วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 02:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2016, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 12 เม.ย. 2016, 08:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2016, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


AEC คือ อะไร?

AEC หรือ Asean Economics Community คือการรวมตัวของชาติใน Asean 10 ประเทศ โดยมี ไทย, พม่า, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน จะมีรูปแบบคล้ายๆ กลุ่ม Euro Zone นั่นเอง จะทำให้มีผลประโยชน์, อำนาจต่อรองต่างๆ กับคู่ค้าได้มากขึ้น และการนำเข้า ส่งออกของชาติในอาเซียนก็จะเสรี ยกเว้นสินค้าบางชนิดที่แต่ละประเทศอาจจะขอไว้ไม่ลดภาษีนำเข้า (เรียกว่าสินค้าอ่อนไหว)

Asean จะรวมตัวเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีผลเป็นรูปธรรม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ณ วันนั้นจะทำให้ภูมิภาคนี้เปลี่ยนไปอย่างมากอย่างที่คุณคิดไม่ถึงทีเดียว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2016, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้นี้ โฮฮับ กับ กบ ไม่แจมเลยนะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2016, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เจาะไอร้อง (ตัดมา เคยได้ยินมากับหูเช่นกัน)

http://pantip.com/topic/34988821


Miss วันนี้หนูมาทำไมลูก
Kids: มากับแม่ แม่มาหุงข้าว
Miss แล้วหนูรู้ไหม ทหารมาทำไม?
Kids: มากินข้าว
Miss (หงายหลังไปแล้ว) หนูไม่เห็นความลำบากของพี่ทหารเลยใช่ไหมลูก (ไม่ได้พูด คิดในใจ)

กลับจากหาด ฤกษ์งามยามดี ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่เพื่อนอีกอำเภอ ซึ่งก็คืออำเภอคือเจาะไอร้อง
เรียกคุณอา ตามเพื่อนละกันนะคะ ถึงแกจะแก่ก็เถอะ ถามอาว่า เป็นยังไงบ้าง คุยนู่นนี่นั่นตามประสาคนเพิ่งเคยเห็นหน้ากัน สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นไหม มีเหตุการณ์ตั้งหลายปีแล้ว (เอาเท่าที่จำได้นะคะ)

อาบอกว่า มันอันตราย จนไม่รู้สึกว่ามันอันตรายแล้ว อาว่าที่นี่ยังปลอดภัย ยะลาอันตรายกว่านะ (นี่ปลอดภัยแล้วหรือ ฮือ)

แต่ก็ไม่เข้าใจว่า “เขาไม่คิดจะแก้ปัญหาให้มันยั่งยืนกว่านี้แล้วหรือ”

ส่งทหารมาประจำการเป็นชุดๆ พอหมดกะ ใครรอดก็กลับ ใครไม่รอดก็มีเงินเกื้อหนุน เดี๋ยวชุดใหม่ก็มา ทหารเขาก็ทำหน้าที่ตัวเองกันไป อาว่า มันเป็นเรื่องของงบประมาณ ที่ไม่จัดการให้สงบเด็ดขาด มันก็มีคนได้ประโยชน์ จะได้งบประมาณเยอะๆนี่แหละ พวกคนใหญ่คนโต
@

ทำไมไม่แก้ปัญหาให้ยั่งยืน เมื่อก่อนมันมีการตั้งนิคม ให้คนมาอยู่ ให้มีอาชีพ ให้ที่ดินทำกิน มีคนคอยช่วยคุ้มครอง ผ่านไปห้าปีหกปี คนจะอยู่ในพื้นที่ได้คุ้นชินเอง มันจะได้ขยายพื้นที่ปลอดภัย ตอนนี้ใครพอรวยหน่อยก็หนีไปที่อื่น คนพื้นเพก็น้อยลงทุกทีๆแล้ว @ ตอนนี้การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่มีวันจบหรอก

อาบอกอีกว่า คนที่อารู้จักก็ยังเคยเจอความรุนแรงมาแล้ว ท่านเจ้าอาวาสวัด...เค้าลืม เค้าขอโทษ ท่านเพิ่งมาประจำวัดใหม่ๆ ท่านก็เอาเลย เปิดสวดมนต์เสียงตามสาย ทีนี้ มีผู้ไม่หวังดีมาเตือนท่าน ว่าช่วยปิดเสียงหน่อย มาใหม่ อย่ามารบกวนคนแถวนี้

ท่านเจ้าอาวาส ก็ไม่สนใจ สองวันต่อมา มีระเบิดมาวางไว้ที่ถังขยะหน้าวัด แต่สะเก็ดระเบิดทะลุขาท่าน จากอีกด้านหนึ่ง ไปอีกด้านหนึ่ง เวลาล้างแผลก็ต้องเอาไม้พันสำลีใส่ยา ทำความสะอาดรู กลวง ใน ขา กว่าแผลจะปิดสนิท


viewtopic.php?f=1&p=389729#p389729

ก่อนไปAEC
เอาเรื่องโจรกระจอก..ของพ่อทูลหัวของกรัชกายก่อน..ไม่ดีกว่าหรอ?..

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2016, 22:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คคห.ก่อนบอกกบว่า เมืองไทย นามสกุลดังๆ มีเฮิน มีพวก ทำผิดกฎหมายก็ไม่ติดคุก :b1: ตย.

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater


viewtopic.php?f=1&p=389729#p389729

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2016, 22:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.naewna.com/cartoons/2016-04-02

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบ คุณปู่รู้ดี :b1:

http://www.thairath.co.th/content/599448

รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 และรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่ถูกฉีกทิ้งไป กำหนดให้เด็ก ไทยทุกคนได้รับการศึกษาฟรีอย่างมีคุณภาพ 12 ปี

พูดง่ายๆ เด็กไทยได้เรียนฟรี ตั้งแต่ชั้น ป.1 จนถึงชั้น ม.6 อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ร่างรัฐธรรมนูญ (ร่างแรก) ของ อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ เกิดความคิดพิสดาร ตัดโครงการเรียนฟรีจาก 12 ปี เหลือแค่ 9 ปี

ปรากฏว่า เกิดกระแสคัดค้านกันอึกทึกครึกโครม จนในที่สุด “อจ.มีชัย” ต้องยอมแก้ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 54 กลับมาเป็นเรียนฟรี 12 ปี

แต่แทนที่จะให้เรียนฟรีตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 หรือ ปวช. อย่างเดิม

อจ.มีชัย กลับทำตัวเป็น “คุณปู่รู้ดี” เปลี่ยนระบบเรียนฟรีให้เริ่มจากชั้นอนุบาลถึงมัธยม 3

ส่วนใครจะเรียนต่อ ม.ปลาย หรือใครจะเรียนสายอาชีพ ปวช. พ่อแม่ผู้ปกครองต้องแบกภาระจ่ายค่าเรียนเอาเอง

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การร่นระยะเรียนฟรี 12 ปี จากอนุบาลถึง ม.3 เป็นแนวคิดที่ผิดจังเบอร์!!

เพราะค่าใช้จ่ายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลน้อยกว่าค่าใช้จ่ายเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายกว่า 2 เท่าตัว

แถมค่าใช้จ่ายสายอาชีวะ บวกค่าอุปกรณ์การเรียนสาย ปวช.ก็สูงกว่าเด็ก อนุบาลกว่า 3 เท่าตัว

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของ อจ.มีชัย ต้องการลดภาระรายจ่ายด้านการศึกษาของรัฐบาล

โดยผลักภาระให้ประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครองรับไปเต็มๆ

การอ้างว่าเพื่อไม่ให้คนจนเสียเปรียบคนรวย จึงเป็นเหตุผลที่ห่วยแตกสิ้นดี

เพราะในความจริง...ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ทำให้เด็กนักเรียนที่มีพ่อแม่ยากจนหมดโอกาสที่จะได้เรียนต่อชั้นมัธยมปลาย หรือเรียนต่อสายวิชาชีพ ปวช.

ถึงจะอ้างว่ารัฐจะจัดกองทุนการศึกษาให้เด็กยากจนกู้ยืม

“แม่ลูกจันทร์” ถาม อจ.มีชัย ว่า การได้สิทธิเรียนฟรีกับการต้องวิ่งเต้นไปกู้ยืมกองทุนไปจ่ายค่าเรียน

แบบไหนประชาชนจะได้ประโยชน์จากรัฐมากกว่ากัน??

แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังสวนทางนโยบายปฏิรูป การศึกษาของรัฐบาล คสช.อย่างสิ้นเชิง

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งประกาศแหม่บๆ ว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เด็กไทยเรียนสายอาชีวะอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

เนื่องจากประเทศไทยต้องการแรงงานระดับ ปวช.ปีละ 1 ล้านคน

ปัจจุบันเราผลิตเด็กไทยที่จบสายอาชีวะเพียงปีละ 4 แสนคน ตลาดแรงงานยังต้องการแรงงานอาชีพระดับ ปวช. ปวส. เพิ่มอีกปีละ 6 แสนคน

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า ร่างรัฐธรรมนูญของ อจ.มีชัย ที่ตัดสิทธิเรียนฟรี ระดับมัธยมปลายและระดับ ปวช.

จะเป็นอุปสรรคทำให้เด็กไทยเรียน สายอาชีพน้อยลง

เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีฐานะยากจนไม่มีปัญญาหาเงินส่งลูกหลานเรียนต่อ ปวช.

ผลดี เด็กไทยเมื่อจบชั้น ม.3 ก็ต้องออกหางานทำ

เด็กที่จบมัธยม 3 เป็นได้แค่กรรมกรรับจ้างรายวัน

กลายเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่รัฐต้องช่วยเหลือดูแล

ผลร้ายที่ตามมาคือ แรงงานฝีมือที่จะรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศก็จะขาดแคลนอย่างรุนแรง

เห็นมั้ยคุณโยม...รัฐธรรมนูญมาตราเดียว...สร้างความเสียหายได้บานตะไท.

“แม่ลูกจันทร์”

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบ เปิดดูให้ครบนะ :b1:

รูปภาพ

:b1:

https://pbs.twimg.com/media/Cd33OSMVAAAcmA7.jpg

:b9:

https://pbs.twimg.com/media/CdVgrmiUAAA5Pq9.jpg

:b1: :b32:

https://pbs.twimg.com/media/CdHgLd2UUAEqM8g.jpg

https://pbs.twimg.com/media/CdEdwczUYAAXJaC.jpg

ฉีกเขียนๆๆ เจตนาอยู่นี่

http://g-picture2.wunjun.com/5/full/407 ... ?s=560x450

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เจาะไอร้อง (ตัดมา เคยได้ยินมากับหูเช่นกัน)

http://pantip.com/topic/34988821


Miss วันนี้หนูมาทำไมลูก
Kids: มากับแม่ แม่มาหุงข้าว
Miss แล้วหนูรู้ไหม ทหารมาทำไม?
Kids: มากินข้าว
Miss (หงายหลังไปแล้ว) หนูไม่เห็นความลำบากของพี่ทหารเลยใช่ไหมลูก (ไม่ได้พูด คิดในใจ)

กลับจากหาด ฤกษ์งามยามดี ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่เพื่อนอีกอำเภอ ซึ่งก็คืออำเภอคือเจาะไอร้อง
เรียกคุณอา ตามเพื่อนละกันนะคะ ถึงแกจะแก่ก็เถอะ ถามอาว่า เป็นยังไงบ้าง คุยนู่นนี่นั่นตามประสาคนเพิ่งเคยเห็นหน้ากัน สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นไหม มีเหตุการณ์ตั้งหลายปีแล้ว (เอาเท่าที่จำได้นะคะ)

อาบอกว่า มันอันตราย จนไม่รู้สึกว่ามันอันตรายแล้ว อาว่าที่นี่ยังปลอดภัย ยะลาอันตรายกว่านะ (นี่ปลอดภัยแล้วหรือ ฮือ)

แต่ก็ไม่เข้าใจว่า “เขาไม่คิดจะแก้ปัญหาให้มันยั่งยืนกว่านี้แล้วหรือ”

ส่งทหารมาประจำการเป็นชุดๆ พอหมดกะ ใครรอดก็กลับ ใครไม่รอดก็มีเงินเกื้อหนุน เดี๋ยวชุดใหม่ก็มา ทหารเขาก็ทำหน้าที่ตัวเองกันไป อาว่า มันเป็นเรื่องของงบประมาณ ที่ไม่จัดการให้สงบเด็ดขาด มันก็มีคนได้ประโยชน์ จะได้งบประมาณเยอะๆนี่แหละ พวกคนใหญ่คนโต
@

ทำไมไม่แก้ปัญหาให้ยั่งยืน เมื่อก่อนมันมีการตั้งนิคม ให้คนมาอยู่ ให้มีอาชีพ ให้ที่ดินทำกิน มีคนคอยช่วยคุ้มครอง ผ่านไปห้าปีหกปี คนจะอยู่ในพื้นที่ได้คุ้นชินเอง มันจะได้ขยายพื้นที่ปลอดภัย ตอนนี้ใครพอรวยหน่อยก็หนีไปที่อื่น คนพื้นเพก็น้อยลงทุกทีๆแล้ว @ ตอนนี้การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่มีวันจบหรอก

อาบอกอีกว่า คนที่อารู้จักก็ยังเคยเจอความรุนแรงมาแล้ว ท่านเจ้าอาวาสวัด...เค้าลืม เค้าขอโทษ ท่านเพิ่งมาประจำวัดใหม่ๆ ท่านก็เอาเลย เปิดสวดมนต์เสียงตามสาย ทีนี้ มีผู้ไม่หวังดีมาเตือนท่าน ว่าช่วยปิดเสียงหน่อย มาใหม่ อย่ามารบกวนคนแถวนี้

ท่านเจ้าอาวาส ก็ไม่สนใจ สองวันต่อมา มีระเบิดมาวางไว้ที่ถังขยะหน้าวัด แต่สะเก็ดระเบิดทะลุขาท่าน จากอีกด้านหนึ่ง ไปอีกด้านหนึ่ง เวลาล้างแผลก็ต้องเอาไม้พันสำลีใส่ยา ทำความสะอาดรู กลวง ใน ขา กว่าแผลจะปิดสนิท


viewtopic.php?f=1&p=389729#p389729

ก่อนไปAEC
เอาเรื่องโจรกระจอก..ของพ่อทูลหัวของกรัชกายก่อน..ไม่ดีกว่าหรอ?..

:b32: :b32: :b32:



ตอนนี้ใครเป็นรัฐบาล สามเหล่าทัพ กฎหมาย พิเศษ ยังเอาไม่อยู่เรย :b1:

กบ ก็อย่างที่คุณอาพูดนั่นแหละ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


10 ประเทศอาเซียน :b1:

https://www.youtube.com/watch?v=zypiubHLauY

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตประเทศอะไรบ้างทีนับถือพุทธ



1.ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)

เมืองหลวง : บันดาร์ เสรี เบกาวัน
ภาษา : ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นอังกฤษและจีน
ประชากร : ประกอบด้วย มาเลย์ 66%, จีน11%,อื่นๆ 23%
นับถือศาสนา : อิสลาม 67%, พุทธ 13%, คริสต์ 10%
ระบบการปกครอง : ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
จุดแข็ง
– การเมืองค่อนข้างมั่นคง
– รายได้เฉลี่ยต่อคนเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน อันดับ 26 ของโลก
– ผู้ส่งออกและมีปริมาณสำรองน้ำมันอันดับ 4 ในอาเซียน
ข้อควรรู้
– ประชาชนของประเทศในกลุ่มอาเซียนสามารถทำวีซ่าที่ ตม.ที่ประเทศบรูไนฯ สามารถอยู่ได้นาน 2 สัปดาห์
– ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์
– การทักทายจะจับมือกันเบาๆ และสตรีจะไม่ยื่นมือให้บุรุษจับ
– การใช้นิ้วชี้ไปที่คนหรือสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ แต่จะใช้หัวแม่มือชี้แทน
– จะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น
– สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชายและไม่ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง
– วันหยุดคือวันศุกร์และวันอาทิตย์, วันศุกร์ 12.00-14.00 น.ทุกร้านจะปิด
– จัดงานเย็นต้องจัดหลัง 2 ทุ่ม


2.ประเทศกัมพูชา (Cambodia)

เมืองหลวง : กรุงพนมเปญ
ภาษา : ภาษาเขมร เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เวียดนามและจีน
ประชากร : ประกอบด้วย ชาวเขมร 94%, จีน 4%,อื่นๆ 2%
นับถือศาสนา : พุทธ (เถรวาท) เป็นหลัก
ระบบการปกครอง : ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
จุดแข็ง
– ค่าจ้างแรงงานต่ำที่สุดในอาเซียน
– มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายและสมบูรณ์
ข้อควรรู้
– ผู้ที่เดินทางเข้ากัมพูชา และประสงค์จะอยู่ทำธุรกิจเป็นระยะเวลาเกิน 3 เดือน ควรฉีดยาป้องกันโรคไทฟอยด์ และไวรัสเอและบี
– เพื่อนผู้ชายจับมือกัน ถือเป็นเรื่องปกติ
– ผู้หญิงห้ามแต่งตัวเซ็กซี่, ผู้ชายไว้ผมยาวจะมีภาพลักษณ์ นักเลง
– ห้ามจับศีรษะ คนกัมพูชาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย
– สบตามากเกินไป ถือว่าไม่ให้เกียรติ


3.ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)

เมืองหลวง : จาการ์ตา
ภาษา : ภาษาอินโดนีเซีย เป็นภาษาราชการ
ประชากร : ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลายกลุ่ม มีภาษามากกว่า 583 ภาษา ร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา
นับถือศาสนา : อิสลาม 87%, คริสต์ 10%
ระบบการปกครอง : ประชาธิปไตยที่มีประธานาธิปดีเป็นประมุข และหัวหน้าฝ่ายบริหาร
จุดแข็ง
– มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– มีจำนวนประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อควรรู้
– ไม่ควรใช้มือซ้ายในการรับ-ส่งของ คนมุสลิมอินโดนีเซียถือว่ามือซ้ายไม่สุภาพ
– นิยมใช้มือกินข้าว
– ไม่ควรชี้นิ้วด้วยนิ้วชี้ แต่ใช้นิ้วโป้งแทน
– ไม่จับศีรษะคนอินโดนีเซียรวมทั้งการลูบศีรษะเด็ก
– การครอบครองยาเสพติด อาวุธ หนังสือรูปภาพอนาจาร มีบทลงโทษหนัก อาทิ การนำเข้าและครอบครองยาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต
– บทลงโทษรุนแรงเกี่ยวกับการค้าและส่งออกพืชและสัตว์กว่า 200 ชนิด จึงควรตรวจสอบก่อนซื้อหรือนำพืชและสัตว์ออกนอกประเทศ
– มอเตอร์ไซค์รับจ้างมีมิเตอร์
– งานศพใส่ชุดสีอะไรก็ได้


4.ประเทศลาว (Laos)

เมืองหลวง : นครหลวงเวียงจันทร์
ภาษา : ภาษาลาว เป็นภาษาราชการ
ประชากร : ประกอบด้วย ชาวลาวลุ่ม 68%, ลาวเทิง 22%, ลาวสูง 9% รวมประมาณ 68 ชนเผ่า
นับถือศาสนา : 75% นับถือพุทธ, นับถือผี 16%
ระบบการปกครอง : สังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (ทางการลาวใช้คำว่า ระบบประชาธิปไตยประชาชน)
จุดแข็ง
– ค่าจ้างแรงงานต่ำอันดับ 2 ในอาเซียน
– การเมืองมีเสถียรภาพ
ข้อควรรู้
– ลาว มีตัวอักษรคล้ายของไทย ทำให้คนไทยอ่านหนังสือลาวได้ไม่ยากนัก ส่วนคนลาวอ่านหนังสือไทยได้คล่องมาก
– ลาวขับรถทางขวา
– ติดต่อราชการต้องนุ่งซิ่น
– เดินผ่านผู้ใหญ่ ต้องก้มหัว
– ถ้าเพื่อนคนลาวเชิญไปพักที่บ้านห้ามให้เงิน
– อย่าซื้อน้ำหอมให้กัน
– ที่ถูกต้องคนลาวที่ให้พัก ต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
– เข้าบ้านต้องถอดรองเท้า และถ้าเขาเสิร์ฟน้ำต้องดื่ม


5.ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)

เมืองหลวง : กรุงกัวลาลัมเปอร์
ภาษา : ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นอังกฤษและจีน
ประชากร : ประกอบด้วย มาเลย์ 40%, จีน33%, อินเดีย 10%, ชนพื้นเมืองเกาะบอร์เนียว 10%
นับถือศาสนา : อิสลาม 60%, พุทธ 19%, คริสต์ 11%
ระบบการปกครอง : ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
จุดแข็ง
– มีปริมาณสำรองน้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ในเอเชียแปซิฟิค
– มีปริาณก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชียแปซิฟิค
ข้อควรรู้
– ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามจะได้รับสิทธิพิเศษ คือ เงินอุดหนุนทางด้านการศึกษา สาธารณสุข การคลอดบุตรงานแต่งงานและงานศพ
– มาเลเซียมีปัญหาประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ในมาเลเซียประกอบด้วยชาวมาเลย์ กว่าร้อยละ 40 ที่เหลืออีกกว่าร้อยละ 33 เป็นชาวจีนร้อยละ10 เป็นชาวอินเดีย และ อีกร้อยละ 10 เป็นชนพื้นเมืองบนเกาะบอร์เนียว
– ใช้มือขวาเพียงข้างเดียวในการรับประทานอาหาร และรับส่งของ
เครื่องดื่มแอลกฮอล์เป็นเรื่องต้องห้าม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 เม.ย. 2016, 08:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


6.ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า (Myanmar)

เมืองหลวง : เนปีดอ (Naypyidaw)
ภาษา : ภาษาพม่า เป็นภาษาราชการ
ประชากร : ประกอบด้วยเผ่าพันธุ์ 135 มี 8 เชื้อชาติหลักๆ 8 กลุ่ม คือ พม่า 68%, ไทยใหญ่ 8%, กระเหรี่ยง 7%, ยะไข่ 4% จีน 3% มอญ 2% อินเดีย 2%
นับถือศาสนา : นับถือพุทธ 90%, คริสต์ 5% อิสลาม 3.8%
ระบบการปกครอง : เผด็จการทางทหาร ปกครองโดยรัฐบาลทหารภายใต้สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ
จุดแข็ง
– มีพรมแดนเชื่อมต่อกับจีน และอินเดีย
– ค่าจ้างแรงงานต่ำเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน
– มีปริมาณก๊าซธรรมชาติเป็นจำนวนมาก
ข้อควรรู้
– ไม่ควรพูดเรื่องการเมือง กับคนไม่คุ้นเคย
– เข้าวัดต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า
– ห้ามเหยียบเงาพระสงฆ์
– ให้นามบัตรต้องยื่นให้สองมือ
– ไม่ควรใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น ในสถานที่สาธารณะและศาสนสถาน
– ผู้หญิงชอบทาทะนาคา (ผู้ชายก็ทาด้วย) ผู้ชายชอบเคี้ยวหมาก


7.ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)

เมืองหลวง : กรุงมะนิลา
ภาษา : ภาษาฟิลิปิโน และภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็น สเปน, จีนฮกเกี้ยน, จีนแต้จิ๋ว ฟิลิปปินส์ มีภาษาประจำชาติคือ ภาษาตากาล็อก
ประชากร : ประกอบด้วย มาเลย์ 40%, จีน33%, อินเดีย 10%, ชนพื้นเมืองเกาะบอร์เนียว 10%
นับถือศาสนา : คริสต์โรมันคาทอลิก 83% คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์, อิสลาม 5%
ระบบการปกครอง : ประชาธิปไตยแบบประธานาธิปดีเป็นประมุขและหัวหน้าฝ่ายบริหาร
จุดแข็ง
– แรงงานทั่วไป ก็มีความรู้สื่อสารภาษาอังกฤษได้
ข้อควรรู้
– การเข้าไปประกอบธุรกิจในฟิลิปปินส์ในลักษณะต่างๆ เช่น การลงทุนร่วมกับฝ่ายฟิลิปปินส์จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียด โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย การจดทะเบียนภาษี และปัญหาทางด้านแรงงาน เป็นต้น
– เท้าสะเอว หมายถึง ท้าทาย, เลิกคิ้ว หมายถึง ทักทาย
– ใช้ปากชี้ของ
– กินข้าวบ้านเพื่อนสามารถห่อกลับได้ แต่ควรมีของฝากให้เขาด้วย
– ตกแต่งบ้าน 2 เดือน ต้อนรับคริสต์มาส


8.ประเทศสิงคโปร์ (Singapore)

เมืองหลวง : สิงคโปร์
ภาษา : ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราชการ รองลงมาคือจีนกลาง ส่งเสริมให้พูดได้ 2 ภาษาคือ จีนกลาง และให้ใช้อังกฤษ เพื่อติดต่องานและชีวิตประจำวัน
ประชากร : ประกอบด้วยชาวจีน 76.5%, มาเลย์ 13.8%, อินเดีย 8.1%
นับถือศาสนา : พุทธ 42.5%, อิสลาม 14.9%, คริสต์ 14.5%, ฮินดู 4%, ไม่นับถือศาสนา 25%
ระบบการปกครอง : สาธารณรัฐ (ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว) โดยมีประธานาธิปดีเป็นประมุข และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร
จุดแข็ง
– รายได้เฉลี่ยต่อคน เป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และอันดับ 15 ของโลก
– แรงงานมีทักษะสูง
ข้อควรรู้
– หน่วยราชการเปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น.-13.00 น. และ 14.00 น. – 16.30 น. และวันเสาร์ เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. – 13.00 น.
– การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
– การลักลอบนำยาเสพติด อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จะได้รับโทษอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต
– ขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดซ้าย
– ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด, ห้ามเก็บผลไม้ในที่สาธารณะ
– ผู้สูงอายุทำงาน ถือเป็นเรื่องปกติ


9.ประเทศเวียดนาม (Vietnam)

เมืองหลวง : กรุงฮานอย
ภาษา : ภาษาเวียดนาม เป็นภาษาราชการ
ประชากร : ประกอบด้วยชาวเวียด 80%, เขมร 10%
นับถือศาสนา : พุทธนิกายมหายาน 70%, คริสต์ 15%
ระบบการปกครอง : ระบบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองเดียว
จุดแข็ง
– มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชียแปซิฟิค
ข้อควรรู้
– หน่วยงานราชการ สำนักงาน และองค์กรให้บริการสาธารณสุข เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. – 16.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์
– เวียดนามไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพอาคารที่ทำการต่างๆ ของรัฐ
– คดียาเสพติดการฉ้อโกงหน่วยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต
– ตีกลองแทนออดเข้าเรียน
– ชุดนักเรียนหญิงเป็นชุดอ่าวหญ่าย
– คนภาคเหนือไม่ทานน้ำแข็ง
– ไม่ถ่ายรูป 3 คนอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าจะทำให้เบื่อกัน หรือแแยกกันหรือใครคนใดเสียชีวิต
– ต้องเชิญผู้ใหญ่ก่อนทานข้าว


10.ประเทศไทย (Thailand)

เมืองหลวง : กรุงเทพมหานคร
ภาษา : ภาษาไทย เป็นภาษาราชการ
ประชากร : ประกอบด้วยชาวไทยเป็นส่วนใหญ่
นับถือศาสนา : พุทธนิกายเถรวาท 95%, อิสลาม 4%
ระบบการปกครอง : ระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จุดแข็ง
– เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงคมนาคมด้านต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน
– มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง
ข้อควรรู้
– ไปศาสนสถานควรแต่งกายเรียบร้อย, ก่อนเข้าอุโบสถต้องถอดรองเท้า
– ห้ามพระสงฆ์สัมผัสสตรี
– สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสัการะ การละเมิดใดๆ ถือเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ
– ทักทายกันด้วยการไหว้
– ถือว่าเท้าเป็นของต่ำ ไม่ควรพาดบนโต๊ะ หรือเก้าอี้ หรือหันทิศทางไปที่ใคร
– ธงชาติถือเป็นของสูง ไม่ควรนำมากระทำการใดๆที่เป็นการเหยียดหยาม
– การแสดงออกทางเพศในที่สาธารณะ ยังไม่ได้รับการยอมรับในวัฒนธรรมไทย

http://www.thai-aec.com/%E0%B8%9B%E0%B8 ... 7%E0%B8%A8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเขียนกาตูนเบียงเบนความคิดคนไม่ให้มองที่ตัวปัญหา แต่ให้มองที่ทักษิณ คิกๆๆๆ

รูปภาพ

กบ อ่านบทความแม่ลูกจันทร์นะขอรับโผม นั่นแหละตัวปัญหาที่ทางธรรมเรียกสมุทัยใจ๋ :b32:

กบ ดูเร็วก่อนลบ :b14:

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2016, 21:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แม่ลูกจันทร์..ก็มองแบบแม่ลูกจันทร์..มองตามเทรน..ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลย..

ไปถามครูที่โรงเรียนไป๊...เขามีงบเยอะ ๆ ให้โรงเรียน..ใครได้ประโยชน์สูงสุด..

ธุรกิจสิ่งพิมพ์... :b32: :b32: :b32:

สมุทัย..หรอ..กรัชกาย...

ละเมอมั้ง?

ปูมีชัย..คิดถูกต้องแล้ว..ว่า..อนุบาลมีความสำคัญมาก..

เด็กก่อนวัยเรียนค่าเรียนแพงกว่าเด็กโต...ใครจะเชื่อ.. :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2016, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
แม่ลูกจันทร์..ก็มองแบบแม่ลูกจันทร์..มองตามเทรน..ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลย..

ไปถามครูที่โรงเรียนไป๊...เขามีงบเยอะ ๆ ให้โรงเรียน..ใครได้ประโยชน์สูงสุด..

ธุรกิจสิ่งพิมพ์... :b32: :b32: :b32:

สมุทัย..หรอ..กรัชกาย...

ละเมอมั้ง?

ปูมีชัย..คิดถูกต้องแล้ว..ว่า..อนุบาลมีความสำคัญมาก..

เด็กก่อนวัยเรียนค่าเรียนแพงกว่าเด็กโต...ใครจะเชื่อ.. :b32: :b32:


เปิดดู



ใครที่คิดอย่างกรัชกายว่า..นี้ก็ปัญญานิ่ม..สุดสุดแล้ว

ไปสร้างสิ่งที่ไม่มีตัวตนให้มีเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาที่ใจตนเอง..



หลุดโลกแล้วกบ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร