วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2017, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมอันทำให้งาม ๒ อย่าง

ธรรมอันทำให้งาม ความงามมี ๒ อย่าง งามนอก, งามใน

งามนอก ควรจะเรียกว่า “สวย” งามในควรจะเรียกว่า “งาม” เราจึงมีคำว่า สวยงาม

จมูกสวย แก้มสวย ปากสวย ผมสวย นิ้วเรียวเหมือนกับลำเทียน แขนของเธอเหมือนปีกแมงทับทอง มันระยับย่องน่าทัศนา อันนี้เป็นความสวยของร่างกาย

ความสวยอาจจะไม่งามก็ได้ คนบางคนสวย กิริยามารยาทไม่ดี พูดจาไม่เข้าที ความประพฤติเหลวแหลก อันนี้ เขาเรียกว่าเหมือนกับลูกขี้กา

ลูกขี้กาน่ะ ภายนอกโสภา ข้างในขม มันแขวนอยู่ตามกอไผ่ ตามพุ่มไม้เปลือกนอกน่ะ เหลืองเป็นสีลูกท้อเลย ผ่าออกดูข้างในแล้วสีดำ ดมแล้วก็อาเจียนเลย เป็นยาสำหรับรักษาท้อง เอามาต้มแล้วกินเข้าไปละก็ออกเป็นแถวเลย ลูกขี้กามันใช้อย่างนั้น ข้างนอกโสภา ข้างในขม

แต่ว่าขนุนน่ะ ข้างนอกขรุขระ ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง หมายความว่ามันสวย ขนุนข้างนอกไม่สวย ข้างในมันพอใช้ได้

ทุเรียนก็เหมือนกัน ข้างนอกมีหนามหนา ไม่น่ากิน แต่รสกลิ่นข้างในพอใจคน เรียกว่ากินอร่อย ทุเรียนนี่กินอร่อย มันดูข้างนอกไม่เป็นท่า แต่ข้างในมันดี

คนก็เหมือนกัน คนบางคนรูปร่างไม่ดี แต่ว่ากิริยามารยาทดี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2017, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยเห็นคู่หนึ่ง ภรรยาเขาไม่น่าดูเลย ตาก็เหล่ ผิวก็ดำเป็นสีหมึก ผัวนั้นรูปร่างสวยเป็นพระเอก แต่ภรรยานั้นเหมือนนางผีเสื้อ

แต่ว่าดูในครอบครัวเขารักกันจริงๆ ผัวก็รักเมีย เมียก็รักผัว อยู่กันดี ไปสังเกตดูความเป็นอยู่ ภรรยานี่งานการดีมาก สุภาพเรียบร้อย พูดจาดี ผิวไม่ดี หน้าตาไม่ดี พูดจาเรียบร้อย ผัวกลับบ้านนี่ออกไปรับถึงบันได ถอดเสื้อนอก ล้างเท้าให้ ขึ้นมานั่งก็เอาพัดมาวี มีของหวานมาให้กิน บ้านช่องจัดสะอาดเรียบร้อย บริเวณบ้านจัดสะอาด ผัวสบายใจ

ผู้ชายก็อย่างนี้แหละ พูดกันไปแล้ว เหมือนกับหยาบคาย “คล้ายกับควายเราดีๆ นี่เอง” ไอ้หนองไหนมีน้ำดีๆ ก็ไปนอนเขลงอยู่นั่นแหละ ไม่ไปไหนดอก

แต่หนองไหนมันแห้ง ใครจะไปนอน เพราะฉะนั้น ทำหนองให้มันดีควายคู่มันจะมา เคยเทศน์ให้แม่บ้านให้แกฟัง แหม หัวเราะกันใหญ่

ไปเทศน์ที่สมาคมวัฒนธรรมหญิง บอกว่าผู้ชายก็ควายเราดีๆ นี่เอง ถ้าว่ารู้จักเอาอกเอาใจมันก็ไม่ไปไหนดอก แต่ถ้าไม่รู้จักป้อนน้ำ ไม่รู้จักรักษามันก็ไปนาแปลงอื่น แปลงอื่นเขาเก่งกว่าเขาก็เอาไปเสีย อย่าไปโทษเขา แต่โทษเราดีกว่า เรามันบกพร่องเอง ไม่ได้เรื่องได้ราว เรื่องมันเป็นอย่างนั้น หัวเราะชอบอกชอบใจ

รูปร่างไม่ดีดอก แต่ว่าดีในกิริยามารยาท นิสัยใจคอ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใครไปแล้วติดอกติดใจ นี่ตัวอย่างเห็นง่ายๆ ว่ารูปร่างนี่มันไม่สำคัญ สำคัญที่น้ำใจ น้ำใจนี้สำคัญกว่า

ความงามแท้อยู่ที่น้ำใจ ไม่ใช่อยู่ที่ร่างกาย เพราะฉะนั้น เราจะเลือกคู่นี่สำคัญเหมือนกันนะ หนุ่มๆที่ยังไม่มีคู่ จะไปเลือก อย่าเลือกเอาว่ารูปร่างต้องดีเสมอไป ไม่แน่นา รูปร่างดีน่ะ มีกลอนบทหนึ่งเขาว่า “หญิงรูปดีขี้มักไม่รักผัว เพราะถือตัวว่าไม่ขาดคนปรารถนา” เขาว่าอย่างนั้น ว่าเป็นแต่เพียงว่าไว้อย่างนั้น แต่ก็น่าคิดเหมือนกัน แต่ถ้าได้ ๒ อย่างมันก็วิเศษ รูปร่างดี จิตใจดี ใช้ได้ เรียกว่า งามพร้อม แต่ถ้าพวกใจดีน่ะสำคัญ รูปร่างไม่เป็นไร สำคัญที่น้ำใจ

ใจจะงามเพราะอะไร ? เพราะมีคุณธรรมประดับน้ำใจ งามด้วยเครื่องประดับคือธรรมะ ๒ ตัว ทำให้งาม คือ ขันติ, โสรัจจะ ขันติ แปลว่า ความอดทน โสรัจจะ คือ ความเสงี่ยม คู่กันไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2017, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขันติ ความอดทน คนมีขันติ หมายความว่า อดทนได้ อดทนมันมี ๓ ขั้น เรียกว่า ทนลำบาก ทนครากตรำ ทนเจ็บใจ

ทนลำบาก เรียกว่าเจ็บไข้ได้ป่วย ร่างกายเจ็บปวด ไม่ร้อง ไม่รู้ ไม่เอะอะโวยวาย บางคนไม่ได้ คนจะปลอบโยนมาก็ยิ่งทำเป็นเจ็บใหญ่เลย เจ็บให้เขาช่วยลูบคลำ คนประเภทนี้มันก็มี อ่อนแอ ไม่ดี ต้องอดทน ไม่แสดงอาการออกมา ไม่บ่น

ทนต่อความตรากตรำ ดินฟ้าอากาศ ฝนตกบ้าง แดดออกบ้าง ร้อนบ้าง หนาวบ้าง เดินทางไม่สะดวกบ้าง เช้าๆเวลาไปบิณฑบาต ไอ้หินเม็ดเล็กๆ มันฝึกดีนัก ตำเท้าเจ็บปวดไปทีเดียว ถ้ารู้สึกท้อถอยว่าไม่ไหว บวชอย่างนี้ไม่ไหว คิดจะลาสิกขาละ คิดดูเถอะ หินเม็ดเล็กๆ จะทำให้คิดลาสิกขาได้ ไม่มีความอดทนต่อสิ่งนั้นต่อสิ่งนี้ ต่อลมฟ้าอากาศ ต่อธรรมชาติที่มากระทบ เราต้องอดต้องทน คนที่บวชนานๆ แสดงว่าต้องอดทน ต้องทนลำบาก เคยเดินเท้าเปล่าเคยทำอะไรมามากแล้ว จนแก่จนเฒ่า ต้องมีความอดทนจึงอยู่มาได้ เรียกว่า ทนตรากตรำต่อธรรมชาติ

ความอดทน ที่เรียกว่าเก่งนั้น ก็คือ ทนเจ็บใจ ทนต่อสิ่งยั่วยุที่จะทำให้เราเกิดอารมณ์

สิ่งยั่วยุที่ทำให้เราเกิดกำหนัด เราต้องอดทน ไม่แสดงออกซึ่งความกำหนัด ให้ขัดเคืองไม่แสดงความขัดเคือง ให้ลุ่มหลงไม่แสดงความลุ่มหลง ให้มัวเมาไม่แสดงความมัวเมา เป็นคนหนักแน่น ไม่อ่อนไหวต่ออารมณ์ คล้ายกับเสาหิน ลมพัดก็ไม่โยกไม่โคลง ไม่หวั่นไหว ตาเห็นรูป จมูกได้กลิ่น หูได้ยิน ลิ้นได้รส กายได้ถูกต้องอะไร ก็ไม่เกิดกิเลสนั้นๆขึ้นในใจ เรียกว่ามีความอดทนได้ ประเภทนี้ เรียกว่า ทนชั้นสูง หรือว่าทนต่อความกระทบกระเทียบเปรียบเปรย ใครมาด่าว่าเรา เช่น ด่าเราไอ้ชาติชั่ว เราก็ไม่คิด เฉยๆ ไว้

การจะเฉยได้มันต้องใช้ปัญญาด้วยนะ ไม่ใช่ทนเฉยๆ ใช้ปัญญาว่า มันว่าเราชาติชั่ว เรามันไม่ใช่ชาติชั่ว นี่ เรามันชาติไทย เราไม่ได้จดทะเบียนสำมโนครัวว่าชาติชั่วนี่ ไอ้นี่มันพูดโกหกไม่เข้าท่าเลย จะไปถือสาอะไรกับคนไม่เต็มเต็งอย่างนั้น หรือเขาว่าไอ้นี่หมา เรามาคลำดูบนหัวไม่มีหู เราก็ไม่ใช่หมา เรานี่มันคนเว้ย แต่ก็ต้องว่าในใจ อย่าไปว่าตอบเขา เดี๋ยวมันจะมาชกปากเอา เราเฉยๆ ก็อดทนได้ อย่างนี้แล้วสบายใจ อดทนต่อคำเสียดสีได้ ไม่วุ่นวายอะไร อย่างนี้ดี

มีพระองค์หนึ่ง ชื่อท่านปุณณะ ไปลาพระพุทธเจ้า จะไปเทศน์สอนคนในแคว้นปุนาปรันตะ แคว้นนั้นนักเลงมาก คนเกะกะเยอะ

พระพุทธเจ้าถามว่า เธอจะไปได้หรือในแคว้นนั้นน่ะ นักเลงมันเยอะ ?

อยู่ได้ พะย่ะค่ะ พระปุณณณะ ตอบ

เธอจะทำอย่างไร ถ้าเขาด่าเธอ เธอจะคิดอย่างไร ?

ข้าพระองค์คิดว่า ดีกว่าเขาตี ไม่คิดอะไรดอก

ถ้าเขาตีเธอ เธอจะคิดอย่างไร ?

ก็ดีกว่าเขาฆ่าให้ตาย แค่ตีให้เจ็บปวด ไม่เป็นไร

ถ้าเขาฆ่าเธอให้ตาย เธอจะทำอย่างไร ? ก็ดีเหมือนกันไม่ต้อง

ฆ่าตัวเอง ซึ่งแสดงว่าพระปุณณะดีมาก ใครจะด่าว่าตีก็ทนได้ทั้งนั้น ถึงเขาจะเอามีดดาบมาฟันคอ ก็คิดว่าดีเหมือนกันที่ไม่ต้องฆ่าตัวเอง เพราะบางคนต้องฆ่าตัวเอง นี่ไม่ต้องฆ่าเพราะเขาฆ่าให้แล้วเรียบร้อย

พระพุทธเจ้าบอกว่า ดี เธอคิดแบบนี้แล้วไปสอนธรรมะได้

ผู้ที่มีความอดทนเป็นพื้นฐาน ไม่โกรธใคร ไม่เคืองใคร เคยมีคนทดสอบพระสารีบุตรว่าจะมีความอดทนขนาดไหน ท่านเดินมากับพระเยอะๆ ก็มีคนแอบเข้ามากับหมู่พระที่เดินเป็นแถว แทรกไปถึงก็เอาไม้ฟาดพระสารีบุตร ท่านก็เดินเฉย ไม่หันมาดูด้วยซ้ำไปว่าอะไรมันเกิดขึ้น แสดงว่า อดทนเหลือเกิน อดทนได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2017, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าเคยถูกคนด่า พวกบริวารของนางมาคันทิยาไปดักด่า พระองค์ออกบิณฑบาตไปทางถนนนี้ก็ไปดักด่าว่า เป็นอูฐ เป็นโค เป็นลา เป็นสมณะหัวโล้น ด่า ๑๐๘ คำที่ด่าคนให้เจ็บเอามาว่าหมด
พระองค์เฉยๆ ไม่ว่าอะไร แต่ว่าพระอานนท์รำคาญ เพราะพระอานนท์ท่านยังรำคาญเป็นอยู่ บอกว่าไม่ไหว เมืองนี้คนด่ามากเหลือเกิน ไปเสียดีกว่า

พระองค์ก็ถามว่า ไปไหนอานนท์ ? ไปเมืองอื่น

แล้วถ้าเมืองโน้นเขาด่าอีกล่ะ ? ก็ไปเมืองอื่นต่อไป ก็หนีกันแย่ซิอย่างนั้นน่ะ ไม่ได้ เหตุมันเกิดที่นี่ ต้องให้มันดับที่นี่ หนีไม่ได้ เราเป็นนักสู้ ไม่ใช่นักหนี ให้เหตุมันดับที่นี่ อานนท์ไม่ต้องกลัวดอก คนด่าตถาคตไม่เกิน ๗ วันดอกก็เลิกด่า มันจะด่าอะไรนักหนา ไม่ด่าตอบมันก็หยุดเอง ไม่ต้องถึง ๗ วันดอกแล้ว

พระองค์ก็ตรัสน่าฟังว่า “อหํ นาโคว สงฺคาเม จาปาโต ปติตํ สรํ ฯลฯ” บอกว่า เราเหมือนกับช้างออกศึก ข้าศึกยิงลูกศรมาทั้ง ๔ ทิศจนกระทั่งเต็มตัวช้าง ช้างไม่ถอย ยืนอยู่นั่นแหละ แม้ลูกศรเต็มตัวก็ยืนอยู่นั่นแหละ ตายทั้งยืนไม่มีถอย

ตถาคตก็จะทำอย่างนั้น คนในโลกนี้มีชั่วมากกว่าดี เขาด่า เขาว่า ตามเรื่องของเขา ไม่ไปเอามาเป็นอารมณ์แล้ว ก็ทนได้ ไม่เป็นไร อันนี้เป็นความอดทนที่ประเสริฐสุด เราจึงควรฝึกอดทนไว้ ทนต่อเรื่องอะไรทุกอย่าง อย่าใจอ่อน อย่าใจน้อย ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง แจ่มใส ใจสบาย.

ที่นครศรีธรรมราช มีตัวอย่างอยู่เรื่องหนึ่ง มีคนคนหนึ่ง คนนั้นแกชื่อว่านายเสนาะ แต่ชาวบ้านเรียกนายเหนาะ ปักษ์ใต้เขามักจะตัดคำ ๒ พยางค์ให้เหลือพยางค์เดียว

นายเหนาะเป็นคนดีมาก บวชเป็นพระหลายพรรษา เคยไปธุดงค์ตามป่าช้า แต่ต่อมาพอไปเจอสาวงามก็เลยทิ้งกลดธุดงค์ไปเสีย ไปอยู่บ้าน

แต่อยู่บ้านอย่างคนดี มีอาชีพทำสวนปลูกพลูขาย แล้วก็เป็นหมอแผนโบราณ แกชอบทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น ทางเข้าวัดมันรกและเฉอะแฉะ แกต้องไปถางให้มันกว้างและเอาดินมาเกลี่ยให้มันเรียบ เดินสบาย ผมเคยไปที่บ้านนั้น ทางที่เดินจากหมู่บ้าน เข้าไปวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร ก็เลยถามว่าใครทำ เขาบอกว่านายเหนาะแกทำคนเดียว ทำทุกวัน เช้าทำเย็นทำ ทางเตียนเรียบร้อย

แต่คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ คนโบราณว่าอย่างนั้น มีไอ้เจ้าหนุ่มคนหนึ่งไม่ชอบนายเหนาะ เรื่องอะไรก็ไม่รู้ คนเราบางทีเกลียดใครก็ไม่รู้ว่าเกลียดเพราะอะไรเหมือนกัน นายคนนั้น ก็แบบนั้นแหละ แกก็มาลักไก่ของนายเหนาะไปแกงจนหมดทั้งเล้า นายเหนาะแกก็ไม่เคยบ่น หรือบ่นให้ใครฟังเลย ว่าไม่ร่าไอ้ผีที่ไหนเอาไก่ของกูไปกินจนหมดเล้า แกไม่พูดไม่ว่า เฉยๆ ตลอดเวลา นายเหนาะไม่แสดงอาการทุกข์ให้ใครเห็น

คนเรานี่ถ้าทำให้คนอื่นเจ็บแล้ว เขาไม่แสดงอาการเจ็บให้เห็น ก็ยังไม่หายเจ็บใจ ก็นึกว่าทำอะไรให้เห็นต่อไป ก็ตัดพลู พลูมันขึ้นมาไม้ค้าง ตัดทีโคนใบข้างบน มันก็เหี่ยวหมด ตายหมด พลูแกก็ตายเป็นแถว

นายเหนาะเห็นพลูตายก็สงสัย พอไปดูเห็นเข้าก็ไม่ว่าอะไร ปลูกมันใหม่ขึ้นมาอีก ไม่บ่นไม่ว่า นายคนนั้นไม่สาแก่ใจ นึกในใจว่าต้องไปทำให้เจ็บอีก ไปถึงหน้าบ้านไปยืนด่า ถือมีดไปด้วยไปยืนด่า ลับจนคมขาวทีเดียว ไปด่าไอ้หอก ไอ้ชาติ...ไอ้ชาติ...แต่ละชาติไม่ได้มีในทะเบียนทั้งนั้น ออกกำลังด่า ตะโกนชี้หน้าด่าจนเหนื่อย นั่งพัก นึกว่าพักเสียหน่อยแล้วค่อยด่าต่อ พอนั่งพัก

นายเหนาะแกได้ท่า เลยเรียกลูกชาย บอกไอ้หนูเอาน้ำไปให้เขากินสักขันสิ มันด่าพ่อจนคอแห้งแล้ว ไอ้ลูกชายก็เก่งไปตักน้ำในหม้อดินใส่ขันลงหินใบใหญ่ แล้วก็บ้านแกเป็นหมอ ปลูกต้นมะลิไว้ก็ให้ลูกเด็ดดอกมะลิ โรยไปในขัน ทั้งหอมทั้งเย็น ไอ้นั่นคอกำลังแห้ง ไม่รู้ว่าน้ำของใคร กูจะกินแล้วล่ะ กินอึกๆ น้ำมันเย็นลงไปในท้อง คิดดูเถอะ คนเราเวลากินน้ำเย็นแล้วจะรู้สึกยังไง มันก็เย็นวูบลงไปในท้องแล้วก็มีกลิ่นหอมด้วย ทำให้เกิดความรู้สึกนึกขึ้นมาได้ว่า กูนี่ชาติชั่วมาเบียดเบียนนายเหนาะ ซึ่งแกไม่ได้โกรธกู ทำเท่าใดๆ แกก็ไม่โกรธกู มาด่าคนอย่างนี้บ่อยๆ กูก็จะหัวแตกเอา ไม่เอาละ เลิกด่ากันที วางมีดเดินพนมมือเข้าไปเลย สารภาพว่าไก่ในเล้าผมเอาไป พลูผมก็ตัดเองเหมือนกัน ทำอะไรๆ น้าไม่โกรธสักทีเลย จะมาด่าให้เจ็บวันนี้ นายเหนาะก็ยิ้มบอกว่า เรื่องเล็กน้อยนั่งเถอะ นั่งให้สบาย เรียกลูกสาวมา อีหนูหุงข้าวต้มแกงเลี้ยงกันสักมื้อเถอะ เลี้ยงข้าวเขาอีกมื้อ เลยชนะ

นี่แหละที่เขาชนะความชั่วด้วยความดี ชนะด้วยความอดทนแท้ๆ แล้วต่อมานายคนนี้กลายเป็นป้อมปราการของนายเหนาะ ใครมาว่าอะไรก็ออกรับแทน บอกว่าอย่าไปว่านายเหนาะเลย แกคนเหมือนกับพระในโบสถ์ ไม่ได้เรื่องดอกที่จะคิดด่าแกน่ะ นายเหนาะเลยได้พวกดีไป เพราะแกมีความอดทน ไม่โต้ตอบ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2017, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความอดทน เป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์ เป็นเดชอำนาจของผู้บำเพ็ญพรต เป็นกำลังเผาผลาญกิเลสอย่างยิ่ง

ถ้าเราฝึกความอดทนไว้แล้วมันสบาย ไม่เดือดร้อน เรามาบวชเท่ากับฝึกการอดทนมาก ไปบิณฑบาต นั่งสวดมนต์ ก็เป็นเรื่องอดทนทั้งนั้น นั่งภาวนา ก็เป็นการฝึกความอดทนทั้งนั้น ถ้าเราอดทนได้ก็ใจสบาย ถ้าทนไม่ได้ก็เดือดร้อนใจ หัดอดทนแล้วใจสบาย โอกาสใดที่จะฝึกความอดทนได้ ต้องฝึก แล้วเราจะแข็งแกร่ง

มีคนหนึ่งที่นี่ เขาไปอยู่อเมริกา กลับมาก็บวช บวชเสร็จไปติดทหารเป็นทหารเรือ เพราะบ้านแกอยู่ชลบุรี ไปเป็นทหารอยู่สักเดือนมาเยี่ยม ผมก็ถามว่าเป็นยังไงไปเป็นทหาร แกบอกว่า ถ้าผมไม่บวชวัดชลประทานฯ ผมคงหนีทหารเสียนานแล้ว บอกว่าที่คิดได้ก็เพราะหลวงพ่อเทศน์ผมทุกๆ วัน สอนให้อดทนให้หนักแน่น มีใจเข็มแข็ง ผมจะไปหนีได้อย่างไร เสียชื่ออาจารย์หมด เขาเลยอยู่จนครบวาระแล้วก็กลับไปทำงานที่อเมริกาต่อ

นี่แหละผลที่ได้ คือประสบความลำบากยากเข็ญอย่างไรก็อดทนสู้ ไอ้ที่สำคัญต้องทน ทนต่อสิ่งยั่วยุ ทนต่ออามรณ์ที่มากระทบได้ มันประเสริฐแท้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2017, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม หมายถึง บังคับตัวเองไว้ได้ เช่น คนบางคน เขาด่า ไม่ตอบจริง แต่หูแดง ตาแดง มือไม้ชักสั่นๆ จะหยิบฉวยอะไรก็งกๆ เงิ่นๆ ไม่เสงี่ยม ต้องควบคุมตัวเองให้เสงี่ยมไว้ด้วย

ถ้าเกิดอาการเช่นนั้น ก็ต้องแก้ไขโดยวิธีหนึ่งคือหายใจแรงๆ ให้ลมเต็มปอดเลย หายใจเข้า-ออกแรงๆ สักสามสี่ครั้ง จะคลายความโกรธ เพราะเป็นการเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความรู้สึก แล้วก็ควบคุมตัวเองให้สงบไว้
คนบางคนชอบตื่นเต้น อะไรมากระทบก็เป็นต้องตื่นเต้นแสดงอาการออกมาทันที ดีใจง่าย เสียใจง่าย อะไรมากระทบนิดหน่อย ก็เป็นเหมือนไข่กระทบหิน ต้องมีอาการสงบระมัดระวังตัวที่จะไม่มีอาการแสดงออกง่ายๆ

การแสดงอะไรออกไปง่ายๆ เสียเปรียบคนอื่นเขา เช่น เราจะพูดอะไร กับ เขาในแง่ใดแง่หนึ่ง เราเป็นคนประสาทไว แสดงอาการอะไรออกไป ทำให้เขาจับอากัปกิริยาของเราได้ โดยดูทางมือ ตาหรือกลืนน้ำลาย แสดงความตื่นเต้นหวาดกลัวในเรื่องนั้น เขาจะเป็นเบี้ยบน เอาเปรียบข่มขู่เราได้ เพราะรู้ว่ากำลังใจมันผิดกัน แต่ถ้าเราเป็นคนหนักแน่น เฉยๆ อะไรเกิดขึ้นก็ให้สงบๆ ต้องหัดทำตัวให้สงบเสงี่ยม พูดแต่น้อยๆ หัดพูดแต่เรื่องที่จำเป็นหรือเป็นประโยชน์ อะไรไม่ควรโต้ตอบก็ไม่โต้ตอบ ใครพูดอะไรกระทบก็ทำเป็นไม่ได้ยินเสียบ้าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2017, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีพระมหาเถระองค์หนึ่ง คือท่านพระมหากัจจยนะ ท่านพูดไว้ดี พูดว่ามีตาให้ทำเหมือนตาบอด มีหูก็ทำเหมือนคนหูหนวก มีลิ้นก็ทำเหมือนกับว่าเป็นคนพูดไม่ได้ มีมือก็เหมือนมือคนเป็นอัมพาต ยกไม่ขึ้น มีอะไรเกิดขึ้นก็เข้าห้องนอน เอาผ้าคลุมหัวเสีย ก็ไม่มีเรื่องอะไร เราอย่าไปเที่ยวคิดวุ่นวายว่า เฮ้อ ไม่ได้ เสียเหลี่ยม ใครจะมาลูบคมไม่ได้ ก็ถ้ามาทำคมให้เขาลูบได้มันก็ยุ่งทุกที อย่ามีคมเสียก็แล้วกัน ไม่ทำให้เพื่อนต้องลูบคมเราเสียบ่อยๆ อย่ามีเหลี่ยม ทำตัวให้เป็นไม้กลมไปเสียก็หมดเรื่อง เพราะยังกลิ้งได้ ก็กลิ้งหนีไปเสียเลย เขาเรียกว่าแขวน “หลวงพ่อโกย” พอมีอะไรเกิดขึ้นก็โกยอ้าวไปเลย เรื่องมันก็ไม่มี ถ้าเล่น “หลวงพ่อชก หลวงพ่อต่อย” ก็มักเกิดเรื่อง ต้องบังคับตัวเองให้มีความสงบเสงี่ยม เรื่องที่ไม่ควรทำ ก็ไม่ทำ นั่งเฉยๆ เยือกเย็น คนมักจะเกรง เพราะไม่แสดงออก คนหลุกหลิก ลุกลี้ลุกลน คนเขาอ่านออกได้ง่าย เพราะฉะนั้น ต้องควบคุมจิตให้ดี นี่สำคัญ เรียกว่า ขันติ และ โสรัจจะ ทำให้อยู่เย็นเป็นสุขได้ ไม่เกิดปัญหาในชีวิตของเรา

(จบตอน)

จากหนังสือนี้ (หน้า ๑๘๓)

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2018, 08:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2015, 09:43
โพสต์: 702

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุนะครับ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2022, 04:00 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2022, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2023, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2024, 09:34 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร