วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 22:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2016, 08:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


" ผู้ภาวนา 'พุท-โธ' เป็นแล้ว จึงไปกำหนด
ภาวนา 'อานาปานสติ' กำหนดหายใจ เข้าออก ก็จักจับจิต
ของตนได้ง่าย ทีแรกฝึกหัดใหม่ เอาสติคุมจิต
เอา 'พุท-โธ' จับใจ ให้รู้ตัวอยู่จนกว่า จะชำนาญ
แล้วกำหนดพร้อม กับลมหายใจเข้า พร้อมหายใจออก
นานไปก็ให้รู้แต่ลม จนกว่าจะชัดเจนชำนาญแล้วตัวผู้รู้
เด่นชัดขึ้นมาก็ค่อยๆ วางลมหายใจนี้ จนลมละเอียดสุด
เหลือแต่ผู้รู้ รู้อยู่ ชัดเจนอยู่ เป็นอารมณ์ของผู้รู้อยู่
ให้รู้อย่างนั้น อย่าทิ้งผู้รู้รู้สงบ – สงบก็รู้
ปัญญาไม่พอก็ถอนออกมา กำลังใจไม่พอ
ก็ถอนออกมา ตั้งต้นใหม่ ไม่อยาก ไม่หลง
ทำดีประกอบใจเข้าไว้เอาล่ะ…จากนี้ไป
ให้ตั้งใจภาวนา กำหนดรู้ใจของตนให้รู้สึกอยู่
อย่าวางผู้รู้ จดจ่อไว้ บริกรรมต่อเนื่อง อย่าอยาก
อย่าโกรธตังเอง อย่าน้อยใจในตัวเองอย่าแสดงความ
รำคาญใจ อย่าคิดไปอย่างอื่น ให้ฟุ้งซ่าน
อย่าด่วนเบื่อหน่าย ตั้งใจทำไปของตน
ทุกคน ให้รู้สึกตัวอยู่ อันนี้กาย – อันนี้ใจ..."
(โอวาทธรรม หลวงปู่จาม มหาปุญโญ)





"สูตรทำบุญไม่เสียเงินของหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ"

พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ” ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง) ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา

ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา ฝึกให้จิตมีพรหมวิหาร เป็นการบำเพ็ญบุญ)

ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง ก็ให้นึกคำบริกรรมภาวนาไตรสรณะคมนี้จนหลับ ตื่นขึ้นมาก็บริกรรมภาวนาต่ออีกตลอดวัน

เหล่านี้คือตัวอย่างเทคนิคการตะล่อมจิตให้อยู่แต่ในบุญกุศลตลอดวัน และได้บุญมากกว่าการทำทาน โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นการทำให้ดวงจิตเราเกิดแสงแห่งบุญทุกขณะลมหายใจเข้าออก สะสมบุญได้ตลอดทั้งวัน



" เราเป็นนักเรียนให้ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียน เรียนจริง ๆ อย่าเลอะ ๆ เทอะ ๆ เวลานี้เราอยู่ในกฎของการศึกษาเล่าเรียน ให้ตั้งอยู่ในกฎทั้งหญิงทั้งชายอย่าเลอะ ๆ เทอะ ๆ แล้วเด็กวัยนี้เป็นเด็กที่ไวไฟเสียด้วย เด็กหญิงเด็กชายวัยนี้เป็นเด็กไวไฟ เห็นกันติดกันพันกันไปเลย มันเร็วยิ่งกว่าลิงนะพวกนี้นะ ให้ระมัดระวัง สิ่งเหล่านี้บังคับเอาไว้ ไม่ถึงกาลเวลาควรออกอย่าให้ออก เวลานี้เราเรียนหนังสือตั้งหน้าตั้งตาเป็นคนดี ให้เอาอันนี้ออกมาปฏิบัติตลอดเวลา สิ่งใดที่จะเป็นภัยแก่ตัวและคนอื่น และจะทำให้เลอะ ๆ เทอะ ๆ เสียผู้เสียคนให้ปัดออก ๆ อย่าพากันไปยินดีกับมันนะสิ่งเหล่านี้ มันรวดเร็วมากนะ "
โอวาทธรรม
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2016, 09:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2016, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2016, 05:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2016, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2016, 16:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม



อ้างคำพูด:
อาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา


น่าจะเป็นกรรมประเภทไหน แล้วจะต้องแก้กรรมหรือไม่ จึงจะหายเวียนหัว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2016, 05:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม



อ้างคำพูด:
อาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา


น่าจะเป็นกรรมประเภทไหน แล้วจะต้องแก้กรรมหรือไม่ จึงจะหายเวียนหัว



อาการที่เป็นอันนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ถ้ายึดหลักของธรรมะแล้วสามารถพ้นทุกข์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าเรามีสติเจริญสตินี่แหละเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2016, 05:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม



อ้างคำพูด:
อาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา


น่าจะเป็นกรรมประเภทไหน แล้วจะต้องแก้กรรมหรือไม่ จึงจะหายเวียนหัว



อาการที่เป็นอันนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ถ้ายึดหลักของธรรมะแล้วสามารถพ้นทุกข์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าเรามีสติเจริญสตินี่แหละเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์



ที่ไหนๆก็พูดก็อ้างถึงสติ สติ... เจริญสติ :b1: แล้วเจริญ (ทำ) ยังไง ยังไม่เห็นใครให้คำตอบชัด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2016, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม



อ้างคำพูด:
อาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา


น่าจะเป็นกรรมประเภทไหน แล้วจะต้องแก้กรรมหรือไม่ จึงจะหายเวียนหัว



อาการที่เป็นอันนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ถ้ายึดหลักของธรรมะแล้วสามารถพ้นทุกข์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าเรามีสติเจริญสตินี่แหละเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์



ที่ไหนๆก็พูดก็อ้างถึงสติ สติ... เจริญสติ :b1: แล้วเจริญ (ทำ) ยังไง ยังไม่เห็นใครให้คำตอบชัด



ยกตัวอย่างเช่น การเจริญสติ ดังนี้
ร่างกายเรามี อายตนะ 6 มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่สามารถสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่มากระทบ เช่นเราเห็นต้นไม้ การเห็นนั้นเป็นรูป ตัวรับรู้อารมณ์ที่เห็นคือนาม หรือเมื่อมีลมมากระทบผิวหนังสิ่งที่มากระทบคือรูป ตัวรับรู้สิ่งที่มากระทบคือนาม และรวมถึงการก้าวเดิน การทำกิจวัตรต่างๆถ้ามีสติแล้วนี่แหละคือ การเจริญสติที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2016, 07:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
รสมน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นี่เค้าก็พุทโธ

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน




เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา หรือแม้แต่ตอนปฏิบัติธรรมแล้วมีความปิติและสุขเกิดขึ้น หรือแม้ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เกิดสุข เกิด ทุกข์ อันนี้ล้วนแต่เป็นธรรมะ แม้มีอาการปวดหัว ปวดขา หรืออาการต่างๆล้วนเป็นธรรมะ เพราะทุกคนนั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่การเจริญวิปัสสนานั้นเป็นการรับรู้และเจริญปัญญาไม่ให้เกิดการยึดมั่นถือมั่น นี่แหละสามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้


อ้างคำพูด:
เมื่อมีการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานนั้นต้องกำหนด รูป-นาม ที่ปรากฏขึ้น ให้รู้อาการที่เกิดขึ้นเช่นถ้ามีอาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา



หมดราคาเลย

เวียนหัว ไม่ใช่รูปนามหรอคับ




อาการเวียนหัวเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น เวทนาได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และไม่สุขไม่ทุกข์
เวทนานั้นเป็นนาม เมื่อรับรู้อารมณ์ก็คือ นาม รู้ นาม



อ้างคำพูด:
อาการวิงเวียนบ้านหมุนนั้นอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา


น่าจะเป็นกรรมประเภทไหน แล้วจะต้องแก้กรรมหรือไม่ จึงจะหายเวียนหัว



อาการที่เป็นอันนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ถ้ายึดหลักของธรรมะแล้วสามารถพ้นทุกข์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าเรามีสติเจริญสตินี่แหละเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์



ที่ไหนๆก็พูดก็อ้างถึงสติ สติ... เจริญสติ :b1: แล้วเจริญ (ทำ) ยังไง ยังไม่เห็นใครให้คำตอบชัด



ยกตัวอย่างเช่น การเจริญสติ ดังนี้
ร่างกายเรามี อายตนะ 6 มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่สามารถสัมผัสกับสิ่งต่างๆที่มากระทบ เช่นเราเห็นต้นไม้ การเห็นนั้นเป็นรูป ตัวรับรู้อารมณ์ที่เห็นคือนาม หรือเมื่อมีลมมากระทบผิวหนังสิ่งที่มากระทบคือรูป ตัวรับรู้สิ่งที่มากระทบคือนาม และรวมถึงการก้าวเดิน การทำกิจวัตรต่างๆถ้ามีสติแล้วนี่แหละคือ การเจริญสติที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน



เรียกว่าปรับทัศนคดิ เพื่อให้ตรงกับหลักอภิธรรม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร