกันใหญ่ เต้นรอบกองไฟที่บูชา ทั้งพรานทั้งฤๅษีเต้นกันเป็นการใหญ่

พอสร่างเมาฤๅษีถามว่า น้ำนี่เอ็งเอามาจากไหน พรานว่าที่ต้นไม้โน้น ไปดูกันก็ได้ ฤๅษีแกมีปัญญาหน่อย แกดูแล้วรู้ว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร มีอะไรบ้างตกหล่นอยู่ในน้ำ เอามาสำรวจแยกธาตุดูว่ามีอะไรบ้าง ก็ว่ามีอะไรบ้าง ก็เลยจัดการเอามาประสมกันเข้าก็เลยเมา พอเมาแล้วก็เข้าไปในเมือง ไปเมืองไหน ก็ไปทำให้คนเมากันฉิบหายหมดเมือง พอเขาจับได้ก็ไปเมืองอื่นอีก

จนไปถึงเมืองหนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินชื่อ สรรพสามิต ถ้าจะเอาชื่อนี้แหละมาตั้งเป็นกรมสรรพสามิต พวกสองคนนี้ไปบอกว่าท่านจะทำน้ำวิเศษถวาย พระเจ้าแผ่นดินถามว่าต้องการอะไรบ้าง บอกว่าต้องการโอ่งร้อยใบ ต้องการของนั่นของนี่มาผสมแช่เป็นน้ำส่าให้มันเมากัน

ทีนี้ หนูมันมากิน กินแล้วนอน แมวก็มากินหนู แมวพอกินหนูเข้าไปแล้วก็อยากน้ำ ก็กินน้ำนั้นแล้วแมวก็หลับใหล หนูมาแทะหนวดแมว แทะหางแมว แทะหมด แมวกลายเป็นท่อนไม้ไปแล้ว

คนมาเห็นแล้ว เอ๊ะ ไม่ได้การแล้วนี่ หนูมาแทะหางแมว แทะหัวแมวแล้วนี่ แมวกินน้ำนี้เข้าไปไม่เป็นแมวแล้วนี่ ไม่ได้แล้ว ต้องนำความไปกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ

พระราชาก็รับสั่งจับสองคนนั่น เพื่อเอาไปพิจารณาโทษฐานทำน้ำพิษแมวกินแล้วตาย

ทีนี้ แมวกินไม่ตาย แต่เรียกว่ามันเมาสลบไสล พอสร้างแมวก็เดินได้ต่อไป อำมาตย์ก็มาทูลอีก แมวไม่ตายพะย่ะค่ะ

สองคนนั้นเลยบอกว่าไม่ใช่เป็นคนทำให้แมวตาย มันดื่มแล้วก็เป็นอย่างนั้นแหละ ฤทธิ์ยาทำให้มันซึมไปชั่วคราว

แต่มนุษย์ไม่ถึงตาย พระองค์ไม่เชื่อลองเสวยดู พระราชาไม่ฟังเสียง รับสั่งให้ทุบไหเหล้าหมด ให้จับสองคนนั้นขังคุก ฐานขายยาเสพติดให้โทษ แต่ว่าตำรานี้มันแพร่หลายแล้ว เลยเหลือมาจนถึงสมัยนี้ นี่คือต้นเหตุของสุรา

สุรานี่เอาชื่อตามนายพรานสุระ ทีนี้พวกเราสึกออกไปแล้ว อย่าไปกินของนายพรานสุระเข้า มันจะเสียหาย ใครที่ชอบดื่มจนมือไม้สั่น สึกไปนี่ก็เลิกๆเสียบ้าง อย่าไปแตะต้องมันอีกต่อไป บวชแล้วเลิกกันที พวกบวชๆนี่เลิกไปหลายคนแล้ว

มีครูอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ แกเมาเช้าเมาเย็น คุณนายเลยบอกว่า ไปบวชเสียทีเถอะ พอบวชแล้วก็เลิกได้ ออกไปแล้วไม่ดื่มอีก

นายทหารคนหนึ่งก็เหมือนกัน เรียบร้อยเดี๋ยวนี้ไม่ดื่ม ได้เลื่อนยศหน้าตาผ่องใส มาวันนั้นจำไม่ได้ มีเลือดฝาดดี เพราะไม่ดื่มเหล้า ใครที่ไม่เคยดื่ม อย่าไปลองเข้า ไม่ได้ ลองแล้วเสียหมด
ออกไปเป็นคฤหัสถ์ต้องมีหลัก อย่างน้อยก็ไม่ดื่มของมึนเมา ไม่เล่นการพนัน จะได้ชื่อว่าได้รับประโยชน์จากการบวช

นี่คืออบายมุข ดื่มเหล้าเป็นอบายมุข ปากทางแห่งอบาย อบายก็คือความเสื่อมความเสียหาย ซึ่งเราควรจะได้สำรวมระวัง

จบตอน จากหนังสือนี้ หน้า ๖๒๓

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2018, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เมื่อคืนที่ผ่านมายอมรับว่า ได้ดื่มกินสุรากับเพื่อน 2 ขวด และระหว่างที่ขับรถกำลังไปหาแม่ ที่บริเวณย่านพัทยาใต้ รู้สึกว่าแอลกอฮอล์ของสุราเริ่มออกฤทธิ์ มีอาการมึนเมาและเกิดอาการง่วงจัด ประกอบกับกลัวด่านเป่าเมา เลยถือนโยบายเมาไม่ขับ จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งตัวลงนอนตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา จนมีชาวบ้านมาเห็นแจ้งตำรวจมาช่วยปลุกตอนเที่ยงวันของวันนี้

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_744795

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2018, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระเอกเมาจนพัง จำใครไม่ได้นั่งใส่แพมเพิร์ส เครียดไม่รู้ลูกตัวเองมั้ย

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 - 15:29 น

โอ บอกว่า ปัญหาทุกอย่างมาจากความเครียด ตกงาน กินเหล้า ตกงานก็เพราะกินเหล้าด้วย ไปทำงานสายบ้าง ไม่ไปบ้าง แล้วก็อยากลืมเรื่องครอบครัว เรื่องผู้หญิง เรื่องเด็ก

มีช่วงหนึ่งที่เหมือนชีวิตจะกลับมาดีแล้ว แต่มันยังมีปัญหา เราก็ใช้เหล้าแก้ปัญหา ดื่มให้ลืม หนักทุกวัน วันละเหลี่ยม ชีวิตเป็นแบบนี้ เพราะตัวเอง ไม่เชื่อคนรอบข้าง ชีวิตพังเพราะเหล้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2018, 07:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงท้ายของชีวิต ชาตรี ศรีชล สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม เนื่องจากดื่มสุราหนัก และสภาพจิตใจก็ท้อแท้ห่อเหี่ยว

https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_758422

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2018, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หนุ่มใหญ่คิดไม่ตกเมียรักหนีจาก ดื่มหนักจนช็อกนั่งเสียชีวิตพิงกำแพงข้างถนน

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 - 13:45 น.

ชาวบ้านที่พบศพคนแรก เล่าว่า ตนเดินมาในซอย พบผู้ตายนั่งพิงกำแพงอยู่ จึงมาเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ พอเดินมาใกล้ เห็นตัวแดงก่ำ หน้าซีด จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ และมูลนิธิ เข้ามาตรวจสอบ ผู้ตายชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ แล้วเมียได้ขอเลิก ยังไม่ถึงเดือน ขนข้าวของออกจากบ้าน ผู้ตายยิ่งดื่มหนักกว่าเดิม คาดวันเกิดเหตุ คงนั่งพัก เพราะเมาหนัก แล้วนอนหลับตายไปเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2018, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีข่าวบ่อยโดดให้รถชน รายนี้บอก เมา ดื่มเหล้า บางรายก็ว่าเป็นโรคจิตโรคประสาท บางรายโดดขวางโชเฟอร์ตกใจหักหลบประสบอุบัติเหตุก็ฉกทรัพย์เขา

รูปภาพ


ร.ต.อ ธีรพัทธ ป้องเรือ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าโมก ช่วยราชการ สภ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุมีคนกระโดดขวางหน้ารถพ่วง เมื่อรถจอดก็ปีนขึ้นไปดึงกุญแจรถพ่วงจำนวน 2 คัน ก่อนคว้าโทรศัพท์ในรถพ่วงคันที่ 2 แล้วพยายามหลบหนี แต่คนขับรถทั้งหมดช่วยกันแย่งคืนมาได้ ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย (ขาขึ้นนครสวรรค์) ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 56-57 หมู่ที่ 2 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2018, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สองพี่น้องตั้งวงกินเหล้า พอเมาได้ที่วิวาทชกต่อยกันเอง ก่อนพี่ชายคว้าอิฐทุบหัวน้องดับสลด

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_823652

คนผลิตเหล้าผลิตเบียร์ รวยติดอันดับท้อปเท็นนะ :b32:

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5B4BE8E9

https://www.prachachat.net/property/news-127560

ชายป่วยประหลาด คล้ายเดอะฮัลค์ ร่อแร่ใกล้ตาย หมอชี้สาเหตุมาจากเหล้า!!

รูปภาพ


https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_863044

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2018, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวพุทธทั่วไป ก็จะรู้แค่ว่า อบายมุข เป็นเหตุแห่งเครืองฉิบหาย

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2018, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
ชาวพุทธทั่วไป ก็จะรู้แค่ว่า อบายมุข เป็นเหตุแห่งเครืองฉิบหาย

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย


เอาไปต้มน้ำดื่มด้วย จะเป็นปากประตูปนิสยปัจจัย 4

คุณโลกสวยกำลังเมาอยู่นะครับน่า

เป็นไปได้ยังไง อวิชชา ซึ่่งเป็นอกุศลจิต เป็นปัจจัยแก่มหากุศลจิตได้ อธิบายไปสิขอรับ

อ้างคำพูด:
อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2018, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
ชาวพุทธทั่วไป ก็จะรู้แค่ว่า อบายมุข เป็นเหตุแห่งเครืองฉิบหาย

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย


เอาไปต้มน้ำดื่มด้วย จะเป็นปากประตูปนิสยปัจจัย 4

คุณโลกสวยกำลังเมาอยู่นะครับน่า

เป็นไปได้ยังไง อวิชชา ซึ่่งเป็นอกุศลจิต เป็นปัจจัยแก่มหากุศลจิตได้ อธิบายไปสิขอรับ

อ้างคำพูด:
อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง



อ่านหนังสือให้แตกก่อนนะคะ

หนูเขียนว่า

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2018, 17:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
ชาวพุทธทั่วไป ก็จะรู้แค่ว่า อบายมุข เป็นเหตุแห่งเครืองฉิบหาย

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย


เอาไปต้มน้ำดื่มด้วย จะเป็นปากประตูปนิสยปัจจัย 4

คุณโลกสวยกำลังเมาอยู่นะครับน่า

เป็นไปได้ยังไง อวิชชา ซึ่่งเป็นอกุศลจิต เป็นปัจจัยแก่มหากุศลจิตได้ อธิบายไปสิขอรับ

อ้างคำพูด:
อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง



อ่านหนังสือให้แตกก่อนนะคะ

หนูเขียนว่า

เพราะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ก็จะไม่รู้ว่า เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้

แม้นแต่ อวิชชา

ก็ยังเป็น ปัจจัย แก่กุสลจิต 17 เจตสิก 38
ด้วนอำนาจ 2 ปัจจัย

อวิชชา เป็น ปัจจัย แก่ มหากุสลจิต 8 เจตสิก 38 ดวง
ด้วยอำนาจ
อารัมมณปัจจัย
ปกตูปนิสยปัจจัย

อวิชชายังเป็น ปัจจัย แก่ มหัคคตกุสลจิต 9 เจตสิก 35
ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสยปัจจัย



อารัมมณปัจจัย หมายอะไรยังไงครับ
ปกตูปนิสยปัจจัย หมายถึงอะไรยังไงครับ

ทำไมถึงเป็นปัจจัยให้อวิชชา คือ ความไม่รู้ เป็นโมหะ เป็นอกุศลด้วยเนี่ย เป็นปัจจัยแก่มหากุศลจิตได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2018, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร