"...เลิกยึดกายเสียบ้าง ปล่อยวางเสียที เขาเป็นธาตุ ๔ ไม่ใช่ตัวเรา เขาไม่เที่ยง เรื่องของเขา ให้เราปล่อยมือ อย่าถือให้หนัก เมื่อรู้จักความจริงว่ามันไม่เที่ยงตามเรื่องของสังขาร ไม่ยึดมันนั้นถูกทางแท้..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่สาย เขมธัมโม






" เวลาเฮ็ดบุญหรือใส่บาตร
ให้ตั้งจิตอธิฐานให้กิเลส
ราคะ โทสะ โมหะ อุปาทาน ทิฏฐิ
สิ่งที่บ่ดีให้มันเบาบางลงจากจิตจากใจ
ของเจ้าของก็พอ
ให้ปรารถนาเพื่อความหลุดพ้น
บ่แม่นปรารถนาแต่เงิน
เพราะความปรารถนา
อาจบ่เป็นจริงตามที่หวัง
มันอาจสิบ่ได้ตามที่ขอทุกอย่างก็ได้ "

หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

อุปาทาน=ความยึดมั่นถือมั่น

ใครเป็นผู้ยึด?

ใครเป็นผู้ถือ?

จิตเป็นผู้ยึด จิตเป็นผู้ถือ ใช่หรือไม่

อะไรทำให้ยึด อะไรทำให้ถือ น่าสนใจ

หากรู้ได้คลายยึดถือ ทุกข์ก็พัง

ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ต้องเกิดจากปัญญาที่มองเห็นสัจธรรมความจริง เมื่อมันเห็นสัจธรรมความจริงแล้ว มันไม่ยึดเองโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างในเบื้องต้น

ยังหลงติดข้องและยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่มีเช่นโต๊ะ/เก้าอี้ เตียงที่นอน ห้องนอนของเรา
บ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สมบัติของเรา พ่อแม่เรา พี่น้องเรา ญาติเรา เพื่อนเรา ศัตรูเรา
หลงพอใจ หลงไม่พอใจ หรือเฉยๆเป็นไปตามสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
จนกว่าจะได้ฟังความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วก็คิดตามได้ถูกต้องจึงสะสมปัญญา
https://www.youtube.com/watch?v=NHalcavI_jo

"สัพเพธัมมา นาลังอภินิเวสายะ"

ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

ท่านอโศกะยึดมั่นในตัวตนสูงมากและมีมานะทิฐิว่าตนรู้ผู้อื่นไม่รู้มากรู้ตัวไหม
พระพุทธเจ้าสอนให้ดูจิตตนและตามดูกิเลสที่ตนมีไม่ใช่ให้ส่งไปดูผู้อื่นว่าไม่รู้

กินปูนร้อนท้องหรือเปล่า

เจอพุทธพจน์สั้นๆเพียงแค่

"สัพเพธัมมา นาลังอภินิเวสายะ"

เพียงเท่านี้ก็หวั่นไหว ปรุงแต่งระแวงคิดไปเสียมากมายไม่อยู่ตรงกลาง พรากห่างจากความปกติ

"สัพเพธัมมา นาลังอภินิเวสายะ" แปลว่า

ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น.......เท่านั้นเอง ไม่มีอื่นใด

ผู้ซึ่งไม่ยึดมั่นที่แท้นั้น ต้องเห็นไตรลักษณ์ที่ชีวิตนี้ก่อน เห็นสัจธรรมของชีวิตแล้ว มันไม่ยึดเอง ไม่ใช่ท่อง สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย ได้นะท่านอโศก

เจอนักวิชาการแบบซื่อบื้ออีกแล้ว

ขาท่องแล้วทำ ไม่ใช่ท่องแล้วอำผู้คนให้สับสนไปมาด้วยสำบัดสำนวน และเรื่องที่สรุปเอาเองไม่ตรงคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างเรื่อง ชีวิต นี่แหละไปเอาจากพระสูตรไหนมา ว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องชีวิต

เอางี้นะ จิต เจตสิก รูป เป็นชีวิตไหม เป็นธรรมะไหม ตอบนะ

1. ไม่เป็น เป็นก้อนกรวดก้อนดิน

2. เป็นชีวิตหนึ่งๆคือเราๆท่านๆนี่แหละ

ข้อไหน 1 หรือ 2

จิต เจตสิก รูป....เป็นปรมัตถธรรม
55555555

มองไม่ทะลุต้นไม้

ศึกษาเรื่องชีวิตไปเรื่อยๆก็แล้วกันนะกรัชกาย ผมไม่เอาด้วยหรอก

ผมจะศึกษาและปฏิบัติไปในเรื่อง อริยสัจ 4 มรรค 8 อนัตตา
โพธิปักขิยธรรม 37 ประการอย่างกระตือรือร้นและเร่งรัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นำไปก่อน ตามให้ทันก็แล้วกันนะ ตามไม่ทันก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วในวัฏฏะสงสารนี้

บ้ายๆ

วัฏฏะ ที่ท่านอโศกอ้างถึงอะไรขอรับ ตอบให้ตรงประเด็นนะ อะไร ว่าไปดิ

วัฏฏะ=ความหมุนวน=วนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่รู้จบ