วันเวลาปัจจุบัน 25 ส.ค. 2025, 03:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2017, 14:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรู้ไม่ทันย่อมสร้างชอบ ชัง เฉย สร้างดี ชั่ว บุญ บาป รวย จน ภพภูมิ จักรวาล ดวงดาว พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ความดิ้นรนเดือดร้อนและทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดดับแห่งสิ่งทั้งปวง แต่ความรู้ทันย่อมหลุดพ้นได้ทุกอย่างและไม่ดิ้นรนเดือดร้อนจุ้นจ้าน ในและนอกจักรวาล สงบเย็นในสังขาร หมดพิษภัยใดๆ ทั้งสิ้น

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 05:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้ว....การรู้ไม่ทัน..สร้างภพ..สร้างจักรวาล..สร้างดวงดาวยังงัย..เล่าให้ฟังหน่อยซิ..

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 11:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดล้วนแล้วแต่จิต โลกคือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โลกคือหมู่สัตว์ โลกคือจักรวาล ดวงดาว โลกคือภพภูมิต่างๆ ที่สุดแห่งโลกคือที่สุดแห่งตา ที่สุดแห่งแห่งใจคือการดับวิญญาณ การสร้างของจิตด้วยพลังแห่งความรู้ไม่ทัน สร้างจากอณูที่เล็กๆ ที่มองไม่เห็นจนไปถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต เกิดขึ้นเรียกว่าเป็นอจิณไตย ไกลเกินกว่าความคิดคาดเดาจะไปถึง ใครเผลอไปครุ่นคิดต้องถึงความวิกลจริตไป เรืองโลก เรื่องกรรม เรื่องฌาณ เรื่องความสามารถของพระพุทธเจ้า ล้วนแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะขืนไปคิดจะถึงความบ้าไปเพราะหาต้นเหตุไม่เป็น ก็คือ เพราะความรู้ไม่ทันจึงเกิดการปรุงแต่ง เพราะการปรุงแต่งจึงสร้างจิตวิญญาณ เพราะสร้างจิตวิญญาณจึงมีภพภูมิเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวงกลมแห่งปฎิจจสมุปบาท สมกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสว่า ต้นเหตุอยู่ที่ความรู้ไม่ทันทั้งสิ้น ในเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มีในเมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ เพราะรู้ไม่ทันจึงทำให้มี แต่พอรู้ทันก็ทำให้ดับ ก็มีด้วยประการฉะนี้

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 12:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดล้วนแล้วแต่จิต โลกคือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โลกคือหมู่สัตว์ โลกคือจักรวาล ดวงดาว โลกคือภพภูมิต่างๆ ที่สุดแห่งโลกคือที่สุดแห่งตา ที่สุดแห่งแห่งใจคือการดับวิญญาณ การสร้างของจิตด้วยพลังแห่งความรู้ไม่ทัน สร้างจากอณูที่เล็กๆ ที่มองไม่เห็นจนไปถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต เกิดขึ้นเรียกว่าเป็นอจิณไตย ไกลเกินกว่าความคิดคาดเดาจะไปถึง ใครเผลอไปครุ่นคิดต้องถึงความวิกลจริตไป เรืองโลก เรื่องกรรม เรื่องฌาณ เรื่องความสามารถของพระพุทธเจ้า ล้วนแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะขืนไปคิดจะถึงความบ้าไปเพราะหาต้นเหตุไม่เป็น ก็คือ เพราะความรู้ไม่ทันจึงเกิดการปรุงแต่ง เพราะการปรุงแต่งจึงสร้างจิตวิญญาณ เพราะสร้างจิตวิญญาณจึงมีภพภูมิเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวงกลมแห่งปฎิจจสมุปบาท สมกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสว่า ต้นเหตุอยู่ที่ความรู้ไม่ทันทั้งสิ้น ในเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มีในเมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ เพราะรู้ไม่ทันจึงทำให้มี แต่พอรู้ทันก็ทำให้ดับ ก็มีด้วยประการฉะนี้

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


เกือบดี...ครับ..เกือบดีแล้ว...

นี้ถ้ารู้ทัน...ความรู้ไม่ทัน..ความไม่ทันรู้..คำที่ตนเองพูด...ก็อาจพูดได้ดี..ได้ถูกกว่านี้...นะครับ..

ความรู้ไม่ทัน..สร้างโลก..สร้างดวงดาว..สร้างจักรวาล..ได้อย่างไร...เราต้องค่อยๆเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราเห็นง่ายๆก่อน..เช่น..การสร้างรถ..สร้างเครื่องบิน..สร้างยานอวกาศ..เป็นการสร้างอย่างไม่รู้ทันอย่างไร...แล้วค่อยๆสาวไปหาพฤติกรรมของจิต..นะครับ..

แต่ก็ขอปรบมือให้...ที่พยายามอธิบายมา..นะครับ

:b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 20:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่ารู้ไม่ทัน หมายความว่ารู้ไม่ทันต้น กลาง สุด แห่งชวนจิต เพียงแต่รู้ก่อนบ้าง หลังบ้าง เว้นปัจจุบันไป แต่ก็ฉลาดเท่าที่เห็นๆ กันอยู่นี่แหละ เพียงแต่ฉลาดในความจำ ความคิด ก่อนบ้าง หลังบ้าง แต่ไม่ทันขณะปัจจุบัน เรียกว่า รู้ไม่ทันตามความเป็นจริง แต่ก็จบ ดอกเตอร์ ศาสตราจารย์ กันไปในที่สุด แต่ก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รู้ทันตัว
จะเกิดและตัวจะดับ เพราะนั่นจะรู้ได้เฉพาะผู้ที่รู้ทันต้นเหตุซึ่งเป็นสัมมาทิฎฐิเท่านั้น สังเกตง่ายๆ คนที่จบ
ด็อกเตอร์ หรือ ศาสตราจารย์ ยังละความชอบ ความชัง และความเฉยไม่ได้ นี่แหละ ตัวสร้างสรรพสิ่งต่างๆ
ทั้งรูปและวิญญาณ รูป คือ โลกทั้งหมด วิญญาณ คือ ตัวรู้ไม่ทันทั้งหมด แต่ตัวรู้ทันจึงกลายเป็นปัญญา
การสร้างเครื่องบินหรือเทคโนโลยีก็สร้างความด้วยความชอบ ความชัง ความเฉย เรียกว่ารู้ไม่ทัน
รวมทั้งขีปนาวุธด้วย แล้วก็วิวัฒนาการไปถึงขั้นสร้างปรสิตจนถึงจักรวาลอันเป็นอจิณไตยที่ไม่ควรคิด

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2017, 21:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็อย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว..นั้นแหละคับ...

จาก..คำตอบของคำถามที่ว่า..รู้ไม่ทันนี้มันสร้างโลก..สร้างจักรวาล..สร้างดวงดาว..ยังงัย?.. คำตอบ.มันแสดงว่า...คุณ muisun ยังรู้ไม่ทัน..คำว่า.."รู้ไม่ทันที่" ตัวเองพูดอยู่.นะครับ..

muisun เขียน:
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดล้วนแล้วแต่จิต โลกคือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โลกคือหมู่สัตว์ โลกคือจักรวาล ดวงดาว โลกคือภพภูมิต่างๆ ที่สุดแห่งโลกคือที่สุดแห่งตา ที่สุดแห่งแห่งใจคือการดับวิญญาณ การสร้างของจิตด้วยพลังแห่งความรู้ไม่ทัน สร้างจากอณูที่เล็กๆ ที่มองไม่เห็นจนไปถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต เกิดขึ้นเรียกว่าเป็นอจิณไตย ไกลเกินกว่าความคิดคาดเดาจะไปถึง ใครเผลอไปครุ่นคิดต้องถึงความวิกลจริตไป เรืองโลก เรื่องกรรม เรื่องฌาณ เรื่องความสามารถของพระพุทธเจ้า ล้วนแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะขืนไปคิดจะถึงความบ้าไปเพราะหาต้นเหตุไม่เป็น ก็คือ เพราะความรู้ไม่ทันจึงเกิดการปรุงแต่ง เพราะการปรุงแต่งจึงสร้างจิตวิญญาณ เพราะสร้างจิตวิญญาณจึงมีภพภูมิเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวงกลมแห่งปฎิจจสมุปบาท สมกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสว่า ต้นเหตุอยู่ที่ความรู้ไม่ทันทั้งสิ้น ในเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มีในเมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ เพราะรู้ไม่ทันจึงทำให้มี แต่พอรู้ทันก็ทำให้ดับ ก็มีด้วยประการฉะนี้

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2017, 12:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของธรรมะก็เป็นเรื่องของธรรมะ พระพุทธเจ้าไม่ให้พาดพึงหาบุคคล ตัวตน เราเขานี่นา ขนาดพระอรหันต์ ท่านยังพยากรณ์มรรคผลนิพพานอิงด้วยหลักธรรม ยังไม่อิงด้วยบุคคลเรา เขา เลย แล้วจะมาว่ากันทำไม
จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2017, 19:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้....ก็ยอมรับไปเถอะ..ว่าไม่รู้...

ไม่รู้แล้วยอมรับว่าไม่รู้...ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้ทัน...อยู่..

ไม่รู้...แล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้....นี้เขาเรียกว่ารู้ไม่ทัน..ครับผม..

นี้แหละ...เพราะไม่ค่อยเข้าหาอริยะสัจ...จึงไม่มีอุปนิสัยเห็นทุกข์....

แล้วจะเป็นสายสืบนิสัยศาสตร์...ได้อย่างไร

เด็กๆ...คับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร