สัตว์โลก หมายถึงจิตวิญญาณ ที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน 7 ภพภูมิ มี
อบายภูมิ 4
มนุษย์ภูมิ 1
เทวดาภูมิ 1
พรหมภูมิ อีก 1

ทางไปของสัตว์โลกนั้นมีอยู่ 5 ทางคือ
1.ทางบาปอกุศล ได้แก่ปุถุชนที่ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ตัดสินกระทำการต่างๆด้วยอำนาจของอารมณ์ ทำผิดศีล 5 เป็นนิจผล ไปเกิดในอบายภูมิทั้ง 4

2.ทางกามกุศล ได้แก่กัลยาณชนคนดีผู้มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ไม่ล่วงศีล 5 ทำบุญให้ทาน รักษาศีล สวดมนต์ไหว้พระภาวนาทำสมาธิเบื้องต้น ใช้เหตุผลเป็นเครื่องตัดสินในการกระทำการต่างๆ ผล ไปเกิดเป็นมนุษย์และเทวดา
6 ชั้น

3.ทางรูปกุศล ได้แก่ผู้ที่เจริญสมาธิด้วยรูปกรรมฐานต่างๆ จนได้ฌาณ 1-4 ตายในฌาณ ย่อมไปเกิดเป็นรูปพรหม 11 ชั้น
รวมกับอริยภูมิพรหมในชั้นสุทธาวาสอีก 5 ชั้น รวมเป็น รูปพรหม 16 ชั้น

4.ทางอรูปกุศล ได้แก่ผู้ที่ได้รูปฌาณ 4 แล้วไปเจิญอรูปกรรมฐานได้อรูปฌาณขึ้นไปจนถึง 4 ชั้น ตายในอรูปฌาณ
ไปเกิดเป็นอรูปพรหม

5.ทางโลกุตรกุศล ได้แก่ผู้ที่เจริญวิปัสสนาภาวนา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจนได้บรรลุโลกุตรธรรมทั้ง 9
ทางสายนี้มีได้เมื่อมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกแล้วเท่านั้น

ขอให้ทุกท่านดูรูปภาพที่แนบมาจะทำให้เข้าใจง่ายและซาบซึ้งมากยิ่งขึ้นครับ

รูปที่ 2 ทำให้จำทางเดิน 5 เส้นได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับนิ้วมือ 5 นิ้วครับ

เดินมาถึงตรงนี้แล้ว แต่ก็ยังละเมอถึงอดีต อนาคต ดูๆก็น่าสงสาร

อีกรูปหนึ่งที่ทำให้ห็นความเชื่อมต่อระหว่างกาละทั้ง 3 กับทางเดินของสัตว์โลก

กรรมเหตุในอดีต ส่งให้เป็น กรรมผลหรือผลกรรมหรือวิบาก
ในปัจจุบัน

กรรมเหตุในปัจจุบัน ส่งให้เป็นวิบากหรือกรรมผลหรือผลกรรมในอนาคต กรรมเหตุในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ถูก
วิบากหรือผลกรรมในปัจจุบันเป็นปัจจัย เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกรรมใหม่ในปัจจุบัน

ดังนั้นใครที่สะสมกรรมและผลกรรมเน้นหนักมาทางใด ก็ย่อมจะดิ่งตรงไปในทิศทางของผลกรรมที่สร้างสมมากยิ่งขึ้นๆ
คนทำชั่ว ยิ่งจะมีเหตุปัจจัยให้ทำชั่วมากขึ้น มากขึ้น คนทำดีก็กลับตรงกันข้ามกันก็คือจะยิ่งดียิ่งๆขึ้นไป จนถึงที่สุดแห่งดี
คือ .......พระนิพพาน

ท่านทั้งหลายได้ลองถามและวิเคราะห์ตัวเองดูหรือยังครับว่า
ขณะนี้ท่านเดินอยู่บนเส้นทางชิดใด เมื่อเทียบกับนิ้วมือ 5 นิ้วแล้วท่านกำลังเดินอยู่บนเส้นทางนิ้วใดครับ

ใจใสเป็นบุญ
ใจขุ่นเป็นบาป
ใจสะอาดเป็นเทวดา
ใจอิจฉาเป็นสัตว์นรก
ใจสกปรกเป็นผี
ใจดีไปนิพพาน

พูดอย่างนี้แล้วปฏิบัติยังไงล่ะ ไม่อธิบายทำให้เขวและหลงทางได้นะ

แนะๆมีเถียงๆ

ก็ทำให้กุศลจิตเกิดดิ กุศลจิตเกิดก็เป็นบุญ เป็นเทวดา เป็นนิพพานชั่วขณะๆ

ตรงข้ามถ้าอกุศลจิตเกิด ก็เป็นบาป เป็นสัตว์นรก เป็นผี

เป็นไงเจ๋ง ดอกจิกไหม

หรือจะเอาแบบนี้

แฟนเป็นคนที่เสเพลมาก กินเหล้า แบบว่าไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ

แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต
ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน

ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟน ก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆเมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ

เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไร เวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน

เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ

กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติ
เค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน

เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ

ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีก ความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี

ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนานก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย

มันน่าน้อยใจนัก!!

หรือจะเอาแบบนี้

ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน

มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลกมัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มปีติเกิดค้างอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับ แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย

http://larndham.org/index.php?/topic/27 ... ntry393770

ท่านอโศกฮงอีกแล้ว

แค่เรื่องผลของสมาธิเบื้องต้นก็เอามาเล่ามาอวดเป็นเรื่องเป็นราวเป็นวรรคเป็นเวร กรัชกายเอ้ย

อ้าวก็ถามถึงวิธีปฏิบัติไม่ใช่หรา อิอิ

ไม่ได้อวด นำของเขามาเล่าให้ท่านอโศกฟัง ว่าจะรู้เข้าใจไหม ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เออ

ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเถอะขอรับ

บอกไม่เชื่อ เออ

แค่ตัวอย่างคนที่หลงทางในการปฏิบัติ ไม่ใช่วิธีปฏิบัตืมาตรฐาน

อะไรคือมาตรฐานให้การปฏิบัติ ไหนลองว่ามาสิ

โพสต์ผิดที่ผิดทาง...แล้วละลุง..

มาตรฐานในการปฏิบัติธรรมมี 2 ระดับใหญ่ๆ
ระดับที่ 1.เป็นระดับยกฐานะปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลสให้เป็น
กัลยาณชนคนดี มีหลักปฏิบัติอยู่ 2 อย่างคือ

1.การไม่ทำบาปทั้งปวง หรือ ละชั่ว ด้วยการรักษาศีล 5
8....10......227 ข้อตามฐานะ เพศ และการเลือกวิธีปฏิบัติของแต่ละบุคคล

2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม ด้วยบุญกิริยาวัตถุ 9 อย่าง

ระดับที่ 2.เป็นการยกระดับจากกัลยาณชนให้เป็นอริยชน
มีหลักปฏิบัติอย่างเดียว ต่อยอดขึ้นไปคือ การชำระจิตของตนให้ขาวรอบด้วยวิปัสสนาภาวนา เป็นบุญกิริยาวัตถุข้อที่ 10
ทิฏฐุชุกรรม การทำความเห็นให้ตรง ให้ถูกต้อง
รายละเอียดถ้าสนใจก็มาถามขอศึกษาต่อได้